ฟุตบอลฟีฟ่าคลับเวิลด์แชมเปี้ยนชิปถือเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ซึ่งฟีฟ่าพยายามปลุกปั้นทัวร์นามเนต์นี้ขึ้นมาจากที่เคยเป็นฟุตบอลสโมสรโลกซึ่งชิงชัยกันระหว่างสโมสรที่เป็นเจ้ายุโรปเจอกับแชมป์จากอเมริกาใต้ ชิงชนะเลิศกันที่ประเทศญี่ปุ่นนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1980
ถึงวันนี้การแข่งขันในรูปแบบใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นในระหว่างวันที่ 11-18 ธันวาคม 2548 โดยมีทีมเข้าร่วมซึ่งเป็นแชมป์จากทวีปต่างๆถึง 6 ทีมโดยโปรแกรมการแข่งขันนั้นให้เกียรติทีมดังจากเกาะอังกฤษอย่าง ลิเวอร์พูล เจ้าของแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จะเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศวันที่ 15 ธ.ค.นี้เลย โดยจะพบกับผู้ชนะระหว่างทีม เดปอร์ติโบ ซาปริสซ่า จากคอสตาริกา หรือ ซิดนี่ย์ เอฟซี จากออสเตรเลีย
ส่วนอีกสายหนึ่ง เซา เปาโล ทีมดังจากบราซิล เจ้าของแชมป์โคปา ลิเบอร์ตาเดอเรส จะยืนรอในรอบรองชนะเลิศเช่นกัน โดยจะพบกับผู้ชนะระหว่างอัล อิตติฮัด กับ อัล อาห์ลี ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้
จากบรรทัดนี้ไปคือข้อเท็จจริง 10 ประการเกี่ยวกับฟุตบอลรายการนี้ ซึ่งอาจจะถือว่าเปลี่ยนชื่อบ่อยที่สุดก็ว่าได้ จากอินเตอร์คอนติเนตัล คัพ มาเป็นโตโยต้าคัพ และล่าสุดกลายมาเป็น“ฟีฟ่าคลับเวิลด์แชมเปี้ยนชิป”
1. อัล อิตติฮัด คือสโมสรเก่าแก่ที่สุดของซาอุดิอาระเบีย เจ้าของแชมป์เอเชีย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก สโมสรนี้ได้แชมป์ลีกของประเทศมา 5 สมัยในช่วง 9 ปีล่าสุด ล่าสุดอยู่ภายใต้การคุมทีมของโค้ชหมอผีอย่าง อังเกล ยอร์ดาเนสคู ซึ่งเคยพาทีมชาติโรมาเนียลุยศึกฟุตบอลโลก 1994 และ 1998
2. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือสโมสรเดียวจากเกาะอังกฤษที่เคยได้แชมป์ฟุตบอลสโมสรโลก ในปี 1999 ขณะที่ลิเวอร์พูลแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ 18 สมัยยังทำไม่สำเร็จ ได้เข้าชิงสองสมัยแพ้ ฟลาเม็งโก้ปี 1981 และอินดิเพนเดียนเต้ในปี 1984
3. ภายใน 6 ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้มีเพียง เซาเปาโล ทีมเดียวที่เคยได้แชมป์ฟุตบอลสโมสรโลกสองสมัยเมื่อปี 1992 และ 1993 ภายใต้การคุมทีมของหัวหน้าโค้ช เทเล่ ซานตาน่า
4. เดปอร์ติโบ ซาปริสซ่า แชมป์สโมสรจากทวีปอเมริกาเหนือและกลาง ซึ่งมีสมญาทีมว่า Purple Monster หรือสัตว์ประหลาดสีม่วง เคยยึดนโยบายใช้นักเตะท้องถิ่นหรือสัญชาติคอสตาริก้าเป็นหลัก ปัจจุบันก็ยังมีนักเตะต่างชาติในทีมน้อยมาก
5. ซิดนี่ย์ เอฟซี คือสโมสรจากออสเตรเลียที่เพิ่งก่อตั้งสดๆร้อนๆเมื่อ 1พ.ย. 2004 และเพิ่งจะเข้าร่วมโอเชียเนีย คลับ แชมเปี้ยนชิปเป็นครั้งแรกภายใต้การคุมทีมของ ปิแอร์ ลิทบาร์สกี้ อดีตปีกขาโก่งทีมชาติเยอรมัน
6. ฟุตบอลสโมสรโลกเคยเริ่มต้นด้วยการใช้ชื่อรายการว่า อินเตอร์ คอนติเนนตัลคัพ ส่วนทีมแรกที่คว้าแชมป์ก็คือ รีล มาดริด แห่งสเปนเมื่อปี 1960 นักเตะคนแรกที่ยิงประตูได้คือ เฟเรนซ์ ปุสกัส จอมถล่มประตูจากทีมชาติฮังการีนั่นเอง
7. ฟุตบอลรายการนี้มีจุดสนใจอยู่ที่การเลือกนักเตะแมน ออฟ เดอะ แมทช์ ซึ่งใครเป็นก็จะได้รถยนต์โตโยต้าหนึ่งคันไปขับเล่น ในอดีตยอดนักเตะอย่าง อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ (1996),ไรอัน กิ๊กส์ (1999)และ โรนัลโด้ (2002) เคยคว้าไปครอง ในปีนี้ ฟีฟ่า ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตัดสินรางวัลนี้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว โดยพิจารณาจากผลงานทุกนัดของทุกสโมสรที่เข้าร่วม และเลือกนักเตะเด่น 3 คนรับรางวัลฟุตบอลทองคำ, เงิน และทองแดงจากอดิดาส
8. เปเล่คือนักเตะที่ยิงประตูได้สูงสุด ในฟุตบอลรายการนี้ตั้งแต่สมัยเป็นอินเตอร์ คอนติเนนตัลคัพ โดย “ไข่มุกดำ” ซัด 7 ประตูจากนัดชิงชนะเลิศกับ 1963 และ 1964 ให้กับซานโต๊ส
9. ฟุตบอลรายการนี้ในช่วงที่เปลี่ยนมาเป็นโตโยต้าคัพแรกๆ สโมสรจากอเมริกาใต้คว้าชัยได้อย่างต่อเนื่อง จวบจนถึงช่วงกลางทศวรรษ 90 สโมสรจากยุโรปกลับมาเป็นฝ่ายยึดอำนาจ พอถึงยุคมิลเลนเนียมทั้งสองทวีปกลับมาสูสีคู่คี่กันอีกครั้ง โดยโบคา จูเนียร์ส จากอาร์เจนติน่า เป็นทีมที่ช่วยกู้หน้าให้ทีมละตินเป็นแชมป์ในปี 2000 และ 2003
10. อัล อาห์ลี่ ยอดทีมตัวแทนจากทวีปแอฟริกา เป็นสโมสรเก่าแก่ของอียิปต์ มีศูนย์หน้าที่ชื่อ เอล คาทิบ ซึ่งเป็นนักเตะอียิปต์คนเดียวที่เคยได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งทวีปแอฟริกาเมื่อปี 1983 ที่ผ่านมายอดหัวหอกผู้นี้ นำดาวซัลโวสูงสุดในศึกแอฟริกา คอนติเนนตัล ด้วยสกอร์รวม 37 ประตู