xs
xsm
sm
md
lg

ออลอเมริกัน แมตช์/ฤทธิกร การะเวก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ "มือมีฤทธิ์" โดย ฤทธิกร การะเวก

คลิกที่ไอคอน Multimedia ด้านบนเพื่อฟังเสียงบทความนี้

เทนนิสยูเอส โอเพ่น 2005ที่ล่วงเลยมาถึงวันที่สิบ ดูจะไม่สามารถทำให้แฟนเทนนิสไทยดีใจกันได้เท่าไรนัก นับตั้งแต่การตกรอบคัดเลือกของหนุ่มปิ๊ก ‘ดนัย อุดมโชค’ หลังจากพลาดสามแม็ตช์พอยต์จากอาโนลด์ เกลมองต์ ขณะที่แทมมี่ แทมมารีน ธนสุกาญจน์ นอกจากจะเจอปัญหาบาดเจ็บจนไม่ได้แข่งขันรายการอุ่นเครื่อง ยังโชคไม่ดีที่ต้องพบกระดูกชิ้นโตอย่าง อนาสตาเซีย มิสกิน่า จนร่วงไปตั้งแต่รอบแรก

จะมีก็ภราดร ศรีชาพันธุ์ ที่แม้ปีนี้จะไม่ได้เป็นมือวางอันดับ แต่ก็ผ่านสองด่านแรกทั้งจอมเก๋ายูเนส เอล อานาอุย และมือวางอันดับหกนิโคไล ดาวิเดนโก้ไปอย่างสวยงาม ก่อนจะพ่ายดาวิเด้ ซังกุยเน็ตติ แบบหวุดหวิด ในแม็ตช์มาราธอนกว่าสี่ชั่วโมงไปอย่างน่าเสียดายที่สุด ชนิดที่ถ้าให้คนดูได้โหวตกลับแบบอาตาเดมี่ แฟนเตเชีย2 แล้วละก็ คะแนนเสี่ยบอลน่าจะมาเป็นที่หนึ่ง

แต่ก็นั่นแหละ การตามเชียร์ตามลุ้นขวัญใจชาวไทยที่ฟลัชชิ่ง เมโดว์สเที่ยวนี้ ดูจะต้องอาศัยจินตนาการร่วมกับคะแนนไลฟ์สกอร์ในอินเตอร์เน็ตเสียเป็นส่วนใหญ่ ในเมื่อคนไทยแทบไม่มีโอกาสได้ชมภาพสดๆจากสนามแข่งขันไม่ว่าจะเป็นช่องเจ็ดสี หรือยูบีซีที่น้องๆ คอลล์เซนเตอร์คงจะหูชาไปตามสมควร และน่าจะเป็นการบ้านที่ผู้เกี่ยวข้องต้องหาทางแก้ไขกันในคราวต่อๆไป

หรือ ภราดร เอง แร้งค์กิ้งที่ไม่น่าจะขึ้นลงจากอันดับ 51 ในปัจจุบันสักเท่าใดนัก เมื่อทำผลงานในยูเอสโอเพ่นได้เสมอตัวเมื่อเทียบกับปีกลาย ก็อาจจะทำให้เจ้าตัวต้องออกแรงลงแข่งขันตั้งแต่รอบคัดเลือกในรายการใหญ่อย่างมาสเตอร์ซีรี่ย์ส สองรายการสุดท้ายที่มาดริดและปารีส ที่มีนักเทนนิสในเมนดรอว์เพียง 48 คน ยกเว้นว่าเขาจะทำผลงานสุดยอดในรายการก่อนหน้าอย่าง ไชน่าโอเพ่น เจแปนโอเพ่น หรือไทยแลนด์โอเพ่นในบ้านเรา

แต่สำหรับอารมณ์ของคอเทนนิสเจ้าถิ่นนั้น ดูจะผกผันอยู่พอสมควร เมื่อศึกยูเอสโอเพ่นครั้งนี้ ต้องเปิดฉากท่ามกลางความตกตะลึง ความโกลาหล และความสูญเสียของคนอเมริกันต่อพายุ เฮอริเคนแคทรีน่า ที่สร้างความเสียหายครึ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ 911 แถมในค่ำวันถัดมาความหวังสูงสุดในประเภทชายเดี่ยวอย่างแอนดี้ รอดดิก ก็ดันตกรอบแรกแบบล็อกถล่ม

อย่างไรก็ดี ใช่ว่าพวกเขาจะเจอแต่เรื่องร้ายๆไปซะหมด เพราะสถานการณ์ในประเภทชายเดี่ยวจนถึงวันนี้ แม้จะไม่มีเอ-รอด แต่กลับมีนักเทนนิสอเมริกันทะลุเข้ามาถึงรอบแปดคนสุดท้ายในสายล่างได้ถึงสามจากสี่คน และด้วยสภาพอากาศที่ไม่มีฝนมารบกวน คงไม่แปลกถ้ายูเอสโอเพ่นปีนี้จะทำสถิติจำนวนผู้ชมตลอดสองสัปดาห์ขึ้นมาใหม่

เพราะขนาดยังไม่ต้องคิดถึงซุปเปอร์สตาร์ฝ่ายหญิง ลำพังสามหนุ่มสามมุม ทั้งอันเดร อากัสซี่ เจมส์ เบลค และร็อบบี้ จิเนปรี ต่างก็มีจุดขายที่ชวนให้แฟนเทนนิสที่นั่นต้องเข้าไปให้กำลังใจ โดยเฉพาะ จิเนปรี ที่วันนี้ต้องพบกับด่านอันตรายอย่างกิลเยร์โม่ คอเรีย แต่ฟอร์มช่วงอุ่นเครื่องที่ดีอย่างผิดหูผิดตาจนคว้าแชมป์ที่อินเดียนาโปลิส แถมปราบดาวรุ่งฝรั่งเศส อย่าง ริชาร์ด กาสเกต์ มาในรอบที่แล้ว ทำให้เขาดูไม่เป็นรอง เอล มาโก้ เสียด้วยซ้ำ

แต่ไฮไลท์ประจำวันนี้ น่าจะเป็นศึกออลอเมริกัน ควอเตอร์ไฟนอล ของอากัสซี่กับ เบลค ถึงจะไม่ยิ่ใหญ่เหมือนแม็ตช์คลาสสิคอย่าง แซมพราส-อากัสซี่ ในรอบเดียวกันนี้เมื่อปี 2001 แต่ก็ดูจะเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่ทั้งคู่โคจรมาพบกัน ในเมื่อต่างฝ่ายต่างกำลังอยู่ในภาวะขาขึ้นมาตั้งแต่ช่วงยูเอสโอเพ่นซีรี่ย์ และต่อเนื่องมาถึงสังเวียนฟลัชชิ่งโดว์แห่งนี้

หลังจากตกรอบแรกเฟร้นช์ โอเพ่น และถอนตัวจากวิมเบิลดัน อากัสซี่ในวัย 35 ถูกคาดหมายไปต่างๆนานาในเรื่องอนาคตบนเส้นทางเทนนิสอาชีพ แต่เขาก็กลับมาพร้องกับตำแหน่งแชมป์ที่ลอส แองเจลิส และรองแชมป์ที่มอนทริออล หลายคนที่อยากเห็นดับเบิ้ลเอเป็นแชมป์ หรืออย่างน้อยเข้าชิงชนะเลิศในรายการแกรนด์สแลม อีกสักครั้ง ก่อนแขวนแร็คเก็ต คงได้ลุ้นกันสุดตัว

แต่เบลค คือสุดยอดแห่งการคัมแบ็คของปี หลังผ่านพ้นมรสุมทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ เขากลับมาฟิตเต็มร้อยและเล่นเทนนิสสไตล์ออลคอร์ตได้ดีเหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน ชัยชนะ 10 แมตช์รวดที่รวมถึงตำแหน่งแชมป์ที่นิวเฮฟเว่นและการโค่นราฟาเอล นาดาลในรอบสาม คือสิ่งที่ยืนยันว่าหนุ่มผิวสีขวัญใจชาวนิวยอร์กคนนี้กำลัง
ท็อปฟอร์ม

สรุปกันห้วนๆ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร กองเชียร์อเมริกันก็ยังแฮปปี้ได้อยู่ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น