ไขปม“หยก”ยุติเคลื่อนไหวทางการเมือง-“ทะลุวัง”เดินต่อยาก

ไขปริศนา“หยก”ยุติเคลื่อนไหวทางการเมืองคาดเกิดจากภาพหลุด ส่งผลต่อภาพลักษณ์ แถมเกิดรอยร้าวภายในทีมคาดความสัมพันธ์บุ้ง-หยกคงต้องยุติ ข้องใจNGO เบอร์ใหญ่ปิดเรื่องเงียบรับประกัน”หยก”กลับบ้านส่วน“ตะวัน-แฟรงค์”ศาลไม่ให้ประกัน รอครบกำหนดฝากขังต้นเดือนเมษายน

นางสาวธนลภย์ ผลัญชัย โพสต์เฟสบุ๊กเมื่อ 23 มีนาคม 2567 “ยุติการเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองแล้วค่า อยู่กับบ้านเรียบร้อย สนับสนุนวงการดนตรี+กศน.”

ทำเอาคนที่ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองงงกันทั้งประเทศว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ ๆ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีอายุน้อยที่สุดที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 ยอมเลิกง่าย ๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายจะพยายามดึงเธอออกจากเส้นทางนี้ เพราะเธอเสียโอกาสทางการศึกษาชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ

ไม่มีใครให้คำตอบถึงสาเหตุการเลิกเคลื่อนไหวทางการเมืองของหยกได้ เนื่องจากผู้ปกครองของหยกที่พักอาศัยด้วยคือนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้งทะลุวัง ถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกลาง ขณะที่หยกไม่ได้บอกถึงเหตุผลที่เลิกเคลื่อนไหว ทั้ง ๆ ที่หยกเป็นจุดขายหนึ่งของกลุ่มทะลุวังไปแล้ว


ภาพหลุด-ประกาศเลิกเคลื่อนไหว

แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากมีภาพหลุดของหยกกลับจากเที่ยวสถานบันเทิงแถวทองหล่อ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 22 เข้าสู่วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 ภาพบางส่วนถูกนำไปเผยแพร่บนโลกออนไลน์ จากนั้นหยกจึงโพสต์ยุติเป็นนักกิจกรรมทางการเมือง พร้อมกับบอกว่าอยู่กับบ้านเรียบร้อย

สอดรับกับนายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาองค์กรสิทธิมนุษยชน นานาชาติ ฮิวแมนไรต์ส์วอตช์ (Human Rights Watch) ประจำประเทศไทย ที่โพสต์ Twitter X ว่า #หยก ประกาศยุติบทบาทนักกิจกรรมทางการเมือง ตอนนี้กลับมาอยู่กับครอบครัวแล้ว ส่วน #บุ้งซึ่งเคยเป็นผู้อุปการะตอนนี้ยังถูกขังในเรือนจำ #ทะลุวัง

ขณะที่บน Twitter X แมวของ Headache โพสต์ในเรื่องดังกล่าวว่า ผมไม่ขอสรุปความสัมพันธ์ใด ๆ ทั้งสิ้น ของคนในเรื่อง สำหรับผมมันต่ำตาเกินไปครับ ตอนนี้ผมสงสารบุ้งมาก ๆ และพอผมทราบว่าผู้ชายในภาพคือใคร ผมและพี่เคจึงคุยกันและตัดสินใจว่า คนที่ต้องการเรื่องนี้ไม่น่าใช่ตำรวจ แต่คนที่ต้องออกมารับผิดชอบเรื่องนี้คือ NGO หลาย ๆ คนที่รู้กันตั้งแต่ภาพหลุดออกมาและรีบแก้เกม ผมก็ว่าอยู่ ว่าทำไมถึงแก้เกมไวมาก ๆ การที่หยกประกาศยุติบทบาททางการเมืองและบอกว่ากลับไปอยู่กับที่บ้านแล้ว มันเพียงเพื่อจะกลบเรื่องผู้ชายที่ NGO ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทุกคนรู้ว่าคือใครกันแน่ แต่กลับทำเป็นนิ่งเฉย แถมทำเป็นร่วมเชิดชูบอกสังคมแสดงความยินดีว่าหยกกลับไปอยู่กับที่บ้านแล้วบลา ๆ ๆ

นี่สินะคือเหตุผลที่เมื่อวานตัวใหญ่ ๆ ของส้มส้ม แห่กันมาถล่ม บิดเรื่อง ราวกับไม่มีผู้ชายในเรื่องกัน แถมพยายามดิสเครดิตกันสุดฤทธิ์ บอกได้คำเดียวว่าทุเรศครับ การที่คุณรู้ว่าผู้ชายคือใคร แล้วเห็นภาพแล้ว แต่ยังคิดจะช่วยกันปกปิดเรื่องด้วยการดิสเครดิตผมกัน มันต่ำมาก และมันไม่เนียนครับ มันมากเกินจนพวกผมต้องสืบเรื่องกันต่อว่าทำไมมันดิ้นกันขนาดนี้


ระยะหลังหยกแปลก ๆ

ดูเหมือนหยกมีแนวคิดเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เบาลง ให้ความสนใจกิจกรรมอื่นมากขึ้นเช่น ลงรับสมัครประธานคณะบริหารสภาเด็กและเยาวชนเขตพระนคร แต่ก็ไม่ได้รับการคัดเลือก

เมื่อย้อนกลับไปดูโพสต์ของหยกในช่วงที่ผ่านมาจะพบว่าหยกมีการนำเอา Link ทะลุวังมาโพสต์ถึงอาการของบุ้ง ล่าสุด 11 มีนาคม 2567 เป็นวันที่บุ้งอดข้าวมา 44 วัน และมีการเข้าร่วมงานยืนหยุดขัง 13 มีนาคม 2567

เห็นได้จากโพสต์เมื่อ 14 มีนาคม 2567 มองเห็นแค่ภาพว่ายัยเด็กนี้เป็นเด็กที่ทำกิจกรรมทางการเมืองแค่นั้นกันเหรอ ก็ยอมรับที่ผ่านมาภาพลักษณ์นี่ก็ติดกับการเมืองมาก ๆ แต่ชีวิตเรามันไม่ได้มีแค่การเมืองเลย เรามีเพื่อน มีการทำเพลง มีการถ่ายรูป การเขียนไรม์ การเรียนดีเจ มีกีฬาที่เป็นสิ่งที่ชอบ มีชีวิตที่เป็นของตัวเราเอง

เรามีเพื่อนที่เป็นเพื่อนจริงๆ แต่เราก็ห่างกับด้วยความที่เราโดนคนจับจ้อง เราไม่ต้องการให้ใครมาเชิดชูมาอะไรเลย เราต้องการแค่อยากให้สารที่สื่อออกไปมันรับรู้แค่นั้น

มาตรฐานสูง-หาทางลงยาก

สำหรับกลุ่มทะลุวัง แกนนำถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ประกอบด้วยบุ้ง น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม ตะวัน น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และแฟรงค์ นายณัฐชนน ไพโรจน์

บุ้ง เนติพร ถูกศาลอาญากรุงเทพใต้สั่งถอนประกัน เมื่อ 26 มกราคม 2567 และให้จำคุกเพิ่มอีก 1 เดือน บุ้งประกาศว่า “จะไม่ประกันตัวเพื่อพิสูจน์ความอยุติธรรมในกระบวนการยุติธรรม” พร้อมเรียกร้อง 1.ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ผู้พิพากษาต้องเป็นผู้พิพากษาของประชาชน และ 2. ไม่ให้มีใครติดคุกทางการเมืองอีก จากนั้นแจ้งว่าเริ่มอดอาหารและน้ำตั้งแต่ 18.00 น.ของวันที่ 27 มกราคม 2567

คดีของตะวันและแฟรงค์ ได้กระทำความผิดโดยมีพฤติกรรมบีบแตรใส่ขบวนเสด็จฯ ในขณะที่ขบวนเสด็จฯ กำลังแล่นผ่านบนทางด่วนย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมใช้ถ้อยคำดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และถูกควบคุมตัว 13 กุมภาพันธ์ 2567

ตะวันและแฟรงค์ประกาศอดอาหารและน้ำประท้วงตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อ 3 ข้อเรียกร้อง โดยจะไม่ยื่นประกันตัว 1. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 2. ต้องไม่มีใครติดคุกเพราะเห็นต่างอีก 3. ประเทศไทยไม่ควรได้เป็นคณะมนตรี สิทธิมนุษยชน

คดีของตะวันและแฟรงค์มีความพยายามขอประกันตัวหลายรอบแต่ยังไม่สำเร็จ


นักวิชาการ-NGO ออกโรง

แหล่งข่าวกล่าวว่า ถึงวันนี้เรื่องของหยกเงียบกริบในสายสีส้ม แถมคนที่เอาเรื่องนี้มาเปิดยังโดนถล่มไม่เลิก อีกอย่างเรื่องนี้อาจถูกมองว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลและต้นเรื่องยังเป็นเยาวชนเลยทำให้การนำเสนอทำได้จำกัด

ปรากฎการณ์ที่เราได้เห็นในเวลานี้คือ ก้าวไกลถอยเรื่องนี้เต็มตัว อาจมีลูกหยอดมาบ้างที่ส่งคนเข้าเยี่ยม แต่จะเป็นที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เรื่องของทะลุวังถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่ามีการเดินเรื่องความช่วยเหลือไปที่ตะวันและแฟรงค์ ปล่อยบุ้งโดดเดี่ยว และทีมที่เข้ามาช่วยคือทีมกฎหมายอย่างศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และนักวิชาการดังและ NGO ใหญ่เข้าร่วมเคลื่อนไหว ทั้งเรื่องคัดค้านการฝากขังของพนักงานสอบสวน ส่วนการร้องขอประกันตัวตะวันและแฟรงค์เป็นหน้าที่ของพ่อตะวัน
คนที่อยู่ในวงการเคลื่อนไหวทางการเมืองเห็นหน้าก็รู้แล้วว่าคนที่ไปกับหยกคืนนั้นเป็นใคร แต่สายที่หนุนต่างปิดปากเงียบ เชื่อว่าคนนั้นน่าจะเป็นกุญแจสำคัญอีกดอกหนึ่งที่สายหนุนจำเป็นต้องปกป้องเอาไว้

วันพฤหัสที่ 28 มีนาคม 2567เป็นความพยายามอีกครั้งที่นายสมหมาย ตัวตุลานนท์ พ่อของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ "ตะวัน" ได้เดินทางมาเข้ายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว "ตะวันและ นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ แฟรงค์" จำเลยในคดี พ.ร.บ.คอมฯ และมาตรา 116

ศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตะวันและแฟรงค์เป็นครั้งที่ 7 ระบุ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ศาลนี้เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยระบุเหตุผลไว้ชัดแจ้งแล้ว กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ยกคำร้อง

ทั้งนี้ศาลเคยยกคำร้องขอประกันตัวตะวันและแฟรงค์เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2567 โดยให้เหตุผลว่าทั้งคู่อยู่ในความดูแลของแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ โดยผู้ป่วยปฎิเสธการรักษา และพิเคราะห์ว่า การอดอาหารดังกล่าว เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองไม่ใช่การป่วย


แกนนำไม่ได้โดดเดี่ยว

เราทราบดีว่าทุกนาทีเขาและทีมงานยังต่อสู้ในทางการเมืองอยู่ อดข้าว-อดน้ำ คนที่ไปเยี่ยมออกมาก็เขียนบรรยายความทุกทรมานของน้อง ๆ ที่อดอาหาร มีสายที่เคลื่อนไหวคัดค้านการฝากขัง มีทีมกฎหมายที่พร้อมช่วย มีเงินเตรียมไว้สำหรับประกันตัว เพียงแต่กลุ่มทะลุวังพรรคก้าวไกลไม่อยู่ในสถานะที่ช่วยได้อีก

ที่จริงก้าวไกลกับทะลุวังความแนบแน่นน้อยกว่าแกนนำม็อบรุ่นแรก ๆ มีบ้างที่เข้าร่วมกิจกรรมกับทะลุวังและใช้ตำแหน่งประกันตัว แต่มาห่างกันอย่างชัดเจนกรณีหยกและบุ้ง แรก ๆ ทั้งรังสิมันต์และวิโรจน์รับเรื่องที่จะดูแล สุดท้ายก็ถอยเพราะกระแสสังคมตีกลับ รวมถึงวีรกรรมที่บุกไปพรรคเพื่อไทยและก้าวร้าวใส่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กระแสสังคมตีกลับอีกรอบ

ในฐานะที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองมาก่อน โอกาสที่ทะลุวังจะกลับมาแม้จะมีความเป็นไปได้แต่พลังจะลดลง อย่างช่วงที่ผ่านมาก็เคลื่อนไหวเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ใช้แนวทางที่ก้าวร้าวรุนแรงเป็นจุดดึงดูดความสนใจ อย่างรอบนี้โอกาสที่หยกจะรวมกับบุ้งอีกคงเป็นไปได้ยาก หยกก็เลือกเดินบนเส้นทางของตัวเอง ตะวันกับแฟรงค์การเคลื่อนไหวคงไม่ง่าย เชื่อว่าถ้าศาลปล่อยตัวคงมีเงื่อนไข

เราไม่ได้ดูถูกใครตอนนี้สายที่หนุนทะลุวังเป็นกลุ่มนักวิชาการที่เคยอยู่สายแดงแล้วเปลี่ยนเป็นส้ม ถามว่าเขาช่วยน้อง ๆ เหล่านี้เพราะอะไร เขาก็อยากเห็นอย่างที่น้อง ๆ เรียกร้อง แต่ไม่ลุยเอง อาจจะเป็นเพราะอาวุโสแล้วหรือไม่พร้อมที่จะเผชิญกับคดีความ เขาเลยยุน้อง ๆ เหล่านี้ให้ทำแทนสิ่งที่เขาต้องการ ถามว่าติดคุกขึ้นมากใครติด คนที่เขาหนุนมาติดคุกร่วมกับน้อง ๆ หรือไม่ก็เห็นกันอยู่ น้อง ๆ อาจจะดูเหมือนฮีโร่ เป็นข่าว มีสื่อมาสัมภาษณ์ไม่ต่างกับคนดัง แต่ดังแบบนี้ ตัวเองต้องทรมาน พ่อแม่ต้องมาร่วมลำบากด้วย อันนี้น้อง ๆ คิดดีแล้วหรือไม่ แล้วถ้าสุขภาพทรุดไปจนถึงพิการใครจะดูแลน้อง ๆ

“ทิชา ณ นคร”ป้องทะลุวัง

อีกหนึ่งบุคคลที่ให้กำลังใจกลุ่มทะลุวังมาโดยตลอดอย่าง ป้ามล ทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเยาวชน(ชาย)บ้านกาญจนาภิเษก ได้โพสต์ข้อความว่า วันนี้ วันดี มวลมิตรที่ไปเยี่ยมบุ้งที่เรือนจำส่งข่าวมาว่า “บุ้งเป็นห่วงป้ามากๆ จากข่าวของหยก ห่วงว่าป้าจะเดือดร้อนมั้ย”

ส่วนหยกก็ส่งข้อความว่า “ขอโทษมากๆ ค่ะ ที่ทำให้กระทบกระเทือนมาถึงป้า“ และมีบางมุมที่บอกเพิ่ม แม้ป้าไม่ได้ถาม เพื่อไม่ให้ป้าต้องห่วงใย

ถึงบุ้ง ถึงหยก ไม่ต้องห่วงป้า ไม่ต้องรู้สึกผิดต่อป้า ป้ารับมือได้และไม่รู้สึกเดือดร้อนกับการถากถาง การด้อยค่า การแซะ แบบเกินเลย เกินจริง จากสื่อ จากคนบางกลุ่ม อย่างเมามันในข้อมูลที่วนไปวนมาเหมือนบ้าคลั่ง

ยืนยัน! ถ้าย้อนเวลาไปได้ ป้ายังคงคิด ตัดสินใจและปฏิบัติการทุกอย่างเหมือนเดิม กรณีที่หยกถูกปฏิเสธสิทธิทางการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมพัฒน์ฯ และการให้ความเห็นของป้าต่อสาธารณะเพื่อปกป้องหยกบ้าง ไม่มากก็น้อยในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่งในสังคมแม้เราจะไม่มีความเกี่ยวดองใดๆ ต่อกัน

แต่ถ้าไม่ทำเพราะกลัวทัวร์ลง ป้าคงไม่ให้อภัยตัวเองที่ขี้ขลาดตาขาวและเลือกอยู่เงียบ ๆ ในคอมฟอร์ทโซน

ส่วนการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จากเหตุปัจจัย จากเงื่อนไข ภายใน ภายนอกใด ๆ ก็ตาม ป้าไม่ตัดสิน ไม่พิพากษา ไม่พาตัวเองเข้าไปในพื้นที่การเบลมผู้ไร้อำนาจและเชื่อว่าทุกคนรวมถึงคนที่งัดแงะ แซะ ด้านมืดของคนอื่นอย่างบ้าคลั่ง ว่าง ๆ ก้มลงสำรวจตัวเอง สำรวจเด็กน้อยที่ใกล้ตัวด้วยนะว่า “หมดจด งดงาม ทุกวันจริงหรือ ?“

ที่สำคัญแหงนหน้าดูผู้ใหญ่ ผู้นำ ผู้สมควรแก่การเป็นแบบอย่างรอบๆ สิว่า สง่างามเพียงใด

ป้ายังเชื่อและทำงานบนความเชื่ออย่างเคร่งครัด นั่นคือ“เยาว์วัยมีไว้ให้ผิดพลาดและการเยียวยาที่ประณีต”

ไม่มีเหตุผลใดที่ป้าจะกลัวความเดือดร้อนจากการปกป้องเด็กๆ และหนุ่มสาวที่โดดเดี่ยว แต่เด็ดเดี่ยว

ทำไมผู้ใหญ่ ผู้มีตำแหน่งสำคัญ ๆ ที่เหี้ยกว่า เหี้ยเกินเด็กๆ ที่สำคัญต้องไม่เหี้ยเพราะเป็นผู้ใหญ่ เกิดก่อน ผ่านโลกมายาวนานกว่า ประสบการณ์มากกว่า มีความรับผิดชอบสูงกว่า แต่เมื่อเหี้ยกลับมีการปกป้องกัน

ทำไมไม่เอ๊ะ ไม่สงสัย ไม่ขยี้ ไม่ขยาย ไม่จับแพะชนแกะชนควาย ไม่เมามันบ้าคลั่งกับคนพวกนั้น ทำไม !!!

ทะลุวังไปต่อยาก

เมื่อถามถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้กับทะลุวังว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป คำตอบคือ ทะลุวังแตกแล้วไปต่อยาก จะปัดฝุ่นชูหยกอีกคงไม่ง่าย หรือหยกจะเคลื่อนไหวร่วมกับบุ้งต่อ คงเป็นไปไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะคนในวงการก็รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น

อีกประการหนึ่ง อย่าลืมว่าตะวันและแฟรงค์ประกาศอดอาหารและน้ำเพื่อประท้วงกับข้อเรียกร้อง 3 ข้อโดยจะไม่ยื่นประกันตัว 1. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 2. ต้องไม่มีใครติดคุกเพราะเห็นต่างอีก 3. ประเทศไทยไม่ควรได้เป็นคณะมนตรี สิทธิมนุษยชน

แต่ตอนนี้พ่อตะวันเดินเรื่องขอประกัน ซึ่งการอดอาหารดังกล่าวเป็นหนึ่งในการเคลื่อนไหวทางการเมืองไม่ได้ป่วยตามที่ศาลให้เหตุผล แล้วตรงนี้จะว่าอย่างไร เราไม่ได้อยากให่ใครต้องเสียชีวิตเพราะเรื่องแบบนี้ อย่างไรก็ตามการฝากขังของพนักงานสอบสวนน่าจะครบกำหนดฝากขัง(ไม่เกิน 48 วัน)ในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ และโอกาสที่จะได้รับการปล่อยตัวก็มีเช่นกัน

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j