คอลัมน์ ROAD TO LISBON โดย อาโหน่ง
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับศึก ยูโร 2004 ที่ประเทศโปรตุเกส หลายทีมโชว์ฟอร์มได้สมราคา บางทีมทำได้ดีเกินคาด แต่ก็มีบ้างที่กลับทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ และที่สำคัญสุดคงหนีไม่พ้นฟอร์มการเล่นของนักเตะแต่ละคน ซึ่งเป็นไปตามธรรมเนียมหลังทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ผ่านพ้นไป ก็จะต้องมีการจัดทีมยอดเยี่ยม ลองมาดูกันว่า 11 นักเตะที่เรียกเสียงกรี๊ดและสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลมากที่สุดจะเป็นใครกันบ้าง?
ผู้รักษาประตู
อันเดรียส อิซัคส์สัน / สวีเดน - นายทวารดาวรุ่งที่เบียดรุ่นพี่อย่าง แม็กนุส เฮดแมน หลุดจากตำแหน่งมือ 1 แม้ว่าจะไม่สามารถเซฟลูกจุดโทษช่วย ไวกิ้ง ผ่าน ฮอลแลนด์ ได้ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ก่อนหน้านนี้ด่านสุดท้ายที่เคยค้าแข้งกับทีมดังใน อิตาลี อย่าง ยูเวนตุส ไม่มีข้อผิดพลาดในเกมให้เห็นแต่กลับเล่นได้อย่างไร้อาการตื่นสนามเมื่อเทียบกับอายุเพียงแค่ 20 ปีและประสบการณ์ในนามทีมชาติอันน้อยนิด

กองหลัง
(แบ็คขวา) ฟิลิปป์ ลาห์ม / เยอรมัน – กองหลังหน้าละอ่อนสามารถเล่นได้ในตำแหน่งแบ็คทั้งสองข้างนอกจากเกมรับที่ไร้ความผิดพลาดแล้ว การบุกขึ้นไปเติมเกมรุกเพื่อเปิดบอลให้กองหน้าอย่าง เควิน คูรานยี่ มีให้เห็นหลายต่อหลายครั้งใน 3 เกมของรอบแบ่งกลุ่ม และจากฟอร์มในทัวร์นาเม้นต์นี้ ทำให้เขากลายเป็นตัวหลักของ อินทรีเหล็ก ในการกู้หน้าคืนในศึกฟุตบอลโลก 2006 หลังจากต้องตกรอบแรกในยูโรหนนี้
(แบ็คซ้าย) แอชลี่ย์ โคล / อังกฤษ - กองหลังคนเดียวที่สามารถตามประกบและสกัดกั้นการกระชากลากเลื้อยอันแสนเวียนหัวของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เสียอยู่หมัด การเล่นของเขามีการพัฒนาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดจากเมื่อก่อนที่ค่อนข้างจะมีการเข้าบอลที่รุนแรงและน่าเกลียดจนทำให้คู่ต่อสู่บาดเจ็บแต่ในศึกครั้งนี้เห็นได้ชัดว่านักเตะจาก อาร์เซนอล ตั้งใจเล่นเป็นพิเศษจนทำให้ผลงานออกมาดีมากเลยทีเดียว
(เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ) ตรายานอส เดลลาส / กรีซ - ในฐานะกองหลังที่สูงที่สุดในศึกครั้งนี้ส่งผลให้ กรีซ มีเกมรับที่เหนียวแน่นโดยเฉพาะการสกัดลูกเปิดจากริมเส้นสองข้างของคู่ต่อสู้ อีกทั้งยังเป็นทีเด็ดให้กับทีมในลูกเซตพีซโดยจะเห็นได้อย่างชัดเจนในเกมชนะ สาธารณรัฐเช็ก ในรอบรองชนะเลิศก่อนที่เขาจะยิงประตูชัยด้วยกฎซิลเวอร์โกล์ กองหลังจาก โรม่า มีโอกาสขวิดลูกฟรีคิกเกือบที่จะทำประตูให้กับทีมมาแล้วครั้งหนึ่ง
(เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ) ริคาร์โด้ คาวัลโญ่ / โปรตุเกส - เซนเตอร์ฮาล์ฟจากทีมแชมป์ ยุโรป ปอร์โต้ ถูก หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ มองข้ามในเกมแรกที่แพ้ กรีซ หลังจากนั้น 4 เกมที่เขาลงเล่นแทนที่ของ เฟอร์นานโด เคาโต้ ทำให้เกมรับของ เจ้าภาพ แกร่งขึ้นทันตาเห็น แม้จะมีรูปร่างไม่สูงใหญ่แต่ด้วยจังหวะการขึ้นตัดลูกกลางอากาศรวมถึงการประกบตัวรวมถึงการตัดสินใจในจังหวะสุดท้ายและประสบการณ์ทำให้ โปรตุเกส ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
กองกลาง
(กลางรับ) เธโอโดรอส ซาโกราคิส / กรีซ - กัปตันทีมจากดินแดนเทพนิยายถือเป็นนักเตะที่ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง ถึงยิงประตูในศึกครั้งนี้ไม่ได้แม้แต่ลูกเดียวแต่เขาจะคอยคุมจังหวะดูแลทั้งเกมรุกและรับของ กรีซ ประสบการณ์เกือบ 100 นัดคือปัจจัยสำคัญโดยเฉพาะในเกมที่เฉือนชนะ แชมป์เก่า ฝรั่งเศส ในรอบก่อนรองชนะเลิศอดีตดาวเตะของ เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นคนเปิดบอลให้ อันเจลอส ชาริสเตอัส โหม่งประตูชัยอย่างสุดสวย
(กลางรับ) นูโน่ มานิเช่ / โปรตุเกส - กองกลางตัวรับรายนี้ยิ่งเล่นยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะมีหน้าที่ในเกมรับแต่สามารถเติมขึ้นมาส่องได้ถึง 2 ประตูจาก 5 นัดที่ลงเล่นโดยเฉพาะลูกยิงสุดสวยที่กำราบ ฮอลแลนด์ ในรอบรองชนะเลิศที่สำคัญในเกมนี้เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมบดบังรัศมีของนักเตะระดับโลกอย่าง คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ และ เอ็ดการ์ ดาวิดส์ เสียหมดสิ้น
(กลางรุก) คริสเตียโน่ โรนัลโด้ / โปรตุเกส - ปีกจอมสับของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ถูกสบประมาทเหลือเกินว่าลีลาการโยกหลอกและคลึงบอลไปมาของเขาไร้ซึ่งประโยชน์สิ้นดีแต่ศึกระดับชาติครั้งแรกของนักเตะอายุเพียงแค่ 18 ปีกลับทำได้อย่างไร้ที่ติ ออกอาการตื่นสนามเล็กน้อยในเกมแรกที่แพ้ กรีซ จนทำเสียลูกจุดโทษแต่การออกสตาร์ทเป็นตัวจริง 3 นัดและตัวสำรอง 2 นัด สามารถยิงได้ถึง 2 ประตูและผ่านบอลให้เพื่อนทำประตู 2 ครั้งถือว่ายอดเยี่ยมจริงๆ

(กลางรุก) พาเวล เนดเวด / สาธารณรัฐเช็ก - นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีคนล่าสุดของยุโรป เป็นกองกลางที่เล่นได้ครบเครื่องที่สุดในศึกครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเกมรุกในการจ่ายบอลที่แม่นยำ รวมถึงลูกยิงไกลที่หวังผลได้แม้ว่าเขาจะยิงไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียวก็ตาม ในเกมรับยังวิ่งไล่บี้ตัดบอลจากคู่ต่อสู้ตลอดทั้งเกม นอกจากนี้ยังมีความเป็นผู้นำสูงสู้ไม่ถอยแม้ในบางเกมจะตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อนก็ตาม การถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมกับ กรีซ ถือเป็นจุดเปลี่ยนให้ทีมพบกับความพ่ายแพ้อย่างแท้จริง
กองหน้า
มิลาน บารอส / สาธารณรัฐเช็ก - ไม่รู้ทำไมดาวยิงรายนี้เวลาเล่นทีมชาติถึงดีนักหนาแต่ตอนเล่นให้ ลิเวอร์พูล กลับไม่เปรี้ยงปร้างจนถึงที่สุดตำแหน่งดาวซัลโว 5 ลูกประจำทัวร์นาเม้นต์พิสูจน์ศักยภาพของหัวหอกหุ่นสันทัดได้เป็นอย่างดี 4 นัดแรกที่ลงเล่นยิงประตูติดต่อกันจนพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ น่าเสียดายเกมที่พ่ายแพ้ต่อ กรีซ ถูกตามประกบติดเลยไม่สามารถพาทีมเข้าชิงได้ในท้ายที่สุด
เวย์น รูนี่ย์ / อังกฤษ - แม้จะอายุเพียงแค่ 18 ปีแต่สไตล์การเล่นที่ดุดันและพลังที่มีอย่างไม่จำกัดเขาคือนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในทีม สิงโตตำราม 4 ประตูจาก 2 นัดในรอบแบ่งกลุ่มนั้นช่วยให้ทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เชื่ออย่างยิ่งว่าในเกมที่เจอกับ โปรตุเกส ถ้าไม่ได้รับบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ต้นเกม น่าจะพา อังกฤษ ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้อย่างแน่นอน
แล้วคุณหละ มี 11 นักเตะตัวจริงในศึกยูโร 2004 เป็นใครกันบ้างหละ....
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับศึก ยูโร 2004 ที่ประเทศโปรตุเกส หลายทีมโชว์ฟอร์มได้สมราคา บางทีมทำได้ดีเกินคาด แต่ก็มีบ้างที่กลับทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ และที่สำคัญสุดคงหนีไม่พ้นฟอร์มการเล่นของนักเตะแต่ละคน ซึ่งเป็นไปตามธรรมเนียมหลังทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ผ่านพ้นไป ก็จะต้องมีการจัดทีมยอดเยี่ยม ลองมาดูกันว่า 11 นักเตะที่เรียกเสียงกรี๊ดและสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลมากที่สุดจะเป็นใครกันบ้าง?
ผู้รักษาประตู
อันเดรียส อิซัคส์สัน / สวีเดน - นายทวารดาวรุ่งที่เบียดรุ่นพี่อย่าง แม็กนุส เฮดแมน หลุดจากตำแหน่งมือ 1 แม้ว่าจะไม่สามารถเซฟลูกจุดโทษช่วย ไวกิ้ง ผ่าน ฮอลแลนด์ ได้ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ก่อนหน้านนี้ด่านสุดท้ายที่เคยค้าแข้งกับทีมดังใน อิตาลี อย่าง ยูเวนตุส ไม่มีข้อผิดพลาดในเกมให้เห็นแต่กลับเล่นได้อย่างไร้อาการตื่นสนามเมื่อเทียบกับอายุเพียงแค่ 20 ปีและประสบการณ์ในนามทีมชาติอันน้อยนิด
กองหลัง
(แบ็คขวา) ฟิลิปป์ ลาห์ม / เยอรมัน – กองหลังหน้าละอ่อนสามารถเล่นได้ในตำแหน่งแบ็คทั้งสองข้างนอกจากเกมรับที่ไร้ความผิดพลาดแล้ว การบุกขึ้นไปเติมเกมรุกเพื่อเปิดบอลให้กองหน้าอย่าง เควิน คูรานยี่ มีให้เห็นหลายต่อหลายครั้งใน 3 เกมของรอบแบ่งกลุ่ม และจากฟอร์มในทัวร์นาเม้นต์นี้ ทำให้เขากลายเป็นตัวหลักของ อินทรีเหล็ก ในการกู้หน้าคืนในศึกฟุตบอลโลก 2006 หลังจากต้องตกรอบแรกในยูโรหนนี้
(แบ็คซ้าย) แอชลี่ย์ โคล / อังกฤษ - กองหลังคนเดียวที่สามารถตามประกบและสกัดกั้นการกระชากลากเลื้อยอันแสนเวียนหัวของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เสียอยู่หมัด การเล่นของเขามีการพัฒนาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดจากเมื่อก่อนที่ค่อนข้างจะมีการเข้าบอลที่รุนแรงและน่าเกลียดจนทำให้คู่ต่อสู่บาดเจ็บแต่ในศึกครั้งนี้เห็นได้ชัดว่านักเตะจาก อาร์เซนอล ตั้งใจเล่นเป็นพิเศษจนทำให้ผลงานออกมาดีมากเลยทีเดียว
(เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ) ตรายานอส เดลลาส / กรีซ - ในฐานะกองหลังที่สูงที่สุดในศึกครั้งนี้ส่งผลให้ กรีซ มีเกมรับที่เหนียวแน่นโดยเฉพาะการสกัดลูกเปิดจากริมเส้นสองข้างของคู่ต่อสู้ อีกทั้งยังเป็นทีเด็ดให้กับทีมในลูกเซตพีซโดยจะเห็นได้อย่างชัดเจนในเกมชนะ สาธารณรัฐเช็ก ในรอบรองชนะเลิศก่อนที่เขาจะยิงประตูชัยด้วยกฎซิลเวอร์โกล์ กองหลังจาก โรม่า มีโอกาสขวิดลูกฟรีคิกเกือบที่จะทำประตูให้กับทีมมาแล้วครั้งหนึ่ง
(เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ) ริคาร์โด้ คาวัลโญ่ / โปรตุเกส - เซนเตอร์ฮาล์ฟจากทีมแชมป์ ยุโรป ปอร์โต้ ถูก หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ มองข้ามในเกมแรกที่แพ้ กรีซ หลังจากนั้น 4 เกมที่เขาลงเล่นแทนที่ของ เฟอร์นานโด เคาโต้ ทำให้เกมรับของ เจ้าภาพ แกร่งขึ้นทันตาเห็น แม้จะมีรูปร่างไม่สูงใหญ่แต่ด้วยจังหวะการขึ้นตัดลูกกลางอากาศรวมถึงการประกบตัวรวมถึงการตัดสินใจในจังหวะสุดท้ายและประสบการณ์ทำให้ โปรตุเกส ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
กองกลาง
(กลางรับ) เธโอโดรอส ซาโกราคิส / กรีซ - กัปตันทีมจากดินแดนเทพนิยายถือเป็นนักเตะที่ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง ถึงยิงประตูในศึกครั้งนี้ไม่ได้แม้แต่ลูกเดียวแต่เขาจะคอยคุมจังหวะดูแลทั้งเกมรุกและรับของ กรีซ ประสบการณ์เกือบ 100 นัดคือปัจจัยสำคัญโดยเฉพาะในเกมที่เฉือนชนะ แชมป์เก่า ฝรั่งเศส ในรอบก่อนรองชนะเลิศอดีตดาวเตะของ เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นคนเปิดบอลให้ อันเจลอส ชาริสเตอัส โหม่งประตูชัยอย่างสุดสวย
(กลางรับ) นูโน่ มานิเช่ / โปรตุเกส - กองกลางตัวรับรายนี้ยิ่งเล่นยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะมีหน้าที่ในเกมรับแต่สามารถเติมขึ้นมาส่องได้ถึง 2 ประตูจาก 5 นัดที่ลงเล่นโดยเฉพาะลูกยิงสุดสวยที่กำราบ ฮอลแลนด์ ในรอบรองชนะเลิศที่สำคัญในเกมนี้เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมบดบังรัศมีของนักเตะระดับโลกอย่าง คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ และ เอ็ดการ์ ดาวิดส์ เสียหมดสิ้น
(กลางรุก) คริสเตียโน่ โรนัลโด้ / โปรตุเกส - ปีกจอมสับของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ถูกสบประมาทเหลือเกินว่าลีลาการโยกหลอกและคลึงบอลไปมาของเขาไร้ซึ่งประโยชน์สิ้นดีแต่ศึกระดับชาติครั้งแรกของนักเตะอายุเพียงแค่ 18 ปีกลับทำได้อย่างไร้ที่ติ ออกอาการตื่นสนามเล็กน้อยในเกมแรกที่แพ้ กรีซ จนทำเสียลูกจุดโทษแต่การออกสตาร์ทเป็นตัวจริง 3 นัดและตัวสำรอง 2 นัด สามารถยิงได้ถึง 2 ประตูและผ่านบอลให้เพื่อนทำประตู 2 ครั้งถือว่ายอดเยี่ยมจริงๆ
(กลางรุก) พาเวล เนดเวด / สาธารณรัฐเช็ก - นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีคนล่าสุดของยุโรป เป็นกองกลางที่เล่นได้ครบเครื่องที่สุดในศึกครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเกมรุกในการจ่ายบอลที่แม่นยำ รวมถึงลูกยิงไกลที่หวังผลได้แม้ว่าเขาจะยิงไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียวก็ตาม ในเกมรับยังวิ่งไล่บี้ตัดบอลจากคู่ต่อสู้ตลอดทั้งเกม นอกจากนี้ยังมีความเป็นผู้นำสูงสู้ไม่ถอยแม้ในบางเกมจะตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อนก็ตาม การถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมกับ กรีซ ถือเป็นจุดเปลี่ยนให้ทีมพบกับความพ่ายแพ้อย่างแท้จริง
กองหน้า
มิลาน บารอส / สาธารณรัฐเช็ก - ไม่รู้ทำไมดาวยิงรายนี้เวลาเล่นทีมชาติถึงดีนักหนาแต่ตอนเล่นให้ ลิเวอร์พูล กลับไม่เปรี้ยงปร้างจนถึงที่สุดตำแหน่งดาวซัลโว 5 ลูกประจำทัวร์นาเม้นต์พิสูจน์ศักยภาพของหัวหอกหุ่นสันทัดได้เป็นอย่างดี 4 นัดแรกที่ลงเล่นยิงประตูติดต่อกันจนพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ น่าเสียดายเกมที่พ่ายแพ้ต่อ กรีซ ถูกตามประกบติดเลยไม่สามารถพาทีมเข้าชิงได้ในท้ายที่สุด
เวย์น รูนี่ย์ / อังกฤษ - แม้จะอายุเพียงแค่ 18 ปีแต่สไตล์การเล่นที่ดุดันและพลังที่มีอย่างไม่จำกัดเขาคือนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในทีม สิงโตตำราม 4 ประตูจาก 2 นัดในรอบแบ่งกลุ่มนั้นช่วยให้ทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เชื่ออย่างยิ่งว่าในเกมที่เจอกับ โปรตุเกส ถ้าไม่ได้รับบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ต้นเกม น่าจะพา อังกฤษ ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้อย่างแน่นอน
แล้วคุณหละ มี 11 นักเตะตัวจริงในศึกยูโร 2004 เป็นใครกันบ้างหละ....