คืบหน้าไปเรื่อยๆ สำหรับคดีแตงโม ที่ทีมตรวจสอบเริ่มพบหลักฐานภาพถ่ายอาจมีการตัดต่อ หลังจากผลทดสอบตกเรือโดนใจคนไม่เชื่อแตงโมเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจน DSI สั่งสอบเพิ่ม ด้านแซนออกมาโต้ทุกดอก ส่วนทนายตุ๋ยยื่นเรื่องละเมิดอำนาจศาล โดนยกคำร้อง ตรวจสอบอาจมีบางบุคคลบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม
คดีของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ที่เสียชีวิตมาใกล้จะครบ 3 ปี กลับมาสู่ความสนใจของผู้คนอีกครั้งในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่มีการจำลองเหตุการณ์การตกเรืออีกครั้ง หลังจากที่ศาลยกฟ้องคดีที่ 21 นายตำรวจฟ้องนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ คดีหมิ่นประมาทจากคดีการเสียชีวิตของแตงโม กลายเป็นการประสานงานร่วมกันระหว่างนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พันเอกนายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ หรืออาจารย์หมอธวัชชัย และนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เจ้าพ่อ Miss Grand มีการจำลองการตกเรือ มีการตรวจสอบภาพถ่ายระหว่างแตงโมกับกระติกที่ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นภาพตัดต่อ
ส่งผลให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้อนุมัติให้ทำการสืบสวนคดีเกี่ยวกับการเสียชีวิตน้องแตงโมที่มีพฤติการณ์ที่น่าสงสัยและมีเงื่อนงำ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา
โหนกระแสไม่ทำแตงโม
หลังจากที่มีการจำลองการตกเรือผู้สื่อข่าวถามนายณวัฒน์ว่า ทำไมรายการโหนกระแสไม่นำเสนอข่าวแตงโมบ้างเลย ได้รับคำตอบว่า ได้ส่งเรื่องไปให้ทีมงานหนุ่มกรรชัยแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องความสมัครใจ ขณะที่มีชาวเน็ตตั้งคำถามว่าเป็นเพราะทนายตุ๋ยหรือไม่ เพราะเป็นทนายให้คุณแซน อย่าไปกล่าวหากันตอนนี้ช่องอื่นๆ ก็นำเสนอกันอยู่แล้ว
จากนั้น 23 มกราคม 2568 หนุ่ม กรรชัย พิธีกรดังได้กล่าวในรายการเที่ยววันทันเหตุการณ์ว่า คนอยากรู้ทำไม ผมไม่ทำเรื่องแตงโม ส่งเข้ามาจังเลย วันนี้ผมจะบอกว่าทำไม ผมถึงไม่ทำเรื่องน้องแตงโม
คนอาจจะมองเป็นที่ทนายตุ๋ยหรือเปล่า ทนายคนเดียวกับแซนหรือเปล่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทนายตุ๋ยเลย ผมทำโหนกระแสมีคดีเยอะ มีทนาย 6-7 คน มีทนายตุ๋ยด้วย แต่ละคนได้รับมอบหมายคดีที่ถนัดไป ปกติทั่วไป
ผมว่าหลายๆ คนคงไม่ทราบ ที่ผมไม่ทำประเด็นแตงโม จริงๆ แล้ว โหนกระแสถูกถอดออกมา บางช่วงบางตอนเข้าสู่สำนวนในกระบวนการชั้นศาลแล้ว ผมเป็นพยานคนหนึ่งที่ถูกสอบปากคำ
สิ่งที่ผมได้มีการยืนยันบางช่วงบางตอนในโหนกระแส นำเข้าสู่สำนวนด้วย ผมอยากทำมากนะ แต่ลำบากใจจริงๆ ว่าจะไปละเมิดอำนาจศาล สิ่งที่ให้ปากคำตำรวจไปแล้ว
ถ้าวันนี้ไปทำ แล้วไปทับซ้อนบางเรื่อง ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปทับซ้อนเรื่องอะไรบ้าง มันอาจจะนำมาซึ่งละเมิดอำนาจศาลได้ ผมไม่ได้เดือดร้อนคนเดียว ช่อง 3 ผู้ร่วมรายการจะเดือดร้อนไปด้วย ผมรู้สึกว่าผมรับผิดชอบไม่ไหวจริงๆ ผมต้องกราบขออภัยเรื่องนี้
อยากให้ทุกคนเข้าใจผมด้วย ไม่ใช่ไม่รักแตงโม แตงโมเป็นน้องที่ผมรักมากคนหนึ่ง ทำงานมาด้วยกัน ผมก็อยากรู้ความจริง ผมสัญญา ถ้าเรื่องนี้ถูกหยิบยกขึ้นมา ศาลรื้อคดีอีกครั้งผมทำแน่นอน
แซนโต้ทุกดอก-ทนายตุ๋ยหน้าแตก
โดยทุกการเคลื่อนไหวของฝ่ายที่ไม่เชื่อว่าแตงโมเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ฝ่ายของแซน นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ จะออกมาแสดงความคิดเห็นแย้งเกือบทุกเหตุการณ์ รวมไปถึงทนายตุ๋ย นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายของแซน ที่ได้ยื่นคำร้องศาลขอให้พิจารณาเรื่องละเมิดอำนาจศาล 2 สำนวน
ได้แก่ การจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต โดยมีผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ หรือ อาจารย์หมอธวัชชัย และนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา และกรณีของนักอาชญวิทยารายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่ามาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ ซึ่งจะยื่นให้ศาลไต่สวนว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่
29 มกราคม 2568 ทนายตุ๋ยได้ออกมากล่าวว่า วันนี้ผมมายื่นคำร้องศาลขอให้ท่านพิจารณาเรื่องละเมิดอำนาจศาล วันนี้ศาลได้พิจารณาตามคำร้องของผมแล้ว เห็นว่าในชั้นนี้ยังไม่เรียกผู้ที่ถูกร้องมาไต่สวน แต่ศาลได้รับทราบและเริ่มนับหนึ่งจากวันนี้ไปว่า
หลังจากนี้จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ามีอะไรเกิดขึ้นอีกไหม ศาลจะพิจารณาและใช้ดุลพินิจต่อไป นี่คือคำสั่งที่ออกมาตามนี้ ผมก็เลยมาแจ้งให้ทราบ ส่วนเรื่องอื่นๆ ขออนุญาตไม่พูดแล้วกัน เนื่องจากศาลกำชับมาว่าไม่ให้มีการเผยแพร่เรื่องกระบวนพิจารณาอะไรในคดีนี้กับทางสื่อมวลชนอีก ผมพูดได้แค่นี้จริงๆ เพราะศาลกำชับมา
จากนั้นนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะผู้ที่ร่วมจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต กล่าวผ่านเฟซบุ๊กเพจว่า "ทนายตุ๋ยควรจะพูดให้ชัดๆ สรุปคือศาลยกคำร้องเพราะพวกเราไม่ได้ละเมิดอำนาจศาล จึงไม่มีการไต่สวนจำเลยตามคำร้องของทนายตุ๋ย และเตือนไม่ให้ทนายจำเลยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคดีในศาล"
จับผิดภาพตัดต่อ
30 มกราคม 2568 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พา นายเอกราช นามโภคิน โปรแกรมเมอร์ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และวิเคราะห์ระบบ GPS เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งเเวดล้อม ในฐานะหัวหน้าทีมตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568
“วันนี้พยานบุคคลในคดีนี้คือ นายเอกราช นามโภคิน เข้ามาพบกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ โดยในวันนี้ยังได้นำรายงานการวิเคราะห์ทางด้านโปรแกรมเมอร์มาให้เห็นว่ามีการทุจริตอย่างไรในการตัดแต่งภาพ หรือการใช้เอกสารปลอมเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลเจ้าหน้าที่รัฐเคยแถลงข่าว พร้อมกับคนบนเรือที่เคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ซึ่งตอนนี้ได้ส่งมอบให้ดีเอสไอสมบูรณ์เรียบร้อย”
ในส่วนข้อพิรุธที่ตนหมายถึงก่อนหน้านี้คือภาพในช่วงเวลา 21.56 น. ในวันเกิดเหตุ ทีมของตนได้ทำการพิสูจน์ทราบว่าภาพที่แตงโมถ่ายคู่กับกระติกใกล้สะพานพระราม 8 เป็นภาพตัดต่อ และพิสูจน์ได้ว่ามีการใช้ขาของแซน วิศาพัช แทนขาของคุณแตงโม และใช้เบาะที่นั่งเป็นขาอีกข้างของคุณแตงโม
“หากภาพนี้พิสูจน์ได้ว่าเป็นภาพตัดต่อจริงก็จะสามารถยืนยันได้อีกว่าในช่วงเวลาดังกล่าวไม่พบคุณแตงโมบนเรือลำดังกล่าวแล้ว ทำให้สามารถพลิกคดีนี้ได้เลย ซึ่งจะเป็นข้อหาใหม่”
ตั้งป้อมโต้-สกัดสื่อ
แหล่งข่าวกล่าวว่า ถ้าพิจารณาเรื่องนี้ดีๆ จะพบว่าน้ำหนักของการตรวจสอบของทีมงานชุดนี้เริ่มมีความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าการเสียชีวิตของแตงโมเป็นอุบัติเหตุ ก่อนหน้านี้ทาง DSI ไม่รับเป็นคดีพิเศษ แต่รอบนี้มีการตั้งเรื่องตรวจสอบ การจับผิดเรื่องภาพถ่ายก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ ส่วนจะจริงหรือไม่ต้องรอให้มีการสรุปออกมาก่อน
ทุกการเคลื่อนไหวของทีมตรวจสอบคดีแตงโม มี แซน-วิศาพัช ออกมาตอบโต้ตลอด และหลายครั้งพบว่าคำพูดของแซนไม่ตรงกับคำให้สัมภาษณ์ในช่วงแรกๆ ที่เกิดเหตุการณ์ เช่นเดียวกับปอ ที่ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน ก็เข้าใจได้ว่ากรณีของแตงโม แซนถูกระบุว่าเห็นแตงโมคนสุดท้ายก่อนตกเรือ ทุกความสงสัยจะพุ่งเป้าไปที่แซน รวมไปถึงทนายความของแซน
เมื่อกระแสของแตงโมเริ่มกลับมาอยู่ในความสนใจ สื่อหลายสำนักพร้อมใจกันนำเสนอ ข้อมูลเริ่มมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ายตรงข้ามก็ต้องหาทางสกัดทั้งการออกมาด้อยค่าหรือหาช่องทางกฎหมายมาบังคับใช้ แต่ครั้งนี้ทนายตุ๋ยพลาด แถมออกมาให้สัมภาษณ์แบบที่ต้องตีความกันอีกหลายชั้น แปลตรงๆ คือศาลยกคำร้องของทนายตุ๋ย ดังนั้นที่เคยขู่ไว้ว่างานนี้มีคนติดคุกแน่ จึงเป็นเพียงแค่คำขู่เท่านั้น
สิ่งที่ตามมาคือ เรื่องความน่าเชื่อถือหรือความแม่นยำทางกฎหมายของทนาย ยังคงมีอยู่ต่อไปหรือไม่? เชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเพียงหนึ่งในแนวทางการต่อสู้ของฝ่ายจำเลย ทนายระดับนี้ย่อมอ่านสถานการณ์ออกว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็แค่ยื่นไปได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อีกทั้งลูกความยุคนี้ไม่ได้ดูที่รู้กฎหมายหรือไม่ แต่เขาดูว่าทนายดังหรือไม่เท่านั้น
บิดเบือนกระบวนการยุติธรรม
คดีหลักของแตงโมนั้น เป็นคดีที่ดำเนินการฟ้องโดยนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน ผู้เป็นแม่และอัยการ ซึ่งข้อหาหลักคือกระทำการอันประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ที่ทีมจำลองเหตุการณ์การตกเรือครั้งนี้เป้าหมายที่ยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทำการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่า กระบวนการดำเนินคดีเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา หรือแตงโม พัชระวีรพงษ์ มีพฤติการณ์เป็นเงื่อนงำต้องสงสัยมีเหตุให้เชื่อได้ว่า อาจมีกลุ่มบุคคลหลายฝ่ายร่วมกันบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมายเพื่อช่วยเหลือบุคคลอื่นให้ไม่ต้องรับโทษทางอาญา หรือรับโทษน้อยลงหรือไม่
เชื่อว่าทุกคนทราบดีว่าคดีนี้ยาก พยานทั้งหมดถูกจำกัดไว้ที่ 5 คนบนเรือ ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบหลักฐานที่นำมาใช้อ้างอิงว่าถูกต้องหรือสร้างขึ้นมาใหม่ เชื่อว่าน่าจะมีอีกหลายๆ กรณีที่กำลังตรวจสอบกันอยู่ ขณะที่ญาติผู้เสียหายเองค่อนข้างพอใจกับข้อเสนอที่มีการเยียวยาจากฝ่ายจำเลย
ตอนนี้ต้องฝากความหวังไว้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หากพิสูจน์ได้ว่าพยานหลักฐานที่ได้ดำเนินการไปแล้วเป็นเท็จ เรื่องนี้อาจต้องกลับมาพิจารณากันใหม่ และโอกาสที่จะพลิกจากเสียชีวิตจากการประมาทหรือเป็นอุบัติเหตุ อาจกลายมาจากฆาตกรรมก็เป็นได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องรอการพิสูจน์
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j
