เล่า ซือ นักปราชญ์จีนโบราณกล่าว "การเดินทางที่ยาวไกลนั้นเริ่มต้นจากหนึ่งก้าวย่าง” คำกล่าวของเล่าซือ เปรียบได้กับฟุตบอลเอเชียในปัจจุบัน ที่กำลังเริ่มเดินและดิ้นรนหาหนทางให้มาตรฐานการเล่นฟุตบอลในทวีปนี้ เป็นที่ยอมรับในวงการฟุตบอลโลก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วฟุตบอลในเอเชียยังย่ำอยู่กับจุดเริ่มต้น เส้นทางแห่งความสำเร็จนั้นดูจะยาวไกล และอาจต้องรอคอยไปอีกนานแสนนาน
การแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในปี 1956 โดยสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี เป็นทัวร์นาเม้นท์ ที่ฟีฟ่า หรือสมาพันธ์ฟุตบอลโลกพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นเพื่อให้ยกระดับของฟุตบอลในเอเชีย แต่ดูเหมือนความพยายามดังกล่าว จะเป็นได้แค่เพียงคลื่นที่กระทบฝั่งและจางหายไป วันเวลาเกือบครึ่งทศวรรษ นับตั้งแต่เริ่มต้นทำการแข่งขันเอเชี่ยน คัพ ที่ฮ่องกง ดูเหมือนว่าฟุตบอลในทวีปเอเชียยังเป็นได้แค่เพียงทีมไม้ประดับในการแข่งขันระดับสากลเท่านั้น
ทันทีที่การแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยนคัพปี 2004 เริ่มต้นขึ้น เค้าลางแห่งความล้มเหลวก็เริ่มปกคลุมนครปักกิ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียกล่าววิจารณ์การจัดงานของจีนอย่างรุนแรง
เหตุดังกล่าวทำให้ทัวร์นาเม้นท์ที่อ่อนด้อยทั้งการประชาสัมพันธ์ รวมไปถึงมาตรฐานของทีมที่ส่งลงทำการแข่งขันซึ่งส่งแต่นักฟุตบอลที่ไม่ใช่ระดับซูเปอร์สตาร์ลงทำศึก เป็นการประมวลให้เห็นถึงล้มเหลวของ เอเอฟซี ในความพยายามที่จะพัฒนาฟุตบอลเอเชีย ให้มีมาตรฐานเทียบเท่ากับฟุตบอลในอีกสองคาบสมุทรไม่ว่าจะเป็นยุโรป หรือ อเมริกาใต้
แม้ว่าการแข่งขันเอเชี่ยนคัพ 2004 จะเป็นอีกหนึ่งทัวร์นาเม้นท์ ที่ทำรายได้มหาศาลให้กับผู้จัดการได้ไม่น้อยแต่สีสันของการแข่งขันกลับจืดและไร้รสชาติเมื่อ นักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงต่างก็ถอนตัวลงทำการแข่งขันในทัวร์นาเม้นท์นี้ และมีบางส่วนที่อ้างอาการบาดเจ็บ
ทางสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียนั้น วางคำขวัญในการแข่งขันครั้งนี้ว่า "หนึ่งการแข่งขัน เพื่อหนึ่งเป้าหมาย ในหนึ่งทวีป" คำขวัญดังกล่าวอาจกลายเป็นแนวนโยบายที่ทำไม่ได้จริง เพราะแต่ละประเทศที่ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันไม่ได้ปฏิบัติตามความตั้งใจเดิมของเอเอฟซีอย่างจริงจังสักเท่าไหร่
ปีเตอร์ เวลัปปัน เลขาธิการสมาพันธ์ฯ ได้วิจารณ์แฟนฟุตบอลชาวปักกิ่งว่าเป็นพวกไม่มีวัฒนธรรมในการชมกีฬา หลังจากเขาได้ชมการแข่งขันนัดที่ทีมชาติจีนพบกับทีมบาห์เรน
ความไม่พอใจของเวลัปปัน นั้นรุนแรงถึงขนาดที่ออกมากล่าวผ่านสื่อมวลชนว่า เขาจะประชุมร่วมกับคณะกรรมการของ เอเอฟซี ไม่ให้จีนเข้ามาเป็นเจ้าภาพการแข่งขันใดๆของเอเอฟซีอีกต่อไป รวมทั้งจะออกเสียงว่าเมืองจีน นั้นไม่น่าจะเป็นเจ้าภาพที่ดีได้สำหรับโอลิมปิกปี 2008
การประณามของเวลัปปันนั้น ดูรุนแรงเกินกว่าที่ชาวจีนจะยอมรับได้ มีการเรียกร้อง และกดดันให้เวลัปปัน ออกมาขอโทษต่อคำพูดดังกล่าว ซึ่งเมื่อถึงที่สุดแล้วประธานสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ก็ต้องสั่งให้เวลลัปปัน ออกมาปฎิบัติ ตามคำขอ ก่อนที่เรื่องราวจะร้ายแรงไปกว่านี้
เวลัปปัน นั้นเป็นคีย์แมนคนสำคัญที่เป็นตัวประสานงานให้ฟีฟ่ายอมจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2002 โดยมีเจ้าภาพสองประเทศร่วมกัน คือ เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นความสำเร็จครั้งแรกในการจัดฟุตบอลโลกในเอเชีย นับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเวลัปปัน ในขณะที่เกาหลีใต้เองก็สามารถทะลุถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย
ก่อนหน้าการแข่งขันเอเชี่ยนคัพ 2004 ครั้งนี้ ประธานฟีฟ่า เซปป์ แบล็ตเทอร์ เคยกล่าวว่าเกมฟุตบอลที่งดงามนั้นเคยเริ่มต้นจากเมืองจีนเมื่อ 2000 ปีก่อน นั่นเป็นสาเหตุหลักในการเลือกเมืองจีนเข้ามาเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันครั้งนี้
อย่างไรก็ตามในวันเปิดการแข่งขัน นโยบายสวยหรูของเอเอฟซีก็พังยับ เมื่อเจ้าภาพจัดการประชาสัมพันธ์ได้ไม่ดีพอ มีผู้ชมในนัดเปิดสนามบางตา ปัญหาของทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันอย่างการ์ต้า ซึ่งไล่ ฟิลิปป์ ทรุสซิเย่ร์ ออก รวมทั้งแฟนบอลในประเทศจีน ต่างให้ความสนใจการแข่งขันเฉพาะคู่ของเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และ จีนซึ่งเป็นเจ้าภาพ
อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ยังเลวร้ายน้อยกว่า เมื่อ 4 ปีก่อนที่เลบานอน เมื่อครั้งที่ ทรุสซิเย่ร์ พาทีมชาติญี่ปุ่นคว้าแชมป์ครั้งที่สองในเอเชี่ยนคัพ ในครั้งนั้นเจ้าภาพเลบานอน ต้องแจกบัตรเข้าชมการแข่งขันฟรีกว่าพันใบ เพื่อให้การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระหว่าง ญี่ปุ่นและซาอุดิอาระเบีย มีผู้เข้าชมแน่นอัฒจันทร์กรุงเบรุต
นอกจากนั้นการแข่งขันเอเชี่ยนคัพในปี 2000 ยังเป็นการแข่งขันท่ามกลางไฟสงครามระหว่าง อิสราเอล และ ปาเลสไตน์ ทำให้ต้องมีการรักษาความปลอดภัยในสนามแข่งเป็นอย่างมาก
แต่สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ที่เมืองจีนดูจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆที่ต้องกลัว แต่การแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ของเอเชีย ก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจ ทั้งที่องค์กรฟุตบอลในเอเชีย และ ผู้จัดการแข่งขันต่างตั้งความหวังกันไว้มาก
นับจากนี้คงต้องรอดูกันต่อไปว่าเมื่อใดฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ จะกลายเป็นทัวร์นาเม้นท์ระดับโลกที่เป็นข่าวใหญ่ในหน้ากีฬา มากกว่าจะเป็นเพียงข่าวสั้นที่ไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจเท่าใดนัก