2 พ่อลูกเปลี่ยนท่าที เลือกจบเกมกับไทย แต่ขอลงสวย ๆ เกรงกระแสนิยมตกหลังสหรัฐ-อังกฤษ-เกาหลีใต้ ถล่มรังสแกมเมอร์ เพจดังแฉกัมพูชาหมดเขตปลอดหนี้ 31 ตุลาคมนี้ ขณะที่แรงงานอีกหลายแสนคนยังไร้งานทำ หลายโรงงานเริ่มไปไม่ไหว หวั่นNPLs บานจนแบงก์เขมรล้ม
หากใครที่ติดตามข่าวเรื่องปัญหาชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ย่อมจะเห็นแนวทางที่ชัดเจนว่า ข่าวที่มาจากฝั่งกัมพูชานั้นจะเป็นไปในแนวทางใด ทั้ง 2 ผู้นำและลูกน้องจะเป็นไปในแนวทางเดียวกันคือปฏิเสธ พร้อม ๆ กับการบิดหรือผลักเรื่องว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำ จนไปถึงว่าฝ่ายไทยเป็นฝ่ายทำเอง และในบางเรื่องที่มีหลักฐานชัดเจนก็ปัดไปว่าเป็น Fake News
การออกมายอมรับหรือตำหนิของคนตัวเองจากผู้นำทั้ง 2 ถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะได้พบเห็นบนโลกออนไลน์
หากนับตั้งแต่กำหนดหยุดยิงเมื่อ 28 กรกฎาคม 2568 นี่คือระยะเวลา 3 เดือน ที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน แม้ระยะแรกดูเหมือนฝ่ายกัมพูชาจะแสดงความจริงใจและให้ความร่วมมือน้อย แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปกัมพูชาไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยเหมือนเดิมได้อีกต่อไป
แหล่งข่าวที่ติดตามสถานการณ์ในกัมพูชากล่าวว่า วันนี้คู่ขัดแย้งกับกัมพูชาไม่ใช่มีเพียงแค่ประเทศไทย แต่ยังมีสหรัฐฯ อังกฤษ ที่อายัดบิตคอยน์เครือข่ายในกัมพูชากว่า 5 แสนล้านบาท ตามมาด้วยเกาหลีใต้ และบางชาติที่พลเมืองของเขาถูกกระทำในกัมพูชา
“เราจึงได้เห็นอาการแปลก ๆ ของผู้นำกัมพูชา 2 พ่อลูกในระยะนี้”
ฮุนเซนตำหนิเผาสินค้าไทย
สมเด็จฮุนเซนโพสต์ 20 ตุลาคม 2568 ตำหนิคนกัมพูชาที่เผาสินค้าไทย โดยระบุว่า ผมเพิ่งดูวิดีโอของกลุ่มที่นำโดยคุณ KO1 เกี่ยวกับการคว่ำบาตรสินค้าไทยยาวกว่า 8 นาที ผมผิดหวังมากกับการกระทำที่ไม่เหมาะสมของพี่น้องเหล่านี้ โดยเฉพาะคุณ KO1 การเผาสินค้าไทย การด่าผู้ขายสินค้าไทยที่ขายไม่ออก เป็นการกระทำที่เกินกว่าความรักชาติและเป็นการกระทำที่หัวรุนแรงอย่างยิ่ง
ชาวกัมพูชาจำนวนมากกำลังคว่ำบาตรสินค้าไทย เกือบ 99 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็นคนในประเทศหรือคนกัมพูชาในต่างประเทศ ปัญหาคือพ่อค้าที่มีสินค้าไทยเหลืออยู่ ควรจะเอาไปขายที่ไหน เผาหรือขายต่อเพื่อเอาทุนคืน ถ้า Ko1 มีเงินก็ซื้อของเหลือเหล่านี้ไปเป็นอาหารสัตว์ แทนที่จะเผาเหมือนที่ Ko1 ทำในวิดีโอ ถ้าคนไม่กิน ปล่อยให้สัตว์กินดีกว่าเผาหรือทำลาย ผมขอให้ Ko1 หยุดกิจกรรมบ้าๆ นี้ทันที และร่วมเสริมสร้างคุณค่าทางศีลธรรม ความเหมาะสม คุณธรรม และศักดิ์ศรีของชาติ
ผมเขียนต่อหลังจากอ่านบทความนี้แล้ว ผมสนับสนุนการขายของเก่าแต่ไม่สนับสนุนการนำเข้าของใหม่ ขออย่าให้ของเก่าขายหมดเกลี้ยง แต่ขอให้เป็นของนำเข้าใหม่เพื่อหลอกลวงลูกค้า ผู้ซื้อควรตรวจสอบด้วยว่าเป็นของเก่าหรือของใหม่ เพราะสินค้ามีวันหมดอายุ เราต้องพยายามผลิตสินค้าท้องถิ่นและช่วยซื้อสินค้าท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา ขอเชิญร่วมรณรงค์ส่งเสริมการใช้สินค้าท้องถิ่น
จากนั้นเพจ TV K01 ได้ออกมาโพสต์ว่า ผมขอแสดงความเสียใจต่อสมเด็จฮุนเซน ผมจะเชื่อฟังคำสั่งของสมเด็จฯ ตลอดไป ผมลบวีดิโอไปแล้ว ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด พร้อมกับโพสต์ว่าจะช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าเขมรโดยไมคิดค่าใช้จ่ยเป็นเวลา 1 ปี
นับเป็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของสมเด็จฮุนเซน ที่เดิมสนับสนุนไม่ใช้สินค้าไทย จนบรรดา Influencer หลายคนออกมาทำ Content เผา ทุบ ทิ้ง ทำลาย สินค้าไทยกันหลากหลาย โดยไม่มีการท้วงติงจากผู้นำของกัมพูชาแต่อย่างใด
ฮุน มาเนต ตอบโลก Online
ตามมาด้วยการใส่ใจในการติดตามสถานการณ์บนโลกออนไลน์ของฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
19 ตุลาคม 2568 ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ได้ปฏิเสธความคิดเห็นที่แพร่สะพัดบนโลกออนไลน์ ที่กล่าวหาว่าข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และข้อตกลงสันติภาพที่กำลังจะมีขึ้นนั้น เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่ทำให้กัมพูชาเสียดินแดน
ตามมาด้วย 20 ตุลาคม 2568 ที่กล่าวว่า รัฐบาลนิ่งเงียบแต่ไม่ได้นิ่งเฉยในเรื่องข้อพิพาทชายแดนกับไทย พร้อมกล่าวถึง 3 แนวทางในการหาทางยุติข้อพิพาทว่า ประการที่ 1 คือการป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งลุกลามไปยังพื้นที่อื่น ประการที่ 2 คือการใช้ทุกวิถีทางและแสวงหาวิธีการที่เป็นไปได้ทุกอย่างเพื่อยุติความขัดแย้งที่ก่อให้เกิดการทำลายล้างรุนแรง และประการที่ 3 คือการฟื้นฟูความสัมพันธ์
“การยุติความขัดแย้งเป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลกัมพูชา และได้แสดงความหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงสันติภาพได้ในอนาคตอันใกล้”
นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวเมื่อ 22 ตุลาคม 2568 นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้ร้องขอให้ประชาชน(กัมพูชา) หยุดตั้งคำถามว่าทหารกัมพูชาเสียชีวิตหรือบาดเจ็บกี่นายจากการปะทะตามแนวชายแดนเมื่อเดือนกรกฎาคม 2568 และคำถามว่ากัมพูชาเสียดินแดนหรือได้ดินแดนตรงไหน โดยผู้นำเขมรระบุว่าเวลานี้เป็นเวลาที่ชาวเขมรต้องรวมเป็นหนึ่ง ไม่ใช่แตกแยก
เริ่มจ่ายหนี้ 31 ตุลาคมนี้
ขณะที่เพจเจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน ได้โพสต์ ระเบิดลูกถัดไปของกัมพูชา เมื่อ 23 ตุลาคม 2568 ว่า ธนาคารและสถาบันทางการเงินเตรียมเก็บหนี้คงค้างที่นายกฮุน มาเนต สั่งระงับไว้ 3 เดือน โดยที่ลูกหนี้ยังไม่มีเงินและไม่มีงาน
ช่วงเวลาปะทะกันน่าจะ 3 เดือนกว่า ๆ ได้แล้ว จำกันได้ไหมคะว่าพอเกิดการปะทะทางนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต สั่งการให้ธนาคารและสถาบันการเงินเบรกหนี้ภาคประชาชนทั้งหมด ทั้งการกู้ยืมรวมไปถึงการผ่อนชำระสินค้าเป็นรายงวด
เนื่องจากประเทศตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในตอนนั้นธนาคารและสถาบันทางการเงินก็ต้องยอมโดยพร้อมเพรียง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วนส่วนแรกคือประชาชนคนธรรมดาหรือก็คือผู้อพยพ งดการจ่ายหนี้ ไม่เก็บดอกเบี้ยเพิ่มเติม จากการผิดชำระเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนเจ้าของบัญชีที่เป็นทหารประจำการ อนุโลมให้เป็นเวลา 6 เดือน
ข่าวดีก็คือ 3 เดือนที่กำหนดนั้นจะหมดในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ส่งผลให้ประชาชนผู้อพยพแรงงานที่เดินทางกลับจากไทย ต้องเริ่มชำระหนี้สินให้กับธนาคารพาณิชย์และสถาบันทางการเงิน หลังสิ้นสุดเดือนตุลาคมนี้
ประเมินคร่าว ๆ ผู้อพยพอีกหลายหมื่นคนยังไม่ได้กลับเข้าภูมิลำเนาจนถึงวันนี้ แล้วเขาจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย
แรงงานที่เดินทางกลับมา ก็มีหนี้สินที่ต้องจ่าย ไม่ว่าจะค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถสินเชื่อต่าง ๆ และเป็นอย่างนี้ ทราบกันว่ากว่า 80% ยังไม่มีงานทำ
ตอนนี้หลายกระแสข่าวรายงานตรงกันว่า ทางนายกรัฐมนตรีกัมพูชาพยายามจบเรื่องกับทางฝั่งไทย เพราะปัญหาต่อไปคือจัดการปัญหาภายในประเทศ รวมไปถึงต้องรับมือสหรัฐ อังกฤษ รวมไปถึงเกาหลีใต้
ระเบิดลูกนี้มีส่วนผสมของอะไรบ้าง ? 1.สินค้าขาดแคลน 2.เงินเฟ้อ 3.สินค้าหลายรายการถีบตัวสูงขึ้น 4.แรงงานตกงานยังไม่มีงานเกือบ 1 ล้านคน 5.พรมแดน กับประเทศคู่ค้าสำคัญถูกปิด 6.ธนาคารหลายแห่ง เริ่มมีปัญหาในการเบิกถอน 7.การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักพลาดเป้าและอาจจะกระทบยาวถึงปีหน้า 8.ความเชื่อมั่นที่มีต่อผู้นำลดลง
ระเบิดลูกนี้จะระเบิดหรือไม่ต้องจับตาดูหลังวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ถ้าไม่สามารถเก็บเงินจากลูกหนี้ทั้งหมดได้ธนาคารที่อั้นเอาไว้ จะทำอย่างไร น่าติดตาม
GBC เขมรยอม
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee – GBC) ไทย–กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 เมื่อ 23 ตุลาคม 2568
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือร่วมกันใน 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การถอนอาวุธหนักจากพื้นที่ขัดแย้ง การเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล การปราบปรามขบวนการไซเบอร์สแกม และการจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดนในจังหวัดสระแก้ว โดยมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญและสามารถตกลงแนวทางปฏิบัติร่วมกันได้ในหลายเรื่อง
ฝ่ายไทยขอยืนยันว่าเราต้องการเห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนในทุกเรื่องตามที่กล่าวไปแล้ว จึงจะพิจารณาการยุติความเป็นปรปักษ์ต่อกัน
เศรษฐกิจจ่อดิ่งเหว
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า แผนของกัมพูชาพลาดเดิมคิดว่าปะทะกับไทย สร้างกระแสนิยมรักชาติต่อยอดให้กับทายาท ไม่คิดว่าเกิดความสูญเสียกับกำลังพลฝั่งกัมพูชาเป็นจำนวนมาก ที่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ จนคนกัมพูชาก็เริ่มส่งเสียงถามไม่น้อย
ตามมาด้วยสหรัฐ อังกฤษ เกาหลีใต้ รุมถล่มเรื่องแหล่งอาชญากรรม กระทบต่อเศรษฐกิจของกัมพูชาเป็นอย่างมาก
กัมพูชาต้องเลือกว่า จะรับมือพร้อม ๆ กันทุกปัญหาหรือเลือกที่จะจบบางปัญหาแล้วรับมือกับส่วนที่เหลือ ดึงคนกัมพูชากลับมาแล้วไม่มีงานทำ ภาระหนี้สินที่พักชำระก็กำลังจะครบกำหนด ภาระหนี้เสียจะเกิดขึ้นกับภาคธนาคารของกัมพูชา ส่วนจะถึงขั้นล้มหรือไม่ไม่สามารถตอบได้ นี่ยังไม่รวมสถาบันการเงินที่มีปัญหากับทางสหรัฐฯ อย่าง Huione และ Prince Bank
นอกจากนี้โรงงานสิ่งทอและเฟอร์นิเจอร์หลายแห่งในกัมพูชา เริ่มมีปัญหาในการจ้างงาน บางแห่งจะปิดตัวลงในสิ้นปี 2568 นี้ ส่งผลต่อชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งต้องว่างงานเพิ่ม
ขณะที่ Napal Model ยังเป็นของแสลงสำหรับรัฐบาลฮุนเซน จนต้องจับกุมตัว นายพิน ปอช (Phin Poch) มัคคุเทศก์ชาวกัมพูชาในจังหวัดเสียมราฐ ที่กล่าวถึงเรื่องการประท้วงในประเทศเนปาล ตามด้วยฝ่ายค้านกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศอย่างนายสม รังสี ที่ประกาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j


