“รศ.ดร.พิชาย” ระบุ นโยบาย“สถานบันเทิงครบวงจร”ทำการเมืองไทยสั่นสะเทือน ชี้“ภูมิใจไทย”ประกาศต้านกาสิโน หวังชิงคะแนนเสียงกลุ่มอนุรักษ์ เปลี่ยนภาพจาก“พรรคบ้านใหญ่”เป็นพรรคอุดมการณ์ เปลี่ยนสถานะจาก“พรรคขั้วกลาง”ที่เป็นได้แค่พรรคร่วม สู่“แกนนำรัฐบาล” ดัน“ลูกเนวิน”นั่งนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ขณะที่“รวมไทยสร้างชาติ”ไร้ทางเลือก จำใจหนุนกาสิโน กลัวถูกเขี่ยพ้นพรรคร่วม เชื่อ “พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” แท้งกลางสภา เหตุเจอแรงต้านจากทุกสารทิศ
ขณะที่กระแสต่อต้านกาสิโนที่จะเกิดขึ้นภายใต้“พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ดังกระหึ่มในทุกภาคส่วนของสังคม ท่าทีของพรรคการเมืองต่างๆที่มีต่อเรื่องนี้ก็กำลังเป็นที่จับตามองจากประชาชนเช่นกัน และปฏิเสธไม่ได้ว่าประเด็นดังกล่าวอาจมีผลต่อคะแนนนิยมของพรรคการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า !
ส่วนว่าแต่ละพรรคมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างไร อีกทั้งการสนับสนุนหรือคัดค้านเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนจริงหรือไม่ ? คงต้องไปไล่เรียงกัน
รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ตผู้อำนวยการหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) มองว่า พรรคที่หนุนกาสิโนอย่างชัดเจนก็คือพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นผู้เสนอโครงการและ ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ส่วนพรรคที่ร่วมสนับสนุนได้แก่ พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา ที่นำโดย นายวราวุธ ศิลปอาชา ก็น่าจะสนับสนุนเช่นกัน
ส่วนพรรคที่เสียงยังไม่เป็นเอกภาพ ได้แก่ พรรคประชาชาติ ซึ่งปรากฏว่าเสียงแตก โดยบางส่วนที่เป็นมุสลิมนั้นไม่ค่อยเห็นด้วยกับกาสิโน , พรรคประชาธิปัตย์ ภายในพรรคจะแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ โดยในกลุ่มของนายเฉลิมชัยนั้นจริงๆแล้วเห็นด้วยกับกาสิโนแต่เนื่องจากกระแสสังคมต่อต้านอย่างหนักจึงยังแทงกั๊กอยู่ ขณะที่กลุ่มของนายชวนประกาศท่าทีชัดเจนว่าไม่เอากาสิโน แต่ที่ฮือฮาที่สุดคงหนีไม่พ้นพรรคภูมิใจไทยซึ่ง นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ประกาศชัดเจนว่าไม่สนับสนุนกาสิโน แต่ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ออกมาปฏิเสธว่าความเห็นของนายไชยชนกเป็นเพียงความเห็นส่วนตัว
สำหรับพรรคฝ่ายค้านนั้นชัดเจนว่าไม่มีพรรคใดให้การสนับสนุน พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาชน หรือพรรคพลังประชารัฐ เพราะนโยบายกาสิโนของพรรคเพื่อไทยนั้นสุ่มเสี่ยงมากทั้งในแง่เนื้อหาสาระและกระบวนการต่างๆ
ประเด็นที่น่าจับตาอย่างยิ่งคือท่าทีของพรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งนายไชยชนก ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ออกมาประกาศต่อต้านโครงการกาสิโนกลางสภา ซึ่งเท่ากับเป็นการตบหน้านายกฯแพทองธาร ชินวันวัตร ลูกสาวทักษิณ นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทย โดย “รศ.ดร.พิชาย” มองว่า นี่คือการประกาศหักกับพรรคเพื่อไทยเพื่อช่วงชิงการนำในสนามการเมือง แม้ว่านายอนุทินจะเห็นด้วยกับกาสิโน แต่ก็เป็นเพียงความเห็นของส่วนตัว เพราะถ้าไปดูไส้ในจะพบว่านายอนุทินเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็จริง แต่ฐานการเมืองของภูมิใจไทยส่วนใหญ่อยู่กับนายเนวิน ขณะที่นายไชยชนกซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคออกมาต่อต้านกาสิโน พร้อมกับประกาศว่าเป็นลูกของนายเนวิน จึงตีความได้ว่า สส.ปีกเนวินคงไม่เห็นด้วยกับกาสิโน และ สส.ปีกเนวินก็คือเกือบทั้งหมดของภูมิใจไทย
ซึ่งเหตุผลที่ภูมิใจไทยไม่สนับสนุนกาสิโนก็เพราะมองเรื่องคะแนนเสียงเป็นหลัก เนื่องจากภูมิใจไทยกำลังวางเกมสร้างภาพลักษณ์ โดยจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ จาก“พรรคบ้านใหญ่”เป็น“พรรคในเชิงอุดมการณ์” โดยเฉพาะอุดมการณ์อนุรักษ์นิยม จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาภูมิใจไทยจะมีท่าทีในลักษณะนี้มาตลอด คือไม่สนับสนุนสิ่งที่มวลชนฝ่ายอนุรักษ์นิยมไม่เห็นด้วย และไม่แตะนโยบายที่กระทบโครงสร้างอำนาจ ไม่ว่าจะเป็น การแก้รัฐธรรมนูญ การปฏิรูปกองทัพ รวมถึงนโยบายที่กระทบต่อศีลธรรม เพื่อที่จะปรับภาพลักษณ์ของพรรคให้เป็นพรรคที่สนับสนุนศีลธรรม เพื่อเอาใจกลุ่มอนุรักษ์นิยม
“ตอนนี้พรรคภูมิใจไทยเปลี่ยนจุดยืนทางยุทธศาสตร์ใหม่ จากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เป็นพรรคแกนนำรัฐบาล โดยต้องแข่งกับพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก แต่ภาพลักษณ์เดิมของภูมิใจไทยนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะเรื่องการสนับสนุนกัญชาเสรี ครั้งนี้จึงต้องปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์เพื่อดึงคะแนนเสียงจากกลุ่มอนุรักษ์ เพื่อปูทางไปสู่การเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้า และคนที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯของภูมิใจไทยก็ต้องมีคะแนนนิยมมากพอสมควร” รศ.ดร.พิชาย ระบุ
รศ.ดร.พิชาย กล่าวต่อว่า เนื่องจากภูมิใจไทยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนบทบาทจาก‘พรรคขั้วกลาง’ที่สามารถจับมือกับพรรคไหนก็ได้เพื่อจัดตั้งรัฐบาล มาเป็น‘พรรคแกนนำ’ในการจัดตั้งรัฐบาล และผลักดันให้แคนดิเดตของพรรคขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์ ไม่ใช่พรรคบ้านใหญ่เหมือนที่ผ่านมา เพราะคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้นอกจากต้องมาจากพรรคที่มีจำนวน สส.มากพอแล้ว ยังต้องเป็นผู้ที่ได้รับความนิยมจากประชาชนด้วย
โดยจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาผู้ที่เป็นนายกรัฐมนตรีต้องมีคะแนนนิยมไม่ต่ำว่า 10% ซึ่งจากการสำรวจความเห็นของประชาชนพบว่าทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ล้วนมีคะแนนนนิยม 20-30% ในช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ภายหลังคะแนนนิยมจะลดลงก็ตาม ดังนั้นในการเลือกตั้งปี 2570 หากพรรคภูมิใจไทยต้องการจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ผู้ที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็น นายอนุทิน หรือนายไชยชนก ก็ต้องมีคะแนนนิยมไม่ต่ำกว่า 10% แต่จากการสำรวจความเห็นของนิด้าโพลพบว่า นายอนุทินได้รับคะแนนนิยมเพียง 3% กว่าๆ ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็มีคะแนนนิยมแค่ 3% กว่าๆเช่นกัน ซึ่งคะแนนนิยมในระดับนี้ยากที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะประชาชนไม่ให้การสนับสนุน จึงต้องสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนมากยิ่งขึ้น
กรณีที่สร้างความแปลกใจให้สังคมอย่างมากคือท่าทีของ นายพีระพันธุ์ ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่กล่าวถึงจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติต่อร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ว่า เหมือนเดิม อะไรที่ไม่ผิดกฎหมายเราก็ไม่มีปัญหา เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องเป็นเป็นไปตามมติของพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เราเป็นพรรคร่วม และมีประเด็นที่เราเคยให้ปรับปรุง เขาก็ปรับปรุง และเมื่อปรับปรุงแล้วก็พอรับได้
เพราะนี่คือท่าทีที่ตอบรับว่ารวมไทยสร้างชาติสนับสนุน พ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในขณะที่มวลชนที่สนับสนุนพรรคล้วนต่อต้านกาสิโน จึงนำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนเกิดเสียงเล่าลือว่ามวลชนบางส่วนอาจถึงขั้นเลิกสนับสนุนพรรคเลยทีเดียว
รศ.ดร.พิชาย ชี้ว่า หากพิจารณาท่าทีของพรรครวมไทยสร้างชาติในช่วงที่ผ่านมาก็ไม่แปลกที่รวมไทยสร้างชาติจะสนับสนุนกาสิโน เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เคยสนับสนุนเรื่องนี้ ประเด็นกาสิโนนั้นในทางการเมืองหลายๆพรรคก็ปากว่าตาขยิบ ในขณะที่ยังไม่มีกระแสต่อต้านเขาก็อาจพูดว่าสนับสนุนกาสิโนเพื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่พอมีกระแสต้านก็จะเปลี่ยนท่าทีทันที โดยเฉพาะกระแสต่อต้านจากชนชั้นกลาง คือนักการเมืองจะฟังกลุ่มที่เป็นฐานเสียงของพรรคเป็นหลัก ซึ่งกรณีของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้นเขาไม่อยู่ในฐานะที่จะแข่งขันขึ้นมาเป็นพรรคแกนนำ เนื่องจากพรรคที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้ต้องมีคะแนนนิยมในภาพกว้าง 30-40% ขึ้นไป และต้องมีความแข็งแกร่งของ สส.ระดับเขต แต่รวมไทยสร้างชาติไม่มีตรงนี้ ซึ่งแม้นายพีระพันธ์จะได้คะแนนนิยมมากกว่านายอนุทิน คือมีคะแนนนิยม 7-8% แต่ก็ยังไม่มากพอ ขณะที่ฐานเสียงระดับพื้นที่ รวมไทยสร้างชาติก็ยังไม่มี สส.ที่มีฐานเสียงแข็งแกร่ง กลุ่มทุนที่เคยสนับสนุนพรรคตอนนี้ก็ย้ายไปอยู่กับทักษิณซึ่งเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริงแล้ว
คือพรรครวมไทยสร้างชาติอาจไม่ได้หวังคะแนนในการเลือกตั้งครั้งหน้า แค่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต่อไปเรื่อยๆ โอกาสที่รวมไทยสร้างชาติจะขยายต่อไปในอนาคตแทบเป็นไปไม่ได้เลย ในการเลือกตั้งปี 2566 รวมไทยสร้างชาติได้มา 30 กว่าเสียง ซึ่งครึ่งหนึ่งได้มาจากบารมีของ พล.อ.ประยุทธ์ อีกครึ่งหนึ่งก็ได้มาจากทรัพยากรในสนาม แต่ตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่อยู่แล้ว กลุ่มทุนก็ไปแล้ว คือนายพีระพันธุ์ก็พยายามแก้ไขปัญหาเรื่องพลังงาน แต่การจะยืนอยู่ในสนามการเมืองนั้นแค่นโยบายเดียวมันไม่ได้สร้างผลกระทบอะไรมาก อาจจะทำให้พรรคทรงๆอยู่ แต่ไม่ได้ทำให้พรรคมีความแข็งแกร่งขึ้น ที่ผ่านมาเขาก็พยายามทำเรื่องพลังงานแต่มันยังทำไม่ได้ ก็สะท้อนว่าศักยภาพที่จะขับเคลื่อนนโยบายนั้นมีน้อย จึงยังไม่ได้คะแนนนิยม
“ การที่รวมไทยสร้างชาติมีท่าทีสนับสนุนกาสิโนอาจเป็นเพราะไม่อยากขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทย อยากจะประคับประคองกันไป ถ้าพูดอะไรที่ทำให้เกิดความขัดแย้งเขาก็ไม่มีอะไรมาต่อรองกับพรรคเพื่อไทย รวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคที่มีความอ่อนไหวที่จะถูกปรับออกได้ง่ายอยู่แล้วเพราะมีแค่ 30 กว่าเสียง ปรับออกไปก็ไม่กระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล ต่างจากภูมิใจไทยที่มี 70 เสียง จึงแสดงท่าทีแข็งกร้าวได้ เพราะยังไงเพื่อไทยก็ยังต้องง้ออยู่ แต่ 30 เสียงเนี่ยขืนพูดอะไรที่ตรงข้ามกับพรรคเพื่อไทยก็อาจจะถูกเขี่ยได้ง่ายๆ ” รศ.ดร.พิชาย กล่าว
ทั้งนี้ “รศ.ดร.พิชาย” เชื่อว่าประเด็นเรื่องกาสิโนไม่น่าจะส่งผลต่อคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้ามากนัก เพราะการที่ประชาชนจะลงคะแนนเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งนั้นไม่ได้ตัดสินใจจากนโยบายใดนโยบายหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่จะพิจารณาจากภาพรวม ทั้งตัวหัวหน้าพรรค และนโยบายต่างๆ ก็จะเอามาชั่งน้ำหนัก อย่างน้อย 4-5 นโยบาย เขาอาจจะไม่เห็นด้วยกับกาสิโน แต่เห็นด้วยกับนโยบายอื่นๆของพรรค เขาอาจจะสนับสนุนพรรคนั้นๆก็ได้ แต่หากเป็นนโยบายเชิงกระแสหรือเชิงจุดยืนทางการเมือง ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้งจะมีความสำคัญมาก อาจทำให้พรรคใดพรรคหนึ่งที่ชูธงนโยบายซึ่งโดนใจประชาชนได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
“ เท่าที่ดูผลโพลตอนนี้คนที่ไม่เห็นด้วยกับกาสิโนมีถึง 80 กว่า% ดังนั้นถ้าพรรคไหนประกาศว่าสนับสนุนกาสิโนก็คงกังวลว่าจะเสียคะแนนนิยม ยกเว้นเพื่อไทยซึ่งเลี่ยงตอบเป็นอย่างอื่นไม่ได้เพราะเขาเป็นเจ้าของโครงการนี้ ก็ต้องยืนยันว่าตัวเองหนุนกาสิโน ส่วนพรรคอื่นก็คงจะแทงกั๊ก หรือปฏิเสธได้ก็จะปฏิเสธ ” รศ.ดร.พิชาย กล่าว
อย่างไรก็ดี “รศ.ดร.พิชาย” เชื่อว่า พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่น่าผ่านการพิจารณาของสภา เนื่องจากกระแสต่อต้านแรงมากและเป็นการลุกขึ้นต่อต้านจากภาคประชาสังคม ทั้งองค์กรของทุกศาสนา กลุ่มวิชาชีพต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มแพทย์และบุคลากรด้านสาธารสุข ซึ่งหากปล่อยให้ พ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสภาก็อาจจะมีกลุ่มวิชาชีพอื่นๆออกมาต่อต้านมากยิ่งขึ้น แรงกดดันจากนอกสภาก็จะเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยที่จะนำประเด็นเรื่องกาสิโนมาคัดค้านเพื่อสร้างคะแนนนิยม ซึ่งเขาประเมินว่านี่คือกระบวนการหนึ่งในการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์จาก“พรรคบ้านใหญ่”เป็น“พรรคในเชิงอุดมการณ์” นอกจากนั้นพรรคประชาชาติซึ่งมีพี่น้องชาวมุสลิมเป็นฐานเสียงก็อาจจะคัดค้านด้วย ส่วนพรรคฝ่ายค้าน ทั้งพรรคประชาชน พรรคพลังประชารัฐ นั้นคัดค้านอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีกลุ่ม สว.ที่ประกาศคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวอย่างชัดเจน
“ พ.ร.บ.กาสิโน ท่าจะไปไม่รอดนะ เพราะถูกคัดค้านจากทุกภาคส่วน ที่ต้องจับตาคือกลุ่ม สว.ซึ่งออกมาคัดค้านเรื่องนี้ พร้อมกับขู่ว่าถ้าใครยกมือสนับสนุน พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะยื่นสอบจริยธรรม ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็พยายามจะเปลี่ยนกรอบความคิดของประชาชนว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่กาสิโน แต่เป็นสถานบันเทิงครบวงจรซึ่งมีกาสิโนเป็นส่วนเล็กๆ แต่ประชาชนรู้ทันว่าเป้าหมายหลักของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ก็คือกาสิโน เพราะถ้าไม่มีกาสิโนก็ไม่จำเป็นต้องออกกฎหมายมารองรับ เพราะปัจจุบันถ้าเป็นสถานบันเทิงครบวงจรที่ไม่มีกาสิโนก็สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องออกกฎหมายอะไร ” รศ.ดร.พิชาย ระบุ
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j