ฆราวาสมี-พระก็มีทีม Avengers พระเล็ก-พระมหาอุเทน-พระมหาวัฒนา-พระสันติ 4 พระเห็นพ้องฟาดอาจารย์เบียร์ คนเห็นธรรม ชิงพื้นที่สอนธรรมะ พระสันติรับเป็นเพื่อนพระปีนเสา แถม Live ท้าคนเห็นธรรมเจอราชดำเนิน-ลุมพินี อ้างดีเบตธรรมะ จนถูกตัดออกจากขบวนตรวจสอบพบ “สำนักฯ สันติ-ธีระ” มีปัญหาเรื่องที่ดินเหมือนกัน คนวงในชี้พระไม่ต่างกับวงการทนายใช้ Social ปูทาง เสียเหลี่ยมปล่อยฆราวาสสอนธรรม สำนักพุทธฯ ช้าทุกเรื่อง
เมื่อฆราวาสรวมตัวกันตรวจสอบผู้ที่นำหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนามาบิดเบือน หรืออวดอ้างอิทธิปาฏิหาริย์เกินจริง จนเรียกกันว่าเป็นทีม Avengers ที่ตรวจสอบกลุ่มเชื่อมจิต จนมหาเถรสมาคมได้มีมติออกมา และศาลเยาวชนมีคำสั่งให้ผู้ปกครองต้องปฏิบัติตาม กลายเป็นอีกหนึ่งกลไกที่ตรวจสอบจากภาคประชาชนในเรื่องราวทางด้านพุทธศาสนา
จากนั้นอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ก็กลายเป็นดาวดวงใหม่ในสายธรรมะ ที่เข้ามาสู่โลก Social Media ด้วยจุดเด่นสอนธรรมะง่ายๆ พูดจากกูมึงบ้าง ด่าคนที่ถามเข้ามาบ้าง กลายเป็นที่ชื่นชอบของคนจำนวนไม่น้อย แนวทางของคนตื่นธรรมเน้นที่ไปที่หลักธรรมคำสอน ไม่เน้นแนวทางที่โน้มเอียงไปทางไสยาศาสตร์ ถือว่าเป็นฆราวาสอีกรายที่ดึงให้คนยุคนี้หันมาฟังหลักธรรมคำสอนพุทธศาสนามากขึ้น แม้บางฝ่ายจะไม่เห็นด้วยกับแนวทางและวิธีการของอาจารย์เบียร์ก็ตาม
ตอนนี้ฆราวาสดังที่สุด ที่นำเอาหลักธรรมคำสอนทางพุทธศาสนามาพูดให้ความรู้น่าจะเป็นอาจารย์เบียร์ ที่มีแพรรี่ หรือไพรวัลย์ วรรณบุตร อดีตพระเปรียญธรรม 9 ประโยค ที่เคยพูดเรื่องธรรมะจริงๆ ไม่เน้นเรื่องเครื่องรางของขลัง ตั้งแต่ยังบวชเป็นพระ เดินมาในแนวทางเดียวกัน จนเป็นที่หมายตาของฝ่ายที่เห็นต่าง
Avengers พระ
เพจ Wattana Khamken ของพระมหาวัฒนาโพสต์เมื่อ 3 ธันวาคม 2567 ว่า The Avengers พระปกป้องพุทธศาสนาจากการสอนธรรมผิดของคนตื่นธรรม หลวงพ่อเล็ก สุธัมมปัญโญ กาญจนบุรี พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์ ป.ธ.9 วัดชนะสงคราม พระมหาวัฒนา ปัญญาทีโป ป.ธ.9 ดร.นครปฐม พระอาจารย์สันติ ฐานิสสโร ชลบุรี พร้อมด้วยภาพกราฟิกประกอบ พระฟาดเบียร์คนตื่นธรรม
หลวงพ่อเล็ก สุธัมมปัญโญ วัดท่าขนุน กาญจนบุรี “อันตรายต่อพระพุทธศาสนา”
พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์ วัดชนะสงคราม “เด็กเมื่อวานซืน เรียกตนเองอาจารย์ไม่กระดากปาก”
พระมหาวัฒนา ปัญญาทีโป อาจารย์ มจร. วัดไร่ขิง “บาป 18 ประการ ไม่รู้จริง มิจฉาวาจา”
พระอาจารย์สันติ ฐานิสสโร “บิดเบือนให้ร้ายพระสงฆ์”
จากนั้นพระมหาวัฒนา และพระอาจารย์สันติ ได้มาออกรายการโหนกระแสเมื่อ 5 ธันวาคม 2567 เผชิญหน้ากันอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม และแพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร วันดังกล่าวทำให้สังคมได้ทราบว่าพระอาจารย์สันติ เป็นสายเดียวกับพระครูปลัดธีระ หรือพระปีนเสา และการพูดหรือการตอบคำถามไม่ต่างไปจากพระปีนเสา ทำให้ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์พระสันติไม่น้อย
หลังจากนั้น มีการเผยแพร่คลิปของพระสันติที่ออกมากล่าวถึงอาจารย์เบียร์ ท้าทายตัวต่อตัว ที่ไหนก็ได้ ลุมพินี ราชดำเนิน ส่อให้เข้าใจว่าเป็นการท้าชก แต่มาสรุปว่าเป็นการท้าดีเบตธรรมะ ยิ่งเป็นอีกแรงกระเพื่อมให้คนมาตำหนิพระสันติเป็นอย่างมาก จนพระมหาวัฒนาได้ออกมาโพสต์ว่า แจ้งให้ทุกท่านทราบ ขอตัดพระสันติออกจากทีมอเวนเจอร์ เนื่องจากมีพฤติกรรมก้าวร้าว ท้าทายชกต่อย ขัดกับหลักของพระภิกษุอนูปฆาโต (การไม่ทำร้าย)
อ.เบียร์ผิดบางเรื่อง
แหล่งข่าวจากวงการพุทธศาสนากล่าวว่า อันดับแรกอาจารย์เบียร์ก็สอนผิดในบางเรื่องจริง จึงถูกพระสงฆ์ที่ไม่พอใจอยู่แล้วใช้โอกาสนี้สวนเข้ามา การอ้างพระพุทธสอนว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนว่าที่อ้างมานั้นถูกต้องหรือไม่ ไม่ใช่นั้นจะทำให้พระพุทธองค์เสื่อมเสียได้หากผู้พูดได้ข้อมูลมาผิดๆ
ประการต่อมา พระสงฆ์ที่ไม่พอใจอาจารย์เบียร์มีเยอะกว่าที่เห็น เพียงแต่เขาไม่อยากเปลืองตัว แอบหนุนกันข้างหลัง พระที่ออกมาท้วงติงตามที่เป็นข่าวมีพระเล็ก หรือพระครูวิลาศกาญจนธรรม ดร.วัดท่าขนุน กาญจนบุรี พระมหาอุเทน วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ พระมหาวัฒนา วัดไร่ขิง นครปฐม พระสันติ สำนักวิปัสสนาสันติสถิตธรรม ชลบุรี โดย 2 รูปหลังมาร่วมรายการโหนกระแส
วันนั้นพระมหาวัฒนา ก็ไม่ได้ชี้ไปชัดๆ ว่าอาจารย์เบียร์ผิดตรงไหน และที่ถูกต้องเป็นอย่างไร ยิ่งพระสันติกลายเป็นตัวถ่วงของทีมพระที่ออกมาท้วงติงอาจารย์เบียร์ไปเลย
“พระสันติ-ธีระ” มีปัญหาเรื่องที่ดิน
แหล่งข่าวด้านศาสนาอีกรายกล่าวว่า ถ้าสืบข้อมูลของพระอาจารย์สันติ ที่ออกมายอมรับว่าเคยมาร่วมทีมกับพระปีนเสา จะพบว่า ทั้ง 2 รูปมีส่วนที่คล้ายกันอยู่ไม่น้อย ทั้งวิธีการพูดหรือการตอบโต้ ประการต่อมาคือพระปีนเสาเคยดูแลสถานปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี ย่านนครไชยศรี ที่เคยมีปัญหาเรื่องข้อพิพาทที่ดินกันมาก่อน ในช่วงปี 2561 จึงปีนเสาส่งสัญญาณเพื่อประท้วง
ขณะที่พระสันติ ฐานิสฺสโร ผู้ดูแลสำนักวิปัสสนาสันติสถิตธรรม ตำบลสำนักบก อำเภอเมืองชลบุรี เคยถูกองค์การบริหารส่วนตำบลสำนักบก ที่มีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรมบริเวณที่ธรณีสงฆ์ในช่วงปี 2558
เชื่อว่าทั้ง 2 รูปมีพระหรือวัดที่เห็นด้วยอยู่ไม่น้อย ไม่เช่นนั้นคงหาสังกัดวัดไม่ได้ ปัญหาของท่านคือเรียนทางธรรมมาน้อย ดังนั้นการตอบโต้จึงออกมาในลักษณะนั้น อย่างพระปีนเสาก็เคยปะทะกับอาจารย์สุจินต์มาแล้ว จนไปไม่เป็น และคำถามธรรมะคืออะไร? จึงเป็นไม้ตายของพระปีนเสามาตลอด
“ทนาย-พระ” มาสูตรเดียวกัน
ในวงการพระก็ไม่ต่างกับวงการทนายที่เป็นข่าวในเวลานี้ ทั้ง 2 วงการใช้ Social Media ในการเผยแพร่ผลงานของแต่ละคน/รูป ทนายใช้การช่วยเหลือบุคคลที่ถูกเอาเปรียบ เข้าร้องเรียนตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง Live สดอ้างให้ความรู้ทางกฎหมาย พระสงฆ์ใช้ Social และ Live อ้างสอนธรรมะ เชิญร่วมทำบุญก็มี
ทนายที่มุ่งทำหน้าที่ของตัวเอง ให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ ไม่ใช้ Social Media โปรโมตตัวเองก็มีมาก ส่วนพระที่มุ่งเผยแผ่ธรรมะ โดยไม่ใช้ Social ก็มีอยู่ไม่น้อย ทุกอย่างอยู่ที่เจตนาภายใน ไม่มีใครรู้ได้ว่าแท้ที่จริงแล้ว ทำไปเพื่อต้องการประโยชน์สิ่งใด
“ต้องยอมรับความจริงว่า Social Media ทำให้คนรู้จักเป็นวงกว้าง มีผลต่อกิจนิมนต์ มีผลต่อเงินบริจาคที่จะเข้ามาที่วัดและที่ตัวพระรูปนั้น”
ไม่ต่างไปจากวงการทนาย ยิ่งออกช่วยเหลือคนมากเท่าไหร่ สื่อมาลงข่าวให้ เท่ากับสร้างการรับรู้ให้กับคนในวงกว้าง มีผลต่อลูกค้า (ลูกความ) ที่จะเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นในอนาคต มีผลต่อราคาค่าบริการด้านกฎหมายสูงขึ้น
เสียเหลี่ยมฆราวาสสอนธรรม
ที่จริงฆราวาสที่ออกมาสอนธรรมะก็มีมาก่อนหน้านี้แล้วหลายคน ขึ้นอยู่กับว่ามาทางสายพระรูปใด ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีแรงกระทบเข้ามาบ้างไม่มากก็น้อย ถึงจุดหนึ่งก็จะเงียบหายไป
เราไม่อยากไปก้าวล่วงว่าเป็นการอิจฉาริษยากันระหว่างผู้ที่ดำรงสมณเพศกับฆราวาส แต่มันก็มีสิทธิที่จะคิดได้ ยิ่งถ้าฆราวาสนั้นสอนผิดไปจากพระธรรมวินัย อันนี้โดนถล่มยับแน่นอน แต่ถ้าไม่ผิดก็จะถูกตำหนิในด้านอื่นแทน มันก็เหมือนว่าเป็นพื้นที่ใครพื้นที่มัน ไม่ควรล้ำเส้นเข้ามา ฝ่ายสงฆ์ก็มองว่าฉันรู้ดีที่สุด เหมือนถูกหยาม และเป็นเรื่องที่เสียศักดิ์ศรี
ยิ่งถ้าไปพาดพิงถึงสิ่งที่ฝ่ายสงฆ์กระทำอยู่ เช่น เรื่องความเชื่อ ความศักดิ์สิทธิ์ ย่อมถูกต่อต้านแน่นอน นี่คือปัญหาของวงการพุทธศาสนา
ต้องยอมรับความจริงว่า ถ้าปล่อยให้ฆราวาสขึ้นมาเป็นผู้สอนธรรมแทนพระสงฆ์แล้ว หากมองในแง่ร้ายต่อไปใครจะเข้าวัด ใครจะทำบุญใส่บาตร-ไหว้พระ กิจนิมนต์หดแน่นอน ปัจจัยหรือเงินบริจาคย่อมลดลง
เรามองเห็นพระเปิดหน้าออกมาต่อต้านอาจารย์เบียร์ หรือต่อต้านแพรรี่ ไพรวัลย์ หากย้อนกลับไปพระดังเหล่านี้เคยออกมาท้วงติงเรื่องของเชื่อมจิตว่าถูกต้องบ้างหรือไม่ เคยออกมาตรวจสอบพระนอกแถวที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมบ้างหรือไม่
อีกประการหนึ่งคือเรื่องของพุทธศาสนาที่มีข้อถกเถียงกันในเวลานี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาเถรสมาคม ที่เป็นองค์กรปกครองสงฆ์มักเข้ามาแก้ปัญหาล่าช้า ทั้งที่มีสายงานบังคับบัญชาตั้งแต่เจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบลเรื่อยไปจนเจ้าคณะใหญ่หน บางเหตุก็ปล่อยจนเรื่องเงียบไปเอง นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่คนจำนวนไม่น้อยลดความศรัทธาในพุทธศาสนาลงไป
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j