สบน.ออกพันธบัตรงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 2 เหมือนชุดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รุ่น 5 ปี ดอก 3% และรุ่น 10 ปี ดอก 3.4% เริ่ม 13 สิงหาคมนี้ ส่วน ธ.ก.ส.ออกสลากชุดมรกต ถูกทุกงวดเริ่มที่ 5 แสนบาท คอสลาก-พันธบัตรแนะถ้าไม่มีโชคเน้นพันธบัตร ถ้าดวงดีติดสลากไว้บ้างมี 3 ค่ายให้เลือก ออมสิน ธอส. และ ธ.ก.ส.คาดพันธบัตรรุ่นนี้อาจเป็นรุ่นที่ดอกเบี้ยสูงสุด
ไม่รู้ว่าจะเป็นความบังเอิญหรือไม่ที่หน่วยงานภาครัฐพร้อมใจกันออกผลิตภัณฑ์ด้านเงินฝากมาพร้อมๆ กันในช่วงนี้ ด้านหนึ่งถือเป็นเรื่องดีที่มีช่องทางในการออมที่มีความเสี่ยงต่ำออกมาให้เลือก อีกด้านเป็นเรื่องที่สร้างความลำบากใจให้ผู้ที่ต้องการจะออมไม่น้อยเช่นกัน เนื่องจากแต่ละผลิตภัณฑ์มีจุดเด่นและจุดด้อยที่ต่างกัน
ช่วงนี้มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินของภาครัฐที่มีความเสี่ยงต่ำออกมาพร้อมๆ กัน 2 รายการคือพันธบัตรรัฐบาลปีงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 2 และสลากออมทรัพย์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ชุดมรกต
พันธบัตรดอกเบี้ยงาม
เริ่มที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) แจ้งว่า สบน. จะเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ครั้งที่ 2 วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) การจำหน่ายให้ประชาชน วงเงิน 35,000 ล้านบาท ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ วอลเล็ต สบม. (สะสมบอนด์มั่งคั่ง) บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง วงเงิน 10,000 ล้านบาท และช่องทางต่างๆ ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย วงเงิน 25,000 ล้านบาท และ 2) การจำหน่ายให้นิติบุคคลไม่แสวงหากำไรตามที่กระทรวงการคลังกำหนด วงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดช่องทางการจำหน่าย ดังนี้
1.การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง วงเงิน 10,000 ล้านบาท เป็นพันธบัตรรุ่น 5 ปี 3.00% ต่อปี และรุ่น 10 ปี 3.40% ต่อปี (จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน) วันจำหน่าย (เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป) 13-30 สิงหาคม 2567 ผู้มีสิทธิซื้อ บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป วงเงินขั้นต่ำ-ขั้นสูง ตั้งแต่ 100-50,000,000 บาท (หน่วยละ 100 บาท) ช่องทางการจำหน่าย วอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง วิธีการจัดสรร First-Come, First-Served (มาก่อนได้รับสิทธิก่อน)
2.การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 6 ราย ได้แก่
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) พร้อมกับธนาคารตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
ช่วงที่ 1 จองซื้อได้วันที่ 19-21 สิงหาคม 2567 วงเงิน 25,000 ล้านบาท ผู้มีสิทธิซื้อ บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย เป็นพันธบัตรรุ่น 5 ปี 3.00% ต่อปี และรุ่น 10 ปี 3.40% ต่อปี (จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน) วงเงินขั้นต่ำ-ขั้นสูง 1,000 บาท ไม่จำกัดวงเงินขั้นสูง (หน่วยละ 1,000 บาท) ช่องทางการจำหน่าย Internet Banking Mobile Banking และเคาน์เตอร์ของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 6 แห่ง วิธีการจัดสรร Small Lot First (การทยอยจัดสรร)
ช่วงที่ 2 จำหน่ายวันที่ 26-27 สิงหาคม 2567 วงเงิน 5,000 ล้านบาท ผู้มีสิทธิซื้อ สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ นิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และนิติบุคคลอื่นที่จัดตั้งตามกฎหมายไทย และไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร เป็นพันธบัตรอายุ 10 ปี ดอกเบี้ย 3% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน วงเงินขั้นต่ำ-ขั้นสูง 1,000 บาท ไม่จำกัดวงเงินขั้นสูง (หน่วยละ 1,000 บาท) ช่องทางการจำหน่ายเคาน์เตอร์ของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 6 แห่ง วิธีการจัดสรร First-Come, First-Served
การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ให้ประชาชนในช่วงที่ 1 (วันที่ 19-21 สิงหาคม 2567) จะใช้วิธีการจัดสรรพันธบัตรแบบ Small Lot First (ทยอยจัดสรรพันธบัตรเป็นรอบๆ เวียนจนครบผู้ซื้อทุกราย) โดยทวีคูณรอบละ 1,000 บาท ซึ่งลำดับในการจองซื้อก่อนหลัง ไม่มีผลต่อการจัดสรร และในกรณีที่วงเงินพันธบัตรที่จะจัดสรรในรอบสุดท้ายไม่เพียงพอที่จะจัดสรรให้ผู้ซื้อทุกราย ระบบคอมพิวเตอร์จะจัดสรรพันธบัตรในรอบสุดท้ายด้วยวิธีการสุ่ม (Random) จนครบวงเงินจำหน่าย ทั้งนี้ ผู้จองซื้อจะทราบผลการจัดสรรพันธบัตรและได้รับเงินคืน กรณีที่ไม่ได้รับจัดสรรพันธบัตร หรือได้รับจัดสรรไม่ครบตามวงเงินจองซื้อ ในวันที่ 22 สิงหาคม 2567 (รายละเอียดและเงื่อนไขการจำหน่ายเป็นไปตามเอกสารการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง)
ทั้งนี้ วงเงินที่จำหน่ายบนวอลเล็ต สบม. และผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่ายจะแยกจากกัน โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้ทั้ง 2 ช่องทาง โดยประชาชนที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ในหนังสือชี้ชวนและเอกสารสรุปเงื่อนไขการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ หรือสอบถามได้กับธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 6 แห่ง
ธ.ก.ส.ชุดมรกต 5 แสนถูกทุกงวด
ตามมาด้วย 1 สิงหาคม 2567 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เปิดตัวสลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดมรกต หน่วยละ 500 บาท ลุ้น 20 ล้านบาททุกเดือน รวม 24 งวด อายุสลาก 2 ปี รับดอกเบี้ยร้อยละ 0.30 ต่อปี เมื่อฝากครบกำหนด พร้อมลุ้นรางวัลเลขท้าย 3 ตัว หมุน 2 ครั้ง และเลขท้าย 4 ตัว หมุน 1 ครั้ง รางวัลต่องวด มากกว่า 6 แสนรางวัล รวมมูลค่ากว่า 159 ล้านบาท
การันตีฝาก 500,000 บาท ครบ 2 ปี ได้รับผลตอบแทนรวม 12,600 บาท
เริ่มเปิดรับฝากวันที่ 17 สิงหาคม 2567 เปิดรับฝากผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile https://onelink.to/y3asvzz ส่วนการเปิดรับฝากที่สาขา ธ.ก.ส.และ BAAC Mobile เริ่มวันที่ 1 กันยายน 2567
ถือว่าเป็นสลากของ ธ.ก.ส.ชุดที่ต่อจากถุงทอง ถุงเงินจนมาถึงชุดมรกต ชุดมรกตมีรางวัลเลขท้าย 3 ตัว หมุน 2 ครั้ง รางวัลละ 200 บาท ถ้าต้องการถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัวทุกงวดต้องซื้อสลาก 5 แสนบาท 1 ปีได้รางวัล 200+200x12 = 4,800 บาท บวกดอกเบี้ยอีก 1,500 บาท รวม 2 ปีได้ผลตอบแทน 12,600 บาท คิดเป็น 1.26% ต่อปี
ส่วนใครที่ทุนทรัพย์ไม่มากพอ แต่อยากถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัวทุกงวด ด้วยเงิน 1 แสนบาทมี 2 ตัวเลือกคือสลากออมสินพิเศษ 1 ปี ผลตอบแทน 1.21% หรือสลาก ธอส.ชุดนาคราช 3 ปี ผลตอบแทน 1.72%
ซื้อเยอะเป๋าตัง-ซื้อน้อยผ่านสาขา
แหล่งข่าวกล่าวว่า ถือเป็นช่วงจังหวะพอดีที่มีผลิตภัณฑ์เงินออมที่มีความเสี่ยงต่ำออกมาใกล้เคียงกัน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละบุคคล บางคนมีดวงเรื่องถูกรางวัลก็อาจให้น้ำหนักไปที่สลากออมทรัพย์ ส่วนจะเลือกค่ายออมสิน ธอส.หรือ ธ.ก.ส.ก็แล้วแต่งบประมาณ หรือบางรายอาจบอกว่าไม่มีดวงทางนี้อาจให้น้ำหนักไปที่พันธบัตรรัฐบาล
พันธบัตรรัฐบาลงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 2 ตัวนี้เหมือนกับรุ่นเดิมที่ขายเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รุ่น 5 ปีดอกเบี้ย 3% หักภาษีเหลือดอกเบี้ยสุทธิ 2.55% รุ่น 10 ปีดอกเบี้ย 3.4% หักภาษีเหลือดอกเบี้ยสุทธิ 2.89%
คนที่จะซื้อพันธบัตรมากๆ ควรซื้อผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง วงเงิน 10,000 ล้านบาท เพราะซื้อได้สูงสุด 50 ล้านบาท เพราะเป็นแบบมาก่อนได้ก่อน ส่วนคนที่มีงบไม่มากนักแนะนำให้ซื้อผ่านสาขาของธนาคารพาณิชย์ เดิมมีแค่กรุงไทย กรุงเทพ ไทยพาณิชย์ กสิกร ตอนนี้เพิ่มอีก 2 ธนาคารคือกรุงศรีอยุธยา และซีไอเอ็มบีไทย วงเงิน 25,000 ล้านบาท การจัดสรรจะเป็นแบบทยอยจัดสรร (Small Lot First) อย่างรอบแรกที่เปิดขายไปคนที่ซื้อต่ำกว่า 2 ล้านบาทได้รับการจัดสรรทุกราย
คนในวงการพันธบัตรคุยกันถึงเรื่องดอกเบี้ยทั้งสหรัฐฯ และไทย มีโอกาสในการปรับลดลงได้หลังเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ดีนัก ส่วนของไทยคณะกรรมการนโยบายการเงินจะประชุมอีกครั้งในวันที่ 21 สิงหาคม 2567 มีความเป็นไปได้ที่อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมาหลังจากตรึงไว้ที่ 2.5%
ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่าดอกเบี้ยพันธบัตร 2567 ครั้งที่ 2 อาจเป็นดอกเบี้ยที่สูงที่สุดแล้ว บางท่านจึงอาจให้น้ำหนักไปที่พันธบัตรรุ่นนี้มากเป็นพิเศษ
ใครมีดวงทางไหนก็เลือกได้ตามใจชอบ ถ้าคิดว่าดวงไม่ค่อยมีก็เน้นไปที่พันธบัตรรัฐบาล หรือถ้าหวังอยากถูกรางวัลใหญ่ต้องสลากออมทรัพย์ ได้ผลตอบแทนน้อยกว่าพันธบัตรแต่ได้ลุ้นรางวัลใหญ่
อย่างตารางที่ยกมาเปรียบเทียบได้มีการปรับให้เงินที่ใช้ในการออมอยู่ที่ 5 แสนบาทเท่ากัน ผู้ออมสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกออมกับใคร แต่สิ่งที่คำนวณออกมานั่นคือตัวผลตอบแทน ถ้าเน้นดอกเบี้ยก็ต้องพันธบัตร หรือถ้าอยากลุ้นสลากก็มีให้เลือก 3 ค่าย
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j