ชั่วโมงนี้คงไม่มีสาวเบลเยี่ยมคนไหนที่จะมีความสุขมากเท่ากับ คิม ไคลจ์สเตอร์ส แชมป์หญิงเดี่ยวเทนนิสแกรนด์สแลม ยูเอส โอเพ่น ประจำปี 2005 อีกแล้ว เพราะนี่คือถ้วยแกรนด์สแลมใบแรกของสาวน้อยวัย 22 ที่เธอรอคอยมานานถึง 4 ปี
ในเวลาเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้วคิม ไคลจ์สเตอร์ส ทำได้เพียงนั่งมอง สเวตลาน่า คุซเนซโซว่า คว้าแชมป์รายการนี้ไปไปครองแบบพลิกความคาดหมาย เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ข้อมือทำให้อดีตนักเทนนิสหญิงมือวางอันดับหนึ่งของโลกต้องหยุดพักยาวทั้งฤดูกาล จนกระทั่งอันดับโลกร่วงแบบกราวรูด ก่อนที่เธอจะค่อยๆกลับคืนสู่ฟอร์มเดิมอีกครั้งในปีนี้
เมื่ออาการบาดเจ็บเริ่มทุเลา คิม ก็ยังต้องเผชิญกับมรสุมชีวิตอีกระลอก เมื่อเธอประกาสขอถอนหมั้นคู่หมั้นหนุ่มนักเทนนิสชื่อดังชาวออสเตรเลีย เลย์ตัน ฮิววิตต์ ชนิดสายฟ้าแลบ ซึ่งฝ่ายหญิงก็ไม่ได้ให้เหตุผลในการตัดสินใจเช่นนั้น แต่มีกระแสข่าวเบื้องลึกว่า อดีตคู่หมั้นชาวเบลเยี่ยมของฮิววิตต์นั้นเข้ากันไม่ได้กับครอบครัวของหนุ่มออสซี่
หลังผจญกับปัญหาระลอกแล้วระลอกเล่า ที่สุด คิม ไคลจ์สเตอร์ส ก็ตัดทิ้งเรื่องกวนใจทั้งหมดและมุ่งมั่นฝึกซ้อมเพื่อกลับคืนสู่วงการและคว้าแชมป์แกรนด์สแลม ให้ได้สักรายการในปีนี้หลังพลาดมาตลอดตั้งแต่เฟรนช์โอเพ่น ที่เข้าถึงรอบชิงถึงสองครั้งในปี 2001 และ 2003 ในขณะที่ยูเอส โอเพ่นนั้นเธอเคยเข้าชิงมาแล้วในปี 2003 และ ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น ในปี 2004 ที่เธอต้องพ่ายให้กับ เพื่อร่วมชาติ จัสติน เอแนง อาร์เดน ก่อนจะหยุดพักยาว
ก่อนหน้าจะถึงการแข่งขันเทนนิสยูเอส โอเพ่นในปีนี้ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า คิม ไคลจ์สเตอร์ส จะสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ และกลับมาคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้เนื่องจากผลงานในแกรนด์สแลมสองรายการอย่าง เฟรนช์ โอเพ่น และ วิมเบิลดัน สาววัย 22 ปีจากเบลเยี่ยมทำได้เพียงรอบ 16 คนสุดท้าย
แต่ คิม ก็กลับมาแก้ตัวได้ในการแข่งขันอุ่นเครื่องของ ยูเอส โอเพ่น หรือที่เรียกว่า ยูเอส โอเพ่นซีรี่ย์ โดย ไคลจ์สเตอร์ส ครองแชมป์ในการแข่งขันที่ อินเดียน เวลส์, ไมอามี่, อีสท์บูร์น, สแตนฟอร์ด, ลอสแองเจลลิส และ โตรอนโต ซึ่งผลงานของเธอใน ยูเอส โอเพ่นซีรี่ย์นั้นประสบความสำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเงินรางวัลในการแข่งขันยูเอส โอเพ่นของเธอจะถูกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว
โดยในการแข่งขัน ยูเอส โอเพ่น ครั้งนี้ คิม ไคลจ์สเตอร์ส ถูกจัดให้เป็นมือวางอันดับที่ 4 ของรายการซึ่งการแข่งขันในรอบแรกๆนั้นถือว่าเธอเจองานเบา ไล่เก็บชัยชนะมาตั้งแต่รอบแรกนับตั้งแต่ ฟาบิโอลา ซูลัวกา รอบสองชนะ ไอย์ ซูกิยาม่า ฉลุยเข้ารอบสี่หลังเอาชนะ มาเรีย เวนโต คับชิ
เมื่อถึงรอบ 8 คนสุดท้ายคิม ต้องเจองานหนัก เมื่อเจอคู่ปรับเก่าอย่าง วีนัส วิลเลี่ยมส์ แต่เธอก็เอาชนะมาได้ ก่อนจะเข้าไปพบกับ มาเรีย ชาราโปว่า ในรอบรองชนะเลิศ ซึ่ง คิม โชว์ความแกร่งโค่นสาวรัสเซีย อดีตแชมป์วิมเบิลดัน เข้าไปพบกับแมรี่ เพียร์ซ ในรอบชิงชนะเลิศ
ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนั้น คิม ถือว่ามีฟอร์มเป็นต่ออดีตแชมป์เฟรนช์โอเพ่น อย่าง แมรี่ เพียร์ซอยู่มาก เนื่องจากเพียร์ซ มีอาการบาดเจ็บตั้งแต่รอบรองชนะเลิศ แต่ก็กัดฟันเอาชนะนักเทนนิสรุ่นน้องอย่าง เอเลน่า เดเมนเทียว่า มาได้ซึ่งนับเป็นการเข้าชิงแกรนด์สแลมรายการที่สองของเพียร์ซ ต่อจากออสเตรเลียน โอเพ่น
เมื่อต้นปี
โดยการแข่งขันในเซตแรกนั้น เพียร์ซ เป็นฝ่ายเสิร์ฟก่อนแต่ถูก ไคลจ์สเตอร์ส ซึ่งเป็นนักเทนนิสที่มีเกมท้ายคอร์ตเหนียวแน่นปักหลักตอบโต้ได้อย่างแม่นยำ และสามารถเบรกเกมเสิร์ฟของเพียร์ซ และ รักษาเกมเสิร์ฟของตนเอง จนขึ้นนำไปก่อน 2-0 เกม จากนั้นทั้งคู่ผลัดกันรักษาเกมเสิร์ฟได้คนละเกม แต่เพียร์ซ ก็พลาดถูกเบรกอีกครั้งหลังเล่นได้ไม่แน่นอนทำให้ตามหลังถึง 1-4 เกม ในเกมถัดมา เพียร์ซ จะเบรกคืนได้บ้างเนื่องจาก ไคลจ์สเตอร์ส ตีเสียบ่อย แต่เซตแรกก็ตกเป็นของนักเทนนิสจากเบลเยียม หลังจากเบรกเกมเสิร์ฟของเพียร์ซได้อีกครั้งชนะไปก่อน 6-3 เกม
ในเซตที่สอง ไคลจ์สเตอร์ส ยังคงตีได้หนักหน่วงและแม่นยำ ขณะที่เพียร์ซ มีปัญหาการโต้ไปไม่ลึกตีเสียเองบ่อยครั้งทำให้ถูกเบรก ตกเป็นรองอยู่ 0-2 เกม และสถานการณ์การแข่งขันคล้ายกับเซตแรกเมื่อ ไคลจ์สเตอร์ส นำห่าง 4-1 เกม แถมยังเบรกเกมเสิร์ฟของเพียร์ซ ได้อีกทำให้ขึ้นแท่นและก็พิชิตแมตช์ไปได้ในที่สุดสองเซตรวด 6-3 และ 6-1 ได้ครองแชมป์แกรนด์สแลมแรกในชีวิต พร้อมรับเงินรางวัล 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 44 ล้านบาท) บวกกับโบนัสผลงานอันยอดเยี่ยมของรายการอุ่นเครื่อง (ยูเอสโอเพ่น ซีรี่ย์) ทำให้คิม รับเงินรางวัลครั้งนี้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 88 ล้านบาท)