xs
xsm
sm
md
lg

ทางรอดกัมพูชาคือ“ง้อไทย”เปิดด่าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไทย-กัมพูชาลงนามสันติภาพ ส่งสัญญาณเขมรเดินหน้าต่อไม่ไหวพิษเศรษฐกิจรุมเร้า ดื้อต่อไปNPLsพุ่งพรวดถึงขั้นทำแบงก์ทั้งระบบล่ม ฮุนเซนปากแข็งปิด 100 ปีก็ไม่สะเทือนแค่บทสวดเดิม ๆ สถานการณ์ขณะนี้ เป้าดึงคนเข้าบ่อน-ปล่อยคนเขมรทำงาน-หลับตาสินค้าอุปโภคบริโภคสวนทางกระแสแบนสินค้าไทย หลังเริ่มเห็นเงินเฟ้อขยับขึ้นจากภาวะของแพงจับตาPeace Petroleum Cambodia ไปต่อหรือพอแค่นี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และสมเด็จฯ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ร่วมลงนามในเอกสาร “Joint Declaration by the Prime Minister of the Kingdom of Cambodia and the Prime Minister of the Kingdom of Thailand” โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน และนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม เมื่อ 26 ตุลาคม 2568 สาระสำคัญ ดังนี้

1.ผู้นำไทยและกัมพูชาแสดงเจตนารมณ์ต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างสองประเทศ ตามที่เคยประกาศไว้ ณ เมืองปุตราจายา เมื่อ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยย้ำความมุ่งมั่นที่จะละเว้นการคุกคามและใช้กำลัง แก้ไขข้อพิพาทโดยสันติ เคารพต่อ
เขตแดนและกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความรุ่งเรืองร่วมกันในภูมิภาค

2.สองประเทศยืนยันความมุ่งมั่นในการยึดมั่น และดำเนินการตามข้อตกลงที่ได้บรรลุร่วมกันในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป

3.สองประเทศได้ลงนามในเอกสาร “ขอบเขตการจัดตั้งกลไกผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team: AOT) ซึ่งจะประกอบไปด้วยบุคลากรจากรัฐสมาชิกอาเซียน เพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงหยุดยิงจะได้รับการปฏิบัติอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ โดยขอให้รัฐสมาชิกให้การสนับสนุนเพื่อให้ AOT ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจ

4.ให้คำมั่นที่จะลดความตึงเครียด ฟื้นฟูความเชื่อมั่น และความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ เพื่อบรรลุและสนับสนุนเป้าหมายเหล่านี้ ได้มีการตกลงในขั้นตอนดังต่อไปนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อตกลงหยุดยิงจะได้รับการปฏิบัติอย่างสมบูรณ์

ทั้งสองฝ่ายจะลดความตึงเครียดทางทหาร โดยจะถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงออกจากพื้นที่ชายแดนภายใต้การสังเกตการณ์ของ AOT พร้อมมอบหมายคณะทำงานร่วมจัดทำแผนปฏิบัติการอย่างเป็นขั้นตอน ละเว้นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือวาทกรรมที่ยั่วยุความขัดแย้ง เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งสันติและความไว้วางใจระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ


ปัจจัยลบรุมเร้า

การลงนามดังกล่าวอาจนับเป็นจุดเริ่มต้นของการยุติข้อขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา หลังจากที่ 2 ฝ่ายได้ข้อตกลงยุติหยุดยิงเมื่อ 28 กรกฎาคม 2568

2 ผู้นำกัมพูชามีท่าทีที่อ่อนลงกับไทย หลังจากที่กัมพูชาต้องเผชิญกับมรสุมทั้งจากการสกัดกั้นอาชญากรรมไซเบอร์ ทั้งจากสหรัฐฯและอังกฤษที่อายัดธุรกรรม 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ของนายเฉิน จื้อ ที่เชื่อมโยงกับ Prince Bank ในกัมพูชา แถมเจอปัญหานักศึกษาเกาหลีเสียชีวิตในกัมพูชา ส่งผลให้รัฐบาลเกาหลีใต้เดินหน้าในเรื่องนี้อย่างจริงจัง พร้อม ๆ กับคำเตือนลดการเดินทางมากัมพูชา


ศักดิ์ศรีค้ำคอ

แหล่งข่าวที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชากล่าวว่า กัมพูชาต้องเลือกว่าจะคงศัตรูไว้หรือลดศัตรูลง ไทยคือประเทศที่จบเรื่องแล้วเขมรได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะต้องพึ่งพาหลายสิ่งหลายอย่างจากไทย แถมไทยคุยง่าย นักการเมืองไทยก็คุ้นเคยกับกัมพูชาเป็นอย่างดี เราจึงได้เห็นท่าทีของฮุนเซนที่โอนอ่อนกับไทยมากขึ้น

กัมพูชาต้องการเปิดด่านกับไทย เพื่อให้สภาพเศรษฐกิจภายในที่มีปัญหาในขณะนี้คลี่คลายลงไป

สังเกตุได้จากมีการพูดถึงเรื่องการเปิดด่านกันหลายครั้ง นับตั้งแต่ปิดด่านเมื่อ 24 มิถุนายน 2568 เพียงแต่เป็นการตอบในลักษณะของการไว้เชิงเพราะไม่ต้องการให้เกิดการเสียหน้า

23 กันยายน 2568 ในเฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา มีการโพสต์ข้อความว่า

นับตั้งแต่กองทัพไทยปิดพรมแดนโดยลำพัง ฝ่ายกัมพูชาไม่เคยขอให้ไทยเปิดอีกเลย เพียงแต่แจ้งไปยังฝ่ายไทยว่า (เพราะไทยเป็นผู้ปิด ไทยก็ต้องเป็นผู้เปิดเอง ไม่จำเป็นต้องเจรจากับกัมพูชา และเมื่อไทยเปิด กัมพูชาจะเปิดตามหลังภายในเวลา 5 ชั่วโมง)

“จุดยืนของกัมพูชานี้จะไม่เปลี่ยน และกัมพูชาจะไม่ยอมลดตัวไปขอให้ไทยเปิดด่านชายแดนเด็ดขาด ต่อให้ไทยปิดต่อไปอีก 100 ปีก็ไม่ทำให้กัมพูชาล่มสลาย”

ผมกลับอยากขอบคุณไทยด้วยซ้ำ เพราะการปิดพรมแดนฝ่ายเดียวนี้ทำให้สินค้าไทยนำเข้าไม่ได้ กลายเป็นแรงผลักดันให้สินค้าที่ผลิตในกัมพูชาเติบโตอย่างมาก ประชาชนกัมพูชาที่รักชาติหันมาสนับสนุนและใช้สินค้าภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาว

ตามมาด้วย 15 ตุลาคม 2568 สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ข้อความระบุว่า สมเด็จเดโช ฮุน เซน ยังไม่ผ่อนปรนท่าทีในการขอให้ไทยเปิดพรมแดนกับไทยในวันที่ 20 ตุลาคมนี้


ต้องดึงเงินไหลเข้า

ถามว่าทำไมกัมพูชาต้องการให้ไทยเปิดด่าน เพราะมีผลต่อตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ไทยเป็นอันดับ 1 ซึ่งรู้กันดีว่าเป็นนักเสี่ยงโชคมากกว่านักท่องเที่ยวจริง ๆ แน่นอนว่าเงินจากการเข้าไปเล่นการพนันจะเป็นตัวต่อชีวิตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องในกัมพูชา ที่ข้ามไปเที่ยวจริง ๆ มีน้อยเพราะศิลปะในลักษณะเดียวกันก็มีในประเทศไทย แถมภาพความไม่ปลอดภัยก็ยังเป็นสิ่งที่คนไทยกังวล

เดิมบรรดาบ่อนการพนันในกัมพูชา พยายามแนะนำให้เดินทางโดยเครื่องบินและมีรถรับส่ง แต่ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าเดิม

การเปิดด่านจะลดภาระคนว่างงานในกัมพูชาได้มาก แรงงาน 1 ล้านคนที่กลับไป ได้งานราว 3 แสนคนที่เหลือยังว่างงาน มาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลเรื่องการพักชำระหนี้หมดลงในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ลูกหนี้ต้องชำระหนี้กับสถาบันการเงินต่อ

พูดตรง ๆ แรงงานกัมพูชาคือสินค้าออกที่สำคัญ ออกมาทำงานสร้างรายได้ส่งกลับประเทศ จุนเจือครอบครัว ผ่อนภาระหนี้สินต่าง ๆ ถ้าพวกเขาเหล่านี้ไม่มีงานทำต่อไปอีก ย่อมเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาล 2 พ่อลูก เพราะยังต้องเผชิญกับการตั้งคำถามจากประชาชนว่าทหารกัมพูชาเสียชีวิตเท่าไหร่ ช่วยเหลือคนบริเวณชายแดนที่ได้รับผลกระทบแล้วหรือยัง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้น้อยมากในกัมพูชา

ถ้าเปิดด่านแรงงานเหล่านี้สามารถเข้ามาทำงานในประเทศไทย จะช่วยให้ภาระหนี้สินที่ติดค้างอยู่เดินหน้าต่อไปได้ โอกาสเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPLs) ทั้งระบบอาจน้อยลง นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่ไม่เช่นนั้นแบงก์ของกัมพูชาอาจล้มทั้งระบบ


แบนสินค้าไทยคุ้มหรือไม่

ประการต่อมาการเปิดด่านจะส่งผลต่อสินค้านำเข้าและส่งออกของทั้ง 2 ประเทศ เดิมสินค้าที่กัมพูชาใช้อุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ล้วนมาจากไทย แต่การกระทบกระทั่งกันทำให้เกิดกระแสแบนสินค้าไทยจากฝ่ายผู้นำกัมพูชา

ถามว่า 3-4 เดือนที่ผ่านมาใครเดือดร้อนมากกว่ากัน แถมพบการลักลอบนำสินค้าจากไทยเข้ากัมพูชาหลายครั้งหลายหน นี่คือเฉพาะที่เป็นข่าวเรื่องการจับกุมหรือเข้าตรวจสอบ

แม้ผู้นำกัมพูชาจะออกมากล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่คนในกัมพูชาจะหันมาบริโภคสินค้าในประเทศ ถ้ามั่นใจในผลิตภัณฑ์ของกัมพูชาย่อมเป็นเรื่องดี รสชาด ราคา ยอมรับได้หรือไม่

การนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่นทั้งจากเวียดนาม จีน มาเลเซีย ถ้าคุ้มค่าก็สามารถทำได้ เท่าที่รู้วันนี้เงินเฟ้อในกัมพูชาขยับขึ้นจากราคาสินค้าที่ถีบตัวสูงขึ้นกว่าเดิม ส่วนเรื่องสินค้าส่งออกจากกัมพูชามาไทยไม่กระทบมากนัก ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร เช่น มันสัมปะหลัง

ตอนนี้กระแสแบนสินค้าไทยก็ยังมีอยู่โดยบรรดา Influencer ในกัมพูชา เพจทำไมถึงเจ๊งรายงานว่า ดารานักร้องของทางฝั่งกัมพูชาออกมาเรียกร้องต่อคนในชาติว่า แม้จะมีสันติภาพกันแล้ว แต่ขอยืนยันจะไม่ใช้สินค้าไทยอีกต่อไป ตลอดไป โดยมีดารานักแสดงเข้ามาร่วมกิจกรรม โดยประกาศว่าตลอดชีวิตที่เหลือ จะไม่มีทางเหยียบผืนแผ่นดินไทยเป็นอันขาด

ต้นทางของเรื่องดังกล่าวมาจากผู้นำของกัมพูชาเป็นคนปลุกกระแส ใครคัดค้านโดนจับ เหล่า Influencer ก็เดินตามแนวนี้ ถามว่าคนทั่วไปที่มีรายได้จำกัดเขาพร้อมจ่ายของราคาแพงขึ้นหรือไม่

“เชื่อว่าถึงจุดหนึ่งทุกอย่างก็จะเงียบหายไป กระแสแบนสินค้าไทยจะค่อย ๆ เงียบลง แรก ๆ อาจนำเข้าแบบค่อยเป็นค่อยไปจนเข้าสู่สถานการณ์ปกติ”

จับตา Peace Petroleum Cambodia

ในกัมพูชาเองยังมีบางสินค้าที่ในช่วงจังหวะกระแสแบนสินค้าไทย ปรับเปลี่ยนที่อ้างว่าเป็นแบรนด์กัมพูชา นั่นคือการยกเลิกสัญญาสถานีบริการเติมน้ำมัน PTT (ในกัมพูชามีราย 200 แห่ง) ที่ลูกชายพลเอกเตียบัญ เปิดให้บริการอยู่ และได้ปั๊มอื่น ๆ เข้ามาร่วมรวมแล้ว 35 ราย เปลี่ยนชื่อเป็น Peace Petroleum Cambodia

ความคืบหน้าในการเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างล่าช้า ส่วนใหญ่คือการเอา Logo ของ PTT ออก ส่วนอื่น ๆ ยังเหมือนเดิม เท่าที่เห็นก่อนหน้านี้จาก 35 รายอาจเหลือ 8 รายและตอนนี้อาจเหลือน้อยกว่านี้อีก เพราะทิศทางทางการเมืองของ 2 ประเทศเปลี่ยนไปจากเดิมคลี่คลายไปในทางบวกมากขึ้น

ที่จริงกิจการของไทยที่ไปเปิดในกัมพูชามีไม่น้อย บางรายเลือกที่จะอยู่เงียบ ๆ ที่โดนพาดพิงส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ที่สื่อว่าเป็นของไทยชัดเจน หรือผู้ถือลิขสิทธิ์บางรายก็เลือกที่จะพูดและไม่พูดในบางสินค้า

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่


Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j



กำลังโหลดความคิดเห็น