xs
xsm
sm
md
lg

เศรษฐกิจ“กัมพูชา”เจ๊ง 5 หมื่นล้าน จีน-สหรัฐฯ เตรียมถีบหัวส่ง“ฮุนเซน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“รศ.ดร.อัทธ์” เผย การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ทำเศรษฐกิจ“เขมร”เสียหาย 50,000 ล้านบาท กาสิโนสูญรายได้วันละ 200 ล้าน โรงงานอุตสาหกรรมเกือบครึ่งประเทศต้องหยุดผลิต คาดหลังการสู้รบโรงงานจะหายไปจากระบบถึง 40% เหตุนักลงทุนต่างชาติแห่ถอนตัว เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย ขณะที่ “จีน-สหรัฐ” เตรียมหนุนผู้นำคนใหม่ขึ้นแทนพวกคลั่งสงครามอย่าง“ตระกูลฮุน” พร้อมแนะ“นายกฯอนุทิน” ถล่มทางเศรษฐกิจเพื่อเร่งปิดเกม โดยเลิกจ้างแรงงานเขมรทั้งหมด เพื่อให้กลับไปกดดัน“ฮุนเซน”

การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชายังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด กองทัพไทยไล่โจมตีฐานที่มั่นของทหารเขมร รวมถึงบ่อนกาสิโนหลายแห่งซึ่งใช้เป็นคลังอาวุธและยุทธภัณฑ์ก็ถูกถล่มจนราบคาบ อีกทั้งยังมีการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาเพื่อสกัดสินค้าและยุทธภัณฑ์ที่จะถูกนำไปใช้ในการสู้รบ แน่นอนว่าความขัดแย้งครั้งนี้ทำให้เศรษฐกิจกัมพูชาได้รับผลกระทบอย่างหนัก ประชาชนจำนวนมากต้องตกงานและอดอยาก แต่“สมเด็จฮุน เซน”ผู้นำกัมพูชาที่แท้จริง กลับไม่สนใจความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประเทศชาติและประชาชน

ส่วนว่าความเสียหายที่กัมพูชาต้องเผชิญจากผลของการสู้รบครั้งนี้จะมากน้อยเพียงใด คงต้องไปฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ

รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน
รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจ ว่า การสู้รบกับไทยครั้งนี้ส่งผลให้เศรษฐกิจกัมพูชาได้รับความเสียหาย 2.1% ของจีดีพี หรือประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท โดยการส่งออกได้รับผลกระทบหนักสุด รองลงมาคือรายได้จากการท่องเที่ยว ตามด้วยผลกระทบของแรงงานกัมพูชาที่ขาดรายได้ (หลังเกิดการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาได้เรียกแรงงานกลับประเทศ ส่งผลให้กัมพูชาสูญเสียรายได้จากการส่งเงินกลับบ้านประมาณ 43,600 ล้านบาทต่อปี) รวมถึงการลงทุนที่จะหายไปในอนาคต ทั้งทุนจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และทุนจีนที่จะลดลง ซึ่งคาดว่าผลกระทบจากการสู้รบจะทำให้โรงงานอุตสาหกรรมหายไป 30-40% โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับจุดสู้รบ อาทิ โรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดบันเตียเมียนเจยซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจังหวัดสระแก้วของไทย (โรงงานอุตสาหกรรมในกัมพูชาส่วนใหญ่ 50% ตั้งอยู่ในเขตพนมเปญ และอีก 50% กระจายอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้แนวชายแดนซึ่งเสี่ยงต่อการถูกโจมตี) ยังไม่นับรวมรายได้ที่หายไปของบรรดาบ่อนกาสิโนที่อยู่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเนื่องจากไม่มีนักเล่นกล้าไปใช้บริการ

ทั้งนี้ บ่อนกาสิโนของกัมพูชาที่อยู่ในจังหวัดชายแดนมีอยู่ประมาณ 20 แห่ง มีรายได้หมุนเวียนแห่งละ 10 ล้านบาทต่อวัน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์สู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ทำให้ไม่มีนักเล่นไปใช้บริการในบ่อนดังกล่าว ส่งผลให้รายได้จากบ่อนกาสิโนหายไป 200 ล้านบาทต่อวัน นอกจากนั้นบ่อนกาสิโนของกัมพูชายังถูกกองทัพไทยทำลายไปถึง 5 แห่ง ซึ่งอาจทำให้รายได้จากส่วนนี้หายไปอย่างถาวรก็เป็นได้ คิดง่ายๆว่ากาสิโน 5 แห่ง รายได้หายไปวันละ 50 ล้านบาท หรือเดือนละ 1,500 ล้านบาท 1 ปีก็ 18,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นรายได้มหาศาลเลยทีเดียว

“ เมื่อการสู้รบจบลงแน่นอนว่ากัมพูชาเสียหายมากกว่าไทย จะเสียหายทั้งด้านการทหารที่พังยับเยิน เสียหายด้านเศรษฐกิจที่ล่มสลาย ตอนนี้โรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชาส่วนใหญ่ต่างหยุดการผลิตเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย เช่น โรงงานปอยเปตโอเนียงซึ่งหยุดการผลิต 100% สถานการณ์เช่นนี้ทำให้นักลงทุนไม่มีความมั่นใจที่จะเข้าไปลงทุนเพราะกัมพูชามักสร้างความขัดแย้งกับประเทศอื่น ทำสงครามเพื่อตอบสนองความต้องการของตระกูลฮุน ไม่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อุตสาหกรรมในกัมพูชาก็ยังเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงาน เช่น ผลิตเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ไม่มีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่ม อีกทั้งหลังการสู้รบเชื่อว่าขนาดอุตสาหกรรมจะเล็กลงเพราะต่างชาติถอนการลงทุนเนื่องจากเมื่อกัมพูชาถูกแฉว่าเป็นอาชญากรสงครามและประเทศสแกมเมอร์สิทธิทางภาษีต่างๆที่เคยได้ในการส่งออกก็จะถูกตัดออกไป ดังนั้นหลังการสู้รบเศรษฐกิจกัมพูชาฟื้นยากแน่นอนเพราะแผลเยอะมาก แผลเรื่องสแกมเมอร์ถูกเปิดกว้างทำให้รายได้ของกัมพูชาหายไปเยอะ ” รศ.ดร.อัทธ์ ระบุ

รศ.ดร.อัทธ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นนโยบายตีสองหน้าของรัฐบาลกัมพูชาที่ปฏิบัติกับสองประเทศมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐฯยังทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ ล่าสุดมีข่าวว่าอเมริกากำลังสนับสนุนนายสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชา เพราะไม่พอใจฮุน เซน เรื่องสแกมเมอร์ซึ่งเป็นภัยต่อสหรัฐฯ ขณะที่จีนก็สนับสนุนเจ้าฟ้าชายนโรดม จักราวุธ ผู้นำพรรคฟุนซินเปก เพราะการที่ฮุน เซน มุ่งแต่สู้รบกับไทยนั้นส่งผลให้ธุรกิจของจีนที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชาได้รับความเสียหาย โรงแรมของจีนไม่มีคนเข้าพักเพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวในกัมพูชา โดยเฉพาะคนไทยซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวรายใหญ่ อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานต่างก็ไม่ได้รับการพัฒนาเพราะผู้นำประเทศมัวแต่นำงบประมาณไปใช้ในการสู้รบ


รศ.ดร.อัทธ์ ระบุว่า การสู้รบครั้งนี้กัมพูชาน่าจะอยากดึงเกมยาว เพื่อดึงไทยไปสู้กับ 3 กลุ่ม คือ สู้กับกัมพูชา สู้กับสหรัฐฯ สู้กับ UN(องค์การสหประชาชาติ) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศ กัมพูชาประเมินว่าไทยมีต้นทุนในการสู้รบมากกว่ากัมพูชาเพราะอาวุธที่ไทยใช้มีราคาสูงกว่าอาวุธของกัมพูชามาก อีกทั้งกัมพูชายังเล่นเกมสองหน้าคือสนับสนุนทั้งสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งนอกจากกองทัพกัมพูชาจะร่วมฝึกคอบร้าโกลด์กับสหรัฐฯแล้ว ยังร่วมฝึกโกลเดน ดรากอน กับกองทัพจีนด้วย

อย่างไรก็ดี ตอนนี้ทุกประเทศต่างก็ใช้นโยบายตีสองหน้า โดยในส่วนของสหรัฐฯนั้นด้านหนึ่งก็สนับสนุนกัมพูชา ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แสดงออกชัดเจนว่าเข้าข้างกัมพูชา โดยเฉพาะกรณีที่ระบุว่าการที่ทหารไทยถูกกับระเบิดของกัมพูชานั้นเป็นอุบัติเหตุ เนื่องจากสหรัฐฯต้องการใช้กัมพูชาคานอำนาจกับจีน แต่อีกด้านหนึ่งก็ปล่อยให้ไทยถล่มกาสิโนซึ่งเป็นฐานของแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา เพราะนี่คือภัยร้ายแรงของสหรัฐฯ อีกทั้งยังสนับสนุนประเทศเครือข่ายพันธมิตรของสหรัฐฯให้จัดการสแกมเมอร์ เราจึงเห็นรัฐบาลเกาหลีใต้ส่งทีมพิเศษเข้าไปรับตัวคนเกาหลีใต้ที่เป็นเหยื่อแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชาและเปิดโปงขบวนสแกมเมอร์ ขณะที่สิงคโปร์ก็ตรวจสอบเส้นทางการเงินของธุรกิจที่พัวพันกับสแกมเมอร์ ส่วนญี่ปุ่นก็ไล่เช็คบิลธุรกิจที่เชื่อมโยงกับสแกมเมอร์เช่นกัน

ขณะเดียวกันหลายฝ่ายก็มีคำถามว่าจีนอยู่ข้างใคร อาวุธของจีนที่กัมพูชาใช้อยู่ได้มาอย่างไร ได้มาก่อนหรือหลังจากที่มีการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาในช่วงเดือน ก.ค. 2568 ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าจีนไม่น่าจะขายอาวุธให้กัมพูชาเพื่อมาสู้กับไทยเนื่องจากไทยกับจีนเป็นพี่น้องกัน อีกทั้งจีนไม่ต้องการให้ภูมิภาคนี้เกิดความตึงเครียด อย่างไรก็ดีจีนก็ไม่ได้มีกฎหมายกำกับว่าเมื่อซื้ออาวุธไปแล้วห้ามนำไปใช้กับประเทศนั้นประเทศนี้เหมือนกฎหมายการขายอาวุธของสหรัฐฯ อีกทั้งจีนไม่ได้เข้ามาห้ามปรามกัมพูชาอย่างจริงจัง

“ สหรัฐฯได้ประโยชน์จากกัมพูชาทั้งในด้านการเมืองและเศรษฐกิจ โดยสหรัฐต้องการให้กัมพูชากันจีนออกไป ทำให้บทบาทของจีนในภูมิภาคอินโดจีนลดลงทั้งในด้านเศรษฐกิจและการทหาร ขณะที่การเข้าไปในกัมพูชาของสหรัฐนอกจากจะทำให้สหรัฐสามารถกำจัดสแกมเมอร์ได้ตามกฎเกณฑ์ที่ระบุไว้ในข้อตกลงทางการค้าที่ทำกับกัมพูชาแล้ว สหรัฐยังได้ประโยชน์จากการลงทุนในกัมพูชา ซึ่งได้แก่ อุตสาหกรรมพลังงาน ทั้งพลังงานสะอาดคือลงทุนทำโซลาร์ ฟาร์ม เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้อุตสาหกรรมในกัมพูชา และเข้าไปขุดเจาะพลังงานน้ำมัน-ก๊าซธรรมชาติ , ธุรกิจออนไลน์ , โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ และโรงงานผลิตกระป๋อ งบรรจุอาหาร ” รศ.ดร.อัทธ์ กล่าว

กองทัพอากาศส่ง F-16 ทิ้งระเบิดทำลายบ่อนกาสิโนที่ทมอดาซึ่งถูกใช้เป็นฐานบัญชาการทางทหารของกัมพูชา
รศ.ดร.อัทธ์ ชี้ว่า การที่ไทยจะชนะในการสู้รบกัมพูชานั้นจะใช้มาตรการทางทหารเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่รัฐบาลภายใต้การนำของ“นายอนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี ต้องใช้มาตรการทางเศรษฐกิจร่วมด้วย ได้แก่

1.ปิดด่านไทย-กัมพูชา 100% ไม่ให้มีสินค้าใดๆผ่านเลย ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ หรือสินค้ายุทธภัณฑ์อย่างน้ำมัน จะสังเกตได้ว่าตอนนี้เงินเฟ้อของกัมพูชเพิ่มขึ้นแค่ 1% เท่านั้น ทั้งที่การปิดด่านควรจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจกัมพูชามากกว่านี้ เงินเฟ้อของกัมพูชาควรขึ้นไปอยู่ที่ 3-4% ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะกัมพูชายังสามารถซื้อน้ำมันจากไทยได้อยู่ ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาผ่านมา 5 เดือนแล้วเพิ่งจะมาพูดกันว่ายังมีน้ำมันจากไทยส่งไปกัมพูชาทั้งที่ปัญหานี้เกิดขึ้นมานานแล้ว

2.ไทยต้องเลิกจ้างแรงงานกัมพูชาและส่งแรงงานทั้งหมดกลับประเทศ ไม่ต้องรอให้วีซ่าทำงานหมด ทั้งนี้เพื่อให้แรงงานเหล่านี้กลับไปกดดันผู้นำกัมพูชาให้ยุติการสู้รบ เพราะตราบใดที่ยังมีการสู้รบคนกัมพูชาก็จะตกงาน ไม่มีรายได้ และไม่สามารถดำรงชีพอยู่ได้ ขณะที่ภาครัฐของไทยก็สามารถหาแรงงานจากประเทศอื่นมาทดแทนได้อยู่แล้ว นอกจากนั้นจากข้อมูลพบยังว่าปัจจุบันมีชาวกัมพูชาจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาเปิดบริษัทต่างๆในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น รับจัดสวน งานช่างต่างๆ เช่น ทำพื้นบ้าน ทาสีบ้าน ดังนั้นเราต้องไล่พวกนี้ออกไปให้หมดด้วย

“ ไทยจะชนะกัมพูชาได้เราต้องทำสงครามทางเศรษฐกิจด้วย ต้องกดดันกัมพูชาให้ได้ทั้ง 100% ตอนนี้เรากดดันเขาแค่ 80% เท่านั้นคือเรายังไม่ปิดด่าน 100% ยังมีน้ำมันที่ถูกส่งไปกัมพูชา ท่านนายกฯอนุทินบอกว่าน้ำมันจากไทยถูกส่งไปกัมพูชาผ่านทางลาว ไทยทำอะไรไม่ได้ แต่ที่จริงเราสามารถแจ้งให้คู่ค้าระบุให้ชัดเจนว่าจะส่งน้ำมันไปที่ไหน ซึ่งมีระบบที่เราสามารถตรวจสอบได้ ถ้าพบว่ามีการส่งน้ำมันต่อไปยังกัมพูชาเราก็ยกเลิกการขายกับคู่ค้ารายนั้นๆ ระบบนี้ปัจจุบันสหรัฐฯก็ใช้อยู่ ดังนั้นเราต้องปิดด่านให้สนิท ใครที่ลักลอบส่งสินค้าไปเขมรก็ต้องจับให้หมดเพราะถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ อีกทั้งต้องส่งแรงงานกัมพูชากลับไปทั้งหมดเพราะนี่คือแรงกดดันสำคัญที่มีผลต่อตระกูลฮุน ถ้าเราไม่ทำสองเรื่องนี้ไทยรบยังไงก็ยากที่จะชนะ การสู้รบจะยืดเยื้อยาวนาน ” รศ.ดร.อัทธ์ ระบุ

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่


Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j



กำลังโหลดความคิดเห็น