นอกจากการฟาดแข้งท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในฟุตบอลโลก 2006 ที่คอลูกหนังทั่วโลกต่างใจจดจ่อรอครอย สีสันที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งจะขาดไม่ได้ในมหกรรมกีฬาสุดยิ่งใหญ่เช่นนี้คงหนีไม่พ้นบรรดา ประเทศเจ้าภาพ, มาสคอต, เสื้อแข่ง, ของที่ระลึกต่างๆ รวมถึงลูกฟุตบอลที่จะให้ผู้เล่นบรรเลงเพลงเตะ
อาดิดาส มีประวัติความเป็นมาในการสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลโลกอย่างเป็นทางการมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1970 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ใช้ลูกฟุตบอลของ อาดิดาส ในการแข่งขัน โดย อาดิดาส ผลิตลูกฟุตบอลรุ่น "เทลสตาร์" ขึ้นที่ใช้แข่งขันในปี 1970 ครั้งที่ 9 ณ ประเทศเม็กซิโก หลังจากเริ่มแข่งขันครั้งแรกในปี 1930 ที่ประเทศอุรุกวัย
ในการผลิตครั้งนั้นใช้หนังแบบ 5 เหลี่ยมสีดำและ 6 เหลี่ยมสีขาวรวม 32 ชิ้นประกอบกันขึ้นมา ซึ่งลายสีขาวสลับดำนี้ก็ได้เป็นสัญลักษณ์ของลูกฟุตบอลตลอดมา จนกระทั่งถึงมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ที่จะมาถึงลูกฟุตบอลของ อาดิดาส ก็ยังคงได้รับการยอมรับให้ใช้ในการแข่งขัน ซึ่งในปีนี้จะครบ 40 ปี คือครบ 10 ครั้งที่เป็นผู้สนับสนุนเสมอมาอย่างยาวนานและต่อเนื่องครบ 10 ลูกพอดี
**บรรดาลูกฟุตบอล อาดิดาส ที่ใช้ในมหกรรมฟุตบอลโลกตั้งแต่ปี 1970-2006**
ปี 1970 ลูกฟุตบอล อาดิดาส ชื่อ "เทลสตาร์"
ปี 1974 ลูกฟุตบอล อาดิดาส ชื่อ "เทลสตาร์ ชิลี่"
ปี 1978 ลูกฟุตบอล อาดิดาส ชื่อ "แทงโก้"
ปี 1982 ลูกฟุตบอล อาดิดาส ชื่อ "แทงโก้ เอสปันญ่า"
ปี 1986 ลูกฟุตบอล อาดิดาส ชื่อ "อัซเตก้า"
ปี 1990 ลูกฟุตบอล อาดิดาส ชื่อ "อีทรุสโก้ ยูนิโก้"
ปี 1994 ลูกฟุตบอล อาดิดาส ชื่อ "เควสสตรา"
ปี 1998 ลูกฟุตบอล อาดิดาส ชื่อ "ไทรคัลเลอ"
ปี 2002 ลูกฟุตบอล อาดิดาส ชื่อ "ฟีเวอร์โนว่า"
ปี 2006 ลูกฟุตบอล อาดิดาส ชื่อ "ทีมไกซ์ท"
สำหรับในปี 2002 อาดิดาส ผลิตฟุตบอลที่ชื่อ ฟีเวอร์โนว่า โดยประดับลวดลวยด้วยสีทองและแดง ซึ่งมีลักษณะเหมือนอาวุธนินจา "ชูริเคน" แสดงถึงพลังของประเทศญี่ปุ่น เจ้าภาพร่วมกับ เกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกที่มีสองชาติรับหน้าเสื่อ
เมื่อครั้งนั้นบรรดานักเตะระดับโลกที่ได้ทดลองเตะเจ้า ฟีเวอร์โนว่า ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกฟุตบอลเบาเกินไป ควบคุมยาก รวมถึงลูกลอยสูงเกินไปเวลาเตะ โดยเฉพาะผู้รักษาประตูซึ่งดูเหมือนจะมีปัญหากับการรับมือเจ้า ฟีเวอร์โนว่า มากเป็นพิเศษ จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน ทีมชาติ อิตาลี เคยบอกไว้ว่า "เป็นลูกฟุตบอลที่พิลึกมาก จู่ ๆ ก็เปลี่ยนทิศพุ่งไปอีกทางซะยังงั้น ยังกะลูกบอลที่ผมเล่นสมัยเด็กเลย คงจะต้องใช้เวลาหลายวันถึงจะคุ้นเคยกับมัน"
แต่ทางด้าน ฟีฟ่า หรือ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ กลับเมินเสียงบ่นเหล่านั้น โดยให้เหตุผลว่าได้นำมาใช้ตั้งแต่รอบคัดเลือกแล้วคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาและน่าจะปรับตัวได้ไม่ยาก เพียงแค่ติดลวดลายภายนอกที่แตกต่างไปเลยคิดว่ามีปัญหาเท่านั้นเอง
เดวิด เบ็คแฮม มิดฟิลด์ทีมชาติ อังกฤษ ที่ขึ้นชื่อว่าวางบอลแม่นที่สุดในโลก ยอมรับว่าชอบฟุตบอล ฟีเวอร์โนว่า มากทีเดียว ส่วนหนึ่งเพราะช่วยให้ฟรีคิกและลูกเปิดของเขาอันตรายมากขึ้นเพราะว่าฟุตบอลรุ่นนี้จะโค้งและเปลี่ยนทิศทางได้อย่างฉับพลัน ซึ่งเป็นการยากที่ผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้ามจะคาดเดา และป้องกันได้
"ผมว่าลูกบอลรุ่นนี้ก็เหมือนกับรุ่นที่ใช้ในศึกฟุตบอลโลกครั้งที่แล้ว ที่ฝรั่งเศส ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากมายอย่างที่หลายคนออกมากล่าวกันเลย เพียงแต่ความแตกต่างอาจจะมีเล็กน้อย ก็ตรงที่ลูกบอลรุ่นนี้จะลอย และเบามากกว่าเดิม ซึ่งทำให้บรรดาศูนย์หน้าต้องพยายามมากขึ้นที่จะจับจังหวะให้ได้" นักฟุตบอลสุดหล่อเคยกล่าวเอาไว้
ซึ่ง เบ็คแฮม ก็ไม่ได้เอ่ยอ้างลอยๆ เพราะว่าเขาเคยซัดฟรีคิกสุดสวยช่วย อังกฤษ ตีเสมอ กรีซ 2-2 ในนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน ด้วยลูกฟุตบอล ฟีเวอร์โนว่า จนทีมผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 2002 รอบสุดท้ายแบบเฉียดฉิวมาแล้ว
จากประวัติศาสตร์อันยาวนานระหว่างลูกฟุตบอลอาดิดาส กับมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลกกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา อาดิดาส ไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาวัตกรรมเทคโนโลยีกีฬาเพื่อตอบสนองความต้องการที่มากขึ้นของนักกีฬาในปัจจุบัน โดยเฉพาะลูกฟุตบอลที่จะใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ที่มีชื่อว่า "ทีมไกซ์ท" ซึ่งหมายถึง สปิริต
อาดิดาส มีความตั้งใจให้ "ทีมไกซ์ท" ช่วยส่งเสริมการเล่นเป็นทีมมากกว่าการเป็นดาวดังคนใดคนหนึ่ง พร้อมเทคโนโลยีล่าสุดที่เพิ่มความกลมของลูกฟุตบอลให้มากขึ้น โดยใช้ระบบแรงอัดความร้อนทำให้ลูกฟุตบอลมีความกลมเกลี้ยงเป็นพิเศษ เพื่อให้นักฟุตบอลสามารถครองบอลและเตะลูกได้แม่นยำมากขึ้น
สำหรับสีสันอื่นๆ ในมหกรรมฟุตบอลโลกในแต่ละครั้ง อาดิดาส เองก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งเสมอมาด้วยการเป็นผู้สนับสนุนสุดแข่งสำหรับทีมชาติแต่ละประเทศ รวมถึงเสื้อผ้าอุปกรณ์ของคณะกรรมการผู้ตัดสินและทีมงานของฟีฟ่าทั้งหมด โดยในปี 2006 จะสนับสนุนชุดกีฬา 7 ชาติที่เข้าร่วมชิงชัยได้แก่ ฝรั่งเศส, อาร์เจนติน่า, ญี่ปุ่น, สเปน, ตริแดด และ โตเบโก, ซาอุดิอาระเบีย และ เยอรมัน ซึ่งเสื้อทีมเหล่านี้แฟนบอลต่างเฝ้ารอที่จะสวมเสื้อเพื่อบ่งบอกทีมรักทีมโปรดของตนเอง
ถึงตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนเท่านั้นมหกรรมฟุตบอลโลก 2006 ก็จะเปิดฉากขึ้นซึ่งต้องคอยตามลุ้นกันว่าใครจะเป็นสุดยอดทีมที่ได้ชูด้วย ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ