‘นิพิฏฐ์’ เชื่อคดี 112 ‘ทักษิณ’ รอดยาก ชี้เป็นคนพิเศษไม่ต้องอยู่ห้องขังใต้ถุนศาลจริงหรือไม่?

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นักกฎหมาย อดีตส.ส.พัทลุง แจงคดีอัยการสูงสุดยื่นฟ้อง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ มีความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพ์ ศาลให้ประกันตัวเป็นเรื่องปกติ แต่มีข้อสังเกตและสังคมควรได้คำตอบก่อนที่จะได้ประกันตัว ‘ทักษิณ’ อยู่แห่งหนใดของศาล แจงในหลักการต้องไปอยู่ที่ห้องขังใต้ถุนศาลเพื่อรออนุมัติได้ประกันตัวหรือไม่อย่างไร แต่ถ้าไปอยู่ ‘ห้องเวรชี้’ รู้อย่างไรว่าจะได้ประกันตัว หรือเป็นคนพิเศษ ติงต่อไปคดีอื่นๆ ทำแบบนี้ได้หรือไม่วอนอย่าทำให้ระบบยุติธรรมเสียหาย ยอมรับเห็นด้วยกับอัยการสูงสุดว่า wording ในคลิปที่ทักษิณพูดมีความสุ่มเสี่ยงและรอดยาก เชื่อมีทางเดียวต้องเร่งคลอดกฎหมายนิรโทษกรรมรวม 112 ด้วยและต้องคลอดก่อนศาลตัดสินชี้ขาดจึงจะทำให้ทักษิณปลอดภัย!

ไม่ว่านายทักษิณ ชินวัตร จะเคลื่อนไหวอย่างไร ล้วนเป็นที่จับตาของสังคม โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พิจารณาหมายเลขคดีดำที่ อ.1860/2567 ที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร ในความผิดตามมาตรา 112 และความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี โดยยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราววงเงิน 5 แสนบาท ศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐานคดีทั้งสองฝ่ายในวันที่ 19 ส.ค.2567

โดยศาลได้พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วจึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยระหว่างพิจารณา โดยให้ตีราคาหลักประกัน 500,000 บาท กับให้จำเลยวางหนังสือเดินทาง ยึดหนังสือเดินทาง และหลักประกันทำสัญญา ห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ

ในระหว่างที่คดีนี้ขึ้นสู่ศาลนั้น นายทักษิณ ยังเป็นที่จับจ้องของสังคมว่า เขาจะมีอภิสิทธิ์ใดๆ ที่เหนือความคาดหมายและเป็นภาพลบต่อกระบวนการยุติธรรมหรือไม่? และเมื่อคดีถึงที่สุดนายทักษิณ จะมีโอกาสรอดหรือไม่!

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นักกฎหมายและเป็นอดีตรัฐมนตรี และอดีต ส.ส.พัทลุง ระบุว่าศาลอาญาอนุญาตให้นายทักษิณ ได้ประกันตัวชั่วคราวนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเป็นหลักการ และการที่ศาลมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศก็เป็นคำสั่งตามปกติเช่นกัน เพียงแต่ว่าความน่าสนใจอยู่ที่ว่าคดีนี้พิจารณาได้รวดเร็วกว่าคดีทั่วไป แต่เรื่องนี้ยอมรับได้เพราะนายทักษิณ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี แต่อยากตั้งข้อสังเกตไว้ด้วยกัน 2 เรื่อง

ประการแรก เมื่อนายทักษิณ ถูกฟ้องประมาณ 08.52 น. และศาลประทับรับฟ้องสำเร็จ ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ นายทักษิณ ได้รับการประกันตัว ในช่วงนั้นนายทักษิณ อยู่ตรงไหน เพราะโดยหลักการทั่วไป ในขณะนั้นนายทักษิณ ต้องถูกควบคุมอยู่ใต้ถุนศาลใช่หรือไม่

ประการที่สอง เรื่องของเวลาที่ไม่เท่าเทียมกัน คดีนายทักษิณ พิจารณาได้เร็วมากสำหรับคนระดับอดีตนายกรัฐมนตรี

“แต่การควบคุมตัวก่อนได้ประกันตัว คุมที่ไหน เรื่องนี้ศาลน่าจะบอกได้ เพราะตรงนี้มีความสำคัญที่เรียกว่า ความเท่าเทียมกันต่อหน้ากฎหมาย เรื่องที่นายทักษิณ อยู่ที่ไหนอาจมองเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่จริงๆ มันจะกระทบกระเทือนต่อกระบวนการยุติธรรม เพราะประเด็นที่นายทักษิณ โดนมาตรา 112 ไม่ต้องถูกควบคุมใต้ถุนศาลหรืออย่างไร แต่คนทั่วไปต้องถูกควบคุมใช่หรือไม่”

สำหรับห้องควบคุมใต้ถุนศาล คือห้องขัง เอานักโทษออกจากเรือนจำแล้วเอาขึ้นพิจารณา แล้วมาขัง บุคคลที่ถูกฟ้อง แล้วรอประกันตัว ได้ไม่ได้ต้องอยู่ตรงนี้

อีกทั้งมีกระแสข่าวออกมาว่านายทักษิณ ไปอยู่ที่ ‘ห้องเวรชี้’ ก็ต้องมีคนออกมาอธิบายให้สังคมได้รับทราบว่า คดีนายทักษิณ ทำไมต้องไปอยู่ที่ตรงนั้น และถ้าจากนี้ไปมีคนอื่นโดนคดี 112 และขอไปอยู่ห้องเวรชี้ เหมือนนายทักษิณ ได้หรือไม่?


“ผมไม่ได้ก้าวก่ายหรือวิจารณ์ศาลแต่อย่างใด เพียงแต่อยากขอคำอธิบาย เพราะห้องเวรชี้ไม่ใช่ห้องขัง โดยหลักการก่อนที่จะได้ประกันตัว ต้องถูกควบคุม ซึ่งอาจจะคิดว่าถูกควบคุมในห้องเวรชี้ ก็แล้วแต่คำอธิบายซึ่งผมอยากจะขอคำอธิบายเท่านั้นว่าก่อนนายทักษิณ จะได้ประกันตัวอยู่ที่ไหน”

ที่สำคัญทุกคนต้องได้รับความเสมอภาคกัน นี่คือหลักของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นระบอบที่ถูกค้ำยันด้วยความยุติธรรม แต่ถ้าความยุติธรรมเสียหายไปเมื่อไหร่ ระบอบประชาธิปไตยก็ล้มครืนได้เช่นกัน

“ยืนยันอีกครั้งไม่ได้วิจารณ์ศาล แต่ขอแค่คำอธิบายถ้าถูกควบคุมตัวที่ห้องเวรชี้ ก็อยากจะถามว่านายทักษิณ รู้ได้อย่างไรว่าจะได้รับการประกันตัวทำให้คนคิดไปกันเยอะ ซึ่งจะทำให้เสียหายกับกระบวนการยุติธรรมการที่ควบคุมนายทักษิณ อยู่ตรงนั้นเพราะรู้ล่วงหน้าจะได้ประกันตัวใช่หรือไม่ เพราะถ้าเขาไม่ได้ประกันตัว เขาต้องอยู่ห้องขังข้างล่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งขอยืนยันไม่ได้ว่าศาล แต่เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ก็คือตำรวจศาลถูกต้องหรือไม่”

นายนิพิฏฐ์ บอกต่อว่าการกระทำเช่นนี้ยิ่งทำให้เห็นว่า นายทักษิณ เป็นคนพิเศษแต่ต้องไม่ลืมว่าการเป็นคนพิเศษในกระบวนการยุติธรรมมันอธิบายยาก แต่ถ้าจะเปรียบให้เห็นคือหากเราไปโรงแรม ถ้านายทักษิณ มีที่จอดรถแล้วเราไม่มี ตรงนี้อธิบายได้ หรือนายทักษิณไปตรงโน้นตรงนี้ ได้รับการปฏิบัติก่อนคนทั่วๆ ไปย่อมอธิบายได้แต่ต่อหน้ากฎหมายทุกคนต้องเสมอภาคกัน นี่คือหลักการสำคัญ

อย่างไรก็ดี นายนิพิฏฐ์ระบุว่าในฐานะนักกฎหมายที่ได้ติดตามและดูข้อความคำฟ้องคดีนายทักษิณที่เผยแพร่ในสื่อ ซึ่งในสื่อไม่ได้บอกว่าคำพูดของนายทักษิณ มีอะไรอย่างไรได้ แต่อ้างไปที่เว็บนั้นเว็บนี้ แต่ไม่มีถ้อยคำของนายทักษิณ ปรากฏ

“แต่อัยการบอกว่าคำเหล่านี้ผิดมาตรา 112 ก็เข้าใจตามนั้น แต่ในฐานะที่ผมเป็นนักกฎหมาย ในความเห็นผมนะ wording ของคุณทักษิณพูดผมเห็นด้วยกับอัยการสูงสุด ทั้งสองท่าน ผมว่า ผิด”

ดังนั้น หาก wording ที่นายทักษิณพูดออกมานั้นไม่ผิดก็จะเป็นเรื่องที่น่าห่วงสำหรับสังคมไทย เพราะจะมีคนนำ wording ที่นายทักษิณพูดแล้วไม่ผิด ไปพูดต่อ ไม่ว่าเราจะไปนั่งตรงไหนก็พูดได้เลยและต่อไป คลิปที่นายทักษิณพูด ก็จะแพร่หลายออกมาในสังคมต่อไปใช่หรือไม่

“เวลานี้ wording นี้พูดไม่ได้ คลิปก็เปิดไม่ได้ เพราะอัยการสูงสุดมีความเห็นว่าผิดไงและส่วนตัวที่ได้ยินมาในฐานะนักกฎหมายจึงเห็นด้วยกับอัยการถ้าใครยังนำไปพูดหรือเปิดคลิปนี้จะมีความผิดแน่นอน”




การต่อสู้ในคดีนี้ของนายทักษิณ ก็ต้องหาพยานหลักฐานมาหักล้างต่อสู้ในศาลต่อไป แต่ในทางการเมืองเชื่อว่าการคลอดกฎหมายนิรโทษกรรม รวมคดี 112 ไปด้วยจะพิจารณาเร็วขึ้นและต้องคลอดออกมาให้เร็ว ก็จะมีโอกาสช่วยนายทักษิณ หากการพิจารณาของศาลถึงที่สุดและมีความผิดจริงจะได้ใช้จังหวะของกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นตัวช่วยที่สำคัญได้ทันที

“ต้องมาดูคณิตศาสตร์การเมืองคะแนนของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เกินครึ่งของสภาอยู่แล้ว นิรโทษกรรมร่วม 112 ก็จบ เพียงแต่ว่ากฎหมายนิรโทษจะคลอดออกมาก่อนหรือศาลจะตัดสินคดีนี้ออกมาอย่างไรก่อน ก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม”

นายนิพิฏฐ์ ย้ำว่า กฎหมายนิรโทษกรรมต้องให้เสร็จก่อนศาลชี้ขาดซึ่งไม่มีใครรู้ว่าคดีนายทักษิณ ศาลจะตัดสินเมื่อไหร่ และออกมาเป็นอย่างไร แต่ในความเห็นส่วนตัวถ้าคดีนี้ศาลตัดสินเร็ว เพราะเป็นคดีที่สังคมสนใจซึ่งหากนายทักษิณประเมินแล้วเห็นว่าเป็นโทษต่อตัวเขา มากกว่าเป็นคุณคือมีความเสี่ยงไม่รอด เชื่อว่านายทักษิณ จะไม่มาฟังคำตัดสินของศาล

“หนีเหรอ ก็เคยอยู่นะ หากศาลตัดสินก่อนมีนิรโทษกรรม หรือถ้านิรโทษกรรม ไม่มี 112 นายทักษิณก็เสี่ยงถ้ามี 112 ด้วย ก็ต้องเร่งให้เกิดขึ้นก่อนคำพิพากษาของศาล อีกทั้งมี ส.ว.ชุดใหม่เข้ามาแล้วทุกอย่างก็จบเร็วได้”

ประเด็นสำคัญถ้ากฎหมายนิรโทษกรรมรวม 112 ไปด้วย คลอดออกมาได้เร็ว นายทักษิณ ก็จะปลอดภัย และสิ่งที่สังคมเคยวิพากษ์วิจารณ์ในอดีตว่า นายทักษิณ จาบจ้วงสถาบันก็เท่ากับล้างมลทินได้ทั้งหมด และใครจะไปตำหนิว่านายทักษิณ จาบจ้วงสถาบันอีกไม่ได้เช่นกัน!

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j