ดิไอคอนกรุ๊ป+71 ล้านบาท เอี่ยวทนายตั้ม ลบภาพทนายประชาชนหายวับ แม้แต่เพื่อนตั้มยังถอย โบ้ยไม่มีใครรู้-เป็นเรื่องส่วนตัว เจ้าภาพเรียงคิวแฉพฤติกรรมฉายภาพสื่อเป็นตัวปั้นจนดัง งานนี้ทุกสายตาพุ่งเป้าที่สภาทนายความฯ สงสัยตั้มรอดมาตลอดได้งัย แต่วันนี้เกราะคุ้มกันแทบไม่มีเมื่อตำรวจใหญ่พ้นวงโคจร
2 คดีใหญ่ที่อยู่ในความสนใจของผู้คนในเวลานี้ หนีไม่พ้นคดี The iCon Group ที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ดิไอคอนมีดาราทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ บอสกันต์ กันตถาวร บอสแซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี และบอสมิน พีชญา วัฒนามนตรี เป็นทีมงานของบริษัท ปัจจุบันถูกจับกุมพร้อมกับเจ้าของบริษัทอย่างบอสพอล และบรรดาบอสรายอื่นๆ รวมแล้ว 18 คน ขณะนี้อยู่ในเรือนจำ
อีกคดีเป็นการยักยอกเงินราว 2 ล้านยูโร หรือกว่า 71 ล้านบาท ของพี่อ้อย หรือ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ คนไทยในฝรั่งเศส จนมีการแจ้งความดำเนินคดีผู้ที่ยักยอกทรัพย์ก้อนนี้ไป
บังเอิญที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 คดีเป็นทนายความชื่อดังคือทนายตั้ม หรือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด โดยคดีของดิไอคอนที่ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงิน 7.5 ล้านบาท แต่ทนายดังแจ้งว่าเพื่อนำมาคืนให้ผู้เสียหาย ส่วนคดี 71 ล้านบาท ทนายตั้มกล่าวว่า เป็นการมอบให้โดยเสน่หา ตอนนี้มีการเปิดเผยถึงวีรกรรมต่างๆ ของทนายท่านนี้ออกมาเป็นชุดๆ
รอบนี้เพื่อนยังถอย
คดีของดิไอคอนยังไม่มีการแจ้งความทนายตั้ม แต่คดี 71 ล้านแจ้งความแล้ว และโอนคดีจากปากช่อง นครราชสีมา เข้ามาที่ส่วนกลาง คดีนี้กระทบต่อภาพลักษณ์ของทนายคนดังเป็นอย่างมาก
แม้เจ้าตัวจะเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่จากพยาน หลักฐาน ที่พี่อ้อยนำออกมาเปิดเผยนั้นมีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้เพื่อนๆ ของทนายตั้มที่เป็นทนายด้วยกันก็ออกอาการถอยกันเป็นแถบๆ
สะท้อนให้เห็นว่าคำโต้แย้งของทนายตั้มกับหลักฐานที่เจ้าทุกข์มีอยู่นั้น ความน่าเชื่อถือแตกต่างกัน และตอนนี้ทนายตั้มก็โพสต์โซเชียลน้อยมาก และพยายามหลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แตกต่างจากครั้งก่อนๆ ถือว่าผิดวิสัยทนายคนดัง
ไม่ต่างไปจากทนายนิด้าที่ออกมาโพสต์ถึงเรื่องนี้ว่า “คนนิสัยอย่างทนายตั้ม ไม่ใช่คนประเภทจะมานั่งเงียบ ยอมให้ใครรังแก สายฟัดมาตลอด ตั้งแต่ยังไม่ดัง โดนใส่ร้ายฉ่ำขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง ปกติไม่พ้นข้ามคืน ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวไปแล้วค่า”
เจ้าภาพเรียงคิว
เมื่อศึกรอบนี้ทำเอาทนายตั้มออกอาการเสียศูนย์ บรรดาคนที่เคยได้รับผลพวงจากทนายตั้มจึงเริ่มออกมาแฉ อย่างเช่นคดีแตงโมที่ ปอ-แซน ที่อยู่บนเรือกับแตงโมออกมาเล่าเบื้องหลังของคดีที่มีทนายตั้มเข้ามาให้คำปรึกษาในระยะแรก แต่คนบนเรือไม่เลือกษิทรามาเป็นทนาย
หรือทนายของดิไอคอนที่ออกมาปูดเรื่อง 7.5 ล้านบาท หลังจากที่มีการรวมตัวของทนาย 8 คนเพื่อช่วยผู้เสียหายดิไอคอน เพราะก่อนหน้านี้มีกรณีที่คล้ายๆ กันที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี
หนึ่ง บางปู กับค่าทนาย 10 ล้านบาท คดีลุงพลเรียก 3 ล้านต่อรองเหลือ 2 ล้าน แต่สุดท้ายไม่รับงาน ล่าสุดแร็ปเปอร์ดังอย่าง Illslick ออกมาแต่งเพลงถึงทนายตั้ม แม้แต่เพื่อนทนายบางคนออกมา Live ว่าเหมือนถูกหลอก บางท่านไม่เชื่อคำปฏิเสธของทนายตั้ม หรือที่เพิ่งคืนดีกันก็มีท่าทีถอยห่าง และมีความเป็นไปได้ที่อาจมีการเปิดข้อมูลออกมาอีกในอนาคต
ใครหิวแสง
ทนายนิด้า โพสต์ Facebook เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2567 ว่าด้วยเรื่องหิวแสง ติ่งอเวนเจอร์ก็ชอบมาแซวนิด้าทุกทีว่าชอบเกาะกระแส หิวแสง เวลาที่อยากจะแสดงความคิดเห็นด้วยมั่ง เห็นต่างด้วยมั่งในข้อกฎหมายใดๆ ประหนึ่งกันสัมปทานไว้ให้แต่ตั้ม เดชา รัชพล รณณรงค์ แสดงความเห็นกันได้อยู่ผู้เดียว จะบอกพวกที่ชอบว่า หุบปากซะ ทนายเหล่านี้ก็ไม่ได้เก่งที่สุดในบรรดาทนายความทุกคน ดังนั้นต้องฟังทนายคนอื่นพูดบ้าง
นิด้าจะบอกอะไรให้ ตอนคดีแตงโมข่าวดังทั่วประเทศ ตั้มลงพื้นที่เอาสื่อ ทั้งที่มิใช่ทนายผู้รับผิดชอบคดี ไปนั่งดูเรือแล้วบอกว่าหางเสือบาดน้อง ประหนึ่งเป็นกองพิสูจน์หลักฐาน และพูดเหมือนจะชี้นำว่าเป็นการฆาตกรรมจากคนบนเรือ ยอดคนตามเพจจาก 1 ล้านเป็น 2 ล้านเพราะคดีแตงโม ทั้งที่ตัวเองไปนั่งให้คำปรึกษาซักข้อเท็จจริงเขามาก่อน แล้วมาเป็นปฏิปักษ์กับเขา เห้…เกินคนนะ
วันงานศพตั้มยังชวนแก๊งไปร่วมงาน ตั้มและเดอะแก๊งที่ปฏิเสธความหิวแสง จัดธีมเสร็จสรรพ ขาว-ครีม-ชมพู ชวนนิด้าไปร่วมสังเคราะห์ด้วยยังไม่ไปเลย ทั้งที่ถ้าไปก็น่าจะได้ลงข่าวหน้าหนึ่งกะเขาเหมือนกัน แบบนี้เรียกเกาะอะไรก่อน
สำหรับตัวเอง เหตุผลที่ไม่ไปเพราะหน้าไม่ด้านพอ จะไปเอาซีนกอดบนความสูญเสียทั้งตัวเองไม่ได้อินขนาดนั้นหรอก เชื่อเถอะ มันก็เสียใจด้วยนั่นแหละ แต่จะไปเกะกะคนสนิทชิดเชื้อ ญาติโกโหติกาเขาในงานมันต้องมีความเกรงใจ คิดแบบนี้ก็เลยไม่ไป #สรุปใครหิว
สีเทาเป็นเรื่องส่วนตัว
หนึ่งในเพื่อนทนายที่ร่วมงานกับทนายษิทรากล่าวว่า เรื่องงานช่วยประชาชนนั้นส่วนตัวยินดีที่จะเข้าร่วม สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับทนายตั้มถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล ส่วนตัวก็ถอยออกมาตั้งแต่ที่เขาเริ่มโชว์การใช้ชีวิตที่หรูหรา เพื่อนๆ ทนายก็ไม่รู้ว่าเขาไปทำอย่างที่เป็นข่าวหรือไม่ ตรงนี้คงต้องรอเจ้าตัวออกมาชี้แจง แต่ถ้าดูจากพยานหลักฐานที่ถูกเปิดออกมาถือว่ามีน้ำหนักมาก
เราเคยร่วมกันช่วยเหลือประชาชนมาก่อน จากนั้นต่างคนก็ทำงานตามเส้นทางของตัวเอง อาจมีการพบกันบางบางครั้ง แต่ไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว ดังนั้นใครจะไปทำอะไรก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลและต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง ส่วนคดีดิไอคอนที่รับผิดชอบมาแล้วยังต้องทำหน้าที่ต่อไป เพราะมีทนายท่านอื่นๆ เข้ามาร่วมช่วยเหลือด้วย
TV+ข่าว ปั้นทนายดัง
ทนายความอีกรายกล่าวว่า นี่คือผลพวงของการที่ทนายความกลายเป็นอาชีพที่มีบทบาทในสังคมมากขึ้น รายการ Talk เกือบทุกช่องของสถานีโทรทัศน์ มักมีทนายความเข้าร่วมด้วยเสมอ และทนายความยุคนี้ไม่ต่างจากดารา ด้านหนึ่งคือพร้อมช่วยเหลือประชาชนที่เข้ามาร้องเรียน พาไปแจ้งความตามหน่วยราชการ
ทนายจะต้องสร้างตัวตนให้เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป อาจจะเริ่มที่เข้าไปให้ความเห็นทางกฎหมายกับประชาชน เช่น Live
ผ่าน Social Media เพื่อสร้างชื่อ เมื่อเป็นที่รู้จัก มีคนติดตามแล้วอาจขยับมาสู่รายการทีวี จากนั้นก็จะคนเข้าไปร้องเรียนมากขึ้น Case ไหนที่น่าในสนใจรายการทีวีมักจะเข้ามาสัมภาษณ์ หรือเชิญไปร่วมรายการ
ถือเป็นความลงตัวร่วมกัน รายการทีวีที่พิธีกรขยี้จนเกิดความสงสารหรือเกิดดรามาขึ้น ย่อมได้ความนิยมส่งผลต่อยอดโฆษณา ตัวทนายได้ทำ PR ให้ตัวเอง เพิ่มโอกาสของการหาลูกค้าในอนาคต ขณะเดียวกันยังเกิด Value ค่าตัวเพิ่ม สร้างงานให้สำนักงานทนายความของตัวเอง แถมยังทะลุข้อจำกัดเรื่องมรรยาททนายความ ที่ห้ามทนายความโฆษณา
เพื่อนโดน-ตั้มไม่โดน
เมื่อทนายความที่ผ่านกระบวนการเพิ่มมูลค่าจากการเป็นข่าว มีผู้คนรู้จักเป็นวงกว้าง งานว่าความย่อมมีมากขึ้น ค่าจ้างในการว่าความก็ขยับขึ้นตามไปด้วย ลูกพี่ไม่ต้องว่าความก็ได้ แค่หาลูกค้ามาให้สำนักงานทนายความก็พอ แพ้ชนะไม่มีใครสนใจ
กระบวนการทางกฎหมายทำให้ทนายความเหล่านี้รู้จักกับบุคคลต่างๆ แวดวงตุลาการ ที่อาจส่งผลบวกต่อคดีของลูกความ อาจทำให้บางรายต่อยอดไปทำส่วนที่นอกเหนือไปจากอาชีพทนายความก็ได้ ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล
เราอาจได้เห็นทนายความบางท่านทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจรจา ดีลธุรกิจ ดีลเรื่องคดีความ รวมไปถึงการอ้างว่าประสานกับผู้หลักผู้ใหญ่ในเส้นทางของกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้คดีของลูกความบรรลุเป้าหมายได้ แต่อาจขัดต่อข้อบังคับมรรยาททนายความ
“ขอพูดตรงๆ ทนายที่เป็นเพื่อนทนายตั้ม เคยโดนพักใบอนุญาตทนายความมาแล้ว 2 คน 1 ปีและ 2 ปี แต่ทนายตั้มไม่โดน ก็ลองคิดดูเอาว่ากำลังภายในของทนายคนดังนั้นมีไม่น้อย”
หิวแสงสู่อับแสง
แต่วันนี้สถานการณ์อาจไม่เหมือนก่อน นายตำรวจใหญ่คนดังพ้นจากวงโคจรในการเรืองอำนาจไปแล้ว เกราะป้องกันตัวจึงแทบจะไม่เหลือ ส่วนหน่วยงานที่ควบคุมดูแลทนายความก็ถูกสังคมจับตาว่าจะจัดการกับทนายความที่กระทำผิดต่อข้อบังคับ
มรรยาททนายความอย่างไร เนื่องจากภาคประชาชนเริ่มทวงถามการทำหน้าที่ของสภาทนายความกันมากขึ้นทุกขณะ
กรณีที่เกิดขึ้นกับทนายดัง ในอีกมุมถือเป็นเรื่องดีที่ปลุกให้คนในสังคมได้คิดว่า ภาพที่เห็นกับสิ่งที่ทำลับหลังนั้น มันอาจย้อนแย้งกัน ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คนในสังคมควรรู้เท่าทันสังคมของทนายความ
ทนายที่เขาไม่เน้นออก TV ทำงานแบบเงียบๆ ก็มี แต่ลูกความอาจมีไม่มากนัก หรือทนายความของบริษัทกฎหมายขนาดใหญ่ มักจะไม่ออกมาทำตัวเป็นข่าว โดยเฉพาะบริษัทข้ามชาติ ที่เราเห็นทนายที่เป็นข่าวตามสื่อต่างๆ มักจะเป็นคดีบุคคล ถ้าดึงลูกความมาใช้บริการได้จะส่งผลต่อรายได้ของสำนักงานทนายความแห่งนั้น
พุ่งเป้าสภาทนายฯ
สิ่งที่คุณเห็นเช่นทนายทะเลาะกันหรือดีกันนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ เขาก็ไม่ได้โกรธกันหรือทะเลาะกันจริงจัง วันหนึ่งถ้าเจอคดีใดที่เห็นฟ้องกันก็ร่วมมือกันได้ หรืออย่างการร้องเรียนให้ตรวจสอบทนายด้วยกัน มันก็เป็นเรื่องการแย่งชิงงานกัน
การเหยียบหัวทนายด้วยกันเพื่อให้ตัวเองโด่งดังขึ้นมามีให้เห็นเป็นเรื่องปกติ หรือการจ้องที่จะฟ้องร้องหรือรับงานกับคดีที่คนสนใจก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ทนายที่ต้องการโตทางลัดใช้กัน หรือการรับงานจากผู้ต้องหาในเรือนจำมาขู่ฟ้องคนอื่นๆ ก็มีให้เห็น
ตอนนี้ทุกสายตาพุ่งไปที่สภาทนายความว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร เพราะทนายตั้มถูกร้องเรียนหลายเรื่องแต่ก็รอดมาได้ทุกครั้ง หรือทนายบางคดีออกมาพูดที่เข้าข่ายข่มขู่พยานหรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หน่วยงานที่ควบคุมดูแลทนายความกลับเงียบ
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j