“ศิริกัญญา” ลั่นอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนื้ ประเด็น “ชั้น 14” มาแน่! ไล่เช็กบิล “นายกฯ แพทองธาร” กรณีปูนบำเหน็จให้แก่คนที่ช่วยเหลือทักษิณ จี้ถามโครงการ “กาสิโน” ผลประโยชน์ทับซ้อน-เอื้อกลุ่มทุน รวมถึงไร้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ด้าน “นิพิฏฐ์” ชี้ “นายกฯ อุ๊งอิ๊ง” คือจุดอ่อน เชื่อถ้าฝ่ายค้านชกเต็มหมัด “กรณีชั้น 14” คะแนนพุ่งชัวร์ มั่นใจ ไม่มีการ “ยุบสภา” หลังอภิปราย เหตุพรรคร่วมต้องการดันโครงการ “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ให้แล้วเสร็จก่อน เพราะนี่คือแหล่งทุนที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
น่าจับตาอย่างยิ่งสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.2568 นี้ ซึ่งฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคประชาชนจะมุ่งอภิปราย “น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว
ส่วนว่าจะอภิปรายในประเด็นใดบ้างนั้นคงต้องไปฟังการชี้แจงจากแกนนำพรรคประชาชน
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เราคัดเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีโดยตรงและเป็นปัญหาที่รุนแรงถึงขั้นที่ไม่สามารถไว้วางใจให้นายกฯ แพทองธารบริหารงานต่อไปได้ ส่วนเรื่องความผิดพลาดในการบริหารงานที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีท่านอื่นๆ เราจะไปใช้โอกาสในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติแทน
โดยหนึ่งในประเด็นที่จะถูกบรรจุอยู่ในญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่ๆ คือเรื่องความผิดพลาดในการบริหารเศรษฐกิจ ซึ่งฝ่ายค้านจะอภิปรายให้เห็นว่าตลอด 6 เดือนที่ น.ส.แพทองธารเข้าบริหารงานในฐานะนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของเศรษฐกิจไทยและได้พิสูจน์แล้วว่านายกฯ แพทองธารไม่สามารถบริหารเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ อีกทั้งนโยบายสำคัญๆ ที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงไว้ก็ไม่ได้ดำเนินการ แต่กลับดำเนินการในเรื่องที่ไม่สำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย และมีแนวโน้มว่าจะก่อให้เกิดปัญหาในอนาคต อย่างโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือกาสิโนถูกกฎหมาย ซึ่งทุกคนทราบดีว่าไม่ได้อยู่ในนโยบายที่เพื่อไทยหาเสียงไว้ด้วยซ้ำ อีกทั้งคาดว่าโครงการนี้คงไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ในรัฐบาลชุดนี้ แต่รัฐบาลกลับเร่งรีบดำเนินการเพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อน
“เชื่อว่าตอกเสาเข็มกาสิโนแห่งแรกไม่ทันในรัฐบาลนี้แน่ แต่ยังมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ให้ได้ เราจึงคิดว่ามันน่าจะมีผลประโยชน์อะไรบางอย่างอยู่เบื้องหลัง แต่เรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างเรื่องปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำอยู่ตอนนี้รัฐบาลกลับให้ความสนใจน้อยมากและไม่ได้ทำอะไรที่จะทำให้ประชาชนกลับมาเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทยเลย เรื่องที่หาเสียงไว้กลับไม่ทำ แต่ไปทำเรื่องหาเงิน เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนซึ่งอาจจะเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนบางรายหรือคนบางกลุ่ม” รองหัวหน้าพรรคประชาชน ระบุ
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า กรณีชั้น 14 ก็เป็นประเด็นหนึ่งที่ฝ่ายค้านจะหยิบยกขึ้นมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากเป็นประเด็นไม่เป็นธรรมในสังคม เป็นเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน ซึ่งแน่นอนว่าครั้งนี้เราจะอภิปรายพุ่งตรงไปที่นายกฯ แพทองธาร จากเดิมที่จะอภิปราย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จากพรรคประชาชาติ แต่เมื่อตัดสินใจว่าอภิปรายนายกฯ คนเดียวก็ต้องชี้ให้เห็นว่ากรณีนี้เกี่ยวข้องกับนายกฯ ในเรื่องใดบ้าง
“แม้ว่าช่วงที่คุณทักษิณไม่ต้องเข้าไปรับโทษในเรือนจำจะเป็นช่วงที่ คุณเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เราจะฉายให้เห็นว่าเมื่อ น.ส.แพทองธารเข้ามารับตำแหน่งนายกฯ แล้วมีเรื่องใดบ้างเกี่ยวกับกรณีชั้น 14 ที่ควรทำแต่ไม่ได้ทำ หรือมีการใช้อำนาจต่างตอบแทนอย่างไรบ้างหลังจากที่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อที่จะปูนบำเหน็จให้แก่คนที่ช่วยเหลือคุณทักษิณ” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาชน ยังได้แสดงความเห็นถึงบทบาทของ น.ส.แพทองธาร ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของไทย ว่า ที่ผ่านมานายกฯ แพทองธารได้รับการประคบประหงมจากคนรอบข้างจนลอยตัวอยู่เหนือปัญหาและไม่ได้ตัดสินใจเรื่องต่างๆ เอง ประกอบกับบุคลิกที่ไม่มีความเป็นผู้นำจึงน่าเสียดายโอกาสในหลายครั้งที่นายกฯ ได้เดินทางไปพบปะกับบรรดาผู้นำประเทศต่างๆ อย่างเมื่อครั้งที่นายกฯ แพทองธารได้ให้สัมภาษณ์ Forbes Media ในงาน Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ซึ่งเป็นเวทีที่มีการพูดคุยถึงประเด็นที่อยู่ในความสนใจระดับโลก แต่ทาง Forbes กลับถามว่านายกฯ แพทองธารว่าคุณพ่อเป็นอย่างไรบ้าง แสดงว่าเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับนายกฯ หรือเขาอาจมองว่าไม่รู้ว่าจะสามารถคุยเรื่องการบริหารประเทศแบบจริงจังกับนายกรัฐมนตรีคนนี้ได้หรือเปล่า อีกทั้งเขารู้ว่าการขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศของนายกฯ แพทองธารมีคนที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร อยู่เบื้องหลัง
ขณะที่นักการเมืองซึ่งคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเมืองไทยมากว่า 30 ปี อย่าง “นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ว่า คิดว่าเหตุผลที่ฝ่ายค้านอภิปรายนายกฯ แพทองธารเพียงคนเดียวเพราะต้องการย้ำภาพความผิดพลาดในการบริหารงานของนายกรัฐมนตรีว่าไร้ความสามารถ ไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนี้ อีกทั้งยังถูกกำกับโดยคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ดีเชื่อว่าฝ่ายค้านจะต้องหยิบยกปัญหาเกี่ยวกับกระทรวงอื่นๆ ขึ้นมาอภิปรายด้วย เนื่องจากนายกฯ นั้นอยู่ในฐานะที่กำกับดูแลทุกกระทรวง ดังนั้นอย่าคิดว่าเป็นการอภิปรายนายกฯ คนเดียว รัฐมนตรีคนอื่นก็โดนด้วย การยื่นอภิปรายนายกฯ คนเดียวนั้นเป็นเป้าล่อเท่านั้น
“การยื่นอภิปรายโดยเจาะจงไปที่นายกฯ เพราะฝ่ายค้านมองว่านายกฯ คือจุดอ่อนของรัฐบาลซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน การบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ ปล่อยให้คุณทักษิณผู้เป็นพ่อเข้ามาครอบงำการบริหารราชการแผ่นดิน” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
สำหรับประเด็นที่คาดว่าจะถูกหยิบยกขึ้นมาอภิปรายนั้น “นายนิพิฏฐ์” ระบุว่า ประเด็นที่ต้องถูกอภิปรายแน่ๆ คือเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเพราะเป็นปัญหาที่ประชาชนสัมผัสได้ด้วยตนเองว่าเศรษฐกิจไม่ดี คนไม่มีเงิน รัฐบาลใช้งบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจไปเยอะแต่ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่คุ้มค่ากับงบประมาณที่เสียไป จีดีพีไม่ได้โตเหมือนที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ โครงการเงินดิจิทัลก็ไม่ได้ทำให้เกิดพายุหมุนอย่างที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ โครงการซอฟต์เพาเวอร์ที่นายกฯ แพทองธารเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ ซึ่งใช้งบประมาณถึง 5,000 ล้านบาท ก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ประเด็นต่อมาคือกรณีชั้น 14 ของนายทักษิณ ซึ่งเป็นเรื่องประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก โดยคนส่วนใหญ่มองว่าเป็นการป่วยทิพย์ แต่ทั้งนี้อยู่ที่ว่าฝ่ายค้าจะซัดเรื่องนี้แบบ “เต็มหมัด” หรือไม่ เพราะคำว่า “คนเท่ากัน” ก็เป็นคำพูดของพรรคประชาชนเอง แต่ที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็นพรรคประชาชนพูดเรื่องนี้เลย
“ถ้าโอกาสดีขนาดนี้แล้วฝ่ายค้านไม่เต็มที่เรื่องชั้น 14 ความน่าเชื่อถือของฝ่ายค้านจะลดลงไปเยอะ แต่ถ้าคุณเอาจริงกับเรื่องนี้คะแนนนิยมจะพุ่งขึ้นเลย ถ้าฝ่ายค้านคิดว่าหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีการสลับขั้วมาเข้าร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยก็เลิกคิดได้เลย เป็นไปไม่ได้ เปลี่ยนม้ากลางศึกผมว่าเป็นไปได้ยาก และถ้าเปลี่ยนเอาพรรคประชาชนเข้าไป อำนาจต่อรองของพรรคประชาชนก็น้อย เข้าไปเป็นไม้ประดับเท่านั้น ซึ่งผมว่าพรรคประชาชนเองไม่ร่วมรัฐบาลหรอก เขาหวังการเลือกตั้งในปี 2570 มากกว่า ดังนั้นพรรคประชาชนต้องชกเต็มหมัดเพราะการอภิปรายครั้งนี้เป็นการตุนคะแนนไว้ใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า” นายนิพิฏฐ์ ระบุ
นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า อีกประเด็นเชื่อว่าจะถูกนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจคือเรื่องการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งกว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างจริงจังก็ตอนที่รัฐบาลจีนส่ง นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มาหารือกับทางการไทย โดยมีข้อแลกเปลี่ยนเรื่องการส่งชาวอุยกูร์กลับไปจีน ซึ่งเห็นได้ชัดถึงความไร้ประสิทธิภาพในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาลไทยจนต้องให้รัฐบาลจีนเข้ามากำกับ พอจีนส่งผู้ช่วยรัฐมนตรีมา แก้ปัญหาได้เลย อีกทั้งการตัดกระแสไฟฟ้าซึ่ง กฟภ. (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ส่งไปขายที่ชเวโก๊กโก่ซึ่งเป็นแหล่งทำมาหากินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ล่าช้าอย่างมาก การที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคประชาชน ออกมาจี้รัฐบาลในเรื่องนี้ถือว่าเป็นผลงานของฝ่ายค้าน ต้องให้เครดิตพรรคประชาชน
ประเด็นเรื่องกาสิโน หรือที่รัฐบาลเรียกว่าโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็คาดว่าจะถูกนำมาอภิปรายเช่นกัน เนื่องจากเป็นประเด็นที่คนไทยส่วนใหญ่คัดค้าน ขณะที่มีข้อมูลจากทั่วโลกว่าบ่อนการพนันไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่กลับเป็นการเอาเงินใต้ดินขึ้นมาฟอก และอาจเป็นการดึงจีนเทาซึ่งทำบ่อนอยู่ในพม่าและกัมพูชาเข้ามาเปิดบ่อนเสรีในประเทศไทยแทนเพราะสามารถทำได้แบบถูกกฎหมาย สามารถใช้เป็นแหล่งฟอกเงินได้ อีกทั้งยังทำให้เกิดปัญหาสังคมตามมาอีกมาก
นอกจากนั้น ประเด็นราคาข้าวและราคาพืชผลการเกษตรหลายชนิดตกต่ำ อาจจะถูกนำมาอภิปรายเช่นกัน เพราะมีชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนไม่น้อยออกมาประท้วง ซึ่งรัฐบาลต้องตอบให้ได้ว่าจะมีมาตรการในการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาวอย่างไรบ้าง
“เขาแบ่งกันแน่ มีบ่อนกี่แห่งก็แล้วแต่ผมว่าพรรคใหญ่ๆ เขาแบ่งกันแน่ ที่สำคัญผลประโยชน์จากตรงนี้สามารถใช้เป็นทุนในการเลือกตั้งได้อย่างมโหฬาร ผมว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาเขารู้ว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นผลประโยชน์ของนักการเมืองที่จะฟอกเงินเพื่อใช้เป็นทุนในการเลือกตั้ง ก็เอาเงินของคนไทยนี่แหละไปเล่นแล้วฟอกให้เสร็จเรียบร้อย กฤษฎีกาเลยร่างกฎหมายว่าคนไทยต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งผมว่ารัฐบาลไม่เอาแน่ เพราะคนไทยที่เป็นนักพนันเข้าไม่ได้ มันก็ไม่สมประโยชน์ของกาสิโน อีกทั้งอาจจะตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินได้ แล้วปกติคนที่มีเงินนอนอยู่ในบัญชีถึง 50 ล้านคือนักธุรกิจซึ่งคนกลุ่มนี้เขาไม่เล่นการพนัน” นายนิพิฏฐ์ ระบุ
สำหรับกรณีที่รัฐบาลจะให้เวลาฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียง 1 วันนั้น "นายนิพิฏฐ์" มองว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเวลาแค่ 1 วัน ฝ่ายค้านไม่สามารถอภิปรายได้ครบทุกประเด็น แม้การกำหนดระยะเวลาอภิปรายจะเป็นการหารือร่วมกัน 3 ฝ่าย คือวิปฝ่ายค้าน วิปฝ่ายรัฐบาล และตัวแทนคณะรัฐมนตรี ซึ่งรัฐบาลมีเสียง 2 ใน 3 แต่หากรัฐบาลจะยืนยันว่าให้เวลาอภิปรายแค่ 1 วันก็ถือว่าแย่มาก และกลายเป็นว่ารัฐบาลที่บอกว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตยแต่กลับไม่ยอมรับการตรวจสอบ ซึ่งที่ผ่านมา ไม่มีรัฐบาลไหนให้อภิปรายแค่วันเดียว แม้จะเป็นการยื่นอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวก็ตาม
“จุดอ่อนของนายกฯ แพทองธารเหมือนคุณพ่อของเขา คุณทักษิณไม่เคยตอบกระทู้ ไม่ยอมเข้าสภาฯ เป็นแบบนี้มาตลอด นายกฯ อุ๊งอิ๊งก็เหมือนกัน กระทู้ก็ไม่ค่อยตอบ สภาฯ ไม่ค่อยเข้า พวกนี้เขาไม่ยอมรับการตรวจสอบ รัฐบาลอาจจะกำหนดให้อภิปรายแค่ 1 วันได้ แต่จะฝืนกระแสสังคมได้หรือเปล่า ผมว่ายากครับ” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
ส่วนผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น “นายนิพิฏฐ์” มองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้อาจจะทำให้ความน่าเชื่อถือและคะแนนนิยมของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยลดลง ถ้ารัฐบาลไม่สามารถตอบคำถามได้ อย่างไรก็ดี เชื่อว่าจะไม่นำไปสู่การยุบสภาแน่นอน เนื่องจากขณะนี้กระสุนดินดำของรัฐบาลที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้ายังไม่เพียงพอ ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีใครอยากให้ยุบสภา จะเห็นได้ว่ายังไม่มีการอภิปรายเลย ยังไม่ได้ฟังคำชี้แจงของนายกฯ แพทองธารด้วยซ้ำ แต่พรรคร่วมรัฐบาลลงมติไว้วางใจกันแล้ว
“คิดว่าการยุบสภาหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่เกิดขึ้นแน่ เพราะโครงการกาสิโนยังไม่เสร็จ เรื่องนี้เป็นผลประโยชน์ที่เห็นได้ชัด ต้องมีการแบ่งสรรผลประโยชน์กัน ซึ่งเขาพยายามทำให้จบในรัฐบาลชุดนี้ ตอนนี้หลายพรรคเขาโหวตล่วงหน้าไปแล้ว อย่างพรรคประชาธิปัตย์บอกไม่มีแตกแถว เป็นพรรคร่วมรัฐบาลยังไงก็โหวตให้ ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็บอกว่าอยู่ร่วมกันก็ต้องไว้วางใจกัน ซึ่งภาพแบบนี้ผมไม่เคยเห็นนะ ลงมติก่อนการอภิปราย ดังนั้นอย่าหวังว่าจะมีการยุบสภาฯเกิดขึ้นหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j