xs
xsm
sm
md
lg

ดร.เจษฎ์ ชี้ประเด็นร้อน ‘นายกฯ อิ๊ง’ เสี่ยงตามรอย ‘เศรษฐา’ หวั่น ‘วิญญูชน’ ถูกใช้เป็นเครื่องมือเตะนักการเมืองไม่เข้าพวก!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย ระบุ คดีนายเศรษฐา ทำให้เกิดบรรทัดฐานใหม่ในการเลือก ‘นายกฯ-รัฐมนตรี’ โดยเฉพาะ ‘วิญญูชน’ ที่รับรู้ถึงความผิดชอบ-ชั่วดีที่ประเทศเสรีประชาธิปไตยทั่วโลกใช้กัน แนะไปฟังเพลงลูกเสือ-ความซื่อสัตย์ทุกคนจะรู้ตั้งแต่เด็กว่าวิญญูชนดีอย่างไร ติง ‘นายกฯ อิ๊ง’ อย่ามัวแต่คัดกรองคุณสมบัติรัฐมนตรี ควรตรวจสอบตัวเองที่มีความเสี่ยงทั้งในด้านจริยธรรมร้ายแรง-วิญญูชน 2-3 ประเด็นใหญ่ๆ ถึงขั้นติดคุกและยุบพรรคการเมืองทุกพรรคที่เข้าไปบ้านจันทร์ส่องหล้าตามมาตรา 28, 29, 92, 108 เตือน ‘ทักษิณ’ หยุดเย้ยฟ้าท้าดินได้แล้ว ระวังจะเข้าข่ายครอบงำชี้นำรัฐบาลแพทองธาร หวั่นผู้มีอำนาจการเมืองใช้บรรทัดฐานใหม่เป็นเครื่องมือเตะนักการเมืองไม่เข้าพวกสูญพันธุ์!

อนาคตบ้านเมืองไทยจะเป็นเช่นไร โดยเฉพาะวันนี้การตั้งคณะรัฐมนตรี ‘แพรทองธาร 1’ ยังฝุ่นตลบ ที่สำคัญการตั้งรัฐบาลครั้งนี้ต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวัง หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการกระทำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีขณะนั้น กรณีตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เข้าข่ายเป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริตและมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

อีกทั้งในคำวินิจฉัยยังบอกด้วยว่าการที่นายพิชิต เคยถูกศาลฎีกาสั่งจำคุก 6 เดือน ฐานละเมิดอำนาจศาล กรณีนำถุงขนมใส่เงินประมาณ 2 ล้านบาท ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาล ระหว่างการพิจารณาคดีที่ดินรัชดาฯ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นที่รับรู้รับทราบของวิญญูชนทั่วไปเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ดี คำว่าจริยธรรม สังคมได้เห็นและรับรู้มาแล้ว เช่น กรณีของ ‘ปารีณา ไกรคุปต์’ อดีต ส.ส.พลังประชารัฐ โดนข้อหาจริยธรรมจากการที่ได้รับมรดกครอบครองที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย จนถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต

แต่กรณีของอดีตนายกฯ เศรษฐา ไม่เพียงมีคำว่าจริยธรรมเท่านั้น แต่ยังมีคำว่า ‘วิญญูชน’ เข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งจะถูกนำมาเป็นบรรทัดฐานใหม่ในการพิจารณาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง และจะทำให้การเมืองไทยพลิกโฉมหรือไม่? รวมไปถึงนายกฯ คนที่ 31 แพทองธาร ชินวัตร มีความเสี่ยงหรือไม่ อย่างไร

แพทองธาร ชินวัตร
รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย ระบุว่า คำวินิจฉัยคดีอดีตนายกฯ เศรษฐา นั้น จะเป็นมาตรฐานใหม่ของบ้านเมืองไทย หรือเป็นมาตรฐานเดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งคำว่าวิญญูชนมีอยู่แล้ว เพียงแต่ถูกเพิกเฉย ละเลย หรือหลงลืมกันไป ในความเป็นจริงสิ่งเหล่านี้ต้องมีในระบอบสังคมที่เป็นเสรีประชาธิปไตยก้าวหน้า ทั้งประเทศญี่ปุ่น อังกฤษ ล้วนมีอยู่ทั้งสิ้น

“การที่ศาลบอกว่า วิญญูชนควรรับรู้ หมายความว่า รับรู้อะไร ก็รับรู้ความผิดชอบชั่วดี ถามว่าบุคคลทั่วไปอยากทำงานกับใคร ก็อยากทำงานกับคนที่ซื่อสัตย์ สุจริต อยากทำงานกับคนที่มีเกียรติศักดิ์ รักในสิ่งที่เป็นศักดิ์ศรี ไม่ยอมไปเสียเกียรติ แต่สิ่งที่คุณกระทำอยู่นั้นมันเสื่อม”

ที่ผ่านมาบ้านเมืองเราย่อหย่อน แต่เมื่อตุลาการศาล รธน.พูดขึ้นมาทั้งจริยธรรมและวิญญูชน ก็ทำให้พวกที่รับไม่ได้กับคำตัดสินนี้ เกิดความรู้สึกอะไรวะ เดี๋ยวนี้สังคมไทยเป็นแบบนี้แล้วหรือ ใช้เกณฑ์ความซื่อสัตย์ สุจริตมาใช้ในการตัดสินชี้ขาด

“จริงๆ คำวินิจฉัยของศาลครั้งนี้มันพลิกฟื้นสิ่งที่เราเคยมี หรือที่เราไม่เคยมี เกิดมีขึ้นมา ผมถือว่ามันเป็นมาตรฐานในการพิจารณาผู้เข้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยเฉพาะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ที่สูงขึ้น ทำให้ใครก็ตามที่จะมาดำรงตำแหน่งการเมืองต้องคิด หรือใครจะนำใครมาก็ต้องพิจารณา เหมือนเพลงความซื่อสัตย์-เพลงลูกเสือ”

รศ.ดร.เจษฎ์ บอกอีกว่า เพลงความซื่อสัตย์ คนทั่วไป ลูกเด็กเล็กแดง ได้เรียนกันมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเมื่อศาลใช้คำว่า วิญญูชน กลับมีคนจำนวนหนึ่ง กระทั่งนักวิชาการ ร่ำเรียนกันมาขนาดไหนก็มานั่งพูดกัน เหมือนเสียดสี

“ไปดึงคำวิญญูชนมาวัด ถ้าไม่เอาวิญญูชนมาวัด แล้วจะเอาอะไรมาวัด  คุณเป็นนักการเมือง อาสาเข้ามาทำงาน คุณเป็นรัฐมนตรี เป็นนายกฯ ไม่ต้องมีหรืออย่างไร”

ดังนั้นเมื่อประเด็นนี้ถูกดึงมาใช้เพื่อพิจารณาตั้งคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลแพทองธาร 1 โดยมีการตรวจสอบประวัติ ความเชื่อมโยงต่างๆ ผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีที่ลึกลงไปกว่าอดีตที่เลือกกันมา อย่างน้อยสังคมจะได้ไม่ต้องมาร้อง ‘ยี้’ ไม่ต้องมานั่งเถียงกันว่า รัฐมนตรีคนนั้นติดคดีนี้ รัฐมนตรีคนนี้ไปทำไม่ดี รัฐมนตรีคนนี้ใช้อำนาจไม่ถูกไม่ชอบ คนนี้เคยไปทำสิ่งไม่ดีในต่างประเทศ เสมือนเป็นการกรองที่ละเอียดขึ้น ขณะที่ผ่านมาเรามีการกรองที่หยาบมากไป

“พอเรามีการกรองที่ละเอียดขึ้น คนในประเทศจะรู้สึกว่าคนของเราเชิดหน้าชูตาได้ ควรให้คนพวกนี้มาบริหารราชการแผ่นดิน นานาประเทศ ที่จะมาร่วมหอลงโรงกับเรา มาทำสนธิสัญญา ในเรื่องทำทวิภาคี ในเรื่องการลงทุนอะไร ก็จะมีความรู้สึกไว้วางใจได้ เพราะพวกคนที่ทุจริต พวกที่ขาดความซื่อสัตย์สุจริตอาจจะรับเงิน หรือวิ่งเต้น หรือ เป็นพรรคเป็นพวกกัน ก็อาจละอายใจได้”

‘ตัวกรอง’ ตรงนี้ที่จะส่งผลดีทั้งภายในและนอกประเทศตามมา!

รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย
นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์ในด้านการพัฒนาคน เพราะไม่ใช่ว่าแสดงความเป็นประชาธิปไตยแค่เพียงหย่อนบัตร ใครได้เสียงมากกว่า คนนั้นได้ตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ ทั้งที่ความจริงต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานที่เหมาะสมด้วย ถ้าคุณสมบัติพื้นฐานไม่เหมาะสม แม้ได้คะแนนเสียงมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องออกไป หรือไม่ได้รับเลือกเข้ามาดำรงตำแหน่ง

“เรื่องนี้จะทำให้มีการพัฒนามากมาย จะช่วยยกระดับสิ่งที่ผู้คนรู้สึกว่า ไม่มีในบ้านเมืองเรา หรือมันหายไป เรื่องความดีงามของคน ที่เข้ามาทำงานสำคัญของบ้านเมืองจะต้องมีความดีงามที่เห็นเป็นรูปธรรมจริงๆ”

รศ.ดร.เจษฎ์ ย้ำว่า หากสังคมช่วยกันประคับประคอง และสิ่งที่วิญญูชนรับรู้ ถูกนำมาใช้เรื่อยๆ จนถูกเรียกว่า เป็นพื้นฐานรัฐธรรมนูญ เป็นจารีตประเพณี แม้ไม่เขียนในรัฐธรรมนูญ วันหนึ่งก็ต้องเขียนไว้ในจารีตประเพณี แต่สิ่งที่ต้องคำนึงในการนำสิ่งเหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้องก็อาจจะทำให้นักการเมืองบางคนหายไปจากวงการเมือง

การนำมาใช้มันจะมี 2 แบบ คือ 1.นักการเมืองบางคนหายไปอย่างมีนัยสำคัญ 2.แบบมีคำอธิบายประหลาดๆ เช่น นาฬิกายืมเพื่อน บกพร่องโดยสุจริต สุจริต ทำผิดในต่างแดน อะไรทำนองนี้ เพื่อพยายามตีกรรเชียง แบบศรีธนญชัย ถือว่า ซื่อสัตย์ สุจริต มีจริยธรรม อะไรแบบนี้”

รวมทั้งไม่อยากให้ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจทำแบบไฟไหม้ฟาง เพราะคนมีอำนาจตัดสินจริงๆ ก็ไม่อยากได้นักการเมืองคนนี้มาร่วมรัฐบาล จะด้วยความขัดแย้งแต่ภูมิหลังหรืออะไรก็ตาม โดยใช้คำตัดสินคดีนายเศรษฐา มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองขจัดเขาให้พ้นเส้นทาง

“เรื่องนี้ต้องมีความระมัดระวัง มันอาจมีการยัดโทษ ยัดความผิดกันได้ ทำให้ดูเสมือนหนึ่งว่า คนนี้ไม่ดี แต่จริงๆ คือการกีดกันเขาเท่านั้นแหละ ซึ่งตรงนี้ต้องระมัดระวัง มันอาจถูกใช้ในมุมกลับได้”

ในการมีหน่วยงานกลางที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองเข้ามาช่วยตรวจสอบประวัติและคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบคุณสมบัติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปช่วยกันตรวจสอบถือว่าเหมาะสม เพราะการคัดเลือกตำแหน่งทั้งหลาย จะใช้แต่เสียงข้างมากไม่เพียงพออีกต่อไป

“เราต้องมีเครื่องกรองที่มีประสิทธิภาพ หน่วยงานเหล่านั้นอาจจะไม่ใช่มาจากการเลือกตั้ง การถามหาความเชื่อมโยงจากประชาชนทั้งหลาย บางทีมันไม่สำคัญเท่ากับคนที่จะมาทำหน้าที่กรอง มีคุณสมบัติพอที่จะมากรองหรือไม่ ซึ่งสำนักเลขาฯ และสำนักกฤษฎีกาไม่ได้มาจากประชาชนเลือกก็จริง แต่เขารู้ว่า คุณสมบัติแบบไหน ใช่หรือไม่ใช่ ตรงนี้จะช่วยได้ดีมาก”




ประเด็นสำคัญการคัดกรองที่มีประสิทธิภาพ คนที่โดนคดีต่างๆ จะย้อนลึกแค่ไหนนั้น ก็ขอบอกว่า บางเรื่องจะต้องติดตัวไปตลอดชีวิต โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นกุศโลบาย ที่ทุกประเทศต้องช่วยกันขจัด เช่น เรื่องยาเสพติด ค้ามนุษย์ ค้าอาวุธเถื่อน ทำตัวเป็นภัยต่อมวลมนุษย์ เช่น ฆ่าคนเยอะ ทุจริต เรื่องเหล่านี้ต้องติดตัวไปตลอดชีวิต เพราะเป็นภัยร้ายแรงต่อมวลมนุษยชาติ แต่ถ้าเรื่องอื่นไม่แน่ ติดคุกไปแล้ว 10 ปี อาจจะมีคุณสมบัติ พอได้

ส่วนที่โดนคดีอื่นๆ เช่นการออกมาต่อต้านเผด็จการ และได้รับโทษไปแล้ว หรือต่อสู้จนศาลยกฟ้อง ก็ควรจะถือว่าจบแล้ว เพราะได้รับโทษไปแล้ว หรือหากจะมีการเติมว่า ถ้าคุณออกมาทำการปฏิวัติ รัฐประหาร แบบนี้ไม่ให้ดำรงตำแหน่ง หรือควรให้ติดตัวไปเลยก็แล้วแต่ เพื่อให้สังคมดำรงอยู่ร่วมกัน

“หรือกรณีเคยต้องโทษในประเด็นที่ทุกประเทศต้องช่วยกันขจัด แม้ได้รับการอภัยโทษแล้วก็ตาม แต่เขาเคยกระทำไปแล้ว ไม่อย่างนั้น มันก็ล้างมลทินกันได้สิ ล้างมลทิน กลายเป็นขาวสะอาดเลย ไม่ได้หรอก หรือหลายคนที่ตกเป็นข่าวเรื่องคุณสมบัติ ถ้านำเรื่องนี้ไปจับก็อาจจะหายไปจากวงการเมืองก็ได้”

รวมไปถึงพวกที่เป็นนักเลงและเข้าสู่การเมืองเพื่อหาผลประโยชน์โดยใช้การเมืองบังหน้าก็ไม่ควรที่จะได้ตำแหน่งเช่นกัน!

รศ.ดร.เจษฎ์ บอกอีกว่า รัฐบาลแพทองธาร ควรใช้โอกาสนี้สะสางคุณสมบัติที่เหมาะสมของคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรี แต่ต้องไม่ลืมที่จะต้องตรวจสอบตัวเอง ในฐานะหัวขบวนก็ต้องระมัดระวัง เพราะตัวนายกฯ มีเรื่องที่โดนในเรื่องนี้อยู่เช่นกัน ทั้งเรื่องของข้อสอบรั่ว มีการโกงข้อสอบจริงหรือ? กรณีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ เป็นธรณีสงฆ์หรือไม่?

“2 เรื่องนี้ก็ใหญ่แล้ว ในฐานะเป็นหัวขบวนก็ต้องเคลียร์ตัวเองด้วย ในฐานะตัวเองก็ถือหุ้น 30% เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับจริยธรรมและวิญญูชน จึงเป็นเรื่องที่นายกฯ ต้องเคลียร์ให้ชัดๆ”

ส่วนเรื่องสนามกอล์ฟอัลไพน์นั้น ล่าสุด นายวัน อยู่บำรุง สมาชิกพรรคพลังประชารัฐโพสต์คลิป ‘ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง’ ซักฟอกปมสนามกอล์ฟอัลไพน์ ในสภาเมื่อปี 2545 ผ่านเฟซบุ๊ก ‘วัน อยู่บำรุง’ พร้อมระบุข้อความว่าความจริงก็คือความจริง

พร้อมกันนั้น ยังมีการปล่อยคลิปกันออกมาอีกว่าการเอาที่ดินธรณีสงฆ์ไปหาประโยชน์ของตระกูลชินวัตรควรจะพอได้แล้ว หรือจะปล่อยให้เวรกรรมมันสนองเอง พร้อมเสียงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจริงจัง


รศ.ดร.เจษฎ์ ระบุว่า ไม่ใช่แค่ 2 ประเด็นนี้เท่านั้น ยังมีเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง สิ่งที่ปรากฏให้สังคมได้เห็นเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมาเสมือนว่ามีการตั้งรัฐบาลชุดนี้ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพราะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเศรษฐา พากันไปที่นั่นเพื่อเคาะชื่อที่จะโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 16 ส.ค.ที่สภาฯ ต่อไป ปัจจุบันบรรดานักร้องจะไปร้องในประเด็นนี้อยู่แล้ว

“รัฐบาลชุดนี้เหมือนตั้งนายกฯ ที่บ้านคุณทักษิณ ตกลง คุณทักษิณ ชี้นำ ควบคุมพรรค หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ยุบพรรคทุกพรรคที่ไปคุยวันนั้น คุณต้องติดคุกเลย และผิดมาตรา 28, 29, 92, 108 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560”

ทั้งนี้ หากมีการยุบพรรคก็ต้องยุบทุกพรรคที่ไปในวันนั้น แต่เรื่องนี้ก็มีโอกาสพลิกได้ ว่าไม่ได้ไปตั้งรัฐบาลที่นั่น เป็นเพียงปรึกษาหารือกันเฉยๆ ซึ่งเรื่องนี้ท้ายที่สุดจะยุบหรือไม่ ก็อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้วินิจฉัย

อีกทั้งผลที่ได้รับตามมาจากคดีนายศรษฐาก็คือจะเป็นพัฒนาการทางการเมืองที่ดี คุณภาพพรรคการเมืองจะดีขึ้น ทำให้เกิดผลดี และเกิดการปฏิรูปการเมืองได้ในที่สุด

“โฉมหน้าการเมืองจะดีขึ้นหรือไม่คำตอบอยู่ที่ หากบ้านเมืองบริหารโดยคนมัวหมอง บ้านเมืองก็จะมัวหมอง ถ้าบริหารโดยคนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี บ้านเมือง ก็อนาคตสดใส”

ขณะเดียวกัน ก็เตือนนายทักษิณ ชินวัตร ออกมาแสดงบทบาทต่างๆ แบบเย้ยฟ้าท้าดิน เย้ยพระมหากษัตริย์ และท้าทายประชาชนมามากแล้ว จึงควรพอได้แล้ว และถ้าคิดจะมานั่งเป็นที่ปรึกษาให้รัฐบาลแพทองธาร คงจะไม่ได้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องระวังอย่างยิ่ง เพราะนายทักษิณ โดยคดีความมากมายและมีโอกาสที่จะเข้าข่ายครอบงำ ชี้นำ ควบคุมได้เช่นกัน แต่สำหรับนายเศรษฐา ถ้าจะมานั่งเป็นที่ปรึกษา ยังน่ามีความเป็นไปได้ เพราะไม่เข้าข่ายครอบงำ!

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่


Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j


กำลังโหลดความคิดเห็น