จากทีมเดียวกันกลายเป็นแตกคอกันพระมหาอุเทนกับพระมหาวัฒนา ที่เคยประสานเสียงอัดอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม วันนี้ซัดกันเองซะแล้ว พระมหาอุเทนอนุมานรับทรัพย์จากเบียร์แล้วมาโจมตี เปรียบเหมือนเทวทัต ด้านพระมหาวัฒนาแจงไม่เคยรับเงิน ทนายกองทัพธรรมแจ้งความอาจารย์เบียร์เพิ่ม คนพุทธเตือนไม่อยากมีปัญหาอย่าดังกว่าพระ
กลายเป็นศึกของวงการสงฆ์ไปแล้วสำหรับพระมหาอุเทน ปัญญาทัตต์ แห่งวัดชนะสงคราม กับพระมหาวัฒนา ปัญญาทีโป อาจารย์ประจำมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ทั้งๆ ที่ทั้งคู่เคยเดินสายมาในแนวทางเดียวกันคือ ไม่เห็นด้วยกับแนวการสอนของอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม
ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2567 มีการโพสต์ข้อความว่า The Advengers พระที่ปกป้องพุทธศาสนา จากการสอนธรรมผิดของคนตื่นธรรม พร้อมด้วยการทำกราฟิกพระ 4 รูปที่กล่าวถึงอาจารย์เบียร์ดังนี้ พระฟาดเบียร์ คนตื่นธรรม
“อันตรายต่อพระพุทธศาสนา” หลวงพ่อเล็ก สุธัมมปัญโญ กาญจนบุรี
“เด็กเมื่อวานซืน เรียกตัวเองอาจารย์ไม่กระดากปาก” พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์ วัดชนะสงคราม
“บาป 18 ประการ ไม่รู้จริง มิจฉาวาจา” มหาวัฒนา ปัญญาทีโป นครปฐม
“บิดเบือนให้ร้ายพระสงฆ์” พระอาจารย์สันติ ฐานิสสโร ชลบุรี
พระดังรวมตัว
จนได้มาออกรายการโหนกระแสเมื่อ 5 ธันวาคม 2567 ครั้งนั้นมีการจั่วหัวว่า อเวนเจอร์พระ 4 รูปเปิดหน้าฟาดอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม แต่พระที่มาร่วมรายการในวันดังกล่าวมีพระมหาวัฒนา ปัญญาทีโป และพระอาจารย์สันติ ฐานิสสโร ในช่วงต่อออนไลน์มีพระมหาสมบูรณ์ ฉันทโก วัดเขาสนามชัย เข้าร่วมรายการด้วย ขณะที่ฝั่งอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม และแพรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร วันดังกล่าวพระอาจารย์สันติกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของผู้ชมไปทันที
ไม่กี่วันถัดมาพระอาจารย์สันติ ได้ Live ท้าอาจารย์เบียร์ตัวต่อตัว เวทีไหนก็ได้ พร้อมยกชื่อเวทีสนามมวย แต่มาตบท้ายว่าดีเบตธรรมะ จนกระแสสังคมตีกลับอีกรอบ พระมหาวัฒนาได้ตัดพระอาจารย์สันติออกจากทีม
ในรายการโหนกระแสอาจารย์เบียร์ได้กล่าวไว้ว่า อะไรที่ไม่ถูกต้องตนก็พร้อมจะเข้าไปกราบขอให้พระสงฆ์ที่ท้วงติงได้สั่งสอน จากนั้นเราได้เห็นทีมอาจารย์เบียร์ไปกราบพระตามวัดต่างๆ และยังได้รวบรวมเป็นผ้าป่าไปร่วมทำบุญด้วย บางวัดก็ถวายเงิน พระบางรูปก็มอบให้ไวยาวัจกรเป็นผู้รับแทน
นอกจากนี้ อาจารย์เบียร์ยังถูกสังคมพระสงฆ์จับจ้องเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องสอนผิดในบางเรื่อง หรือการแสดงความเห็นที่ไปคัดค้านกับความเชื่อดั้งเดิม ในเรื่องของรูปเคารพครูบาอาจารย์ จนต้องเดินสายขอโทษกันในบางพื้นที่
2 พระมหา-แตกคอ
แต่สิ่งที่คนทั่วไปได้เห็นในเวลานี้คือการออกมาฟาดกันไปมาระหว่างพระมหาทั้ง 2 รูปบนโลก Social Media คือพระมหาอุเทน วัดชนะสงคราม กับพระมหาวัฒนา ทั้งๆ ที่เคยอยู่ในสายที่ท้วงติงอาจารย์เบียร์ด้วยกันมาก่อน หลายคนก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น
เบื้องต้น คาดกันว่าน่าจะเกิดขึ้นหลังจากที่อาจารย์เบียร์เข้าไปกราบพระมหาวัฒนาเมื่อ 9 มกราคม 2568 ทั้งนี้ พระมหาวัฒนาได้โพสต์ว่า
คารวธรรมของคนตื่นธรรม ภาพบรรยากาศตั้งแต่พบกัน เบียร์คนตื่นธรรมได้กราบนมัสการด้วยความนอบน้อม และสนทนาธรรมเป็นไปอย่างกัลยาณมิตร รับฟังข้อแนะนำต่างๆ ช่วงท้ายได้มอบหนังสือบาลีใหญ่ และแนะนำการค้นคว้า รวมทั้งหนังสือวิปัสสนานัยของมหาสีสยาดา เพื่อศึกษาเพิ่มเติม
มีการมองกันว่าอาจารย์เบียร์ถวายเงินกับพระมหาวัฒนา 5 หมื่นบ้าง 1 แสนบาทบ้าง หลังจากนั้นโพสต์ของพระมหาวัฒนาถึงออกในรูปเหน็บแนมพระมหาอุเทน จึงมีการตอบโต้กันระหว่างพระมหาอุเทนกับพระมหาวัฒนา ซึ่งพระมหาวัฒนาได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้รับเงินบริจาคจากอาจารย์เบียร์
มหาอุเทนอัดมหาวัฒนา
พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์ โพสต์ Facebook หลังจากที่โต้กันไปมากับพระมหาวัฒนา ปัญญทีโป ว่า ทราบว่าพระมหาวัฒนาจะมาพร้อมกับนักข่าวที่จะเข้าพบพระมหาอุเทน พระมหาวัฒนาทำความผิดใส่ร้ายพระมหาอุเทนมาหลายครั้งหลายครามาแล้ว จึงเปรียบเหมือนเทวทัตที่ทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ทำความผิดครั้งแรกต่อพระผู้มีพระภาคเจ้า สำนึกได้มากราบขอขมา พระพุทธองค์ก็ย่อมมีพระเมตตาให้เข้ามากราบขอขมาอย่างแน่แท้ แต่ทว่าเมื่อทำความผิดร้ายแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า สำนึกได้จะมาขอเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเพื่อกราบขอขมา ก็ล่วงเวลามามากแล้ว พระเทวทัตสำนึกได้ในภายหลัง เดินทางจะมากราบขอขมา เทวดาเขาก็ไม่ให้เข้าพบ ธรณีแผ่นดินก็รอดักสูบเอาพระเทวทัตให้ตกลงไปในมหานรกอเวจี
ในกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน พระมหาวัฒนาทำความผิดร้ายแรง ต่อผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์อบรมกรรมฐานให้แก่ตน ตอนนั้นไม่ได้ทำตัวเป็นพี่เลี้ยง แต่เป็นพระวิปัสสนาจารย์สอนอบรมกรรมฐานจริงจัง พานิสิตเดินนั่งพร้อมกับแสดงธรรมเช้าเย็น สอบอารมณ์ด้วย พระมหาทองมั่น สุทฺธจิตฺโต หลวงพ่อพระอาจารย์ชาลี ช่วยเพียงให้พระนิสิตเข้าไปส่งสอบอารมณ์ ส่วนพระมหาอุเทนเป็นพระวิปัสสนาจารย์หลัก ทำงานหนักมาก แม้กระทั่งไปเช็ดถูกพื้นศาลาสามัคคีปฏิบัติธรรมให้แก่พระนิสิตในช่วงเวลาพักบ่าย 4 โมง-6 โมงเย็น
พระมหาวัฒนาใส่ร้ายเราตลอดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงล่วงเลยกาลเข้ามาขอโทษทำสามีจิกรรม ท่านถมน้ำลายรดฟ้าอยู่เรื่อยๆ ก็จงยอมรับน้ำลายที่จะตกมาถูกใบหน้าของท่านเอง
ท่านบอกว่า ถ้าอาตมาเข้าไปกราบขอขมาก็เสียเลย ท่านอย่าบ้วนน้ำลายทิ้งแล้วไปเรี่ยเอาน้ำลายของตนเองกลับคืนมาสิ พูดคำใดคำนั้น ตรงไปตรงมา อย่าให้คำก่อนกับคำหลัง คำหลังกับคำก่อนของท่าน มันไม่ตรงกัน ประเดี๋ยวท่านจะได้ชื่อว่า “ปลิ้นปล้อน” ไม่รู้จักรักษาสัจจะ รักษาคำพูด จะกลายเป็นคนพูดจาไม่มีหลักฐานควรแก่การเชื่อถือ เสียเครดิตความน่าศรัทธาเลื่อมใสกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปเลย
ท่านปาคูถอุจจาระเหลวๆ ขึ้นไปบนท้องฟ้า ประมาณว่าปาใส่ดวงจันทร์ คูถอุจจาระเหลวๆ ก็ย่อมตกลงมาเปรอะเลอะเทอะที่ใบหน้าของท่านเอง จงยอมรับชะตากรรมนี้ต่อไป พระมหาอุเทนไม่ยินดีปฏิสันถารต้อนรับพระมหาวัฒนาโดยประการทั้งปวง
ฟังจนจบที่นักข่าวมารายงานแล้ว เรื่องของการที่พระมหาอุเทนพูดถึงพระมหาวัฒนารับทรัพย์ ไปฟังดูให้ดี ไม่ใช่เป็นการใส่ร้ายป้ายสี แต่เป็นการอนุมานคาดเดาว่าความเป็นไปได้น่าจะสูง เมื่อเห็นว่ามาออกคลิปใส่ร้ายพระมหาอุเทนมากมายหลายอย่าง หลังจากที่เบียร์ออกมาจากพระมหาวัฒนาแล้ว พระมหาอุเทนใช้คำพูดว่า ประหนึ่งได้รับออเดอร์มาโจมตีใส่ร้ายพระมหาอุเทน และก็ยังพูดในประโยคสุดท้ายว่าก็ไม่ได้ปรักปรำท่านนะ เพียงแต่ดูแล้วแนวโน้มน่าจะเป็นไปได้สูงมากเท่านั้น ฟังให้ได้ศัพท์อย่าจับไปกระเดียดสิ
ถ้าจะฟังให้ได้ดีจริงๆ ไล่ไทม์ไลน์มาทั้งห้าคลิปนั้นฟังจนจบ เหตุที่เกิดขึ้นมาจากอะไร ใครเริ่มก่อน และใครไม่ยอมหยุด ทำไมพระมหาอุเทนจึงต้องมาออกคลิปชี้แจงแสดงข้ออรรถข้อธรรมมากมาย ในคลิปที่สอง ก็วงเล็บเอาไว้แล้วว่า “จบ” แต่พระมหาวัฒนาก็ไม่ยอมจบ ยังตามมาแซะกระแหนะกระแหนกระทบกระเทียบล้อเลียนเสียงบ้าง กล่าวหาว่านักวิปัสสนาขี้โกรธบ้าง ทั้งดูหมิ่นเหยียดหยามด้อยค่า พระมหาวัฒนาก็พูดเอาไว้อยู่มากมาย ถึงขั้นที่ว่าดัดเสียงดัดจริตจนติดเป็นนิสัย ก็ไม่รู้ว่ามีโลภะตัณหาหน่วงอยู่ในจิตของตนอยากได้ลาภสักการะชื่อเสียง หิวแสง
อย่าดังเหนือพระ
แหล่งข่าวจากวงการสงฆ์ กล่าวว่า วันนี้กลายเป็นพระที่เคยไม่เห็นด้วยกับวิธีสอนของอาจารย์เบียร์มาเปิดศึกระหว่างกันเอง ส่วนใครจะเข้าใจถูกหรือเข้าใจผิด เป็นเรื่องที่พระมหาทั้ง 2 รูป ต้องหันหน้าเข้ามาพูดคุย ทำความเข้าใจกัน และยังขึ้นอยู่กับมุมมองของพระมหาทั้ง 2 ว่า มองคนตื่นธรรมด้วยมิติใด ยอมรับได้หรือไม่
ที่จริงเรื่องฆราวาสสอนธรรมนั้นมีมาก่อนหน้านี้แล้วและมีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งมาในแนวบุคคลธรรมดาหรือมาในฐานะผู้วิเศษ มีทั้งถูกสกัด ถูกตรวจสอบ หายไปบ้าง คงอยู่บ้าง กรณีอาจารย์เบียร์ถือว่ามีพระหลายรูปที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาจารย์เบียร์ แกดังมาจากการสอนธรรมะผ่าน TikTok ด้วยบุคลิกพูดจาไม่สุภาพ ตอบไป-ด่าไป นี่คือจุดเด่นที่ทำให้มีคนติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถูกเชิญออกทีวีและสื่อทั่วไปให้ความสนใจในการนำเสนอมากขึ้น จึงมีผู้เชิญไปบรรยายธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ตรงนี้จึงขึ้นอยู่กับว่าพระสงฆ์ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมจะมองเรื่องนี้อย่างไร
หากเราถอยออกมามองเรื่องนี้จะพบว่า อาจารย์เบียร์สอนธรรมะ ดึงให้คนรุ่นใหม่เข้ามาฟังธรรมะได้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องดี แม้ถ้อยคำอาจฟังแล้วไม่สุภาพสำหรับคนรุ่นเก่า เมื่อดัง งานบรรยายธรรมนอกสถานที่ก็มากขึ้น จึงไม่ต่างไปจากการแย่งงานบรรยายธรรมของพระ จึงมีพระส่วนหนึ่งไม่พอใจ ประกอบกับในบางเรื่องนั้นบรรยายธรรมผิดไปจากพระไตรปิฎก จึงไม่แปลกที่พระหลายรูปจะเห็นพ้องต้องกันที่จะต้องจัดการกับอาจารย์เบียร์
“ทีมของอาจารย์เบียร์ก็ฉลาดพอ ที่จะแก้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการเข้าไปกราบขอขมา ขอความรู้กับพระที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย พร้อมด้วยการขอร่วมทำบุญ จนเกิดปัญหาขึ้นกับพระมหาคู่หนึ่งที่ออกมาโต้แย้งกันในเรื่องนี้”
ทนายกองทัพธรรมฟ้อง
ไม่เพียงเท่านั้น อาจารย์เบียร์ยังถูกมูลนิธิทนายกองทัพธรรมที่มีทนายอนันต์ชัย ไชยเดช แจ้งความเมื่อ 9 มกราคม 2568 ทั้งหมด 3 ข้อหาคือ หมิ่นประมาท พ.ร.บ.คณะสงฆ์ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามมาด้วยการแจ้งเพิ่มอีก 1 ข้อหาในวันที่ 22 มกราคม 2568 ข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ตาม พ.ร.บ.สงฆ์ แม้ว่าทีมอาจารย์เบียร์ จะขอเข้าไปชี้แจงกับทีมทนาย แต่ได้รับการปฏิเสธ
นี่เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลายฝ่ายเคยมองกันว่าเคยอยู่ทีมเดียวกันมาก่อนหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ทนายกองทัพธรรมก็เดินหน้าท้วงติงเรื่องของเด็ก 8 ขวบสอนธรรมะมาก่อนจนต้องหยุดไป กับอาจารย์เบียร์ก่อนหน้านี้ก็ดูเหมือนไม่มีปัญหากับทีมทนายชุดนี้ คงต้องปล่อยให้เป็นการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมต่อไป
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j
