จับตา‘ทักษิณ’ไม่หนีออกนอกประเทศ เชื่อไปฟังการไต่สวนของศาลฯ 13 มิ.ย.แน่‘สุรนันทน์ เวชชาชีวะ’ แจง 5 เหตุผล ในฐานะเคยร่วมรัฐบาลไทยรักไทยและรู้จัก‘คนชินวัตร’ มั่นใจทักษิณสู้ไม่หนีหากหนีนายกฯ อิ๊งค์ ต้องรับเคราะห์กรรม โอกาสถูกคดีความตามมาเพียบและอาจเจอวิกฤตทั้งครอบครัว เพราะเป็นต้นตอให้คู่ต่อสู้ฟื้นคืนเวที
แต่ถึงไม่หนีใช่ว่า‘ทักษิณ-อิ๊งค์’ จะพ้นบ่วงกรรมแนะหนทางรอดต้องประกาศวางมือทางการเมืองดีที่สุด ด้าน‘ชาญชัย อิสระเสนารักษ์’ บอกพวกลิ่วล้อวิ่งหาข้อมูลส่งทักษิณต้องเบ็ดเสร็จภายใน30 พ.ค.นี้ ทั้งจาก ป.ป.ช.และผู้ที่ถูกระบุต้องทำคำชี้แจงต่อศาลฯ กรณีชั้น 14แลกด้วยผลประโยชน์ตอบแทนครั้งนี้‘อย่าหาทำ เพราะทำได้ยาก’ เชื่อทักษิณ มี 2 ทางคือ ถ้าไม่หนี ก็ต้องสู้ให้ชนะ แต่ถ้าหนีก็เพราะมองว่าสู้ไม่ได้!
ประเด็นทางการเมืองที่กำลังกลายเป็นเรื่องพนันขันต่อในวงสนทนาระหว่างเพื่อนสนิทมิตรสหายหนีไม่พ้นว่า ‘ทักษิณ’ หนีหรือไม่หนี กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้โจทก์ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และจำเลย (นายทักษิณ ชินวัตร) แจ้งต่อศาลว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร กับสำเนาคำร้องให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์และนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาล ว่าการดำเนินการเกี่ยวข้องกับการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลย เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาลหรือไม่? และศาลฯ นัดไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย. 2568 เวลา09.30 น.
โดยทุกองค์กรและผู้เกี่ยวข้องจะต้องส่งเอกสารชี้แจงถึงมือศาลฯ ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับคำสั่ง ว่ากันว่าเอกสารสำคัญที่สุด ที่สร้างความหวั่นไหวให้นายทักษิณ ก็คือเอกสารการชี้แจงของ ป.ป.ช.ที่มีการไต่สวนข้อเท็จจริง 12 เจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์กรณีส่งตัวผู้ต้องขัง(ทักษิณ) จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบและให้นายทักษิณ อยู่รักษาจนกระทั่งครบ 180 วัน ทั้งที่ไม่เจ็บป่วยจริง ตามที่สังคมต่างเชื่อกันว่า ‘ป่วยทิพย์’ จะส่งเอกสารรายงานประการใด
อีกทั้งหากนายทักษิณ ไม่สามารถหาพยานหลักฐานต่าง ๆ มาชี้แจงหรือหักล้างได้ จนทำให้ศาลฯ มีคำสั่งว่าที่ผ่านมานายทักษิณยังไม่เคยรับโทษจำคุกตามหมายบังคับโทษของศาลฯ นั่นจะทำให้เขาต้องหนีหรือจะอยู่สู้ และถ้าเลือกที่จะไม่หนี อะไรคือเหตุและปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักสู้อย่าง ‘นายทักษิณ’ ไม่หนี ในทรรศนะอดีตนักการเมืองที่รู้จักและเข้าใจ ‘ชินวัตร’ เป็นอย่างดี รวมทั้ง นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ที่ยื่นเรื่องขอให้ศาลฯ ดำเนินการไต่สวนฯ แต่ศาลวินิจฉัยว่านายชาญชัยมิใช่คู่ความ โดยศาลย่อมมีอำนาจไต่สวนและมีคำสั่งตามที่เห็นสมควรดังกล่าว
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีต รมว.สำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ระบุว่า ‘ถ้าคุณทักษิณหนี ลูกก็ตาย(นายกฯแพทองธาร ชินวัตร) และอาจตายทั้งครอบครัว พร้อมขยายความต่อว่าปัจจุบันคนที่มีอำนาจและศัตรูเก่าของนายทักษิณ เรียกว่าฟื้นคืนขยับเข้าสู่เวทีกันแล้ว และความผิดพลาดครั้งนี้เกิดจากตัวคุณทักษิณ เองทั้งหมด
“กลับมาแล้วยอมอยู่บ้านเฉย ๆ ก็มีคนวิ่งหากันแล้ว ไม่ต้องมาปรากฏตัวให้เป็นข่าวแบบนี้ ก็จะอยู่สบาย ๆ แต่การออกมาลุยในเวทีการเมืองแบบนี้ ยิ่งทำให้คนที่ไม่ไว้ใจคุณทักษิณอยู่แล้ว ฟื้นมารวมตัวต้านกัน ยิ่งมาพูดเรื่องโครงการต่าง ๆ ไม่ว่า digital wallet หรืออาจจะมีผลประโยชน์ซับซ้อน อย่าง entertainment complex หรือกาสิโนหรือเช่าที่ 99 ปี ล้วนแต่เป็นการปลุกให้คนออกมาต่อต้านเยอะ”
ตรงนี้แหละที่ทำให้นายทักษิณ ต้องตกอยู่ในวงล้อมและกระบวนการนิติสงคราม ที่เขาต้องสะดุดขาตัวเองในกรณีชั้น 14
“อย่าลืมทักษิณยังมีเรื่อง 112 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา รวมไปถึงเรื่องของนายกฯ อิ๊งค์ ที่คนไปร้องเรียน ทั้งเรื่องทรัพย์สิน เรื่องที่ดินอัลไพน์ และยังมีเรื่องที่ป.ป.ช.สอบฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 เรื่องไปตัดงบประมาณ 35,000 ล้านบาท ใส่เป็นงบกลางเพื่อแจกโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ที่ต้องถอดถอนทั้งรัฐบาลเศรษฐาและรัฐบาลแพทองธาร ประเด็นเหล่านี้ทำให้ฝั่งตรงข้ามตีกรอบคุณทักษิณ ดูได้จากที่ศาลไม่อนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศ”
นายสุรนันทน์ บอกอีกว่า สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ฝ่ายตรงข้ามนายทักษิณ ก็ต้องอยากให้นายทักษิณเลือกที่จะหลบหนีออกนอกประเทศ แล้วถ้านายทักษิณ เลือกหนีอะไรจะเกิดขึ้นตามมาบ้าง ซึ่งในความเห็นส่วนตัวและมองอย่างมีตรรกะ เชื่อว่าคนอย่างนายทักษิณ เป็นนักสู้ และนายกฯอิ๊งค์ ก็มีเลือดนักสู้เหมือนนายทักษิณ รวมทั้งถ้าเขามั่นใจว่าเขาไม่ผิดและมั่นใจในคำตัดสินของศาลฯ เป็นคุณมากกว่าเป็นโทษเขาจะต้องเดินหน้าสู้ ไม่หลบหนี เพราะถ้าเขาหนี นายกฯอิ๊งค์ จะอยู่อย่างไรต่อไป เรียกว่าหมดสภาพเลยเพราะส่วนตัวเชื่อว่านายทักษิณยังอยากให้อุ๊งอิ๊งค์เป็นนายกฯ ต่อไป
“เวลานี้ไม่มีใครรู้ว่าศาลฯ จะวินิจฉัยอย่างไร สมมุติว่ารอด แล้วข้าราชการ 12 คนที่ปรากฏชื่อ ป.ป.ช.สอบอยู่มีความผิด เชื่อเถอะ จะมีขบวนการเดินหน้า เพื่อร้องเอาผิดรมว.ทวี สอดส่อง ที่คุม ก.ยุติธรรม หรือร้องเอาผิดนายกฯอิ๊งค์ ย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นได้ เพราะสังคมเชื่อไปแล้วว่า ป่วยทิพย์ เวลานั้นอาจจะต้องขึ้นศาลอาญานักการเมืองอีกรอบหรือไม่
หรือถ้าศาลฯ ไต่สวนว่าไม่ป่วยจริง ก็จะมีคนไปร้องต่อว่า นายกฯอิ๊งค์ ให้สัมภาษณ์ว่า ป่วยจริง ก็เป็นการพูดเท็จ ก็จะมีขบวนการเอาผิดเดินหน้าต่อ”
รวมทั้งนายทักษิณ อายุ 75 ปีแล้ว หากต้องกลับไปรับโทษ ซึ่งในระเบียบราชทัณฑ์มีรองรับเขาอาจติดกำไล EM และกักตัวที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ก็ดีกว่าที่ต้องไปอยู่ต่างประเทศ เพราะเขาจะได้ช่วยประคองนายกฯ อิ๊งค์ ในการบริหารประเทศได้ด้วย แต่ถ้าเขาเลือกที่จะหนี นายกฯ อิ๊งค์และรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน เชื่อว่านายทักษิณ น่าจะประเมินและเลือกทางเดินไว้แล้ว
“ยิ่งหนี ยิ่งเสี่ยง ทั้งเรื่องธุรกิจครอบครัว แต่ถ้าไม่หนีก็ใช่ว่าจะพ้นบ่วงกรรมเพราะต้องมีอะไรตามมาอีกมากมาย หากใส่กำไล EM แล้วกักตัวที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่ใช่เรือนจำ”
นายสุรนันทน์ ระบุว่า นายทักษิณ จะรอดหรือไม่รอด ต้องรอฟังศาลฯ วันที่ 13 มิ.ย. ส่วนตัวยังเชื่อว่านายทักษิณ จะร้องขอให้มีการไต่สวนพยานเพิ่มเติม แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลว่าจะให้ หรือไม่ให้อย่างไร สมมุติว่าเขาอาจจะอ้างว่าคำตัดสินของแพทยสภายังไม่สิ้นสุด ซึ่งจริง ๆ ที่แพทยสภาตัดสินเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ก็น่าจะสิ้นสุดแต่มีขั้นตอนที่แพทยสภามีหน้าที่ต้องเสนอมติต่อสภานายกพิเศษ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข) ซึ่งมีสิทธิวีโต้ได้ และทางสภานายกพิเศษน่าจะตอบกลับแพทยสภาได้ประมาณ 29 พ.ค.นี้
ขณะเดียวกันแพทย์ 3 คนที่แพทยสภามีมติลงโทษนั้น หากเชื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ยังมีกระบวนการที่จะไปฟ้องศาลปกครองต่อได้ เรื่องจึงยังไม่ถึงที่สุด แต่ทั้งหมดก็อยู่ที่ศาลฯ จะวินิจฉัยทั้งสิ้น
“ดูแนวโน้ม คุณทักษิณน่าจะเผชิญศึกหนัก ถึงแม้จะรอด แต่ในทางสังคมเชื่อไปแล้วว่าป่วยทิพย์ หากไม่ต้องติดคุก ส่งผลให้
ต้นทุนทางการเมืองของคุณทักษิณจะลดลง ยิ่งถ้ารอด ฝ่ายศัตรู ก็จะยิ่งถาโถม เพราะหากนักการเมืองรอด แต่ข้าราชการต้องติดบ่วง ต่อไประบบราชการก็จะไม่ทำงานเพราะคนที่ทำงานให้นักการเมืองติดคุก”
นายสุรนันทน์ บอกว่า สถานการณ์มาถึงวันนี้ ก็อยากให้พรรคเพื่อไทย และครอบครัวนายทักษิณ ชินวัตร ต้องรู้จักเสียสละบางอย่างเพื่อให้ประชาธิปไตยมันเดินต่อไปได้ ซึ่งมันดีกว่าที่นายทักษิณ เล่นเกมต่อสู้ทางการเมือง จนทำให้ระบบประชาธิปไตยพังไปต่อหน้าต่อตา
“คำว่าเสียสละ คือวางมือทางการเมือง และหากลูกสาวเป็นนายกฯ ต่อไม่ไหวก็เลือกยุบสภาเพื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันใหม่ และอุ๊งอิ๊งค์ ก็ยังไม่ควรที่จะเป็นแคนดิเดตนายกช่วงนั้น ส่วนคุณทักษิณ ถ้าไม่เดินหาเสียงและไม่ตอบโต้ คนที่วิพากษ์วิจารณ์หรือศัตรูทางการเมืองก็จะลดลงไปเช่นกัน ส่วนถ้าไม่เลือกยุบสภา อุ๊งอิ๊งค์ก็เลือกลาออกไปและให้สภา หานายกฯ คนใหม่ต่อไปน่าจะดีต่อสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้”
ส่วนในอนาคตนายกฯ อิ๊งค์ จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งก็ได้เพียงแต่ใช้เวลานี้กลับไปฝึกวิทยายุทธ์ ให้มันเข้มแข็งและรอบด้านค่อยกลับสู่สนามการเมือง เพราะวันนี้เขายังไม่พร้อมกับตำแหน่งนายกฯ ไม่สามารถสร้างความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นได้ ดูได้จากเศรษฐกิจ ซึ่งนายทักษิณก็รู้ว่า ถ้าขาดความเชื่อมั่น คนก็กลัวไปหมด และไม่มีใครกล้าใช้เงิน
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าหากนายทักษิณ ไม่ออกมาหาเสียงแสดงตัวทางการเมือง ก็ยังเชื่อว่าจะมีกลุ่มคนต่าง ๆ ไปปรึกษาทั้งทางการเมืองและทางธุรกิจแน่นอน เพราะคนยังเชื่อในเรื่องความเก่งและ connection ของนายทักษิณ ซึ่งนายทักษิณก็จะสามารถมีบทบาทเท่าที่มีได้ในการช่วยประเทศ แต่ไม่จำเป็นต้องออกมาเป็นสายล่อฟ้า
“คุณทักษิณ เป็นนักสู้ นายกฯ อิ๊งค์ ก็เหมือนพ่อ แต่บางครั้ง การสู้หัวชนฝา มันไม่ได้เจ็บแต่ตัว แต่มันทำร้ายประเทศชาติด้วยนะ หากรัฐบาลนี้ยังอยู่ต่อไป จะเจอม็อบเศรษฐกิจ เพราะทุกวันนี้ชนชั้นกลาง ที่เป็นหนี้เป็นสินเยอะมาก หากเขาเลือกลงถนนล่ะ เป็นม็อบเศรษฐกิจ และรวมกับม็อบชาวไร่ ชาวนา มันเป็นเรื่องปากท้อง จะเอาไม่อยู่จริง ๆ นะ”
พร้อมกันนั้นยังอยากให้รัฐบาลยอมถอยบางเรื่องเช่น entertainment complex คนต่อต้านเยอะมาก ถ้ายังดื้อดึงจะทำให้ได้ ก็จะนำไปสู่วังวนเดิม เพราะคนไม่ไว้วางใจและไม่เห็นด้วยว่าเรื่องนี้ต้องมีผลประโยชน์ทับซ้อน หรือจะเลือกยุบสภา และนำเรื่อง entertainment complex บวกกาสิโน เป็นนโยบายหาเสียง เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ ว่า จะเอาหรือไม่เอาอย่างไร
นายสุรนันทน์ ย้ำด้วยว่าบทความของอาจารย์คมสัน โพธิ์คง ที่เชื่อว่านายทักษิณ ต้องหนีแน่ ๆ เพราะอาจารย์มองการต่อสู้ในข้อกฎหมายดูแล้วไม่เป็นคุณกับนายทักษิณ ซึ่งทั้งนายสุรนันทน์ และอาจารย์คมสัน ก็ได้มานั่งคุยแลกเปลี่ยนประเด็นหนีหรือไม่หนี ซึ่งในทางส่วนตัวเคยร่วมงานกับทางนายทักษิณ และคนในชินวัตร และมองในเชิงตรรกะยังเชื่อมั่นว่า ‘ไมหนี’ เพราะ
1.นายทักษิณ คิดว่า ตนเองเป็นนักสู้
2.นายทักษิณ คิดว่า ตัวเองไม่ผิด และสามารถชี้แจงได้
3.ลูกสาวนายทักษิณ ดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ
4. สำคัญที่สุด ถ้านายทักษิณ หนี ลูกสาวโดนถล่มไม่สามารถเป็นนายกฯ ต่อต้องลาออกอย่างเดียว โอกาสจะถูกคดีตามมาก็ได้
5. ถ้าไม่รอด ใส่กำไลEM ยอมติดคุกอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า อย่างน้อย 6 เดือน ย่อมดีกว่าหลบหนีและไม่มีโอกาสได้กลับมาอีกเลย
ด้าน นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า นายทักษิณ จะหนีหรือไม่หนี ต้องมองที่นิสัยหรือพฤติกรรมของนายทักษิณ จะไม่ยอมติดคุกแน่ แต่ถ้าจะถามต่อว่า เขาผิดหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าผิด เพราะไม่ยอมติดคุกตามคำสั่งศาลฯ
“ถ้าคิดว่าจะใช้วิธีเคลียร์ บอกว่าครั้งนี้ยากมาก เพราะมีองค์กรและบุคคลเข้ามาเกี่ยวจำนวนมาก มันไม่ใช่คดีระหว่างโจทก์และจำเลยที่ฟ้องกันส่วนตัวแบบนี้มันยอมความและถอนคดีมันง่าย แต่คดีที่ศาลฯ จะวินิจฉัยวันที่ 13 มิ.ย.นี้ เป็นเรื่องของการทำลายระบบและความชอบธรรมของประเทศนะ”
ดังนั้นการที่นายทักษิณ จะหนีหรือไม่หนี อยู่ที่ว่าข้อมูลที่เขากำลังวิ่งหาและจะได้รับทั้งหมดก่อนสิ้นเดือน พ.ค.นี้ จากนั้นเขาจะประเมินว่าเป็นคุณหรือเป็นโทษกับเขา คือถ้าเลือกที่จะไม่หนีออกนอกประเทศ เขาก็ต้องมั่นใจ และต้องต่อสู้ให้ชนะ แต่ถ้าเขาตัดสินใจหนี ก็เพราะข้อมูลที่ได้มานั้นเป็นเหตุเป็นผลว่าสู้ไม่ได้ จึงเลือกที่จะหนีดีกว่า
“ถ้าทักษิณ หนี อุ๊งอิ๊งค์ อยู่ไม่ได้หรอก ยังเจอเรื่องเศรษฐกิจ ก็เอาตัวไม่รอดแล้ว และถ้าพ่อหนีอีก อาจโดนข้อหา สมรู้ร่วมคิด รู้เห็นเป็นใจ คดีจริยธรรมนักการเมืองจะตามมา อย่าลืมนะคุณเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปล่อยให้นายทักษิณทำผิดกฎหมาย การเป็นนายกฯ ของคุณ ก็กลายเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็จะมีเรื่องตามไป”
นายชาญชัย ย้ำว่า ถ้านายทักษิณ หนี นายกฯอิ๊งค์ ก็จะโดนเช็กบิลแน่นอน และยังมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเชื่อว่าการไต่สวนของศาลฯ ในวันที่ 13 มิ.ย.ก็คาดการณ์ว่าศาลฯ จะมีอีก 1 นัดเพื่อฟังคำตัดสินต่อไป ซึ่งในวันที่ 13 มิย.นายทักษิณน่าจะประเมินได้แล้วว่าการไต่สวนเป็นคุณกับตัวเขาหรือไม่
“ภายในวันที่ 30 พ.ค.ผมเชื่อว่านายทักษิณ พอจะประเมินได้ว่าทิศทางการตัดสินคดีจะเป็นอย่างไร ผมได้ข่าวมาว่า ลูกน้องพวกที่เชลียร์ ได้ไปหาข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ก็อยากเตือนว่าครั้งนี้ไม่ง่าย พวกที่ชอบส่งข่าวให้ เพราะเห็นแก่เงิน ไปเอาข้อมูลไปขายให้ทักษิณ ครั้งนี้ทำได้ยาก เพราะหลักฐานทุกอย่างต้องเปิดเผย ถ้าไม่หนี ก็ต้องสู้ให้ชนะ แต่ถ้าหนี ก็เพราะมองว่าสู้ไม่ได้”
สำหรับคดีนี้จะส่งผลให้นายทักษิณ รอดหรือไม่รอดและเลือกที่จะหนีหรือไม่หนีก็อยู่ที่คำวินิจฉัยของศาลฯ ในวันที่ 13 มิ.ย.ที่สังคมต้องจับตาต่อไป!
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j