xs
xsm
sm
md
lg

แนะ ประกาศกฎอัยการศึก ยึดอำนาจบริหาร ไล่รัฐบาล-เจรจาจีนแก้เกมสหรัฐฯหนุน“กัมพูชา”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พล.อ.รังษี” แนะแก้เกม“กัมพูชา”ยุครัฐบาลไส้ศึก “กองทัพ”ต้องประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ ยึดอำนาจบริหารจากรัฐบาล ตามด้วยปฏิบัติการโจมตีกาสิโน ทำลายถุงเงินของ“ฮุน เซน” จนกว่าเขมรจะขอหย่าศึก-เปิดเจรจา ขณะเดียวกันต้องเจรจากับ“จีน”เพื่อคานอำนาจ“สหรัฐฯ”ที่ตอนนี้จับมือกับกัมพูชาหวังยึดพลังงานรอบเกาะกูด อีกทั้งภาคประชาชนต้องรวมพลังไล่รัฐบาล ก่อนที่ไทยจะกลายเป็นที่ตั้งฐานทัพสหรัฐฯ ชักนำประเทศเข้าสู่สมรภูมิรบระหว่างจีน-อเมริกา ทำชาติล่มสลายและตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับยูเครน

เป็นที่น่าแปลกใจของคนไทยทั้งประเทศ ในขณะที่กองกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการรบของไทยเหนือกว่า แต่ดูเหมือนไทยจะเดินตามกัมพูชาอยู่ก้าวหนึ่งเสมอ ท่ามกลางท่าทีที่นิ่งเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาวของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย หน่วยงานที่ตอบโต้ทั้งในด้านการรบและการสื่อสารทั้งกับชาวไทยและนานาชาติมีเพียงทหารเท่านั้น ขณะที่ปฏิบัติการต่างๆของรัฐบาลดูจะเชื่องช้าเป็นเต่าคลาน กระทั่งหลัง“การเจรจาหยุดยิง”ระหว่างไทยและกัมพูชาที่มาเลเซีย กัมพูชาก็ไม่ได้รักษาข้อตกลงและยังถล่มยิงไทยอย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาลไทยกลับไม่มีมาตรการที่จะตอบโต้หรือรับมือกับกัมพูชาได้เลย

จึงมีคำถามตามมาว่าท่ามกลางสถาณการณ์ที่ล่อแหลมเช่นนี้ไทยควรทำอย่างไร ? ปฏิบัติการตอบโต้กับกัมพูชาควรเป็นไปในทิศทางใด และที่สำคัญในเมื่อรัฐบาลอ่อนแอและสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ประเทศไทยสูญเสียดินแดน ประชาชนชาวไทยสามารถทำอะไรได้บ้างหรือไม่

พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ อดีตที่ปรึกษากองทัพภาคที่ 1 และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ
พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ อดีตที่ปรึกษากองทัพภาคที่ 1 และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์สถานการณ์ทั้งในด้านความมั่นคงและด้านการต่างประเทศ วิเคราะห์ว่า จะเห็นได้ว่าเนื่องจากกัมพูชาไม่บรรลุแผนในการสู้รบเพราะทหารไทยยึดที่มั่นทั้ง 11 จุดไว้ได้แล้ว ทำให้กัมพูชาไม่สามารถเบี่ยงเบนเส้นเขตแดนที่จะลากยาวไปถึงทะเลบริเวณเกาะกูดซึ่งมีแหล่งพลังงานที่มีมูลค่ามหาศาล กัมพูชาเลยต้องลากเกมยาว ระดมยิงก่อกวนไปเรื่อยๆเพื่อกดดันให้ไทยเจรจาในแบบที่เขาต้องการ เพราะตอนนี้ชาวบ้านที่อพยพจะกลับเข้าบ้านก็กลับไม่ได้ ดังนั้นถ้าเหตุการณ์ยืดเยื้อต่อไปทหารไทยควรจะโต้ตอบเชิงรุกบ้าง โดยพุ่งเป้าไปที่หัวใจของกัมพูชาและหัวใจของฮุน เซน ผู้มีอำนาจตัวจริงของกัมพูชา นั่นก็คือบ่อนกาสิโนซึ่งมีทั้งสแกมเมอร์และพนันออนไลน์ และหากกัมพูชาจะโจมตีไทยว่าทหารไทยยิงนอกจุดที่มีการปะทะก็ไม่สามารถอ้างได้ เพราะก่อนหน้านี้ทหารกัมพูชาก็จงใจยิงพลเรือนไทย ทั้งปั๊มน้ำมัน เซเว่นอีเลฟเว่น โรงพยาบาล โรงเรียน ชุมชนและบ้านเรือนของชาวบ้าน ซึ่งล้วนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสู้รบระหว่างทหารไทยและกัมพูชาแต่อย่างใด อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎบัตรสหประชาชาติเพราะเป็นการโจมตีที่ตั้งของพลเรือนซึ่งถือว่าเป็นอาชญากรรมสงคราม

ทั้งนี้เชื่อว่าหากทหารไทยยิงทำลายบ่อนกาสิโนผลที่เกิดขึ้นจะเป็นไปได้ 2 ทางคือ กัมพูชารุกหนักขึ้น หรือยอมเจรจาในทิศทางที่ไทยต้องการ เนื่องจากตอนนี้ฮุน เซน อยู่ได้ด้วยบ่อนกาสิโนเพราะรายได้ 30% ของฮุน เซน มาจากบ่อน ดังนั้นวันนี้ผู้มีอำนาจของไทยคือรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยต้องตัดสินใจว่าจะหยุดการรุกรานของกัมพูชาอย่างไร แม้รัฐบาลจะไม่กล้าทำเพราะยังเกรงใจฮุน เซน แต่อย่าลืมว่าถ้าเมื่อไหร่มีการประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศอำนาจจะเปลี่ยนไปอยู่ในมือของกองทัพทันที

“ ในเมื่อเขายิงเราได้ เราก็ควรจะยิงกลับไป แต่ยิงตรงไปที่บ่อนกาสิโนเพราะจะเป็นการทำลายเส้นเงินของฮุน เซน ตอนนี้เรามีความชอบธรรม เพราะ 1.กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง 2.ประชาชนไทยมีเจ็บมีตาย 3.ผู้อพยพของไทยกว่า 200,000 คนไร้ที่อยู่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องตอบโต้กัมพูชาและต้องตอบโต้ในจุดที่ทำให้ฮุน เซน หยุด” พล.อ.รังษี ระบุ


พล.อ.รังษี กล่าวต่อว่า อีกสิ่งหนึ่งที่กองทัพควรทำก็คือการประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ เพื่อให้กองทัพมีอำนาจเต็มในการดำเนินการเพื่อความมั่นคง ผบ.ทบ.สามารถสั่งการตรงไปยังหน่วยงานต่างๆได้ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นปลัดกระทรวง อธิบดี ซึ่งต่างจากปัจจุบันซึ่งประกาศกฎอัยการศึกแค่ 7-8 จังหวัด กองทัพสั่งการได้แค่ตัวแทนกระทรวงที่อยู่ในจังหวัดต่างๆ แต่ไม่สามารถสั่งผู้ที่มีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจของหน่วยงานนั้นๆได้ ในเมื่อทหารของฮุน เซน ยิงประชาชนไทย ชาวบ้านที่อพยพกว่า 200,000 คน กลับเข้าบ้านไม่ได้ ความเป็นอยู่ลำบาก สาธารณูปโภคไม่เพียงพอ ถ้ากลับไปบ้านแล้วเจอทหารเขมรยิงถล่มซ้ำก็จะยิ่งเสียหายเพราะตอนนี้กัมพูชาเล่นเกมยาวกับไทย

แม้ว่ารัฐบาลไทยพยายามจะให้มีการเจรจา GBC (การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป) กับกัมพูชาแต่ก็เชื่อการประชุมดังกล่าวไม่สามารถนำไปสู่ข้อยุติและความสงบ เพราะไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องปัญหาความขัดแย้ง ทุกวันนี้เราเริ่มเห็นชัดแล้วว่าจริงๆฮุน เซน ไม่ได้สนใจเรื่องชายแดนแต่สนใจผลประโยชน์ในอ่าวไทย โดยเป็นทฤษฎีสมคบคิดระหว่างฮุน เซน กับผู้มีอำนาจในรัฐบาลของไทย เพราะหลังจากที่นายทักษิณ ชินวัตร ออกจากโรงพยาบาลตำรวจและนายฮุน เซน เข้าพบที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ทักษิณก็พูดเรื่องนี้ในการแสดงวิสัยทัศน์ทันทีว่าทรัพยากรในอ่าวไทยมันมีพื้นที่ทับซ้อน ดังนั้นในพื้นที่ทับซ้อนนั้นไทยจะแบ่งผลประโยชน์กับกัมพูชา 50 : 50 คือเขาพูดหลังจากตกลงกับฮุน เซน เรียบร้อยแล้ว

“ เชื่อว่ากัมพูชาจะบีบเรา จนกว่าเราจะยอมเจรจาเรื่องเส้นเขตแดนในทะเลบริเวณเกาะกูด ซึ่งไทยก็ไม่ยอม เพราะฉะนั้นสุดท้ายก็ต้องรบกันถึงขั้นแตกหัก และไทยไม่ควรเจรจาอีกแล้ว เราต้องทุบเขาจนกว่าเขาจะยอม ไม่ใช่เราเอาคนกลางมาเจรจา ซึ่งหากกองทัพประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ อำนาจทุกอย่างจะอยู่ในมือกองทัพ รวมถึงการเจรจากับกัมพูชาด้วย ตอนนี้ไทยต้องเปลี่ยนคนลงมาเล่น เพราะสถานการณ์ตอนนี้รัฐบาลรับมือไม่ได้ การที่รัฐบาลไทยเพลี้ยงพล้ำให้กัมพูชาอาจจะเป็นแค่ทฤษฎีสมคบคิด เป็นพล็อตละครที่วางแผนให้เกิดการปะทะเพื่อนำไปสู่การเจรจาปักปันเขตแดนใหม่ เพื่อให้เขาได้ทรัพยากรในอ่าวไทย วิน-วินทั้งคู่ ” พล.อ.รังษี กล่าว

แหล่งพลังงานบริเวณเกาะกูดที่่ทั้งสหรัฐฯ  ฮุน เซน และทักษิณ ชินวัตร ต่างอยากได้
ส่วนกรณีที่สหรัฐฯมีท่าทีสนับสนุนกัมพูชา โดยด้านหนึ่งเสนอตัวเข้ามาเป็นคนกลางในการเจรจา แต่อีกด้านหนึ่งกลับแสดงความเห็นในลักษณะบิดเบือนและเข้าข้างกัมพูชา โดยเฉพาะ นายฌอน โอนีล ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ซึ่งให้สัมภาษณ์ในทำนองว่าจะกดดันไทยให้หยุดทำสงครามนั้น “พล.อ.รังษี” ชี้ว่า ไม่มีเหตุผลที่สหรัฐฯจะช่วยเหลือกัมพูชาหากไม่มีผลประโยชน์อะไรตอบแทน โดยเฉพาะพลังงานในอ่าวไทย ซึ่งเท่าที่ตนทราบปริมาณน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยนั้นมีไม่น้อยกว่าที่หมู่เกาะสแปรตลีย์ ที่สำคัญตอนนี้สหรัฐฯกำลังถังแตกขนาดที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังต้องบินไปเจรจาให้ชาติอาหรับซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ แต่สมบัติด้านพลังงานในอ่าวไทยมีมูลค่ามากกว่าการซื้อขายอาวุธสงครามเยอะเพราะถ้าสหรัฐฯได้ไปแล้วเขาหาประโยชน์ได้ในระยะยาว

จึงเห็นได้ว่าตอนนี้ทั้งฝรั่งเศสและสหรัฐฯต่างร่วมมือกับกัมพูชาเพราะนาโต้กับสหรัฐฯเป็นพวกเดียวกันอยู่แล้ว งานนี้สหรัฐยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะหากสหรัฐฯสามารถเข้ามาช่วยกัมพูชาบีบไทยได้สหรัฐฯก็ได้พลังงานในอ่าวไทยด้วย อีกทั้งยังได้ไทยเป็นฐานทัพซึ่งจะสามารถต่อกรกับจีนได้เพราะตามภูมิศาสตร์ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคแถบนี้ ทำให้สหรัฐฯสามารถปิดล้อมจีนได้ โดยสหรัฐฯจะทำกับไทยเหมือนที่ทำกับยูเครนซึ่งสู้รบกับรัสเซียเพราะภูมิศาสตร์ของสองประเทศนี้เหมือนกัน

พล.อ.รังษี มองว่า หนทางที่ไทยจะต่อกรกับสหรัฐได้คือรัฐบาลหรือผู้ที่มีอำนาจควรเจรจากับจีนเพื่อให้สนับสนุนประเทศไทยและคานอำนาจสหรัฐฯ เพราะเราไม่สามารถต่อสู้กับสหรัฐได้ เราจึงต้องแอบคุยทางลับกับจีน ซึ่งจีนเขามีวิธีเนื่องจากนโยบายของจีนจะไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ยกตัวตอนที่จีนช่วยไทยเมื่อครั้งสงครามเวียดนาม ซึ่งเวียดนามสู้รบกับกัมพูชาและกินลึกเข้ามาในฝั่งไทย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ได้เป็นตัวแทนของกองทัพไทยไปเจรจาทางลับกับเติ้ง เสี่ยวผิง ผู้นำของจีนในขณะนั้น ทางจีนจึงส่งกำลังทหาร 500,000 นายเข้ามาลุยกับเวียดนามส่งผลให้เวียดนามต้องถอนกำลังกลับไป ซึ่งครั้งนี้จีนรู้อยู่แล้วว่าถ้าสหรัฐฯเข้ามาแรกแซงไทยได้จะเป็นผลเสียต่อจีนอย่างมาก เขาจึงส่งผู้ช่วยทูตจีนประจำมาเลเซียไปสังเกตการณ์ในการเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชาที่มาเลเซีย เชื่อว่าวันนี้จีนไม่ได้กลัวสหรัฐฯ สหรัฐฯพร้อมเมื่อไหร่จีนก็พร้อม

“ ถ้าผมเป็นรัฐบาล ผมจะส่งคนไปคุยกับจีนเพราะว่าในเมื่อกัมพูชาเอาสหรัฐมาบีบไทย ประเทศที่ช่วยเราได้ก็คือประเทศจีน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้จีนส่งทหารมาช่วยไทยรบนะ แต่หมายถึงให้จีนดำเนินการบางอย่างเพื่อคานอำนาจสหรัฐฯ โดยเป็นการเจรจาในทางลับ เหมือนกับที่ฮุน มาเนต เจรจาให้สหรัฐฯพูดเข้าข้างเขาได้ ซึ่งเชื่อว่าเขมรต้องมีอะไรตอบแทนให้สหรัฐฯ ผมเชื่อว่าวันนี้จีนโกรธเขมรมากเพราะเขมรหักหลังจีน จีนเสนอตัวเป็นคนกลางแต่เขมรไม่เอา ไปเอาสหรัฐฯ ในขณะที่จีนช่วยเหลือเขมรมาตลอด คนอย่างฮุน เซน ตระบัดสัตย์ได้ตลอดเวลา ดังนั้นถ้าไทยส่งคนที่มีอำนาจต่อรองไปเจรจากับจีน ผมว่าจบ ” พล.อ.รังษี กล่าว

การทำข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทย-กัมพูชาที่ประเทศมาเลเซีย
พล.อ.รังษี ระบุว่า ตอนนี้อยู่ที่ผู้นำของไทยว่าจะมีความเสียสละและรู้จักเจรจาต่อรองแค่ไหน ผู้นำไทยไม่ได้โง่ แต่อาจจะไม่ได้คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน แต่คิดถึงตัวเองเป็นหลัก แล้วรัฐบาลนี้มันมีไส้ศึกอยู่ เป็นคนที่ชักศึกเข้าบ้าน พวกขายชาติที่รวมหัวกับบริษัทต่างชาติที่จะมาฮุบทรัพยากรของไทย ซึ่งประชาชนก็คงรู้ดีว่าใครที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายในลักษณะนี้ ซึ่งผมว่าไม่มีใครยอม และสุดท้ายเขาจะอยู่ในประเทศไทยไม่ได้ ที่เขาเหิมเกริมเพราะเขาคิดว่าแผนเขาสำเร็จ ส่วนที่ฮุน เซน เหิมเกริมรุกรานไทยเพราะเขาคิดว่าแบ็คอัพเขาดี เขาคิดว่าสหรัฐฯสามารถบีบไทยให้เจรจากับเขาได้ ที่สำคัญตอนนี้ทั้งรัฐบาลและกองทัพไทยไม่ควรมีการเจรจากับกัมพูชา และต้องตอบโต้กัมพูชาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเพราะหากไทยปล่อยให้กัมพูชามารุกรานไทยแบบนี้ต่อไป ในอนาคตประเทศไทยจะแย่

ส่วนการสื่อสารกับนานาชาตินั้น เราต้องสานสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจเป็นหลัก ไม่ใช่ให้ความสำคัญกับองค์กรระหว่าง เพราะองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็นนั้นเป็นแค่เสือกระดาษ ไม่สามารถบังคับให้ประเทศต่างๆดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดได้ ซึ่งปัจจุบันมหาอำนาจแบ่งเป็น 2 ขั้ว คือ สหรัฐฯกับนาโต้ค่ายหนึ่ง และจีนกับรัฐเซีย เกาหลีเหนือ อีหร่าน อีกค่ายหนึ่ง ดังนั้นไทยมีแค่ 2 ทางเลือกคือ ไทยต้องยืนข้างสหรัฐฯ หรือยืนข้างจีนเพื่อคานอำนาจสหรัฐฯ แต่ในเมื่อวันนี้สหรัฐฯเลือกกัมพูชา ถ้าไทยเออออกับสหรัฐฯตามกัมพูชา ไทยกับกัมพูชาก็อาจจะเลิกรบกันแต่ไทยจะเสียดินแดนและถูกปล้นทรัพยากรพลังงานในอ่าวไทย

“ ถ้าไทยยืนข้างสหรัฐฯและโอนอ่อนตามกัมพูชาแน่นอนว่าไทยจะสูญเสียอธิปไตย และที่สำคัญยังเสี่ยงที่ไทยจะจบแบบเดียวกับยูเครน เพราะไม่มีทางที่จีนจะปล่อยให้ไทยเป็นฐานที่ตั้งของกองทัพสหรัฐฯแล้วไปโจมตีจีน แล้วอาวุธที่ประเทศมหาอำนาจใช้ในปัจจุบันนั้นอานุภาพทำลายล้างสูงมาก จีนมีขีปนาวุธแบบเดียวกับที่อีหร่านใช้มากที่สุด คือมีเป็นแสนลูก เราจึงไม่มีทางเลือกโดยต้องขอการสนับสนุนจากจีน ” พล.อ.รังษี กล่าว

ส่วนกรณีที่ประชาชนหลายภาคส่วนเกรงว่ารัฐบาลไทยจะใช้อำนาจไปเจรจาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชานั้น “พล.อ.รังษี” ชี้ว่า ถึงเวลาที่ประชาชนต้องลงถนนช่วยกันขับไล่รัฐบาล เพราะเชื่อว่าไม่ช้าไส้ศึกกับคนขายชาติหางจะโผล่ ซึ่งเป็นความชอบธรรมที่คนไทยจะออกมาไล่รัฐบาล เพราะถ้ารัฐบาลไทยไปเจรจากับกัมพูชาโอกาสที่ไทยจะเสียเปรียบมีเยอะมาก เพราะเรามีสนธิสัญญาอินโด-แปซิฟิกค้ำคออยู่ ซึ่งตามสนธิสัญญาดังกล่าวสหรัฐฯสามารถใช้ฐานทัพไทยได้ และหากรัฐบาลไทยมีผลประโยชน์และเดินตามเกมกัมพูชาก็เชื่อว่าเขาจะสร้างสถานการณ์เพื่อเปิดทางให้กัมพูชาและสหรัฐฯเข้ามาทำสัมปทานพลังงานในอ่าวไทยได้ ซึ่งประเทศมหาอำนาจต่างก็ได้ประโยชน์ ขณะที่กัมพูชาและประเทศไทยได้แค่เศษๆเท่านั้น

“ ก่อนที่ไทยจะส่งคนไปเจรจากับจีน ต้องไล่รัฐบาลนี้ไปก่อน ถ้าได้รัฐบาลชุดใหม่ที่ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักแล้วค่อยดำเนินการ เพราะวันนี้ปัญหาของประเทศเราคือรัฐบาล ปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาถึงบานปลายได้ขนาดนี้ รัฐบาลบชุดนี้คงอยู่ไม่ได้แล้วเพราะบริหารจัดการล้มเหลว ส่วนว่าคนที่จะไล่รัฐบาลควรเป็นทหารหรือประชาชนนั้นอันนี้ผมบอกไม่ได้ แต่ที่แน่ๆรัฐบาลนี้หมดความชอบธรรมแล้ว ” พล.อ.รังษี ระบุ



ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j


กำลังโหลดความคิดเห็น