เอ็ดสัน อรันเตส โด นาสซิเมนโต้ ชื่อนี้หลายคนคงไม่รู้จัก ทว่าหากเอ่ยนาม "เปเล่ " ชื่อของเขาคือคำจำกัดความของนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกตลอดกาล
เปเล่เกิดในหมู่บ้านเล็กๆในรัฐไมนัส เกเรส ประเทศบราซิล เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังอย่างจริงจังเมื่ออายุ 12 ปี ขณะที่ยังเล่นฟุตบอลด้วยเท่าเปล่ากับทีม เซเต เดเซ เทมโบร ก่อนจะพเนจรไปเรื่อยจนกระทั่งไปเข้าตาสโมสรซานโต๊สจนต้องดึงตัวมาเสริมทัพและที่ ซานโต๊ส นี่เองที่ เปเล่ เริ่มฉายแววความเป็นอัจฉริยะออกมาจนถูกเรียกเข้าสู่ทีมชาติบราซิลนัดแรกในปี 1956 ซึ่ในเกมดังกล่าวเขาเป็นคนยิงประตูโทน ช่วยให้แซมบ้าเฉือนเอาชนะอาร์เจนติน่า 1-0
ในปี 1958 เปเล่ กลายเป็นนักเตะที่โด่งดังไปทั่วโลก เมื่อเขาถูกเรียกทีมชาติบราซิลชุดทำศึกฟุตบอลโลกที่สวีเดน ด้วยวัยเพียง 17 ปี และในทัวร์นาเม้นต์นี้เอง เปเล่ โด่งดังเป็นพลุแตก เมื่อเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดยิงได้ทั้งหมด 6 ลูก ในนั้นเป็นการทำแฮตทริกใส่ฝรั่งเศส ก่อนนำทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์โลกด้วยการเอาชนะเจ้าภาพในรอบชิงชนะเลิศ 5-2
อย่างไรก็ตามแม้จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดในฟุตบอลโลกปี 1958 ทว่าอีก 4 ปีต่อมา เปเล่ กลับต้องพบกับฝันร้าย แม้ว่าทีมชาติบราซิลจะผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ทว่า "ไข่มุกดำ" กลับต้องใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งเชียร์เพื่ออยู่ข้างสนามหลังได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงตั้งแต่รอบแรก ปล่อยให้เพื่อนร่วมทีมอย่าง การ์รินช่า, ดีดี้, วาว่า และ ซากาโล่ กลายเป็นซูเปอร์สตาร์แทน
หลังพบกับความผิดหวัง เปเล่ ต้องใช้เวลาอีกถึง 8 ปี ถึงจะกลับมาทวงความเกรียงไกรคืน โดยแฟนบอลได้ตื่นตาตื่นใจกับลีลาแบบฉบับอัจฉริยะเริงระบำบนยอดหญ้าอีกครั้ง เปเล่ ในฟอร์มที่สุดยอดและเมื่อบวกกับผู้เล่นอย่าง คาร์ลอส อัลแบร์โต้, แซร์จินโญ่ หรือ ริเวลิโน่ ร่ายมนต์สะกด อิตาลี ในรอบชิงชนะเลิศก่อนจะไล่ต้อนไปอย่างขาดลอย 4-1 และนับเป็นการคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ของเปเล่ด้วย
สำหรับสถิติของเปเล่ ยิงประตูในฟุตบอลโลกได้ทั้งหมด 12 ลูก และสามารถทำประตูในฐานะนักเตะอาชีพถึง 1,280 ประตู โดยใช้ชีวิตบั้นปลายในอาชีพพ่อค้าแข้งกับนิวยอร์ค คอสมอส ในสหรัฐ อเมริกา ซึ่งเป็นที่สุดท้ายก่อนจะแขวนสตั๊ด


