xs
xsm
sm
md
lg

กูรูชี้แรงหนุนให้ทองคำอยู่ในช่วงขาขึ้น จับตาอีก 2 ปีราคาพุ่งบาทละ 1 แสน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กูรู ชี้สารพัดปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำอยู่ในช่วงขาขึ้น รศ.ดร.สมชายภคภาสน์วิวัฒน์ ระบุ ทองคำเก็บเป็นสินทรัพย์
มรดกได้อย่างดี ย้ำไม่ขอพูดถึงทองคำจะไปถึง 1 แสนหรือไม่? ชี้ไม่ใช่‘ฟองสบู่’ มั่นใจระยะ 3-10 ปี ทองคำเป็นขาขึ้น ถือเป็น Againstinsanity จึงได้รับความนิยมสูง ด้าน‘จิตติตั้งสิทธิ์ภักดี’ นายกสมาคมค้าทองคำ แจงไม่ขอคาดการณ์จะไป 1 แสนหรือไม่กลัวโดนว่า‘เพี้ยน’ เหมือนต้นปี 68ที่บอกว่าทองคำจะไปที่บาทละ 58,000 ก็โดนวิจารณ์เพี้ยนไปแล้วแต่วันนี้พิสูจน์ชัด คาดสิ้นปีนี้มีโอกาสไปที่ 62,000ส่วนแนวรับน่าจะประมาณ 57,000-58,000 ขณะที่‘ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์’ เผย 2ปัจจัยสำคัญทำให้ราคาทองพุ่งบาทละ 1 แสนบาทในอีก 2 ปี


ความเคลื่อนไหวของราคาทองคําในตลาดโลก (Gold Spot) ปี 2025 สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-Time High) สูงเกินระดับ 3,869.13 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งการขึ้นลงของราคาทองคำสร้างความหวือหวาให้นักเก็งกำไร ขณะที่คนซื้อสะสมก็มักจะบ่นเสียดายที่ไม่ตัดสินใจซื้อทองคำเก็บไว้ ดูได้จากสถิติราคาทองของปี 2025 ตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.ถึง 1 ต.ค. ราคาทองปรับขึ้นไปถึงบาทละ 16,950 และหากจะย้อนดูราคาทองที่ปรับขึ้น-ลง ตั้งแต่ปี 2549 ถึงปัจจุบันจะพบว่าส่วนใหญ่จะขึ้นมากกว่าลงทั้งสิ้น

ขณะเดียวกัน กูรูด้านทองคำ ถึงขนาดออกมาเปรยว่าถ้าสถานการณ์ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายป่วนโลกของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ หรือค่าเงินดอลลาร์ยังอ่อนไหวต่อเนื่องยิ่งจะทำให้ทองคำเป็นที่ต้องการ ซี่งเชื่อกันว่า Gold Spot มีโอกาสสูงไปถึง 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในปลายปี 2025 ได้เช่นกัน

ไม่เพียงเท่านั้นยังมีนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจโลกและนักวิเคราะห์หลายเพจที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนก็ออกมาให้ความเห็นพร้อมสรุปไปในทิศทางที่เชื่อกันว่าราคาทองคำอาจไปถึง 7,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำไทยน่าจะไปถึงบาทละ 100,000 บาทก็เป็นได้

แต่นั่นเป็นเพียงการคาดการณ์หรือมีปัจจัยอะไรหนุนที่จะทำให้ทองคำพุ่งไปถึงบาทละ 100,000 ได้ จึงเป็นเรื่องที่ต้องค้นหา

ด้าน รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง ระบุว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาคือวันที่ 29 ก.ย.และ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา มีการปรับขึ้นของราคาทองค่อนข้างแรงมาก มีผลมาจากปัญหาของสหรัฐอเมริกาโดยตรง คือเรื่อง Government Shutdown ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ขู่ว่าจะมีการเลิกจ้างถาวร หากสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณได้ทันเส้นตายเที่ยงคืนวันอังคารนี้

“ทะเลาะกันเรื่องของงบประมาณ เมื่อตกลงกันไม่ได้ ทรัมป์ก็ขู่จะ shutdown ทำให้มีคนต้องตกงานชั่วคราว จนกว่าจะมีงบประมาณ เสียงขู่เรื่อง shutdown ทำให้เกิดความอ่อนไหวและกระทบความเป็นอยู่ของประชาชน ส่งผลให้ราคาทองคำสูงขึ้นในช่วงนี้ เพราะหาก shutdown ไม่ใช่คำขู่แต่เป็นเรื่องจริงยิ่งทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ผันผวนยิ่งขั้น”




นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยคนอเมริกันเริ่มไม่มั่นใจในเรื่องบทบาทและค่าเงินดอลลาร์ รวมถึงพันธบัตรของอเมริกา ปกติถ้าเกิดวิกฤตคนจะมาซื้อทองและพันธบัตร แต่นโยบายทรัมป์ที่ไม่แน่นอน ส่งผลให้คนแห่ทิ้งพันธบัตรของรัฐบาล อีกทั้งทั่วโลกไม่ไว้วางใจต่อเศรษฐกิจอเมริกาก็ขายทิ้งพันธบัตรที่มีอายุ 30 ปี เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งราคาพันธบัตรลดลงสวนทางกับผลตอบแทนสูงสุด ขณะที่ดอลลาร์ก็อ่อนตัวลงและเชื่อว่าดอลลาร์กำลังอยู่ในช่วงขาลง จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เดินหน้าปรับลดดอกเบี้ย จึงทำให้คนหันมาซื้อทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงและขายทิ้งดอลลาร์ออกไป

อีกทั้งประเทศต่าง ๆ กำลังไม่ไว้ใจและไม่พอใจอเมริกา เพราะอเมริกาใช้เงินดอลลาร์เป็นเครื่องมือเป็นอาวุธคว่ำบาตรหรือแทรกแซง ตอกย้ำอิทธิพลของค่าเงินดอลลาร์มากเกินไป อีกทั้งการขึ้นภาษีการค้ากับประเทศต่าง ๆ ทำให้ทั่วโลกเกลียดชังอเมริกาและเกลียดดอลลาร์ จึงลดบทบาทที่จะถือครองดอลลาร์ โดยเฉพาะธนาคารกลางประเทศต่างๆ ก็ลดเงินสำรองที่เป็นดอลลาร์ และเริ่มขายออกไปเรื่อย ๆ และหันไปซื้อทองคำแทน

“ธนาคารชาติ จีน ลดบทบาทดอลลาร์ และซื้อทอง ซึ่งจีนก็บอกใครต่อใคร ทำให้ ราคาทองสูงขึ้น พร้อมกับมีการรวมกลุ่มใช้ทรัพย์สิน หรือเงิน digital ของประเทศสมาชิกซื้อขายโดยใช้เงินสกุลตัวเองผ่าน Blockchain จึงเป็นอีกส่วนที่เข้ามาทดแทนเงินดอลลาร์ เงินดอลลาร์จึงอ่อนตัวลง และทั่วโลกจึงหันมาซื้อทองคำแทน”

ดังนั้นการที่ทองคำมีราคาสูงขึ้น จึงมีเหตุผลมาจากการที่ทั่วโลกลดการใช้ดอลลาร์ ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีสงคราม หรือมีการจัดระเบียบโลกใหม่ อีกทั้งเศรษฐกิจของอเมริกาและนโยบายทรัมป์ ก็มีปัญหา รวมไปถึงประเทศจีน อินเดียและคนของทั้ง 2 ประเทศก็ต่างเข้ามาตุนทอง ตรงนี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ทองคำอยู่ในช่วงขาขึ้นทั้งสิ้น

“ทองคำ เป็นเครื่องมือป้องกันภัยจากความไม่แน่นอน เพราะทองเป็น Against insanity จึงได้รับความนิยมสูง”

รศ.ดร.สมชาย บอกว่า ปัจจุบัน ราคาทองแม้จะขึ้นไปถึงบาทละ 60,000 แต่ก็ยังเป็นช่วงขาขึ้น ที่สำคัญราคาทองขึ้นมามากแล้ว บางช่วงก็อาจจะมีความผันผวน บรรดานักเก็งกำไรก็ควรจะต้องมีความระมัดระวัง แต่ถ้าจะมองไปถึงระยะ 3 ปี 5 ปีหรือ 10 ปี ยังเป็นช่วงขาขึ้นแน่นอน

“ถ้าจะถามว่าไปถึงบาทละ 1 แสนหรือไม่ ก็ขอไม่พูดเรื่องราคาจะไปถึงเท่าไร แต่บอกได้ว่าเวลานี้ทองเป็นช่วงขาขึ้น ใครมีก็เก็บสะสมไว้เป็นสินทรัพย์หรือเป็นมรดก ส่วนราคาทองจะเป็นช่วงขาลงเมื่อไหร่และราคาเท่าไหร่ ต้องไปดู fundamental เพราะโลกมีความไม่แน่นอนเยอะ เมื่อก่อนใครก็เก็บดอลลาร์ แต่ตอนนี้ดอลลาร์อ่อนตัวเพราะคนไม่พอใจอเมริกา ใครที่ชอบเก็งกำไร ก็ต้องดูปัจจัยความเปลี่ยนแปลง เป็นหัวใจสำคัญ”




รศ.ดร.สมชาย ย้ำว่า ราคาทองคำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเชื่อว่าไม่ใช่ภาวะฟองสบู่ในทองคำแน่นอน เพราะฟองสบู่คือสินทรัพย์ขึ้นมาเกินพื้นฐาน แต่ทองมีปัจจัยพื้นฐาน แต่เพราะทองคำปรับขึ้นมาสูง เวลาผันผวนก็จะลงเยอะ ก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายทองคำ และถ้ามีทองคำอยู่แล้วให้เก็บเป็นสินทรัพย์ลงทุนระยะยาว 3 ปี 5 ปีก็จะเห็นว่าราคาทองคำให้ผลตอบแทนที่ดีได้

ด้าน ‘จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี’ นายกสมาคมค้าทองคำ บอกว่าราคาทองคำผันผวนและขึ้นแรงมากจากที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อไตรมาสแรกว่าทองคำจะไปแตะที่บาทละ 58,000 ประมาณปลายปี 2568 ปรากฏว่าวันนี้ขึ้นมาแรงไปถึงบาทละ 60,300 จนต้องมีการประเมินราคากันอีกครั้งหนึ่ง แต่การที่ทองขึ้นมาสูงและเร็วก็อยากจะเตือนนักลงทุนที่เล่นระยะสั้นต้องระมัดระวังและติดตามข้อมูลข่าวสารใกล้ชิด

“นอกจากทรัมป์ที่ออกนโยบายอะไร บ้า ๆ บอ ๆ จนทำให้ราคาทองผันผวนขึ้นมาติด ๆ กันหลายพันบาทแล้ว ก็อยากให้นักลงทุนระวังพวกกองทุนต่าง ๆ ที่ถือโอกาสทุบเพื่อทำกำไรแล้วกลับเข้ามาซื้อ”

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าทองคำจะไปถึงบาทละ 1 แสนนั้น เชื่อว่าราคาทองปรับขึ้นแต่จะไม่พุ่งแรงถึงขนาดนั้น แต่ยังมั่นใจว่าทองคำ Gold Spot จะไปถึง 4,000-4,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในปีนี้ แต่ก็อาจมีการปรับฐานใหม่กันบ้าง คาดว่าจะลงไม่ลึก ถ้าคนยังไม่มีทองและต้องการทำกำไรระยะสั้นก็ต้องดูจังหวะดี ๆ ซื้อขายด้วยความระมัดระวัง

“ช่วงนี้ ที่ขึ้นมาเยอะ ๆ ต้องมีซักวันที่ทุบลงมา คือ เช้า ขึ้นตลอด แต่บ่ายลงตลอด ลงมากกว่าที่ตอนเช้าลงมาด้วย เชื่อว่าอาจจะลดมาอีกนิดหน่อย แนวรับน่าจะอยู่ที่ 3,755 หรือราคาทองไทยก็จะประมาณ 57,000-58,000 แต่ถ้าใครต้องการซื้อออมถือระยะยาว ทองคำยังเป็นขาขึ้น”

สิ่งที่นักลงทุนต้องติดตามเพราะมีโอกาสทำกำไรจากทองคำได้ หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดดอดเบี้ยอีกครั้งหนึ่งหรือสิ้นปีนี้อีกครั้งหนึ่ง ราคาทองคำน่าจะไปที่ 4,000-4,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนทองคำไทยก็น่าจะประมาณบาทละ 61,000-62,000

ส่วนปี 2569 ราคาทองยังคงเป็นขาขึ้นต่อไปหรือไม่ก็ต้องคอยติดตามนโยบายทรัมป์ว่าเป็นอย่างไร  เพราะปัจจุบันคนอเมริกา พันธมิตรทั่วโลก ต่างไม่เชื่อมั่นเงินดอลลาร์ โดยเฉพาะธนาคารกลางก็มีการขายดอลลาร์ไปซื้อทองคำเก็บไว้

“ช่วงต้นปี 68 ทรัมป์มาออกนโยบายผมคาดการณ์ว่าทองจะไปที่ 3,800 คนก็ว่าผมบ้ามันจะไปถึงได้อย่างไร ช่วงนั้นยังแค่ 3,100-3,200 ตั้งแต่ทรัมป์มาเราเห็นปัญหา เรื่องนโยบายสงครามการค้าที่สาหัสเราจึงวิเคราะห์เช่นนั้น”

รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง

 ‘จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี’ นายกสมาคมค้าทองคำ
นายกสมาคมค้าทองคำ บอกว่า ที่มีการพูดถึงราคาทองคำจะไป 7,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และราคาทองไทยมีโอกาสแตะไปที่บาทละ 100,000 นั้น ส่วนตัวไม่อยากจะคาดการณ์เช่นนั้น เดี๋ยวจะว่าเพี้ยนกันไปใหญ่ เพราะมันเป็นเรื่องที่นานเกินไป ไม่มีใครรู้ล่วงหน้ายาว ๆ ในโลกใบนี้ เพราะจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สงครามที่เกิดขึ้นจะหยุดได้หรือไม่ และสงครามการค้าจะจบหรือไม่ อย่างไร ก็ต้องดูหลาย ๆ ปัจจัยประกอบทั้งสิ้น

“ถ้าทองคำจะขึ้นไปได้บาทละ 1 แสน ก็แปลว่าดอลลาร์ไม่มีคนใช้แล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรสหรัฐฯ ก็ยังใหญ่อยู่ และถ้ามีเงินเย็นจะซื้อทองคำแท่งเก็บไว้ก็ยังเชื่อว่า 1-2 ปี ราคาทองคำบาทละ 1 แสนยังไม่มีให้เห็นหรอก ย้ำนะยกเว้นดอลลาร์ไม่มีคนใช้แล้ว”


ขณะที่ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ระบุว่า คาดว่าแนวโน้มราคาทองคำจะขึ้นไปแตะบาทละ 100,000 บาท ในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยมี 2 ปัจจัยหนุนดังนี้

ปัจจัยแรก ประเทศต่าง ๆ ประสบกับภาวะหนี้สินและต้องกู้เงินเพิ่มขึ้นเนื่องจากประสบปัญหาเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิดและมีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง โดยเฉพาะประเทศที่ตัดสินใจใช้มาตรการพิมพ์พันธบัตรออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้พันธบัตรล้นตลาด เจ้าหนี้ไว้วางใจได้ยากขึ้นว่าจะได้รับชำระหนี้คืนจากรัฐบาล และคนเริ่มไม่เชื่อมั่นในพันธบัตร โดยเฉพาะประเทศยักษ์ใหญ่ที่กำลังประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ อย่าง อังกฤษ ฝรั่งเศส รวมถึงเยอรมนีที่กำลังจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ และสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นลูกหนี้รายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งภาวะที่ต้องพิมพ์พันธบัตรเข้าสู่ตลาดโดยที่ไม่สามารถทำให้พันธบัตรมีศักยภาพเพียงพอทำให้ทุกประเทศมองว่าทรัพย์สินในรูปของพันธบัตรไม่น่าไว้วางใจนัก

ทำให้ธนาคารชาติของหลายๆ ประเทศต้องเปลี่ยนทรัพย์สินที่กำลังด้อยค่าลงอย่างพันธบัตรของหลายๆ ประเทศในยุโรป หรือดอลลาร์ของสหรัฐฯ ได้รับการยอมรับน้อยลง ทำให้เกิดการขายพันธบัตรดังกล่าวทิ้งและหันไปถือทรัพย์สินที่น่าไว้วางใจว่าจะสามารถรักษาคุณค่าของราคาได้มากกว่าในระยะยาวอย่างทองคำกับบิตคอยน์แทน

อีกทั้งเชื่อว่าทองคำจะสามารถรักษาทุนสำรองระหว่างประเทศให้มีความมั่นคงได้ ธนาคารชาติหรือธนาคารกลางของทั่วโลกจึงกว้านซื้อทองคำและผ่องถ่ายทรัพย์สินที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์ออกไปจากทุนสำรองระหว่างประเทศของตัวเอง ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ในระยะยาวราคาทองคำมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งค่าเงินที่ปรับตัวลดลงอย่างชัดเจนที่สุดตอนนี้ก็คือเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นลูกหนี้รายใหญ่ในโลก ขณะที่เงินยูโรผูกพันกับเงินตราของหลายประเทศที่มีภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือกู้เงินเกินตัว โดยเฉพาะประเทศในยุโรป

ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
ปัจจัยที่ 2 ประเทศสหรัฐฯ พยายามรักษาคุณค่าและความต้องการในการใช้เงินดอลลาร์ โดยยั่วยุให้ประเทศต่างๆ เกิดข้อพิพาททางการเมืองระหว่างประเทศและนำไปสู่การสู้รบ ซึ่งจะทำให้มีการสั่งซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์และน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น โดยเฉพาะสั่งซื้ออาวุธสงครามจากสหรัฐฯ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินดอลลาร์ในการซื้อ เช่น การกว้านซื้อโดรนและระบบต่อต้านโดรนของประเทศในยุโรปและอิสราเอลซึ่งกว้านซื้อโดรนนับหมื่นชุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะสงครามในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเมื่อเกิดภาวะสงครามราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีความเสี่ยงก็จะเป็นที่ต้องการมากขึ้น ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย

“แม้จะมีแนวโน้มว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ผมไม่แนะนำให้รีบซื้อในตอนที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นแรง แต่ให้เข้าซื้อในช่วงที่ราคาทองคำย่อตัวลง ให้คอยดูทางเทคนิคว่าแนวโน้มจะขึ้นอีกเมื่อไหร่ ซึ่งในระยะยาวราคาน่าจะปรับขึ้นต่อเนื่อง” นายปานเทพ กล่าว!

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่


Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j


กำลังโหลดความคิดเห็น