xs
xsm
sm
md
lg

“บ้านหนองจาน” จากศูนย์อพยพสู่จุดค้าของเถื่อน เผย ขุมทรัพย์ของ ทหาร-ข้าราชการ-นักการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พล.ท.ภราดร” เผย บ้านหนองจานเปลี่ยนสภาพจากศูนย์อพยพ เป็นเส้นทางค้า“ของเถื่อน” ใช้ช่องทางธรรมชาติลักลอบขนของผิดกฎหมาย ตั้งข้อสังเกต ทหารมักคุมพื้นที่ที่มีผลประโยชน์ เชื่อมีการส่งส่วยให้นายใหญ่ แต่ไร้ใบเสร็จ ด้าน “พล.อ.รังษี” ระบุ ข้าราชการ นักธุรกิจ และนักการเมือง ล้วนมีเอี่ยว ทั้งสินค้าเถื่อน ไม้เถื่อน แรงงานเถื่อน แฉ ใช้วิธีลงทุนทิพย์ในบ่อนกัมพูชาเพื่อ“ฟอกเงิน” พบ “กำนันลี” อดีตทหารเขมร ฮุบที่ดินบ้านหนองจานเกือบ 30 ไร่ ใช้โกดังเป็นจุดกระจายสินค้าเถื่อน อีกทั้งยังขายแผ่นดินไทยให้ “จีนเทา”

จากกรณีที่“ชาวกัมพูชา”ซึ่งอพยพหนีภัยสงครามเข้ามาพักพิงที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จนเมื่อเหตุการณ์สงบก็ไม่ยอมย้ายกลับไปกัมพูชา แต่กลับเข้ายึดที่ทำกินของประชาชนคนไทย เป็นเหตุให้เจ้าของที่ตัวจริงไม่สามารถอยู่อาศัยและทำกินในที่ดินของตัวเองได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ภาครัฐก็ปล่อยปละละเลย ไม่ได้เข้าจัดการเรื่องนี้แต่อย่างใด กระทั่งล่วงเลยมากว่า 40 ปี จนล่าสุดเมื่อมีเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชาและทหารไทยโดยกองทัพภาคที่ 1 ได้เข้าไปยึดพื้นที่คืนและล้อมรั้วเพื่อป้องกันไม่ให้ชาวกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ แต่ชาวกัมพูชากลับโวยวาย ยกพลมาชุมนุมในพื้นที่หลังหลักหมุด ซึ่งเป็นดินแดนของไทยและพยายามรื้อรั้วลวดหนามจนเป็นเหตุให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้แก่คนไทยทั้งประเทศ จึงมีการนัดรวมตัวเพื่อไปให้กำลังใจทหารที่บ้านหนองจาน พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลใช้มาตรการที่เด็ดขาดผลักดันชาวกัมพูชาออกไปจากพื้นที่

เหตุการณ์นี้ทำให้สังคมตั้งคำถามว่า เหตุใดที่ผ่านมากองทัพภาคที่ 1 ซึ่งกำกับดูแลจังหวัดสระแก้ว รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงไม่ผลักดันชาวกัมพูชากลุ่มนี้ออกจากแผ่นดินไทย แต่กลับปล่อยให้เข้ามายึดที่ทำกินของคนไทยนานหลายทศวรรษ และที่ปล่อยให้เป็นเช่นนี้เพราะมีผลประโยชน์แอบแฝงหรือไม่ ?

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ วิเคราะห์ว่า เดิมทีพื้นที่บ้านหนองจานเป็นจุดที่ไทยให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวกัมพูชาที่อพยพหนีตายเข้ามาเนื่องจากมีการสู้รบในเหตุการณ์เขมร 3 ฝ่าย ในช่วงปี 2518-2522 แต่ปัญหาที่ตามมาคือเมื่อการสู้รบยุติลงชาวกัมพูชาที่อพยพเข้ากลับไม่ยอมออกจากพื้นที่ของประเทศไทยและอยู่มาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งมาก่อปัญหาให้คนในพื้นที่ สังคมจึงเกิดข้อสงสัยว่าเหตุที่ไม่มีการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ของไทยนั้นเป็นเพราะเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ตำรวจ หรือพลเรือน ได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้ใช่หรือไม่ ทั้งๆที่พี่น้องชาวไทยมีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินบริเวณดังกล่าวแต่กลับเข้าไปในที่ดินตัวเองไม่ได้

ซึ่งข้อสังเกตนี้ก็มีความเป็นไปได้เพราะลักษณะภูมิประเทศของบ้านหนองจานเป็นพื้นที่ราบติดกับประเทศกัมพูชา ซึ่งหลังสงครามสงบศูนย์อพยพของชาวกัมพูชาก็มีการค้าขายระหว่างไทย-กัมพูชาทั้งสินค้าถูกกฎหมายและสินค้าเถื่อนหรือสินค้าที่ไม่เสียภาษี ทั้งสินค้าเกษตร เช่น มันสำปะหลัง เหล้าเถื่อน บุหรี่เถื่อน โดยสินค้าที่ถูกกฎหมายก็จะผ่านด่านศุลกากรตามปกติ ส่วนสินค้าเถื่อนก็เข้าทางเส้นธรรมชาติ ซึ่งระยะหลังนั้นมีสินค้าเถื่อนจากจีนเข้ามาด้วย ยิ่งนานวันการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่อพยพก็ยิ่งลำบากเพราะมีการแต่งงานระหว่างชาวกัมพูชากับคนไทย และมีการนำที่ดินซึ่งยึดไปจากคนไทยไปขายให้จีนสีเทาอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าจีนเทาต้องการใช้พื้นที่นี้เพื่อทำธุรกิจค้าของเถื่อนที่ลำเลียงมาจากจีนผ่านทางกัมพูชา

“ เชื่อกันว่าข้าราชการน่าจะได้ประโยชน์จากธุรกิจค้าของเถื่อน โดยใช้ช่องทางธรรมชาติที่เอื้อต่อการลักลอบขนของผิดกฎหมาย มีการตั้งข้อสังเกตว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงซึ่งแบ่งพื้นที่รับผิดชอบกันเนี่ย ถ้าเป็นพื้นที่ซึ่งเป็นช่องทางธรรมชาติที่มีโอกาสได้ผลประโยชน์จากธุรกิจผิดกฎหมายฝ่ายทหารก็มักจะเข้าไปกำกับดูแลเอง ส่วนช่องทางธรรมชาติที่ไม่ค่อยมีผลประโยชน์ก็มักจะให้ ตชด.ดูแล ซึ่งก็เชื่อกันว่ามีผลประโยชน์ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ระดับล่างไปถึงระดับบน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ซึ่งประจำอยู่ตามจุดชายแดนไทย-กัมพูชา แล้วก็สงสัยว่ามีการส่งส่วยไปให้เจ้านายหรือเปล่า แต่ว่ามันไม่มีใบเสร็จ ” พล.ท.ภราดร ระบุ


พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ อดีตที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ
ด้าน “พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์” อดีตที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ได้มามีทั้งข้าราชการ นักธุรกิจ และนักการเมืองไทยที่มีส่วนได้เสียกับบ่อนในกัมพูชา อีกทั้งชายแดนอรัญประเทศ-ปอยเปตนั้นมีทั้งสินค้าเถื่อน ไม้เถื่อน แรงงานเถื่อน ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งผลประโยชน์แหล่งใหญ่ ดังนั้นการบริหารจัดการพื้นที่ตรงนี้ถ้าคนจิตไม่แข็งจริงทำได้ยากมากเพราะจะต้องสู้กับอิทธิพลที่มองไม่เห็น หรือถ้ามีการให้สินบนขึ้นมาเจ้าหน้าที่ก็คงคิดหนักเหมือนกัน ยิ่งตอนนี้มีพนันออนไลน์กับสแกมอร์เข้ามาอีกผลประโยชน์จึงมากมายมหาศาล โดยปัจจุบันจีดีพีของกัมพูชาอยู่ที่ 1 ล้านล้านบาทนั้น ซึ่งใน 1 ล้านล้านบาทดังกล่าวมาจากธุรกิจสีเทาถึง 6 แสนล้านบาท ที่สำคัญกัมพูชายังเป็นแหล่งรวมอาชญากรไซเบอร์ของโลก โดยพบว่าเฉพาะคนไทยที่ได้รับความเสียหายจากธุรกิจสีเทาในกัมพูชาทั้งการพนันและสแกมเมอร์นั้นมีมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านบาท

จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน มีมาตรการปราบปรามจีนเทาอย่างเด็ดขาด จีนเทาเหล่านี้จึงย้ายฐานไปลงทุนที่สีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ทางฮุน เซน ก็เปิดทางให้สามารถเปิดกาสิโนได้ ต่อมารัฐบาลจีนจึงได้เข้าไปคุยกับฮุน เซน ว่าหากไม่จัดการจีนเทาเหล่านี้ ทางรัฐบาลจีนจะไม่ให้ความช่วยเหลือกัมพูชาอีก ฮุน เซนจึงต้องขับจีนเทาออกจากกัมพูชา พวกนี้ก็กระจัดกระจายไปอยู่แถวเมียนมาบ้าง อยู่ที่แม่สอด จ.ตาก บ้าง ส่งผลให้สีหนุวิลล์กลายเป็นเมืองร้าง อย่างไรก็ดีจีนเทาเหล่านี้ก็ถูกทางการเมียนมาและทางการไทยปราบปรามอีก จึงหนีไปที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา จนถึงปัจจุบัน

พล.อ.รังษี กล่าวต่อว่า เนื่องจากข้าราชการไทยที่รับผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทาทั้งในพื้นที่ภาค 1 และในกัมพูชานั้นไม่สามารถนำเงินไปฝากในธนาคารหรือนำเงินสดออกมาใช้จ่ายโดยตรงได้เพราะจะเป็นที่ผิดสังเกต ก็จะใช้วิธีเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจกาสิโนในกัมพูชาเพื่อฟอกเงิน โดยทำเป็นสัญญาเงินกู้ปลอมๆขึ้นมาและแต่งตัวเลขว่าได้ผลกำไรจากบ่อน จากนั้นก็สามารถโอนเงินกลับเข้าประเทศได้แบบถูกกฎหมาย

“ ทหารไทยบางคนก็มีผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทาในกัมพูชา โดยสังเกตได้ว่าไม่เคยเกิดเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชาในพื้นที่อรัญประเทศและปอยเปต เพราะตรงนี้เป็นแหล่งผลประโยชน์ของธุรกิจสีเทาโดยเฉพาะบ่อนกาสิโน ทางกัมพูชาก็ไม่เคยเติมกำลังทหารตรงจุดนี้ เมื่อเรารู้ว่าตรงนี้คือกล่องดวงใจของฮุน เซน เพราะฉะนั้นถ้ากัมพูชายังเหิมเกริมทำร้ายประชาชนไทยและทหารไทย แม่ทัพภาค 1 ก็ต้องจัดการกับบ่อนเหล่านี้ ยิงมันโชว์สัก 2 ตึก เอาให้ตึกมันถล่ม การที่ทหารเขมรเข้ามาวางระเบิดในเขตแดนไทยจนเป็นเหตุให้ทหารไทยเหยียบกับระเบิดและสูญเสียขาเป็นรายที่ 6 แล้วนั้น ถือว่ากัมพูชาละเมิดข้อตกลงกับไทยแล้ว ดังนั้นไทยก็ต้องใช้จังหวะนี้ประกาศยกเลิกข้อตกลงจีบีซีระหว่างไทย-กัมพูชา แล้วทัพภาคที่ 1 ก็เคลื่อนเข้าไปเลยอีก 500 เมตร ผลักดันชาวกัมพูชาที่อยู่ในบ้านหนองจานออกไป ” พล.อ.รังษี กล่าว


ทั้งนี้ ปัญหาที่ชาวบ้านหนองจานไม่สามารถเข้าไปอยู่อาศัยและทำกินในที่ดินของตัวเองได้เนื่องจากถูกชาวกำพูชายึดไปนั้น จากการตรวจสอบพบข้อมูลที่น่าตกใจว่าตัวการใหญ่ของเรื่องนี้คือผู้มีอิทธิพลชาวกัมพูชาที่เข้ามาฮุบที่ดินของชาวบ้านหนองจาน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า“กำนันลี”หรือ นายโต สริน เป็นอดีตนายพลชาวกัมพูชาซึ่งมีภรรยาหลายคน และหนึ่งในนั้นเป็นคนไทยชื่อ“นางรัตน์” โดยได้เข้ามาครอบครอบพื้นที่บ้านหนองจานนานกว่า 40 ปี มีที่ดิน 28 ไร่ มีบ้านหลังใหญ่ ซึ่งล้อมรอบด้วยโกดังอีกหลายหลัง ซึ่งโกดังเหล่านี้เคยใช้เป็นศูนย์กระจายสินค้าไทยไปยังกัมพูชา แต่ปัจจุบันหลังจากเกิดข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา นายลีถูกทหารไทยห้ามไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย ส่วนภรรยาก็ยังค้าขายสินค้าไทยไปยังกัมพูชาอยู่เหมือนเดิม

ตามประวัตินั้นกำนันลีขึ้นมาเป็นกำนันตำบลโอบายเจือน จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ในอดีตมียศทหารเป็นถึงระดับนายพล กำนันลีจึงมีอำนาจเทียบเท่ากับนายพล เขารู้จักกับข้าราชการและนายทหารฝั่งไทยเป็นอย่างดี เป็นผู้มีอิทธิพลที่สามารถเคลียร์ได้หมดทั้งฝั่งไทยและฝั่งกัมพูชา เคลียร์ได้ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ระดับล่างไปถึงระดับบน และที่น่าตกใจคือมีทหารไทยซึ่งเตรียมขายที่ดินให้ชาวจีน โดยมีพื้นที่หลายแปลงที่ชาวจีนได้ซื้อไปแล้วแต่ยังไม่มีการสร้างสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งกำนันลีจะทำหน้าที่รวบรวมที่ดินของไทยขายให้นายทุนชาวจีนเพื่อสร้างกาสิโน ซึ่งมีแผนจะขยายเมืองจากปอยเปตมาใช้พื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน และหลักเขตที่ 43 ที่จะเปิดจุดผ่อนปรนชั่วคราวบ้านโนนหมากมุ่น และที่ผ่านมากำนันลีพยายามเอารถแบ๊กโฮไปทําลายหลักเขตของไทยเพื่อที่จะเอาที่ทํากินของคนไทยไปขายให้นายทุนจีน

ขณะที่นางรัตน์ ภรรายาชาวไทยของนายลีนั้นทำอาชีพค้าขายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น น้ำอัดลม น้ำดื่ม น้ำมัน และของกินของใช้ต่างๆของไทยให้ทางฝั่งกัมพูชา ซึ่งสินค้าไทยที่จะไปขายในกัมพูชานั้นจะต้องผ่านบ้านหนองจาน โดยบ้านของกำนันลีซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นั้นอยู่ในพื้นที่พิพาทและเป็นที่ดินของชาวบ้านคนไทยที่ถูกยึดไปเมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบันก็คือบริเวณที่ทหารมีการล้อมรั้วลวดหนามและขึงสแลนสีดำไว้


พล.ท.ภราดร ระบุว่า กรณีที่มีข่าวว่ากำนันลีอดีตนายทหารของกัมพูชา เข้ามายึดที่ดินบริเวณบ้านหนองจานของไทย และจะขายที่ให้ทุนจีนนั้นนับเป็นเรื่องที่ทางการไทยวางใจไม่ได้เพราะจีนเทาพร้อมทำทุกรูปแบบ ที่สำคัญปัจจุบันการทำกาสิโนอาจทำแค่ในเชิงสัญลักษณ์คือแค่ให้รู้ว่ามีกาสิโนแต่บ่อนกาสิโนจริงๆอยู่ในระบบออนไลน์

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าพื้นที่บ้านหนองจานและบริเวณใกล้เคียงโดยเฉพาะอรัญประเทศซึ่งอยู่ตรงข้ามกับปอตเปตเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของกัมพูชา คือเป็นพื้นที่ซึ่งเอื้อต่อการทำมาหากินในธุรกิจสีเทา ไม่ว่าจะเป็นการพนัน บ่อนกาสิโน สแกมเมอร์ ในฝั่งกัมพูชา ดังนั้นกัมพูชาจึงไม่ต้องการให้เกิดการสู้รบในพื้นที่นี้ แต่ไปปะทะในพื้นที่อิสานใต้ซึ่งอยู่ในการดูแลของกองทัพภาค 2 แทน เพราะลูกค้าที่เล่นพนันในฝั่งกัมพูชาก็ข้ามไปจากจุดนี้ ทั้งที่ผ่านด่านและนั่งรถตู้ผ่านช่องทางพิเศษ ซึ่งหากมีการสู้รบในบริเวณดังกล่าวลูกค้าจากฝั่งไทยก็จะไม่ข้ามไปเล่นพนัน

“ คนที่ข้ามไปทำงานในกาสิโนก็คนไทย ลูกค้าของกาสิโนก็คนไทย จึงเห็นได้ว่าพอทหารไทยล้อมพื้นที่ชุมชนในบ้านหนองจานซึ่งกัมพูชาเข้ามาอยู่ก็จะมีชาวกัมพูชาเข้ามาชุมนุมยั่วยุเพราะต้องการยึดพื้นที่ของเรา แต่ไม่มีการสู้รบ และพอไทยมีการตกลงเรื่องการเก็บกู้ระเบิดกับกัมพูชา กองทัพภาคที่ 1 ซึ่งดูแลพื้นที่นี้สามารถตกลงกับทหารภูมิภาค 5 ของกัมพูชาได้ ซึ่งคนก็แปลกใจว่าทำไมตกลงได้ ขณะที่กองทัพภาค 2 ที่ดูแลพื้นที่อิสานใต้ตกลงเรื่องการเก็บกู้ระเบิดกับกัมพูชาไม่ได้ ต้องไปคุยในจีบีซี เหตุผลก็เพราะพื้นที่ภาค 1 ไม่มีทุ่นระเบิด กัมพูชาไม่เข้ามาวางระเบิดเพราะเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการทำมาหากินของกัมพูชา ดังนั้นถ้าไปเก็บกู้ก็ไม่เจอทุ่นระเบิดอยู่แล้ว ” พล.ท.ภราดร ระบุ

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j


กำลังโหลดความคิดเห็น