xs
xsm
sm
md
lg

‘ริโอ’ โหม่งทดเจ็บ ผีเปิดบ้านเฉือนหงส์ “ศึกแดงเดือด”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษ โหม่งประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วยให้ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนชนะ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 1-0 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ชิป เกมแดงเดือด

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ “เกมแดงเดือด”
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ลิเวอร์พูล

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีปัญหาในการจัดทัพให้แมนฯ ยูไนเต็ด พอสมควรโดยเฉพาะแดนกลางไม่มีทั้ง อลัน สมิธ, ปาร์ค จี ซอง ที่บาดเจ็บส่วน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ติดโทษแบน ทำให้ต้องส่ง คีแรน ริชาร์ดสัน ลงมาเสริม และเกมนี้ เนมันย่า วิดิช ปราการหลังตัวใหม่มีชื่ออยู่ในม้านั่งสำรอง

ด้าน ราฟาเอล เบนิเตซ สามารถจัดทัพชุดใหญ่ให้แก่ลิเวอร์พูล ที่ไม่แพ้ใครในลีกมา 12 นัดติดต่อกัน สตีเว่น เจอร์ราร์ด ผนึกกำลังแดนกลางร่วมกับ ซาบี้ อลอนโซ่ รวมถึง โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ ในเกมรุกคู่หน้ามีการปรับให้ ฌิบริล ซิสเซ่ มายืนคู่กับ ปีเตอร์ เคร้าช์
เดอะ ค็อป ประกาศศักดาจ้าวยุโรป 5 สมัยข่มผี
เริ่มเกมขึ้นมา กลายเป็นลิเวอร์พูลที่ดูจะเป็นฝ่ายคุมเกมได้ดีกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เจอร์ราร์ด ได้กระชากขึ้นทางขวาก่อนสับไกนอกกรอบแต่บอลเฉียดเสาออกไปนิดเดียว ด้านเจ้าบ้านมีโอกาสเช่นกัน รูนี่ย์ เปิดจากกราบขวาให้กิ๊กส์ วิ่งเข้ามาวอลเล่ย์ด้วยขวาแต่ไปติดบล็อกกองหลังทีมเยือน

ผ่านครึ่งทางของการแข่งขันในครึ่งแรก แดนกลางของแมนฯ ยูไนเต็ด ค่อนข้างจะเป็นรองพอสมควร เพราะ กิ๊กส์ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ฮุบเข้ามาช่วยตรงกลาง โอเชีย ไม่สามารถจ่ายบอลทำเกมรุกได้ และทางลิเวอร์พูลก็บีบเกมได้อย่างยอดเยี่ยม ได้ลุ้นสวนกลับด้วยเมื่อ ซิสเซ่ หลุดกับดักล้ำหน้าแต่ไม่ได้จังหวะยิงเพราะถูก บราวน์ เบียดเอาไว้

โอกาสเริ่มเป็นของทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง ซิสโซโก้ งัดบอลให้ซิสเซ่ โขกต่อให้เคร้าช์ ง้างยิงด้วยขวาแต่ก็เป็นบราวน์ ที่ตามมาบล็อกเอาไว้ได้หวุดหวิด ช่วงท้ายแมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลได้ดีขึ้นและก็ได้ลุ้นช่วงทดเวลาเจ็บ ริชาร์ดสัน หยอดบอลให้ ฟาน นิสเตลรอย สะบัดเกือกแต่เบาไป เข้าซองเรน่า จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0
จังหวะโหม่งประตูชัยของ เฟอร์ดินานด์
เข้าสู่ครึ่งหลัง เฟอร์กี้ขยับเปลี่ยนเอาโอเชียออก พร้อมกับส่ง หลุยส์ ซาฮา ซึ่งเป็นกองหน้าลงไปเติมเกมรุกที่ดูจะไม่สามารถทำเกมกันได้ในครึ่งแรก แต่ผ่าน 1 ชั่วโมงยังเป็นลิเวอร์พูล ที่วูบวาบกว่า เจอร์ราร์ด เปิดบอลให้เคร้าช์ ลุ้นโหม่ง แต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ออกมาชกทิ้งไปได้ก่อน และเบนิเตซ ก็แก้เกมบ้าง ส่ง เฟอร์นานโด มอริเอนเตส ลงมาทำหน้าที่แทน เคร้าช์

นาทีที่ 63 เหล่าเดอะ ค็อป พลาดโอกาสเฮอย่างน่าเสียดาย ซิสโซโก้ เปิดบอลไปหน้าประตูแต่โดนตัวเฟอร์ดินานด์ บอลเกือบจะข้ามเส้นแต่ก็เป็นเฟอร์ดินานด์ แก้ตัวเกี่ยวออกมาได้ ซิสเซ่ ได้ยิงในจังหวะต่อมาแต่เหินข้ามคานไปไกล เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล เปลี่ยนเอา ฟลอร็องต์ ซินาม่า ปงโกลล์ ลงมาเล่นแทน ซิสเซ่ ซึ่งเกมนี้ทำงานไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

ช่วงท้าย คีเวลล์ ลองสับด้วยขวาแต่บอลเฉี่ยวเสาออกไป เจ้าบ้านพยายามทำเกมบุกเช่นกัน กิ๊กส์ ไหลบอลเข้ากลางให้ ฟาน นิสเตลรอย พลิกยิงด้วยซ้าย แต่เรน่า ยืนตำแหน่งค่อนข้างจะดี นาทีที่ 85 แฟนๆ ผีแดงถึงกับครางฮือเมื่อ รูนีย์ ได้ลองยิงไกล บอลเฉียดเสาไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด

เกมในช่วงท้ายสนุกยิ่ง ปงโกลล์ ฉกฉวยจังหวะสวนกลับไปหน้าประตู แต่โดน รูนีย์ ซึ่งตามลงมาเตะตัดคว่ำและเจอร์ราร์ด ก็เป็นผู้ยิงฟรีคิกหลุดเสาไกลออกไป และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีแรก แฟนๆ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อ กิ๊กส์ หยอดฟรีคิกด้วยซ้ายให้เฟอร์ดินานด์ โขกบอลเต็มๆ แม้ เรน่า จะปัดได้แต่บอลยังแรงเข้าไปตุงตาข่าย หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 และก็ทำคะแนนไล่หลังจ่าฝูง เชลซี เหลือ 14 แต้ม ส่วนหงส์แดงแพ้เป็นเกมแรกหลังจากไม่ปราชัยให้ใครในลีก 12 นัดติดต่อกัน

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , แกรี่ เนวิลล์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เวส บราวน์ , ปาทริซ เอวร่า , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , จอห์น โอเชีย , ไรอัน กิ๊กส์ , คีแรน ริชาร์ดสัน , เวย์น รูนีย์ , รุด ฟาน นิสเตลรอย

ลิเวอร์พูล : โฮเซ่ เรน่า , สตีฟ ฟินแนน , เจมี่ คาร์ราเกอร์ , ซามี่ ฮูเปีย , ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ , สตีเว่น เจอร์ราร์ด , ซาบี้ อลอนโซ่ , โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ , แฮร์รี่ คีเวลล์ , ฌิบริล ซิสเซ่ , ปีเตอร์ เคร้าช์
กำลังโหลดความคิดเห็น