สุดยอดนัดชิงเอฟ.เอ.คัพกับปาฏิหาริย์“หงส์แดง”

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูลสร้างความใจหายใจคว่ำให้กับเหล่า “เดอะ ค็อป” อีกครั้ง ก่อนจะกลับมาสร้างปาฏิหาริย์คว้าเเชมป์เอฟเอ คัพ สมัยที่ 7 จากการดวลจุดโทษชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-1 หลังจากเกม 120 นาทีเสมอกันไปอย่างสุดมัน 3-3 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ฟุตบอลถ้วย เอฟ.เอ.คัพนัดชิงชนะเลิศ ปี 2006 กลายเป็นสุดยอดแมตช์ที่ทำให้แฟนฟุตบอลจดจำกันไปตลอดกาล เป็นนัดชิงขึ้นหิ้งเทียบตำนานแห่งความตื่นเต้นกับเมื่อปี 1979 ซึ่งอาร์เซนอล พลิกกลับมาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-2 และปี 1981 โดย สเปอร์ส ยุคนั้นซึ่งมีสองขุนพลทีมชาติอาร์เจนติน่า อย่าง ออสวัลโด้ อาร์ดิเลส และ ริคาร์โด้ วีญ่า เฉือน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 3-2 จากประตูชัยสุดสวยของ วีญ่า มิดฟิลด์เคราดกนั่นเอง

เริ่มเกมทีมที่ชื่อชั้นเหนือกว่าอย่าง ลิเวอร์พูล กลับออกสตาร์ทเกมได้อย่างย่ำแย่ เล่นได้ผิดฟอร์มถูกเวสต์แฮมนำไปก่อนถึง 2-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ เจมี่ คาร์ราเกอร์ และ ดีน แอชตัน แต่ก่อนหมดครึ่งแรก ฌิบริล ซิสเซ่ ยิงไล่มาเป็น 2-1

ครึ่งหลังลิเวอร์พูลตีเสมอจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่เวสต์แฮม ก็พลิกกลับขึ้นนำไปอีกครั้งจากลูกโยนของ พอล คอนเชสกี้ และน่าจะเก็บชัยชนะไปได้แล้ว แต่เมื่อเกมดำเนินถึงนาที 91 “หงส์แดง” ก็สร้างปาฏิหาริย์อีกครั้งจากลูกยิงไกลสุดสวยของ เจอร์ราร์ด หมด 90 นาทีเสมอกันไป 3-3 สกอร์เท่ากับที่พวกเขาไล่ตามตีเสมอ เอซี มิลาน ได้สำเร็จในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศกับเอซี มิลานเมื่อปีก่อน

ช่วงต่อเวลาทั้งสองทีมเล่นกันอย่างสะบักสะบอม ผู้เล่นหลายต่อหลายคนหมดแรงและเป็นตะคริว ในที่สุดต้องดวลจุดโทษ และ โฮเซ่ เรน่า ผู้รักษาประตูมือสองทีมชาติสเปน ก็กลายเป็นฮีโร่โชว์การเซฟจุดโทษถึงสามลูก จากการยิงของ บ็อบบี้ ซาโมร่า, พอล คอนเชสกี้ และ แอนตัน เฟอร์ดินานด์ ช่วยให้ลิเวอร์พูล ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ดในการดวลจุดโทษ 3-1 ส่งผลให้คว้าเเชมป์เอฟเอ คัพ ไปครองสมัยที่ 7 ได้สำเร็จ

โดยหลังเกม ราฟาเอล เบนิเตซ โค้ชชาวสเปนได้ออกมากล่าวยกย่องลูกทีมทุกคนที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงเเม้ว่าเกมมีผิดพลาดไปบ้าง แต่ทุกคนก็ยังกลับมาฮึดสู้ได้ ทั้งนี้ยังได้ขอบคุณเเฟนบอลหงส์เเดงที่ให้กำลังใจอย่างดีเยี่ยม

"เราได้คุยกันก่อนหน้านี้ว่า แม้เวสต์แฮมจะมีโอกาสทำประตูเราได้ แต่ก็พร้อมจะเสียประตูคืนได้เช่นกัน ผมชื่นชมที่เรายังคงต่อสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย นักเตะเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมรวมไปถึงเเฟนบอลที่ให้กำลังใจ เราได้คุยกันว่าเกมในวันนี้ต้องไม่ผิดพลาดแต่บางครั้งมันก็เกิดขึ้น อย่างไรก็ดีทีมของเราเล่นได้น่าอัศจรรย์เเละเหลือเชื่อจริงๆในวันนี้"

ราฟา กล่าวต่อว่า “ช่วงที่เกมยืดเยื้อจนถึงต้องดวลจุดโทษนั้น โค้ชผู้รักษาประตูของเราได้เข้าไปให้คำแนะนำ เปเป้ เรย์น่า อย่างไรก็ดีตัวเขาเองมีชื่อเสียงในเรื่องของการเซฟจุดโทษอยู่แล้ว อาจจะเป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวมา ในช่วง 90 นาทีแรก เรย์น่า อาจจะโชคร้ายที่เสียประตูให้กับ คอนเชสกี้ แต่เขาก็กลายเป็นฮีโร่ของเราในตอนจบ”

ส่วนเจมี่ คาร์ราเกอร์ ผู้โชคร้ายทำเข้าประตูตัวเองในเกมนี้ ออกมากล่าวยกย่องสตีเว่น เจอร์ราร์ด “กัปตันแฟนแทสติค” ว่าเป็นสุดยอดนักเตะโดยส่วนตัวแล้ว เขาไม่ขอแลก สตีวี่ จี กับใครแม้กระทั่ง โรนัลดินโญ่

“ประตูที่เขาทำได้แสดงให้ทุกคนเห็นอีกครั้งว่า เจอร์ราร์ด คือนักเตะที่ยิ่งใหญ่เพียงใด ผมไม่ขอแลกตัวเขากับใครแม้กระทั่งโรนัลดินโญ่ ก็ตาม แม้นักเตะบราซิลเลี่ยนจะมีความสามารถเฉพาะตัวและลีลาที่น่าตื่นเต้น แต่ถ้าเทียบผลงานที่ เจอร์ราร์ด ทุ่มเทให้ทีมทุกๆสัปดาห์แล้ว ผมขอเลือก สตีวี่ จี ดีกว่า”

ลิเวอร์พูล นับเป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ เอฟ.เอ. คัพได้ที่สนามมิลเลนเนียมเมื่อปี 2001 และน่าจะเป็นทีมสุดท้ายที่ได้ถ้วยที่สนามแห่งนี้ เพราะปีหน้าสมาคมฟุตบอลอังกฤษมีหมายกำหนดการให้นัดชิงฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ใบนี้กลับไปเตะที่ นิว เวมบลี่ย์ ณ กรุงลอนดอนกันอีกครั้ง