เกม ‘ทักษิณ’ ยกแรกยึดมหาดไทยให้สำเร็จ รุกต่อ สว.สีน้ำเงิน เขี่ยฐานที่มั่นภูมิใจไทยพ้นทาง!

จับตายุทธการยึด‘มหาดไทย’ เขี่ย‘ภูมิใจไทย’ ไปเป็นฝ่ายค้าน มีโอกาสเป็นไปได้สูง! จากนั้นรุกขยี้ สว.สีน้ำเงินต่อไป บิ๊กมหาดไทย ชี้‘ทักษิณ’ อ่านทะลุยึดมหาดไทยได้จะทำให้เพื่อไทยแข็งแกร่ง ระบุ‘ปลัดมหาดไทย’ อายุน้อยแต่ เก่ง บารมีแน่นปึ้กกับผู้ว่าฯทั้งประเทศพร้อมฐานเสียงและหัวคะแนนเพียบพิสูจน์ให้เห็นจากเลือกตั้ง‘อบจ.’เชื่อพร้อมรับนายใหม่ ด้าน‘นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ’ แจงทักษิณพลาดมา 2ปี ปล่อยให้‘เสี่ยหนู’ นั่ง มท.1จนบารมีคับแก้ว แต่วันนี้ยังไม่สาย มั่นใจคณิตศาสตร์การเมืองได้ ผู้กองธรรมนัสดูดงูเห่าเข้าร่วม เร่งดันภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้าน ใช้เวลา ‘สร้างผลงาน- ยึดฐานเสียง’ อีก 1 ปี ค่อยยุบสภา เผยยุคนี้การเมือง‘แพ้-ชนะ’ อยู่ที่‘เงิน’ ยกตัวอย่างการใช้อำนาจบีบ‘ผู้การฯจังหวัด’ คนที่เป็นกลาง เพื่อให้หันไปจับมือกับผู้ว่าฯจนสำเร็จ จากนั้นปิดหมู่บ้านซื้อเสียงเงินสะพัดอย่างสนุกสนาน!

การออกมาปรากฏตัวของนายทักษิณ ชินวัตร แต่ละครั้งเพิ่มอุณหภูมิทางการเมืองให้ร้อนแรงขึ้นไปอีก ล่าสุดออกมาชี้นำเสมือนสั่งการพรรคเพื่อไทยหากต้องการขับเคลื่อนรัฐบาลจริงๆ ต้องได้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มากำกับดูแล ส่งผลให้ข่าวปรับ ครม.และโผ ครม.ออกมาอย่างต่อเนื่อง

โดยประเด็นร้อนแรงจะไปอยู่ที่พรรคภูมิใจไทยเพราะเจตนาชัดว่าจะยึดคืนมหาดไทยซึ่งในความเป็นจริงพรรคแกนนำรัฐบาลจะต้องไม่ปล่อยมหาดไทย ไปตกอยู่ในมือพรรคร่วมแน่นอน แต่เมื่อครั้งที่จัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทยหลังเลือกตั้ง เกรงว่าจะไม่สำเร็จจึงจำเป็นต้องยอมเสียไปก่อน

ส่วนกระทรวงเกษตรฯ นั่นเป็นของพรรคกล้าธรรม บรรดาพรรคการเมืองและคอการเมืองต่างก็รู้อยู่ว่านายทักษิณ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ต่างเดินเกมการเมืองร่วมกันเพื่อสกัดพรรคคู่แข่งออกไป

ดังนั้นการจะยึดคืนมหาดไทยในครั้งนี้จึงเป็นเป้าหมายสำคัญและมองทะลุไปถึงกลไกที่จะทำให้เพื่อไทยที่เหลือเวลาอีกประมาณ 2 ปี ต้องชนะการเลือกตั้งครั้งหน้าให้ได้


แหล่งข่าวจากข้าราชการระดับสูงจากมหาดไทย บอกว่า นายทักษิณ รู้อยู่เต็มอกว่ามหาดไทยมีภารกิจในฐานะฝ่ายปกครองมีกลไกที่ลึกและสามารถสร้างประโยชน์ในการทำงานการเมืองได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้บัญชาการทั้งจังหวัด การพึ่งพาการจัดตั้งแบบแนบเนียนอยู่ตรงนี้ แม้วันนี้ข้าราชการจะคารวะในฐานะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคแกนนำ มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่สถานะที่เป็นอยู่ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาสายตรง ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นผู้บังคับบัญชาสายตรง ข้าราชการจึงให้ความสำคัญและฟังคำสั่งมากกว่า

“คุณอนุทิน ตั้งปลัดมหาดไทยมาถูกคน ถูกเวลา ป็อป (อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์) เป็นคนรุ่นใหม่ กว้างขวางมาก แม้อายุจะน้อยกว่าผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ เกือบทั้งหมด แต่เขาเป็นคนอ่อนน้อม ให้เกียรติรุ่นพี่ เคยเป็นผู้ว่าฯ เป็นอธิบดีมาหลายกรม แถมเคยเป็นผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ ทำให้ใคร ๆ ก็วิ่งหาเขาอยู่แล้ว และรุ่นเขายังเติบโตในแวดวงราชการที่ไม่ใช่มหาดไทยอีกหลายแห่ง อายุราชการอีกตั้ง 7 ปี เชื่อว่า คุณทักษิณ น่าจะเห็นผลงานจากการเลือกตั้ง อบจ.ที่ผ่านมาดีต่อภูมิใจไทยอย่างไร”

ที่สำคัญปลัดมหาดไทยคนนี้ มีทั้งอำนาจและบารมี เป็นที่ยอมรับของผู้ว่าฯ ทั้งประเทศ เท่ากับได้ผู้ว่าฯ ทั้งหมดมาเป็นแขนขาสำคัญในการทำงานสนองการเมืองได้ทันที เพราะทุกจังหวัดมีผู้ว่าฯ เป็นหัวหน้า มีกลไกที่ใหญ่มากคุมทั้งพื้นที่และเขตเลือกตั้ง มีนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ. เทศบาล อบจ.และยังมีหน่วยราชการอื่น ๆ ที่ไม่ได้ขึ้นตรงต่อส่วนกลาง ก็ขึ้นตรงต่อผู้ว่าฯ จังหวัดนั้น ๆ เช่นกัน

“หน่วยราชการส่วนใหญ่ ขึ้นตรงต่อผู้ว่าฯ ส่วนงาน กอ.รมน.ก็ขึ้นตรงผู้ว่าฯ จะยกเว้นก็ตำรวจ ธนารักษ์ แต่ก็มีการประชุมงานกัน ผู้ว่าฯ ก็ต้องนั่งหัวโต๊ะ เพราะมีกฎหมายบางตัวให้อำนาจผู้ว่าฯ ไว้”


แหล่งข่าวจากมหาดไทย บอกอีกว่าหากเพื่อไทยมานั่งเป็น มท.1 คุมมหาดไทย ยิ่งจะทำให้กลไกในการเลือกตั้งครั้งต่อไปพร้อมเอื้อให้เพื่อไทยได้ทันที และปลัดมหาดไทย ก็พร้อมทำงานให้ และต้องไม่ลืมว่าเพื่อไทยคุมหน่วยงานความมั่นคง มีนายกฯ คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีรัฐมนตรีเพื่อไทยคุมกระทรวงกลาโหม และยังมีมหาดไทยที่มีแขนขาทั้งจังหวัด หากมองอย่างเลวร้าย ถ้าคิดจะสกัดคู่ต่อสู้ย่อมทำได้และสามารถเข้าถึงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เพื่อให้ความร่วมมือได้ด้วย หรือรู้วิธีที่จะใช้งบประมาณในการกด(บีบ)กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อให้ช่วยผู้สมัครที่เราสนับสนุนก็ย่อมทำได้ หาก ‘นาย’ สั่งการ จริงหรือไม่

“ช่วงเลือกตั้ง ตำรวจจะเข้าไปเกี่ยวข้องดูแลความเรียบร้อย ก่อนเลือกตั้ง 10 วัน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประจำหน่วยเลือกตั้ง ถ้ากำลังตำรวจไม่พอ จะใช้หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวกับความมั่นคง เช่น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อบต. เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย”

อีกทั้งการคุมหน่วยงานตำรวจ ต่างก็รู้ว่าตำรวจสันติบาลในพื้นที่จะมีบทบาทมาก เก่งในด้านการหาข่าว และรู้ว่านายต้องการข้อมูลอะไร อย่างไร ซึ่งนักการเมืองและข้าราชการจะเรียกข้อมูลที่สันติบาลเก็บมานั้น ว่าโพลสันติบาล เพราะพวกนี้จะทำงานใกล้ชิดกับประชาชน และยังทำหน้าที่หาข่าวตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง โดยเข้าพูดคุยกับชาวบ้าน ทำให้รู้ว่าใครคือหัวคะแนนใครบ้าง และรู้คะแนนนิยมของผู้สมัครต่าง ๆ รู้ว่าพรรคไหนฐานเสียงเป็นอย่างไรและฐานเสียงแต่ละพรรคอยู่ตรงพื้นที่ไหน เพื่อจะได้เจาะให้ตรงเป้า ส่วนจะต้องบล็อกคู่แข่งอย่างไร ก็เป็นเรื่องของตำรวจในพื้นที่ดำเนินการต่อไป

ขณะเดียวกันหน่วยทหารและกอ.รมน.จังหวัด จะเป็นหน่วยงานสำคัญที่จะเป็นมือเป็นไม้ให้รัฐบาล โดยมีมณฑลทหารบก (มทบ.) เป็นผู้ควบคุมการเคลื่อนไหวในทางการเมืองเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา และถ้าหน่วยทหารเข้าไปพื้นที่ไหน บรรดาผู้มีอิทธิพล หรือหัวคะแนน ก็จะมีความเกรงกลัว ขณะที่ กอ.รมน.จังหวัด ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ทำหน้าที่หาข่าว ที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัคร หัวคะแนน การซื้อเสียง แนวโน้มการต่อสู้ ซึ่งในทางการเมืองแล้วก็จะทำงานคล้ายกับตำรวจสันติบาลในพื้นที่นั่นเอง

“ชัดเจนถ้าเพื่อไทยได้มหาดไทยไป จะคุมกลไกในการเลือกตั้งได้ทั้งหมด มีทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ขณะที่ภูมิใจไทย นั่ง มท.1 ได้ฝ่ายปกครอง แต่ไม่ได้ฐานตำรวจ สันติบาลและทหาร แต่จะมี อสม.และครู กศน.หนุนอยู่บ้าง แต่ อสม.และครูกศน ไม่มีอำนาจ ทำให้คนไม่เกรงใจเหมือนฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร”


ด้าน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ทนายความ อดีต สส.พัทลุง หลายสมัย ระบุว่า กระแสข่าวที่นายทักษิณ แนะเพื่อไทยขอคืนกระทรวงมหาดไทยนั้น เพราะรู้ว่ามหาดไทย มีความสำคัญกับการเลือกตั้ง และ 2 ปีที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยเข้าไปยึดมหาดไทยอย่างเบ็ดเสร็จเช่นการแต่งตั้งผู้ว่าฯ ในสไตล์ของภูมิใจไทย ไม่มีอะไรได้มาฟรี ซึ่งมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าใครที่เติบโตมาในยุคนี้ ต้องมีการตอบแทนในรูปของการเลือกตั้งกันใช่หรือไม่

“ผู้ว่าฯ หลายคนในยุคใหม่ ไม่ใช่เป็นผู้ว่าฯ ของประชาชน แต่เป็นผู้ว่าฯ ของพรรคการเมืองโดยแท้ ซึ่งเรื่องนี้เชื่อว่าเพื่อไทยรู้ จึงไม่ยอมปล่อยให้ภูมิใจไทยคุมและรักษาการไปจนถึงมีการเลือกตั้ง ที่ผมรู้จักผู้ว่าฯ ยุคก่อนๆ จะมีความเป็นกลาง กับทั้งพรรคการเมืองและนักการเมือง ดูไม่รู้เลยว่าเขาหนุนคนไหน พรรคไหน แต่ยุคนี้มันชัดถ้านักการเมืองฝ่ายค้านขึ้นเครื่องบินบันไดหน้า ผู้ว่าฯ จะขึ้นบันไดหลัง ไม่อยากไปเฉียดใกล้ เพราะผู้ว่าฯ สมัยนี้มีเจ้าของ ทำให้ศักดิ์ศรีของผู้ว่าฯ และมหาดไทยลดลงไปเยอะ”

สำหรับผู้ว่าฯ จะตอบแทนในการเลือกตั้งก็เพราะมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นแขนเป็นขาทำงานให้ มีเรื่องของเม็ดเงินเข้ามาเป็นองค์ประกอบด้วย ในอดีตที่ต่างจังหวัด ชุมชน ก็จะมีหอกระจายข่าว ช่วงเช้า ๆ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็จะมากระจายเสียงห้ามการซื้อขายเสียงในหมู่บ้าน ส่วนกลางคืนก็จะมีหน่วยลาดตะเวนเป็น อปพร. จัดทีมมาคุมเพื่อไม่ให้มีการซื้อเสียง แต่ปัจจุบันวัฒนธรรมแบบนี้ หอกระจายเสียง หายกันไปหมดแล้ว

“ภูมิใจไทย โยกย้ายและจัดวางตัวข้าราชการไว้หมดแล้ว หากเพื่อไทยมาคุมมหาดไทย ก็ต้องดูว่าวัฒนธรรมคนมหาดไทยเป็นอย่างไร หรือใครขึ้นมาเป็นนาย ก็ขำขำได้หมด ยิ่งถ้านายคือ มท.1 เป็นพรรคแกนนำรัฐบาล เป็นนายกฯ ด้วย ก็น่าจะตอบสนองได้หมดซึ่งระหว่างพรรคร่วมกับพรรคหลัก เชื่อว่าข้าราชการยินดีไปกับพรรคหลักมากกว่า อยากบอกว่าอำนาจหน้าที่ ไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งพรรคหลักคุมสำนักงานตำรวจ คุมสันติบาล คุมทหารทุกอย่างก็จะหนุนกันไปหมด”


นายนิพิฏฐ์ ยกตัวอย่างที่ประสบพบเห็นมากับตา คือหัวหน้าตำรวจในจังหวัด ระดับผู้การฯ ช่วงก่อนเลือกตั้ง 1 เดือน จะมีจเรตำรวจลงไปตรวจที่พัทลุง ในอดีตจะมีการจัดตำรวจไปอยู่พรรคใหญ่ ๆ พรรคละคน ถ้ามีการซื้อเสียง ก็ใช้ตำรวจที่ไปอยู่จัดการได้ แต่มาถึงยุคนายทักษิณ ก่อนเลือกตั้ง แต่ขอไม่ระบุปีเลือกตั้ง สัก 1 เดือนมีจเรตำรวจไปตรวจราชการที่พัทลุงขึ้นไปที่กองบังคับการ เผอิญผู้การฯ ไม่อยู่ไป กทม. ก็ขอดูหนังสือออกนอกจังหวัด ว่ามีหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มี ก็สั่งลงบันทึกว่า ผู้การตำรวจจังหวัดพัทลุง เดินทางออกจังหวัด ในระหว่างที่มีการเลือกตั้ง โดยไม่ได้รับอนุญาต

จากนั้นมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งผู้การฯ เดิมวางตัวเป็นกลาง ก็มีการบอกกล่าวว่าถ้าไม่อยากให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย อาจถูกโยกย้าย ก็ให้มาช่วยผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ที่ได้รับแต่งตั้งมาแล้ว ในที่สุดผู้การฯ ก็ตกลง

บทสรุปที่ชัดเจนของเรื่องนี้คือทั้งผู้ว่าฯ และผู้การจับมือกัน ปิดหมู่บ้าน ซื้อเสียงแหลกเลย โดยไม่มีใครจับได้ แต่สมัยนั้นคนปักษ์ใต้ ไม่เลือก ‘เงิน’ นักการเมืองคนไหนอยากซื้อก็ซื้อไป แต่ประชาชนไม่เลือก

“มันชัดเจนการใช้อำนาจโดยไม่ชอบธรรมผ่านผู้บริหาร ผ่าน ครม ผ่านรัฐมนตรี มีสูงมาก ถ้าจะทำ ทำได้ทันที ในอดีตก็เคยใช้ กศน.จังหวัดทำโพล โดยให้ครู นักเรียน ทำโพลทุกอาทิตย์ พื้นที่ไหน อำเภอไหน อ่อน ก็จัดคนไปจัดการตามที่โพลระบุ แต่สมัยนี้ไม่มีการใช้ กศน.แล้ว เพราะเชื่อว่าชนะหรือไม่อยู่ที่เงิน ถ้าเงินลงเต็มพื้นที่ คะแนนมาตามเงินที่เยอะกว่า มันตัดสินกันด้วยเงิน พรรคไหนให้เงินมากกว่า คะแนนก็จะมาตามเงิน”

นอกจากนี้ยังใช้สันติบาลทำโพล ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าโพลสันติบาลตรงมาก ทั้งนี้พรรคการเมืองที่คุมสันติบาลก็ไม่ต้องไปเสียค่าจ้างทำโพล เพราะเขาทำอยู่ทุกวัน ในอดีตการเลือกตั้งมักจะใช้กำลังทหาร กอ.รมน.เป็นหน่วยหลักแต่ปัจจุบันกระทรวงมหาดไทย ตำรวจ และกระทรวงสาธารณสุขเป็นกลไกสำคัญสุด

“กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นหัวคะแนน เป็นตัวหลัก จะใช้ฐานของพวกตัวเองซื้อเสียง ยิ่งทุกวันนี้ยิ่งซื้อกันหนัก เช่นพรุ่งนี้เลือกตั้ง คืนนี้จะให้ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วย ไปซื้อเสียงเลย ปัจจุบันไม่มีคืนหมาหอนกันแล้ว เขาใช้หน้าหน่วยเลือกตั้งโอนเข้าบัญชีกันได้เลย และวิธีแบบนี้ มีโอกาสที่จะชนะสูง คือมันมีช่องการใช้เงินซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าไปใช้ข้าราชการกระทรวงอื่น”


นายนิพิฏฐ์ ย้ำว่า การที่เพื่อไทยจะยึดมหาดไทยคืนนั้น จริง ๆ คือต้องการเขี่ยภูมิใจไทยออกไปเป็นฝ่ายค้าน เพราะเขาไม่ไว้วางใจ เป็นขั้นแรก หากได้แล้วก็จะรุกคืบกลับไปจัดการพวก สว.สีน้ำเงิน นั่นคือเป้าหมายสำคัญ เพราะ สว.สีน้ำเงินมีอำนาจเลือกองค์กรอิสระ แต่ทั้งหลายทั้งปวงเพียงแค่สเต็ปแรกคือเพื่อไทยจะยึดมหาดไทยและบีบพรรคภูมิใจไทยออกไปได้สำเร็จหรือไม่?

“สำเร็จหรือไม่อยู่ที่คณิตศาสตร์การเมืองฝ่ายรัฐบาลมี 325 เสียง ฝ่ายค้านมี 170 เสียง ถ้าธรรมนัส พรหมเผ่า พรรคกล้าธรรม วันนี้บอกมี 20 กว่าเสียง และบอกว่ายังมีงูเห่าซ่อนตัวอยู่อีก 20 จริง หากงูเห่าหมายถึงดูดมาจากพลังประชารัฐที่เหลืออยู่ 20 เสียง ก็เท่ากับว่าพลังประชารัฐย้ายมาเป็นฝ่ายรัฐบาลทั้งหมด และยังดูดจากพรรคนั้น พรรคนี้อีก รัฐบาลเพื่อไทยก็น่าจะไปได้ มันน่าคิดเพราะภูมิใจไทยมี 69 เสียง หากจะเตะไปเป็นฝ่ายค้านมันก็น่าคิดนะ”

กระนั้นจึงอยู่ที่นายทักษิณ ประเมินว่าคณิตศาสตร์การเมืองที่อยู่ในมือหากบีบให้ภูมิใจไทยออกไปเป็นฝ่ายค้านแล้วยังเป็นตัวเลขที่ยังขับเคลื่อนได้หรือไม่ หากได้ รัฐบาลแพทองธาร ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ครบ 4ปีจนถึงปี 2570 แต่จากนี้ไปต้องเร่งสร้างผลงานไปอีกสักระยะ อาจจะอีก 1 ปีภายใต้กลไกที่มีฝ่ายปกครอง-ตำรวจ-ทหารและอื่น ๆ ร่วมขับเคลื่อนจนมีความได้เปรียบ ค่อยเลือกยุบสภาจึงมีความเป็นไปได้มากเช่นกัน!

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j