เมื่อเวลา 15.00 น.ของวันพุธที่ 17 พฤษภาคม 2549 ที่ห้องบอลรูมเอ โรงแรมเรดิสัน บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) นำโดย พงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทฯ จัดการแถลงข่าวเปิดโครงการ "สยามกีฬา อวอร์ด" ครั้งที่ 1 เพื่อมอบรางวัลนักกีฬา และ ผู้ฝึกสอน ที่มีความสามารถ จนนำพาความสำเร็จมาสู่ประเทศไทยในรอบปี ซึ่งจะจัดกันปีละหนึ่งครั้ง โดยจะเริ่มการประกาศรางวัลครั้งแรกในวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม 2550 และในปีต่อๆ ไปจะมีการประกาศรางวัลนี้ในวันอาทิตย์แรกของเดือนมีนาคมของทุกปี
โดยรางวัลใหญ่มีด้วยกัน 3 รางวัล คือ รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมชาย, รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมหญิง และ รางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยม สำหรับรางวัลอื่นๆ ประกอบด้วย รางวัลผู้ฝึกสอนกีฬายอดเยี่ยมแห่งปี, รางวัลสมาคมกีฬายอดเยี่ยมแห่งปี, รางวัลนักกีฬามวยไทยอาชีพยอดเยี่ยมแห่งปี, รางวัลนักกีฬาคนพิการยอดเยี่ยมแห่งปี, รางวัลบุคคลผู้ทรงคุณค่าและผู้อุทิศตนแก่วงการกีฬายอดเยี่ยมแห่งปี และ รางวัลนักกีฬาขวัญใจมหาชน หรือ ป๊อปปูลาร์ โหวต ซึ่งผู้ได้รับรางวัลจะได้รับเงินรางวัลอีกด้วย
นอกจากนี้จะมีการพิจารณามอบรางวัลแยกตามสมาคมกีฬาต่างๆ ที่มีผลงานยอดเยี่ยมในแต่ละปี ประกอบด้วย รางวัลนักกีฬาชายดีเด่น, รางวัลนักกีฬาหญิงดีเด่น, รางวัลนักกีฬาเยาวชนชายดีเด่น และรางวัลนักกีฬาเยาวชนหญิงดีเด่น อย่างไรก็ตามผู้ที่ได้รับพิจารณารางวัลดังกล่าวต้องมีผลงานที่ชัดเจนเท่านั้น หากสมาคมใดไม่มีนักกีฬาที่มีผลงานโดดเด่น ก็จะไม่มีการพิจารณารางวัลให้แต่อย่างใด
ขณะเดียวกันยังมีการประกาศถึงเกณฑ์ทั่วไปสำหรับนักกีฬาที่มีสิทธิ์เข้ารับการพิจารณาจากคณะกรรมการมอบรางวัลด้วยว่า ต้องมีผลงานในโอลิมปิก, เอเชี่ยนเกมส์, ซีเกมส์, ผลงานในระดับชาติจากการแข่งขันที่ได้รับการรับรองจากองค์กรกีฬานานาชาติ หรือมีผลงานในการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย, กีฬาแห่งชาติ, กีฬาเยาวชนแห่งชาติ และการแข่งขันกีฬาในระดับสูงสุดภายในประเทศ ที่ได้รับการยอมรับ
ซึ่งการมอบรางวัล "สยามกีฬา อวอร์ด" นั้น "เขาทราย แกแล็คซี่" หรือ สุระ แสนคำ อดีตแชมป์มวยโลกขวัญใจชาวไทย แสดงความเห็นด้วยอย่างเต็มที่ "ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมากเลย ที่เราจะมีการให้รางวัลกับนักกีฬาที่ทำผลงานได้ดี มันเป็นกำลังใจสำหรับนักกีฬาที่ต้องอดทนฝึกซ้อมมาอย่างหนัก เมื่อทำผลงานได้ดีก็ควรจะยกย่องชื่นชมกัน"
โดยรางวัลใหญ่มีด้วยกัน 3 รางวัล คือ รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมชาย, รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมหญิง และ รางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยม สำหรับรางวัลอื่นๆ ประกอบด้วย รางวัลผู้ฝึกสอนกีฬายอดเยี่ยมแห่งปี, รางวัลสมาคมกีฬายอดเยี่ยมแห่งปี, รางวัลนักกีฬามวยไทยอาชีพยอดเยี่ยมแห่งปี, รางวัลนักกีฬาคนพิการยอดเยี่ยมแห่งปี, รางวัลบุคคลผู้ทรงคุณค่าและผู้อุทิศตนแก่วงการกีฬายอดเยี่ยมแห่งปี และ รางวัลนักกีฬาขวัญใจมหาชน หรือ ป๊อปปูลาร์ โหวต ซึ่งผู้ได้รับรางวัลจะได้รับเงินรางวัลอีกด้วย
นอกจากนี้จะมีการพิจารณามอบรางวัลแยกตามสมาคมกีฬาต่างๆ ที่มีผลงานยอดเยี่ยมในแต่ละปี ประกอบด้วย รางวัลนักกีฬาชายดีเด่น, รางวัลนักกีฬาหญิงดีเด่น, รางวัลนักกีฬาเยาวชนชายดีเด่น และรางวัลนักกีฬาเยาวชนหญิงดีเด่น อย่างไรก็ตามผู้ที่ได้รับพิจารณารางวัลดังกล่าวต้องมีผลงานที่ชัดเจนเท่านั้น หากสมาคมใดไม่มีนักกีฬาที่มีผลงานโดดเด่น ก็จะไม่มีการพิจารณารางวัลให้แต่อย่างใด
ขณะเดียวกันยังมีการประกาศถึงเกณฑ์ทั่วไปสำหรับนักกีฬาที่มีสิทธิ์เข้ารับการพิจารณาจากคณะกรรมการมอบรางวัลด้วยว่า ต้องมีผลงานในโอลิมปิก, เอเชี่ยนเกมส์, ซีเกมส์, ผลงานในระดับชาติจากการแข่งขันที่ได้รับการรับรองจากองค์กรกีฬานานาชาติ หรือมีผลงานในการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย, กีฬาแห่งชาติ, กีฬาเยาวชนแห่งชาติ และการแข่งขันกีฬาในระดับสูงสุดภายในประเทศ ที่ได้รับการยอมรับ
ซึ่งการมอบรางวัล "สยามกีฬา อวอร์ด" นั้น "เขาทราย แกแล็คซี่" หรือ สุระ แสนคำ อดีตแชมป์มวยโลกขวัญใจชาวไทย แสดงความเห็นด้วยอย่างเต็มที่ "ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมากเลย ที่เราจะมีการให้รางวัลกับนักกีฬาที่ทำผลงานได้ดี มันเป็นกำลังใจสำหรับนักกีฬาที่ต้องอดทนฝึกซ้อมมาอย่างหนัก เมื่อทำผลงานได้ดีก็ควรจะยกย่องชื่นชมกัน"