xs
xsm
sm
md
lg

ศาล รธน.สั่งยุบ ‘ก้าวไกล’ ไม่กระทบ ศก.! จับตา 14 ส.ค. ‘เศรษฐา’ รอดนั่งนายกฯ ต่อ?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



‘รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์’ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมืองชี้ 3 คดีร้อนแรงในเดือน ส.ค. ‘ก้าวไกล-เศรษฐา-ทักษิณ’ แจงศาล รธน.สั่งยุบพรรคก้าวไกล ส่งผลทางเศรษฐกิจแค่ความหวั่นไหวของตลาดหุ้น แต่หาก ‘เศรษฐา’ ไม่รอดเศรษฐกิจจะกระทบมากขึ้นเพราะต่างชาติชะลอการลงทุนออกไประยะหนึ่ง จับตา 14 ส.ค.นี้ ‘เศรษฐา’ มีโอกาสรอดยังนั่งเก้าอี้นายกฯ จริงหรือไม่? เผยไม่ว่า ‘เศรษฐา’ จะอยู่หรือไป โครงการต่างๆ พรรคร่วมรัฐบาลจะกอดคอกันผลักดันต่อไป ติงหากเกิดวิกฤตต้องยุบสภา พรรคร่วมรัฐบาลก็ลำบากเช่นกัน

แม้ว่าเดือน ส.ค.นี้ จะมีคดีดังที่เกี่ยวข้องกับความร้อนระอุทางการเมืองถึง 3 คดี เริ่มจากคดีแรก วันนี้ (7 ส.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค กรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567

ซึ่งในวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 9:0 ให้ยุบพรรคก้าวไกล พร้อมมีคำสั่งให้ตัดสิทธิทางการเมือง "กรรมการบริหารพรรค" เป็นเวลา 10 ปี




คดีที่สอง กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ตามที่ 40 ส.ว. (ชุดที่เพิ่งหมดวาระ) ร่วมลงชื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชี้ขาดเหตุขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่านายพิชิต ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ซึ่งจะมีคำวินิจฉัยในวันที่ 14 ส.ค.นี้

คดีที่สาม กรณีสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร ในคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และศาลอาญานัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 19 ส.ค.ที่จะถึงนี้

โดยทั้ง 3 คดีล้วนแต่เป็นคดีดังที่ประชาชนให้ความสนใจว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยหรือไม่ อย่างไร

รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง ระบุว่า กรณีแรก เมื่อศาลสั่งยุบพรรคก้าวไกล จะมีผลกระทบต่อด้านเศรษฐกิจน้อยมาก เนื่องจากเป็นเพียงความรู้สึกของคนที่เกรงกันว่าถ้าหากยุบก้าวไกลแล้วจะมีม็อบกดดันนอกสภา นั่นเป็นเพียงการมองในเชิงการเมืองเท่านั้น

แต่ในทางเศรษฐกิจ จะพบว่าการประท้วงดังกล่าวไม่กระทบต่อการลงทุนโดยตรง แต่อาจจะกระทบบ้างในเชิงจิตวิทยาต่อตลาดหุ้นเพียงเล็กน้อย เพราะเรื่องการประท้วง เป็นเรื่องที่ทุกประเทศต้องเผชิญ ดังนั้นทั้งนักลงทุนไทยและต่างชาติ จะมองลึกไปกว่านั้น คือ

1.จะดูว่านโยบายต่างๆ ของรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

2.การบริโภคของประชาชนน้อยลงหรือไม่

“สั่งยุบพรรคก้าวไกลจะกระทบเล็กน้อยในเรื่องความรู้สึกของคน ตลาดหุ้น และสมาชิกในครอบครัวของผู้ที่ไปประท้วง แต่จะส่งผลกระทบเชิงเศรษฐกิจด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และการลงทุน ในเรื่องตลาดหุ้นที่มาจากผลของการยุบพรรคก้าวไกลมีน้อยมาก”

ส่วนกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน หากต้องพ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไปนั้นจะส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากการเข้ามาลงทุนของต่างประเทศหรือนักลงทุนไทยเพราะกังวลว่าจะเกิดสุญญากาศตามมาซึ่งจะมีความชัดเจนกว่ากรณียุบพรรคก้าวไกล

“การลงทุนของต่างชาติจะเกิดการชะลอ โดยเฉพาะนักลงทุนที่คุณเศรษฐาไปชักชวนให้มาลงทุน เขาต้องชะลอดูว่านโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลประกาศไว้ ทั้งเรื่องภาษี จะมีการปรับปรุงเรื่องระบบการลงทุน มีการลดภาษีด้านต่างๆ จะอะไร อย่างไรต่อไป”

รศ.ดร.สมชาย ย้ำว่า กรณีนายกฯ เศรษฐา แม้ศาลอาจจะมีคำวินิจฉัยออกมาส่งผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง แต่ผลกระทบด้านเศรษฐกิจก็จะน้อย ไม่รุนแรงแต่อย่างใด เนื่องเพราะนโยบายที่นายกฯ เศรษฐา นำเสนอออกไปนั้นคือนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งนายกฯ เศรษฐา เป็นเพียงคนที่ไปเจรจาและเป็นคนที่โดดเด่นเท่านั้น

นายเศรษฐา ทวีสิน - นายพิชิต ชื่นบาน


ตรงนี้พิสูจน์ได้จากแม้ไม่มีนายเศรษฐา นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ก็ยังอยู่เพราะนี่คือนโยบายของรัฐบาล รวมไปถึงนโยบาย Soft Power โครงการ ‘IGNITE THAILAND” ที่ประเทศไทยต้องเป็นหนึ่ง ทั้ง 8 ด้านก็ยังอยู่ ซึ่งบางด้านเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมา

“ในภาพรวมแม้ไม่มีนายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อไปก็ตาม ทุกอย่างยังดำเนินตามนโยบายของรัฐได้ตามเดิม แค่อาจมีผลกระทบในแง่การชะลอตัวจากการลงทุนนั่นเอง ส่วนตลาดหุ้นอาจมีผลกระทบในทางจิตวิทยามากหน่อย”

ประเด็นที่เกรงว่าจะมีสุญญากาศในทางการเมืองนั้น ไม่น่าจะต้องกังวลอะไร เพราะถ้าไม่มีนายเศรษฐา จะมีคนอื่นขึ้นมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแทน เพราะทุกคนในพรรคร่วมรัฐบาลต้องเกาะกลุ่มกันแน่น ถ้าไม่เกาะกันให้แน่นไว้อาจจะมีการยุบสภาหรือเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นตามมา ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลเองจะได้รับผลกระทบเช่นกัน ดังนั้นหากนายเศรษฐา พ้นไป จะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจแค่เกิดการชะลอตัวทางการลงทุนเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนนโยบายต่างๆ ยังคงอยู่ทั้งหมด

สำหรับกรณีนายทักษิณ ชินวัตร กรณีมาตรา 112 เป็นเรื่องอีกนาน และเชื่อว่ามีผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อยลงไปอีก แต่ในมุมของคนที่มองด้านการเมือง เห็นว่านายทักษิณ ยังเป็นที่ปรึกษาอยู่เบื้องหลัง คนอาจวิจารณ์ว่ามีสองรัฐบาล ผลกระทบตรงนี้มีผลกับแนวนโยบายรัฐ ที่กำลังทำอยู่เท่านั้น

“ถามว่าทั้ง 3 เรื่องนั้นมีการนำไปสู่แนวทางการเปลี่ยนนโยบายรัฐหรือไม่ถ้ามีในกรณีนี้ คนต้องมาดูว่ามีผลกระทบอะไรบ้าง ซึ่งแนวนโยบายรัฐที่กำลังทำอยู่ทั้งหมด เป็นแนวนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นทั้งนั้น”

รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง
รศ.ดร.สมชาย บอกอีกว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะกลาง รัฐบาลยังไม่เริ่มต้นอะไรเท่าไหร่ หรือถ้าหากมีแล้วแต่ยังไม่กระทบ ก็จะทำให้ทุกคนต่างจับตาดูว่าสิ่งที่รัฐบาลเริ่มต้นกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นยังเดินต่อหรือไม่ ถ้ายังเดินต่อได้จะมีคำตอบที่ชัดเจนคือ รัฐบาลจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร หากพรรคร่วมรัฐบาลยังคงอยู่เหมือนเดิม และแนวนโยบายต่างๆ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทุกคนต้องติดตาม

“นโยบายดิจิทัล 10,000 บาท อยู่หรือไม่ หรือโครงการแลนด์บริดจ์ จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เพราะโครงการนี้เกิดขึ้นในยุคคุณเศรษฐา ซึ่งเชื่อว่าถ้าผู้นำไม่ใช่คุณเศรษฐา คิดว่าแลนด์บริดจ์ยังอยู่และพรรคร่วมรัฐบาลจะดำเนินการต่อซึ่งคงมีการศึกษาเพิ่มเติมว่าคุ้มค่าหรือไม่ในการลงทุนอย่างไร ค่อยมาตัดสินใจกันอีกวาระหนึ่ง”

ขณะเดียวกัน หากผลการวินิจฉัยส่งผลให้นายเศรษฐา ไม่หลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจประเทศมั่นคงขึ้นแต่อย่างใด เพราะเศรษฐกิจทุกวันนี้เดินหน้าในตัวของมันเอง เพราะรัฐบาลที่เพิ่งเข้ามาและงบประมาณยังไม่ได้นำไปใช้ จึงส่งผลทำให้เศรษฐกิจขยายตัวต่ำ และวันนี้งบประมาณปี 2567-2568 เริ่มจะนำมาใช้แล้วเพียงแต่ว่า หากไม่มีนายเศรษฐา อาจชะลอตัวลงบ้างเท่านั้นเอง

อย่างไรก็ดี โครงการต่างๆ จะเดินหน้าได้หรือไม่ หรือเศรษฐกิจจะเติบโตหรือขับเคลื่อนได้ อยู่ที่ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของรัฐบาลในการดำเนินการเป็นสำคัญ

“ตรงนี้จึงไม่ได้หมายความว่าคุณเศรษฐายังอยู่ เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง แต่ขึ้นอยู่กับต่างชาติจะเข้ามาลงทุนตามที่คุณเศรษฐาไปชักชวนได้แค่ไหน เพราะบางส่วนไม่มีคุณเศรษฐา ต่างชาติมีแผนเข้ามาลงทุนอยู่แล้ว จึงไม่เกี่ยวว่าคุณเศรษฐาจะยังนั่งเป็นนายกฯ หรือไม่นั่นเอง”

ด้านนโยบายแลนด์บริดจ์ เป็นนโยบายยุคนายเศรษฐา ถ้าหากนายเศรษฐา ยังเป็นนายกฯ ต่อไปต้องถามต่อว่า ‘แลนด์บริดจ์’ ยังเดินหน้าอยู่หรือไม่ หรือโครงการในพื้นที่ EEC ก็มีอยู่แล้ว เมื่อนายเศรษฐา ไปพูดหรือไปเชิญชวน พร้อมมีการนำเสนอโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นมาบ้าง จึงถือเป็นภาพบวกกับรัฐบาล

“แลนด์บริดจ์ นโยบาย Soft Power ที่อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องต่างประเทศ หรือ Ignite Thailand ประมาณ 60-70% ก็เป็นแนวนโยบายของรัฐบาลยุคที่แล้ว ตัวคลัสเตอร์ต่างๆ จะมีเพิ่มคลัสเตอร์ใหม่นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง ส่วนใหญ่อยู่ในอันเก่ามากกว่า ก็ต้องไปผลักดันให้เดินหน้าได้ หรือ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม EEC มันล่าช้ามาก รัฐบาลเศรษฐา มีมาตรการด่วนไปเร่งให้มันเกิดขึ้นจริงได้หรือยัง”






รศ.ดร.สมชาย บอกต่อว่า โครงการต่างๆ ที่ประกาศไปแล้ว โดยเฉพาะเรื่องโครงการลงทุนในพื้นที่ EEC รวมทั้งเรื่องรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน นโยบายเหล่านี้หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะเป็นตัวตัดสินแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

ในการนำประเด็นวิกฤตทางการเมืองมาวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจมันไม่ได้ออกมาสอดคล้องกัน ยกตัวอย่างการประท้วงที่ฝรั่งเศส ที่มีต่อเนื่อง และบางครั้งมีแนวโน้มรุนแรง กลับพบว่าเศรษฐกิจฝรั่งเศสขยายตัวได้ดี ซึ่งต้องแยกกันให้ออก คอการเมือง กับเรื่องเศรษฐกิจมันไม่ได้ออกมาในทิศทางเดียวกันอย่างที่คอการเมืองคาดการณ์

นอกจากนี้ บริบททางการเมืองที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ทำให้สถานการณ์ต่างๆ ที่เราคาดว่าจะเป็นภาพลบอาจจะไม่ลบก็ได้ ดังนั้นเมื่อพรรคก้าวไกลถูกยุบ คอการเมืองคาดกันว่าจะมีม็อบ ไม่ได้กระทบต่อเศรษฐกิจหรือการลงทุนแต่อย่างใด อาจจะมีเพียงตลาดหุ้นที่อ่อนไหวเล็กน้อยเท่านั้น

อีกทั้งกรณีของนายเศรษฐา ที่จะมีคำตัดสินในวันที่ 14 ส.ค.นี้ โดยส่วนตัวของ รศ.ดร.สมชาย เชื่อว่า นายกฯ เศรษฐา มีโอกาสนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่อไป แต่ถ้าต้องหลุดจากตำแหน่งนายกฯ จะกระทบการลงทุนเพียงแค่การชะลอออกไประยะหนึ่ง ส่วนโครงการต่างๆ ยังเดินหน้าภายใต้พรรคร่วมรัฐบาลกลุ่มเดิม ขณะที่กรณีนายทักษิณ ยังเป็นเรื่องอีกนาน และคาดว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจยิ่งน้อยถึงน้อยที่สุด เมื่อเทียบกันทั้ง 3 คดีดังทางการเมือง!

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่


Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/

Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j


กำลังโหลดความคิดเห็น