เฮอร์นัน เครสโป กลายเป็นซูเปอร์ซับของ เชลซี หลังลงเป็นตัวสำรองและมายิงประตูชัยในนาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วยต้นสังกัดบุกมาเฉือนเอาชนะ วีแกน ถึงถิ่นเจเจบี สเตเดี้ยม ได้อย่างหืดจับ 1-0 ศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อวันอาทิตย์ (14 ส.ค.) คว้า 3 แต้มหวุดหวิด
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วีแกน 0 เชลซี 1
ศึกพรีเมียร์ลีกคู่สุดท้ายของเกมเปิดสนาม วีแกน น้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นจากแชมเปี้ยนชิพ เปิดรังเจเจบี สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของแชมป์เก่าเชลซี นัดนี้เจ้าถิ่นมี สเตฟาน อองโชซ์ อดีตนักเตะของลิเวอร์พูล ยืนคุมแผงหลังร่วมกับ อาร์ยัน เดอ ซูว์ ส่วนแนวรุกมี อองรี กามาร่า และ เจสัน โรเบิร์ต ขณะที่สิงโตน้ำเงินคราม ส่ง อาเซอร์ เดล ออร์โน่ ลงเล่นในลีกอังกฤษครั้งแรก ด้าน ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ เป็นเพียงตัวสำรอง
เสียงนกหวีดจากผู้ตัดสินดังขึ้นเจ้าถิ่นพยายามใช้ลูกวิ่งสู้ฟัดเข้าไล่อัดผู้เล่นของเชลซีตั้งแต่เริ่ม และเพียงนาทีที่ 4 อองรี กามาร่า สบจังหวะล็อคจากขวาแล้วซัดด้วยซ้ายเดือดร้อนให้ ปีเตอร์ เช็ก ต้องเหยียดตัวปัดสุดมือ ถัดมาอีกไม่กี่วินาที กามาร่า คนเดิมได้ส่องอีกครั้งบนเส้นเขตโทษแต่คราวนี้บอลพุ่งเฉี่ยวเสาแรกออกไป
วีแกน พยายามออกบอลเร็วตลอดและทำได้หวือหวาพอสมควร แต่ เชลซี ก็อาศัยจังหวะสวนกลับต่อบอลไม่กี่ครั้งจนมีโอกาสยิงประตู เมื่อ ดัฟฟ์ ชิ่งให้ ดร็อกบา ได้หมุนตัวกดหน้ากรอบเขตโทษ ดีที่บอลเหินข้ามคานออกไป
ผ่านไป 20 นาที เชลซี เริ่มตั้งตัวติดกลับมาเป็นฝ่ายบุกกดดันเจ้าถิ่นได้มากขึ้น แต่พอถึงนาทีที่ 25 วีแกน เกือบได้เฮเมื่อ เจสัน โรเบิร์ต ลากตะลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษ บอลเด้งมาเข้าทาง ชิมบงดา ก่อนสุดท้ายจะมาถึง อลัน มาห์น ที่ได้กดเต็มข้อทว่าลูกลอยข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
ท้ายครึ่งแรกทีมเยือนพยายามต่อบอลทำเกมหวังจะฉวยโอกาสยิงประตูออกนำในช่วงสำคัญให้ได้ และเกือบทำสำเร็จจากลูกเตะมุมในนาทีที่ 39 เมื่อ ร็อบเบน วางโค้งมาให้ จอห์น เทอร์รี่ โถมตัวขึ้นโขกเต็มหัวแต่ลอยข้ามคานออกไปน่าเสียดาย ก่อนที่ในนาทีสุดท้าย เดมี่ยน ดัฟฟ์ สบจังหวะเลี้ยงจี้เข้าหากรอบเขตโทษ ตัดสินใจตัดเข้ากลางแล้วกดด้วยซ้าย เป็น พอลลิตต์ ที่ล้มตัวรับไว้ได้หวุดหวิด
ครึ่งหลัง โฮเซ่ มูรินโญ่ ปรับทัพสองคนรวดส่ง โจ โคล และ ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ ลงมาแทน อาร์เจน ร็อบเบน กับ ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น ที่โชว์ฟอร์มไม่ออก ซึ่งก็ได้ผลเมื่อเกมรุกของ เชลซี ดูวูบวาบขึ้นแต่ยังเจาะแนวรับ วีแกน ไม่เข้า
เชลซี เริ่มขึงเกมได้ต่อเนื่องแต่ยังไม่มีโอกาสจบสกอร์ จนต้องส่ง เฮอร์นัน เครสโป ลงมาเป็นไพ่ใบสุดท้ายถอด เดมี่ยน ดัฟฟ์ ออก แล้วขยับ โจ โคล ขึ้นไปเล่นกองหน้าอีกราย และลงมาไม่ทันไรกองหน้าทีมชาติอาร์เจนติน่าก็มีโอกาสครั้งแรกในนาทีที่ 61 เมื่อรับบอลจากการผ่านของ โจ โคล ก่อนได้สับด้วยขวา ทว่า พอลลิตต์ ล้มตัวทุบออกไปได้
แม้จะตั้งรับเป็นส่วนใหญ่แต่ วีแกนก็สามารถโต้ตอบด้วยเกมสวนกลับที่อันตรายโดยเฉพาะ อองรี กามาน่า ที่วูบวาบเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามในนาทีที่ 69 โจ โคล อาศัยความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงตะลุยขึ้นไปตรงกลาง ก่อนจะส่องเต็มข้อยังดีที่ พอลลิตต์ ไม่หลงรับเข้าซอง
15 นาทีสุดท้าย เชลซี ดาหน้าบุกแหลก และในนาทีที่ 81 ก็มาได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ แฟร้งค์ แลมพาร์ด วางบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ จอห์น เทอร์รี่ โถมตัวขึ้นโขกทว่าเบาเกินไปเข้าซองของ พอลลิตต์ ขณะที่ วีแกน ก็พลาดโอกาสทองในนาทีต่อมา เมื่อ ทีล หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นไปเปิดบอลที่สุดเส้นมาให้ เจสัน โรเบิร์ต โถมตัวโหม่งเต็มหัว โชคร้ายบอลพุ่งไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
เกมทำท่าจะเสมอกันแต่แล้วในนาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อ เฮอร์นัน เครสโป ได้บอลที่หน้ากรอบเขตโทษ ตัดสินใจสับไกด้วยซ้ายบอลลอยละลิ่วเสียบสามเหลี่ยมสองสองไปอย่างสาวยงาม เป็นประตูชัยช่วยให้ เชลซี คว้า 3 แต้มเต็มได้หวุดหวิด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
วีแกน - ไมเคิล พอลลิตต์, เลช์ตัน เบนส์, ปาสกาล ชิมบงดา, อาร์ยัน เดอ ชูว์, สเตฟาน อองโชซ์, จิมมี่ บุลลาร์ด, เดเมี่ยน ฟรานซิส, อลัน มาห์น, อองรี กามาร่า, เจสัน โรเบิร์ต, แกรี่ ทีล
เชลซี - ปีเตอร์ เช็ก, อาเซอร์ เดล ออร์โน่, วิลเลี่ยม กัลล่าส์, เปาโล แฟร์ไรร่า, จอห์น เทอร์รี่, เดเมี่ยน ดัฟฟ์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, โคล้ด มาเกเลเล่, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น, อาร์เยน ร็อบเบน
สรุปผลการแข่งขันพรีเมียร์ลีก
อาร์เซนอล ชนะ นิวคาสเซิล 2-0
วีแกน แพ้ เชลซี 0-1
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วีแกน 0 เชลซี 1
ศึกพรีเมียร์ลีกคู่สุดท้ายของเกมเปิดสนาม วีแกน น้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นจากแชมเปี้ยนชิพ เปิดรังเจเจบี สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของแชมป์เก่าเชลซี นัดนี้เจ้าถิ่นมี สเตฟาน อองโชซ์ อดีตนักเตะของลิเวอร์พูล ยืนคุมแผงหลังร่วมกับ อาร์ยัน เดอ ซูว์ ส่วนแนวรุกมี อองรี กามาร่า และ เจสัน โรเบิร์ต ขณะที่สิงโตน้ำเงินคราม ส่ง อาเซอร์ เดล ออร์โน่ ลงเล่นในลีกอังกฤษครั้งแรก ด้าน ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ เป็นเพียงตัวสำรอง
เสียงนกหวีดจากผู้ตัดสินดังขึ้นเจ้าถิ่นพยายามใช้ลูกวิ่งสู้ฟัดเข้าไล่อัดผู้เล่นของเชลซีตั้งแต่เริ่ม และเพียงนาทีที่ 4 อองรี กามาร่า สบจังหวะล็อคจากขวาแล้วซัดด้วยซ้ายเดือดร้อนให้ ปีเตอร์ เช็ก ต้องเหยียดตัวปัดสุดมือ ถัดมาอีกไม่กี่วินาที กามาร่า คนเดิมได้ส่องอีกครั้งบนเส้นเขตโทษแต่คราวนี้บอลพุ่งเฉี่ยวเสาแรกออกไป
วีแกน พยายามออกบอลเร็วตลอดและทำได้หวือหวาพอสมควร แต่ เชลซี ก็อาศัยจังหวะสวนกลับต่อบอลไม่กี่ครั้งจนมีโอกาสยิงประตู เมื่อ ดัฟฟ์ ชิ่งให้ ดร็อกบา ได้หมุนตัวกดหน้ากรอบเขตโทษ ดีที่บอลเหินข้ามคานออกไป
ผ่านไป 20 นาที เชลซี เริ่มตั้งตัวติดกลับมาเป็นฝ่ายบุกกดดันเจ้าถิ่นได้มากขึ้น แต่พอถึงนาทีที่ 25 วีแกน เกือบได้เฮเมื่อ เจสัน โรเบิร์ต ลากตะลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษ บอลเด้งมาเข้าทาง ชิมบงดา ก่อนสุดท้ายจะมาถึง อลัน มาห์น ที่ได้กดเต็มข้อทว่าลูกลอยข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
ท้ายครึ่งแรกทีมเยือนพยายามต่อบอลทำเกมหวังจะฉวยโอกาสยิงประตูออกนำในช่วงสำคัญให้ได้ และเกือบทำสำเร็จจากลูกเตะมุมในนาทีที่ 39 เมื่อ ร็อบเบน วางโค้งมาให้ จอห์น เทอร์รี่ โถมตัวขึ้นโขกเต็มหัวแต่ลอยข้ามคานออกไปน่าเสียดาย ก่อนที่ในนาทีสุดท้าย เดมี่ยน ดัฟฟ์ สบจังหวะเลี้ยงจี้เข้าหากรอบเขตโทษ ตัดสินใจตัดเข้ากลางแล้วกดด้วยซ้าย เป็น พอลลิตต์ ที่ล้มตัวรับไว้ได้หวุดหวิด
ครึ่งหลัง โฮเซ่ มูรินโญ่ ปรับทัพสองคนรวดส่ง โจ โคล และ ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ ลงมาแทน อาร์เจน ร็อบเบน กับ ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น ที่โชว์ฟอร์มไม่ออก ซึ่งก็ได้ผลเมื่อเกมรุกของ เชลซี ดูวูบวาบขึ้นแต่ยังเจาะแนวรับ วีแกน ไม่เข้า
เชลซี เริ่มขึงเกมได้ต่อเนื่องแต่ยังไม่มีโอกาสจบสกอร์ จนต้องส่ง เฮอร์นัน เครสโป ลงมาเป็นไพ่ใบสุดท้ายถอด เดมี่ยน ดัฟฟ์ ออก แล้วขยับ โจ โคล ขึ้นไปเล่นกองหน้าอีกราย และลงมาไม่ทันไรกองหน้าทีมชาติอาร์เจนติน่าก็มีโอกาสครั้งแรกในนาทีที่ 61 เมื่อรับบอลจากการผ่านของ โจ โคล ก่อนได้สับด้วยขวา ทว่า พอลลิตต์ ล้มตัวทุบออกไปได้
แม้จะตั้งรับเป็นส่วนใหญ่แต่ วีแกนก็สามารถโต้ตอบด้วยเกมสวนกลับที่อันตรายโดยเฉพาะ อองรี กามาน่า ที่วูบวาบเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามในนาทีที่ 69 โจ โคล อาศัยความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงตะลุยขึ้นไปตรงกลาง ก่อนจะส่องเต็มข้อยังดีที่ พอลลิตต์ ไม่หลงรับเข้าซอง
15 นาทีสุดท้าย เชลซี ดาหน้าบุกแหลก และในนาทีที่ 81 ก็มาได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ แฟร้งค์ แลมพาร์ด วางบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ จอห์น เทอร์รี่ โถมตัวขึ้นโขกทว่าเบาเกินไปเข้าซองของ พอลลิตต์ ขณะที่ วีแกน ก็พลาดโอกาสทองในนาทีต่อมา เมื่อ ทีล หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นไปเปิดบอลที่สุดเส้นมาให้ เจสัน โรเบิร์ต โถมตัวโหม่งเต็มหัว โชคร้ายบอลพุ่งไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
เกมทำท่าจะเสมอกันแต่แล้วในนาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อ เฮอร์นัน เครสโป ได้บอลที่หน้ากรอบเขตโทษ ตัดสินใจสับไกด้วยซ้ายบอลลอยละลิ่วเสียบสามเหลี่ยมสองสองไปอย่างสาวยงาม เป็นประตูชัยช่วยให้ เชลซี คว้า 3 แต้มเต็มได้หวุดหวิด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
วีแกน - ไมเคิล พอลลิตต์, เลช์ตัน เบนส์, ปาสกาล ชิมบงดา, อาร์ยัน เดอ ชูว์, สเตฟาน อองโชซ์, จิมมี่ บุลลาร์ด, เดเมี่ยน ฟรานซิส, อลัน มาห์น, อองรี กามาร่า, เจสัน โรเบิร์ต, แกรี่ ทีล
เชลซี - ปีเตอร์ เช็ก, อาเซอร์ เดล ออร์โน่, วิลเลี่ยม กัลล่าส์, เปาโล แฟร์ไรร่า, จอห์น เทอร์รี่, เดเมี่ยน ดัฟฟ์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, โคล้ด มาเกเลเล่, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น, อาร์เยน ร็อบเบน
สรุปผลการแข่งขันพรีเมียร์ลีก
อาร์เซนอล ชนะ นิวคาสเซิล 2-0
วีแกน แพ้ เชลซี 0-1
