“ติอาโก” ย้ายไปเวที UFC มวยกรงที่สหรัฐฯ แน่ หลังทุกอย่างไม่เป็นไปตามสัญญาต้องดิ้นรนหารายได้ ครวญผู้นำกัมพูชาไม่สนับสนุน ตัดพ้อมีคนแทงข้างหลัง ย้ำยังอยู่เขมรเพื่อเป็นผู้สนับสนุนศิลปะการต่อสู้แบบเขมร หยอดคำหวานไปต่อยในฐานะตัวแทนของศิลปะการต่อสู้เขมร จับสังเกตอิจฉา “เดฟ เลอดัก” ได้งานโฆษณา เข้าพบรัฐมนตรีเป็นว่าเล่น
แม้จะลงทุนเพนต์หน้าเป็นรูปธงชาติกัมพูชาแล้วก็ตาม แต่ติอาโก เตเซียร่า อดีตนักชกมวยไทยชาวบราซิล ที่ย้ายค่ายอาสาไปปลุกปั้นมวยกัมพูชาอย่างกุนขแมร์ จนเกิดเรื่องราวดรามาตามมามากมาย ทั้งถูกแบนจากองค์กรมวยไทย แต่ติอาโกก็ยังไม่สามารถเรียกร้องความสนใจให้ตัวเขาเองได้มากนัก
ติอาโกย้ายออกจากเมืองไทยไปช่วงก่อนที่ประเทศกัมพูชาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ 2023 หรือกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ระหว่าง 5-17 พฤษภาคม 2566 พร้อมๆ กับแผนการปั้นกุนขแมร์ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก พร้อมกับการถอดรายการแข่งขันมวยไทยออกจากซีเกมส์ 2023 และใส่ชื่อกุนขแมร์เข้าไปแทน
ช่วงนั้นขออะไรได้หมด ติอาโกกลายเป็นฮีโร่ของคนกัมพูชาในทันที เดินสายรับมอบความช่วยเหลือเรื่องเงินทองจากภาคการเมืองของประเทศ จนถึงได้รับสัญชาติกัมพูชา และมีชื่อในภาษากัมพูชาว่า เสน ชาญฤทธิกุล พร้อมกับโอกาสทางธุรกิจมีทุนกัมพูชาหลายรายพร้อมให้การสนับสนุน
กระแสกุนขแมร์จาง
เมื่อกีฬาซีเกมส์ผ่านไป ต่อด้วยการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในประเทศกัมพูชา ผู้นำสามารถรักษาฐานอำนาจเดิมไว้ได้ พร้อมๆ กับกระแสเรื่องกุนขแมร์ก็จางลง จากนั้นความร่วมมือในการปลุกปั้นกุนขแมร์ที่มีนายสเร จันทร ที่ต้องการปั้นกุนขแมร์กับติอาโก ก็ต้องแยกทางกัน ต่างคนต่างเดิน (กลับมาร่วมมืออีกครั้งภายหลัง)
มีรายการชกระหว่างนักมวยกัมพูชากับนักมวยไทยบ้าง นักมวยดังกัมพูชาแพ้นักมวยไทย (อาวุโส) ก็หลายคู่ นักชกกัมพูชาชนะบ้างก็มี รวมถึงติอาโกมีรายการขึ้นชกเช่นเดียวกัน
ติอาโกต้องดิ้นรนเองในการสานธุรกิจของเขาในกัมพูชา โครงการ Kun khmer world championship ช่วงที่หอมหวานกลับกลายเป็นความฝัน เขาต้องมาเช่าอาคารเพื่อเป็นสถานที่ออกกำลังกาย รวมถึงเป็นสถานที่ฝึกซ้อมมวย ภายใต้ชื่อ Starlight Clubhouse ก่อนเปิดก็ขอรับบริจาค เปิดแล้วต้องขอรับบริจาค ที่เสียหน้าไม่น้อยคือวันเกิดคลับเฮาส์ของติอาโก เขาประกาศว่า ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะมาเป็นผู้เปิดงาน แต่ทุกอย่างนิ่งสนิท ไม่มีการกล่าวถึงงานเปิดคลับเฮาส์ของเขาแต่อย่างใด
เปลี่ยนโปรไฟล์-ภาพปกสีดำ
แหล่งข่าวที่ติดตามเรื่องมวยในกัมพูชากล่าวว่า เราเริ่มเห็นเขาโพสต์บ่นหรือตำหนิ คนที่เคยบอกว่าจะให้ความช่วยเหลือเขาหลายครั้ง ซึ่งเป็นที่มาให้เขาต้องเปิดขอรับบริจาคแม้จะต่ำกว่า 1 ดอลลาร์เขาก็รับ อย่างช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2567 เขาโพสต์เรื่องค่าใช้จ่ายในคลับเฮาส์ของเขา พร้อมๆ กับทำตลาดด้วยการลดราคา 50% สำหรับการใช้บริการในยิมมวยของเขาให้เยาวชน จาก 60 ดอลลาร์เหลือ 30 ดอลลาร์
จากนั้นได้เห็นติอาโกเพนต์หน้าตัวเองเป็นรูปธงชาติกัมพูชา เรียกความน่าสนใจจากสื่อในกัมพูชาได้ไม่น้อย คาดว่าน่าจะเป็นการโปรโมตตัวเองเพื่อขึ้นชก
แต่ที่ผิดสังเกตอย่างชัดเจนคือการที่ติอาโก ตั้งใจเปลี่ยนรูปโปรไฟล์และภาพปกบน Facebook ของเขาให้เป็นรูปสีดำ เมื่อ 24 มิถุนายน 2567 โดยก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสีดำนั้น เขาได้โพสต์ถึงปัญหาของตัวเขาไม่น้อย
เพจมวยกัมพูชาแย้มชกที่สหรัฐฯ
เพจ KUN KHMER ได้โพสต์หลังจากที่เฟซบุ๊กของติอาโกขึ้นภาพโปรไฟล์เป็นสีดำ และภาพปกเป็นสีดำในวันถัดมาว่า ขอบคุณ Thiago Teixeira ที่เสียสละเพื่อประเทศและศิลปะการต่อสู้ของฉัน เราหวังว่าคุณจะประสบความสำเร็จและยินดีต้อนรับคุณเสมอ
คุณเท่านั้นที่รู้ว่าใครเข้าใจพวกเขา เราไม่ตระหนักถึงความยากลำบากของคุณอย่างเต็มที่ หากคุณตัดสินใจที่จะไป เราจะเสียใจ และขอให้คุณโชคดีเท่านั้น Thiago Teixeira และครอบครัวจะออกจากกัมพูชาไปอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากปัญหามากมายที่ไม่ได้รับการแก้ไขหรืออาจไม่คงอยู่ตลอดไป
นี่จึงเป็นที่มาว่าติอาโกจะย้ายออกจากกัมพูชาไปชกมวย UFC (มวยกรง) ที่สหรัฐอเมริกา
“ติอาโก” ยอมรับไปชกที่สหรัฐฯ
จากนั้นติอาโกโพสต์ภาพไปเจอลูกๆ ของเขาคาดว่าน่าจะเป็นที่สนามบิน ทำให้กระแสเรื่องที่เขาย้ายออกจากกัมพูชานั้นมีน้ำหนักมากขึ้น
ช่วงบ่าย 27 มิถุนายน 2567 ติอาโก หรือเสน ชาญฤทธิกุล ได้โพสต์อีกครั้งพร้อมเลขที่บัญชีโอนเงินว่า อย่างที่ทราบกันดีว่าผมกำลังหาผู้สนับสนุน แต่ยังไม่ได้รับอะไรเลย ผมรู้ทุกอย่างอย่างที่พระเจ้าเห็น เชื่อในความซื่อสัตย์อย่างแท้จริง! และผมยังคงอยู่ที่นี่เพื่อเป็นผู้สนับสนุนศิลปะการต่อสู้แบบเขมร
แน่นอนว่างบประมาณไม่เพียงพอสำหรับการเดินบนเส้นทางนี้เพียงลำพัง ผมต้องการไปสหรัฐอเมริกา และไปรายการมวย UFC และยอมไปชกมวยที่นั่นเพื่อเป้าหมายของผม ในฐานะตัวแทนของศิลปะการต่อสู้เขมรและอยากจะแสดงศิลปะการต่อสู้เขมรที่นั่นด้วย
แต่ตอนนี้อย่างที่คุณเห็น ผมไม่สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวโดยไม่มีงานทำ เขมรเพิ่งเริ่มต้น ผมยังคงเชื่อในสิ่งนี้อย่างสุดใจ ดังนั้นจึงมาเพื่อถามผู้ที่ยังคงเชื่อในคำพูดของผม โปรดสนับสนุนผมต้องการแรงสนับสนุนอีกครั้ง
ถึงทุกคน! ฉันจะทำตามที่หัวใจบอกให้ทำ นั่นก็เพื่อกัมพูชา
ในโพสต์นี้มีนายสเร จันทร เข้ามาพูดคุยกับติอาโกใน Comment ด้วย หากคุณไปชมการแข่งขัน UFC เพื่อเป็นตัวแทนของศิลปะการต่อสู้เขมร ฉันรับประกันว่าคุณจะได้รับผู้สนับสนุน 100 ราย ผมอยากทำงานหนักเพื่อช่วยคุณโปรโมตศิลปะการต่อสู้เขมรในต่างประเทศ
ติอาโกตอบว่า ผมต้องการความช่วยเหลือตอนนี้ หากท่านอยากช่วยจริงๆ จะขอบคุณมาก เพราะตอนนี้ผมต้องการซื้อนมให้ลูก หลังจากนั้นผมจะมีความสุขมากที่ได้นั่งคุยกับท่านและเราสามารถวางแผนสำหรับอนาคตได้ แต่ตอนนี้ผมกำลังจะล้มละลายและเบื่อที่จะรอคำสัญญานั้นแล้ว
ล่าสุด 28 มิถุนายน 2567 ติอาโกโพสต์อีกครั้งพร้อมเลขที่บัญชีโอนเงินว่า บางครั้งผมรู้สึกละอายใจที่ต้องสูญเสียเงิน 500,000 ดอลลาร์เพราะความไว้วางใจ แต่ผมรู้ด้วยว่าผู้คนเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และเงิน 2,000 ดอลลาร์นั้นไม่เพียงพอ แต่ฉันขอขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนจนถึงตอนนี้ และฉันรู้ว่าผู้สนับสนุนทุกคนที่ช่วยเหลือฉันเมื่อวานนี้จะอยู่กับฉันเสมอ
“ติอาโก” คราญมีคนจ้องเขี่ย
หากย้อนกลับไปดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ว่า ติอาโกแสดงอาการน้อยใจออกมาตลอด หลังจากที่เขาถูกลดความสำคัญลงไป โดยเฉพาะเรื่องความช่วยเหลือต่างๆ หนึ่งในนั้นคือการเข้ามาเดฟ เลอดัก นักมวยชาวแคนาดา แชมป์มวยพม่าที่ถูกแบนและได้ย้ายมาอยู่ที่กัมพูชา ซึ่งเขากำลังมีบทบาทในกัมพูชาไม่ต่างไปจากช่วงที่ติอาโกเข้ามาในกัมพูชาแรกๆ
เดฟ เปิดธุรกิจร้านกาแฟในชื่อ Dave House เข้ามาในวงการมวยกุนขแมร์บ้างในฐานะแขกคนพิเศษ ท่ามกลางกระแสข่าวว่าผู้ใหญ่ในวงการมวยกัมพูชาก็แบนเขาไม่ให้ขึ้นชกเช่นกัน เดฟได้พบกับผู้นำคนสำคัญของกัมพูชา ล่าสุด ได้รับโอกาสถ่ายโฆษณายากันยุงในกัมพูชา จนติอาโกยังต้องยกเอามาเปรียบเทียบ
ผมเห็นเดฟเขาถ่ายโฆษณาและการทำงานที่นี่ดีมาก ในทางกลับกันผมคาดหวังว่าสิ่งดีๆ แบบนี้จะเกิดขึ้นกับเราทุกคน แต่คงจะเสียใจมากหากดูสถานการณ์ของฉัน หลังจากสูญเสียเงินไปเกือบทั้งชีวิตด้วยเงินมากกว่า 500,000 ดอลลาร์ เป็นยังไงบ้าง?
แต่ถึงกระนั้น ผมและกัมพูชายังคงเป็นตัวแทนของศิลปะการต่อสู้เขมรต่อไป ยังไงก็ตามตอนนี้! เข้าใจว่าไม่มีงานเพื่อสานต่อภารกิจอันยาวนานนี้
ผมรู้ว่าใครอยากให้ผมออกจากกัมพูชาและพูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับผมกับผู้นำทุกคน และผมไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องตัวเองได้
ผมสร้างประวัติศาสตร์ในกัมพูชาไปทั่วโลก ภูมิใจมาก ผมรักชาวกัมพูชาจริงๆ แต่ผมได้รับข้อความจากผู้นำที่ผมต้องการทำเพื่อความก้าวหน้าของกัมพูชาในด้านที่เรากำลังเดินอยู่ ผมกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในกัมพูชา ยากกว่าในเมืองไทย แต่ผมก็ต้องถูกเจ้านายขัดขวาง หลังจาก AMMA ผมต้องเดินทางไปอเมริกาและจากนั้นจะสื่อสารกันมากขึ้น ลาก่อนทุกคน ขอบคุณมาก
จากนั้นติอาโกได้โพสต์ต่ออีกว่า การไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้นำของกัมพูชา ทำให้รู้สึกเศร้าเสมอ ในตอนนี้ที่พวกเขาได้เลื่อนตำแหน่งหลังจากทุกสิ่งที่ผมทำ ผู้ชายจากพม่าที่เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมของพวกเขาต่อหน้าฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องมาจากกัมพูชา เพื่อที่พวกเขาจะได้สัญชาติกลับคืนมา
ผมต้องการ Live ชี้แจงสถานการณ์โดยรวมของผมในกัมพูชา ต้องพูดถึงทุกอย่าง เช่น การผิดสัญญาที่พวกเขาให้ไว้ การสูญเสียสโมสร และปัญหาชีวิตอื่นๆ ในประเทศไทย
คนที่บอกว่าผมไม่สามารถส่งเสริมศิลปะการต่อสู้เขมรในกัมพูชาได้เป็นเวลา 5 ปีแล้ว และตอนนี้คุณก็มาหยุดผมอีกครั้ง คนเดิมที่บอกว่าถ้าเกิดอะไรกับผมจะมีตัวช่วย ผมทำอะไรผิดถึงอยากจะทำลายผม?
“เดฟ” มาเหนือในฐานะนักลงทุน
อย่างที่ติอาโกโพสต์ก็จริง วันนี้สถานะของติอาโกไม่เหมือนเดิม กับผู้มีอำนาจในกัมพูชา นักการเมืองระดับรัฐมนตรีต้อนรับ Dave Leduc เป็นอย่างดี อีกทั้งเดฟเองพยายามเข้าหาผู้ใหญ่ในกัมพูชาในฐานะนักลงทุน เขาอ้างว่าเมื่ออายุ 19 ปี เคยเป็นผู้จัดการฝ่ายพัฒนาสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Laurentian Bank of Canada
เดฟยังกล่าวต่อไปว่า หุ้นส่วนของเขาคือ Mr.Andrew Nissenbaum เป็นผู้ก่อตั้ง Macro fund บริษัทที่ให้บริการการวิจัยและข้อมูลข่าวสารแก่รัฐบาลและสถาบันการเงิน และเขารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายสื่อสารและยุทธศาสตร์สื่อ และได้ร่วมกับ Chris Garrido หุ้นส่วนของเราในการเปิดตัว Hedge Fund ของเราที่เรียกว่า Batali Capital ซึ่งจะบริหารจัดการจากพนมเปญ
ก่อนหน้ามีคลิปหลุดออกมาว่าติอาโกกับเดฟ มีปัญหากันถึงขั้นจะชกกัน แต่ถูกแยกออกมา ซึ่งไม่แน่ใจว่าทั้ง 2 คนทะเลาะกันจริงหรือไม่ เพราะในวงการมวยบางทีก็เป็นละครเพื่อสร้างกระแสความสนใจ
หากเปรียบเทียบระหว่างติอาโกกับเดฟ ทั้งคู่มาแนวเดียวกันคือหันมายกย่องกัมพูชา แต่ติอาโกไม่มาแนวบู๊เหมือนเดฟ ที่ท้าทายนักมวยไทยอย่างบัวขาว หรือเลยไปถึงนายขนมต้ม ดูเหมือนวันนี้งานของติอาโกเหมือนจะไม่มีทางประสบความสำเร็จในการยกระดับกุนขแมร์ แม้แต่คู่ธุรกิจอย่างสเร จันทร ยังดันนักมวยกัมพูชาไปชกในรายการ I-1 World Muaythai Championships ที่ฮ่องกง รวมไปถึงคนในวงการมวยกัมพูชาเริ่มแย้มๆ ว่าอาจเข้าร่วมชกมวยไทยในซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย
ขณะที่เดฟมาในฐานะนักลงทุน เอาเงินเข้ามาในกัมพูชา ดังนั้นสถานะของทั้ง 2 จึงต่างกัน
ในทางธุรกิจถือเป็นเรื่องปกติ คนใหม่เข้ามาก็ต้องต้อนรับเป็นอย่างดี ที่เจรจากันไว้ก็ต้องรอกันจนถึงเวลาจริงๆ ว่าจะทำได้หรือไม่ เมื่อประโยชน์มีน้อยลง ย่อมเป็นเรื่องปกติที่ต้องหาสิ่งใหม่ๆ ที่ให้ประโยชน์มากกว่าเพิ่มเข้ามา
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j