สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียด บรรดากลุ่มพลังระดมพลลงพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ‘เต้ อาชีวะ’ กว่า 500 คนลงพื้นที่ 2 ส.ค. เน้นแต่ชุดไทย-เสื้อชอป ดึง ‘กุ้ง สป.’ อินฟูลติ๊กต็อก ร่วมขบวน ย้ำห้ามฝั่งเราเปิดเกมรุกก่อน หากวัยรุ่นเหมนเริ่มก่อน พร้อมบวกทันที ติง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม อย่ายึดติดการเมือง วอนนึกถึงทหารในพื้นที่ หวั่นหากแม่ทัพ 2 ตัดสินใจลงมือและเกิดการปะทะ ใครจะ support เชื่อแม่ทัพอยากสร้างรั้วปิดปราสาท รอแค่คำสั่ง จับตา 26 ก.ค. ‘กันจอมพลังและFC’ ลงพื้นที่ ส่วน 27 ก.ค.นี้แก๊งดินแดง พร้อม FC นำโดย ‘เสือ ดุสิต’ แสดงพลังเช่นกัน ขณะที่เต้แจงเตรียมนำเจ้าหน้าที่จับกุมคนเขมรเข้าเมืองผิดกฎหมายและแย่งอาชีพสงวนคนไทยใน 4 พื้นที่ !!
สถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชานับวันยิ่งตึงเครียดและโอกาสที่จะนำสู่การแก้ปัญหาด้วยการใช้ความรุนแรงหรือนำไปสู่การปะทะของทหารทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก็ย่อมมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ เพราะแต่ละครั้งที่มีการยั่วยุจากนักท่องเที่ยวกัมพูชาที่เข้ามาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย ได้สร้างความรู้สึกเจ็บแค้นให้กับคนไทยจำนวนหนึ่งพร้อมตั้งคำถามว่า รัฐบาลหรือกองทัพ ทำไม่ไม่ตอบโต้
ล่าสุดที่มีการวางทุ่นระเบิดฝั่งชายแดนไทยและมีทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 จำนวน 3 รายได้รับบาดเจ็บซึ่งกองทัพได้มีการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ ที่วางในเขตไทย เป็นการขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ที่ทั้งไทยและกัมพูชาต่างเป็นประเทศภาคีที่ให้สัตยาบันไว้ ถามว่านี่เป็นเรื่องที่ไทยโดนรุกล้ำอธิปไตยใช่หรือไม่?
ทั้งนี้ในวันนี้ (23กค) กองทัพบกประณามฝ่ายกัมพูชาจากเหตุลอบวางทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดนช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลฯ เป็นเหตุให้กำลังพลขาขวาขาด และอีก 4 นายมีอาการแน่นหน้าอก หูอื้อ จากแรงสั่นสะเทือนของแรงระเบิด ขณะนี้เข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน รพ.น้ำยืน และระเบิดที่ทหารไทยเหยียบเป็นกับระเบิดที่วางใหม่ ขณะที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับการตอบโต้กัมพูชา โดยสั่งปิด 4 ด่าน ในวันที่ 24 กค คือ ช่องอานม้า ช่องสะงำ ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย ล่าสุดที่ด่านช่องสะงำได้มีเจ้าหน้าที่นำกุญแจมาล็อกประตูแล้ว... ไม่เพียงเท่านั้นบรรดาวัยรุ่นเขมร เหิมเกริม ป่วน ‘ปราสาทตาเมือนธม’
ซึ่งเพจ Army Military Force โพสต์ไว้ต่อเนื่อง ตั้งแต่เรื่องที่นักท่องเที่ยวขาวเขมรไม่พอใจ โวยวายและด่าทอทหารไทย หลังถูกทหารไทยเชิญให้ออกจากปราสาทและไม่อนุญาตให้เข้าไปทำพิธีทางไสยศาสตร์ภายในตัวปราสาทตาเมือนธม เพราะพบว่า มีคราบน้ำตาเทียน เศษขี้เถ้าและเศษขยะกองเกลื่อนกลาดบนพื้นจำนวนมาก ทำให้สกปรกและอาจจะส่งผลกระทบต่อโบราณสถานได้
อีกทั้งบรรดาวัยรุ่นเขมรทรงเอป่วน ทำคอนเทนต์มองหน้ากวนส้น Teen ทหารไทย และวัยรุ่นทรงเอยังทำคอนเทนต์มองหน้า-ชูนิ้วกลางยั่วยุทหารและนักท่องเที่ยว เป็นวันที่ 2 โดยทหารกัมพูชาเปิดทางให้วัยรุ่นพวกนี้โชว์พฤติกรรมก้าวร้าวได้เต็มที่
ยังมีเหตุการณ์อื่น ๆ ทั้งพฤติกรรมของป้า ‘นโรดม แพน โมนิก้า’ ที่ยืนต่อปากต่อคำกับเจ้าหน้าที่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม ด้วยท่าทีแข็งกร้าว ชี้นิ้วใส่เจ้าหน้าที่ ขึ้นเสียง อ้างว่าทหารไทยบุกรุกดินแดนของกัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้หยุดยึดพื้นที่ของเขมร ซึ่งขัดต่อข้อเท็จจริงทางกฎหมาย และละเมิดมารยาทระหว่างประเทศอย่างชัดเจน รวมไปถึงอินฟูลเอนเซอร์เขมรที่ทำคอนเทนต์บิดเบือนต่าง ๆ
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ล้วนแต่สร้างความเจ็บปวดให้คนไทยและถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลและกองทัพจะต้องแสดงแสนยานุภาพให้เขมรได้ประจักษ์ ส่วนประชาชนหรือบรรดากลุ่มนักเคลื่อนไหวที่รู้สึกทนไม่ได้ต่างก็ระดมพลเพื่อไปแสดงสัญลักษณ์ให้เขมรได้เห็น อย่านึกว่าคนไทยกลัวเหมน!
“เต้ อาชีวะ” หรือ นายอัครวุธ ไกรศรีสมบัติ ประธานกลุ่มอาชีวะราชภักดี และผู้ก่อตั้งพรรค “ไทยไม่ทน” บอกว่า กลุ่มอาชีวะและไทยไม่ทน จะนัดรวมพลไปที่ปราสาทตาเมือนธม ในวันที่ 2 ส.ค.นี้ โดยจะมีFC รวมกันประมาณ 500 คน คือจาก กทม.และจะมีจากโคราชไปร่วมสมทบกันที่นั่น โดยการไปวันนั้นมีเป้าหมาย 2 อย่าง
ประเด็นแรก คือก่อนหน้านี้ที่มีเรื่อง กุ้ง สป.ไปอัดคลิปเชิงด้อยค่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ในวันที่ทหารได้รับบาดเจ็บและขาขาด กุ้ง สป.รู้สึกแย่มากที่ทางการไม่มีการตอบโต้อะไรฝั่งกัมพูชา จึงทำคลิปแบบนั้นออกมา แต่วันนี้เขาเข้าใจแล้ว จึงจะไปร่วมวันที่ 2 ส.ค.นี้ โดยจะไปทำอาหาร ไปทอดลูกชิ้น เพื่อให้พี่น้องทหารได้ทานกัน และอาหารนี้เรายินดีที่จะให้ทหารฝั่งกัมพูชาด้วย
“เรายังมีสิ่งของเวชภัณฑ์ ยา ต่าง ๆ ไปให้พี่น้องทหารในพื้นที่ด้วย”
ประเด็นที่สอง พวกเราต้องการจะไป ‘เขียนเสือให้วัวกลัว’ โดยการไปครั้งนี้เราจะไปกันประมาณ 500 คน ไปแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยคนที่ไปต้องใส่ชุดไทย ผ้าไทยธรรมดา จะเป็นคอกระเช้าก็ได้ ส่วนพวกเราชาวอาชีวะ จะใส่เสื้อชอป อีกทั้งเราจะมีวาทะเด็ด ๆ หรือวลีเด็ด ๆ เช่น ที่นี่ประเทศไทย , Welcome to Thailand ฯลฯ และจะมีการทำอาหารแจกด้วย การไปครั้งนี้ก็จะได้รู้กันว่ามีทั้งประชาชนและอาชีวะ
“ผมต้องการให้เขมรได้เห็นว่า คนไทยเราไม่ยอมไอ้พวกทรงช่าง ที่มาแสดงมองหน้า มาโชว์นิ้วกลางใส่ทหารและนักท่องเที่ยวคนไทย มันทำเกินไป เราเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาโตมาในสังคมแบบไหน และที่เกณฑ์กันมานั้นเป็นคนระดับไหน แต่เราไม่ได้พวกแบบขี้กลาก เราไปแบบ คนมีการศึกษา มีการมีงานทำ มีวุฒิภาวะ แต่ถ้ามาท้า เราพร้อม แต่เราจะไม่เปิดก่อนก็ให้มันเดินมาเปิดหน้ากันเลย”
เต้ อาชีวะ บอกว่า การไปครั้งนี้เราต้องคุมอารมณ์กันเองให้ได้ โดยจะต้องไม่เป็นฝ่ายรุกก่อน วิธีการของเราก็คือเราจะอธิบายทุกอย่างก่อนขึ้นรถ และทุกที่นั่งในรถเราจะมีข้อความกระดาษขนาด A4 อธิบายความเสียหายที่จะเกิดขึ้นหากเราเป็นฝ่ายลงมือก่อน เพราะมันจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว เราจะย้ำให้ทุกคนที่มาร่วมได้เห็นจุดประสงค์ในการระดมพลมาปราสาทตาเมือนธม ครั้งนี้ต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และถ้าเราทำอะไรลงไป หรือใช้กำลัง คนที่เสียหายคือคนในพื้นที่ พวกเขาจะอยู่กันยาก ทำงานยากด้วย
“ทุกคนที่ไปกับเราต้องรักษากติกา อย่าใช้กำลังให้คนพื้นที่ได้รับผลกระทบ ถ้าใครคิดจะทำนอกกรอบให้ไปกันเอง แต่เรื่องวาทะเด็ด ๆ หรือจะด่าได้ในมุมของเรา อย่าลืมเราจะไปแจกลูกชิ้นทอด แจกทั้งทหารไทย ทหารเขมร ให้เข้าแถวรอกัน คือผมจะเล่นคอนเทนต์ และเอากุ้งไปขอโทษด้วย คือผมคุยกับทางกองทัพภาค 2 ไว้แล้ว เขาก็รอผมอยู่”
ในการไปครั้งนี้ จริง ๆ เป้าหมายไม่ต้องการไปค้าง ต้องการไปแล้วกลับเลย แต่ก็ต้องดูสถานการณ์วันต่อวัน และหากใครอยากอยู่ต่อก็ไม่ขัดข้องเช่นกัน
อย่างไรก็ดี เต้ มองว่าสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นและมีแนวโน้มตึงเครียดขึ้นนั้น เขาเชื่อว่ามีโอกาสจะเกิดการปะทะกันของทหารทั้ง 2 ฝ่าย เพราะต้องไม่ลืมว่าทหารเป็นคนที่รักพวกพ้อง และอะไรที่ยังขยับไม่ได้ ไม่ได้ติดอยู่ที่ทหารหรือแม่ทัพ แต่มันติดอยู่ที่นักการเมืองยังโลกสวย แต่นโยบายไม่ชัดเจน
“ผมสื่อถึง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ท่านเป็นทหาร อย่าไปยึดติดกับการเมือง ให้นึกถึงพี่น้องทหารที่อยู่ในพื้นที่ คุณภูมิธรรม รักษาการนายกฯ คนก็ด่ากันทั้งประเทศ รัฐบาลต้องคิดได้แล้ว ผมอยากจะบอกอำนาจอยู่ในมือท่าน ท่านต้องชัดเจน ทหารเค้ารอคำสั่งอย่างเดียว แต่ถ้ามันเกินรอ แม่ทัพตัดสินใจได้ แต่ถ้าเกิดการรบมาแล้ว มันเกิดความเสียหาย ทั้ง2 ฝ่าย คือ ถ้าท่านแม่ทัพภาค 2 เปิดประเด็นไป ถามว่าใครจะ support ท่านแม่ทัพ นี่คือประเด็นที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันคิด”
หากจะถามว่าแม่ทัพภาค 2 อยากจะสร้างรั้วบริเวณชายแดน หรือตรงพื้นที่กลุ่มปราสาทตาเมือนธมหรือไม่ เต้ บอกว่าเท่าที่รับรู้มา เชื่อว่าแม่ทัพภาค 2 อยากสร้างรั้ว เพราะเมื่อเป็นพื้นที่ของไทยและเป็นอธิปไตยของเรา เป็นชายแดนเราก็ย่อมจะสร้างรั้วได้ และต้องการปิดปราสาทไม่ให้ต่างด้าว(เขมร)ขึ้น แต่คนไทยเปิดได้- ปิดได้ ก็คงต้องรอคำสั่งเพราะทหารยึดวินัยและการบังคับบัญชา ทั้งหมดจึงอยู่ที่คนมีอำนาจสั่งการโดยตรง ซึ่งคนที่มีอำนาจแล้ว ถ้าไม่กล้า แล้วใครจะกล้า ..
นอกจากกลุ่มเต้ อาชีวะ จะไปในวันที่ 2 ส.ค.ที่จะถึงนี้ ยังมีกลุ่มของ ‘กันจอมพลัง’ จะไปวันที่ 26 ก.ค.และในวันที่ 27 ก.ค.จะเป็นแก๊งดินแดงและมวลชนอิสระ ซึ่งน่าจะมี ‘เสือ ดุสิต’ เป็นแกนนำ จำนวนคนที่จะไปในวันที่ 27 ก.ค.คงต้องสอบถามทางแก๊งดินแดงหรือเสือ ดุสิต แต่ก็น่าจะมีระดับหลายร้อยคน
“แกนนำแต่ละกลุ่มยอมรับว่ารู้จักกัน แต่การจะไปรวมพลังพร้อมกัน แม้จะเป็นจำนวนมาก แต่มันมีหลายปัจจัยในการรวมพลัง โดยเฉพาะเรื่องของ FC ซึ่งต้องเข้าใจธรรมชาติของกลุ่มหรือ FC แต่ละกลุ่มด้วย เช่น FC กลุ่มนั้นอาจไม่ชอบแกนนำกลุ่มเรา หรือ FC เราก็อาจไม่ชอบแกนนำของอีกกลุ่มก็ได้”
เต้ อาชีวะ ย้ำว่า หากสังคมมองไปที่ FC แต่ละกลุ่มจะเห็นความแตกต่างในการทำงานซึ่ง FC ของ ‘กันจอมพลัง’ จะเป็นกลุ่มคนมีเงิน เล่นโซเชียล เน้นภาพ หรือจะเรียกว่า Soft Power แต่ FC สายอาชีวะและแก๊งดินแดง จะเป็นสายบุก สายลุย หรือที่เรียกว่าพวก Hard Core ซึ่งถ้าจำเป็นจะต้องรวมตัวกันจริง ๆ แกนนำก็ต้องมีการคุยกันและอธิบายให้ FC แต่ละกลุ่มเข้าใจและต้องคุมFC แต่ละกลุ่มของตัวเองให้ได้ก็จะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ในความคิดของประชาชน
รวมทั้งยังมีกลุ่ม คปท.ที่เคลื่อนไหวทางการเมือง พวกเรารู้จักกัน หากมีความจำเป็นต้องร่วมกันเพื่อชาติก็ต้อง ‘แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง’ ให้ได้ แต่ไม่สามารถการันตีใครได้ว่า จะสั่งทุกคนได้ แต่ทุกคนต้องคิดวิเคราะห์ และแยกแยะด้วยตัวเอง
ขณะเดียวกัน เต้ อาชีวะ ย้ำว่าการไปครั้งนี้แม่ทัพภาค 2 ไม่มีปัญหาและท่านก็ยินดีให้ไป เพราะกลุ่มอาชีวะ จงใจไปขอโทษแม่ทัพภาค 2 โดยตรง และกุ้ง สป.ก็พร้อมเพื่อให้กุ้ง สป.ได้เห็นสภาพแวดล้อมที่แม่ทัพภาค 2 ดูแลอยู่ มียุทธวิธีอย่างไร ติดขัดตรงไหน และจะได้รู้ถึงต้นเหตุไม่ให้เรารบกัน
“กุ้ง สป.เป็นอินฟูลติ๊กต็อก ซึ่งรับรู้แล้วจะไปถ่ายทอดความรู้สึกออกไปให้ประชาชนได้รับทราบ และแม่ทัพก็ไม่ขัดข้องในการไปของพวกเรา เป็นการเขียนเสือให้วัวกลัว เพราะเรายังมีกิจกรรมในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ไปพร้อม ๆ กัน คือตามจับเขมรที่เข้ามาผิดกฎหมายและมาแย่งอาชีพคนไทย ถึงแม้ชายแดนจะวุ่นวาย คนเขมรก็อย่าคิดมาตีกินในประเทศแบบนี้ไม่ได้”
โดยพื้นที่ที่ เต้จะไปดำเนินการ 4 แห่ง ประกอบด้วยอนุสาวรีย์ชัย- บางพลี- ปากน้ำ และสำโรง เพราะได้ข้อมูลจากคนที่ร้องเรียนมา มีพวกนายหน้าและนายจ้าง หลอกแรงงานเขมรเข้ามาทำงานก่อสร้างเก็บค่าหัวคิว 4-5 พันบาท มาทำงานเพียงวันเดียว ก็ไล่คนงานออก แรงงานพวกนี้ก็ตกงาน บางคนก็มีความรู้ก่อสร้าง ก็รับงานเอง บางคนก็ไปนั่งเป็นขอทาน
“บางคนไปขายของ เปิดร้านขายส้มตำ เยอะแยะไปหมด แย่งอาชีพคนไทย หรือพวกขอทาน เราไปส่งสารให้เงินขอทานเขมร สุดท้ายเขมรเขาทำอะไรกับคนไทยบ้าง ขณะนี้ผมได้รับแจ้งมา จะพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วย จับพวกนี้แล้วส่งขึ้นศาล ส่งกลับเขมรให้แบล็กลิสต์ ห้ามเข้าไทยอีก เพราะมาแย่งอาชีพสงวนของคนไทย”
เต้ อาชีวะ บอกว่า จริง ๆ มีทั้งคนพม่า ลาว เขมร มีหมด แต่ปัจจุบันเราเน้นไปที่คนเขมรเป็นหลัก เพราะไม่สำนึกว่าทำผิดกฎหมายไทย ซึ่งความจริงที่ไล่ทำแบบนี้ก็เพื่อกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่รัฐออกมาดำเนินการ เพราะเขากระทำผิดซึ่งหน้าอยู่แล้ว!
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j