“ทะลุวัง” วิกฤต กองเชียร์ส้มหาทางลงให้ “บุ้ง-ตะวัน-แฟรงค์”

แกนนำทะลุวังวิกฤต ตัวช่วยเหลือน้อย หลังก้าวไกลตกที่นั่งลำบากส่อถูกยุบ แกนนำอย่าง “บุ้ง-ตะวัน-แฟรงค์” เลือกเดินมาตรฐานสูงอดอาหาร-น้ำ หลายฝ่ายทันเกมจนหาทางลงลำบาก กองหนุนเดินเครื่องค้านรับฝากขัง หากปล่อยนาน 3 คนยิ่งแย่ หวังได้ออกมาสู้ต่อนอกเรือนจำ 22 มี.ค.67 พ่อแม่ตะวันยื่นขอประกันตัวตะวัน-แฟรงค์ ล่าสุด "หยกทะลุวัง" ประกาศยุติเป็นนักกิจกรรมทางการเมือง

นับได้ว่ากลุ่มทะลุวังยังเป็นกลุ่มเยาวชนที่ยังเคลื่อนไหวทางการเมืองเคียงคู่กับพรรคก้าวไกล ขณะที่เยาวชนที่เคลื่อนไหวอื่นๆ ต่างเลือกที่จะลดบทบาทลงหลังจากที่เกือบทุกรายมีคดีติดตัวแทบทุกราย จึงเหลือเพียงทะลุวังเท่านั้นที่ยังเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง แม้แกนนำจะถูกดำเนินคดี ได้ประกันและถูกถอนประกัน เวียนเข้าออกเรือนจำจนเป็นเรื่องปกติ

ขณะนี้แกนนำของทะลุวังถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ประกอบด้วย บุ้ง น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม ตะวัน น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และแฟรงค์ นายณัฐชนน ไพโรจน์

บุ้ง เนติพร ถูกศาลอาญากรุงเทพใต้สั่งถอนประกัน เมื่อ 26 มกราคม 2567 หลังจากบุ้งและพวกเข้าร่วมชุมนุมและพ่นสีหน้ากระทรวงวัฒนธรรม เรียกร้องให้ถอดเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ส.ว. ออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ

ขณะเดียวกัน ศาลยังนัดฟังคำวินิจฉัยคดีละเมิดอำนาจศาลของบุ้ง กรณีกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล เป็นเหตุให้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลของศาลอาญากรุงเทพใต้ป้องกันตัวด้วยการใช้ดิ้ว หรือกระบองเหล็กยืดหด ตีเข้าที่บริเวณข้อศอกจนเกิดอาการบาดเจ็บ แพทย์ต้องทำการรักษาและเย็บ 4 เข็ม โดยศาลมีคำสั่งถอนประกันและให้จำคุกเพิ่มอีก 1 เดือน

คดีของตะวันและแฟรงค์ ได้กระทำความผิดโดยมีพฤติกรรมบีบแตรใส่ขบวนเสด็จฯ ในขณะที่ขบวนเสด็จฯ กำลังแล่นผ่านบนทางด่วนย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมใช้ถ้อยคำดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และถูกควบคุมตัว 13 กุมภาพันธ์ 2567

บุ้งประกาศว่า “จะไม่ประกันตัวเพื่อพิสูจน์ความอยุติธรรมในกระบวนการยุติธรรม” พร้อมเรียกร้อง 1.ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ผู้พิพากษาต้องเป็นผู้พิพากษาของประชาชน และ 2.ไม่ให้มีใครติดคุกทางการเมืองอีก

จากนั้นแจ้งว่าเริ่มอดอาหารและน้ำตั้งแต่ 18.00 น.ของวันที่ 27 มกราคม 2567

ส่วนตะวันและแฟรงค์ประกาศอดอาหารและน้ำประท้วง เพื่อ 3 ข้อเรียกร้อง โดยจะไม่ยื่นประกันตัว 1.ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 2.ต้องไม่มีใครติดคุกเพราะเห็นต่างอีก 3.ประเทศไทยไม่ควรได้เป็นคณะมนตรี สิทธิมนุษยชน ตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์ 2567

มาตรฐานสูง-ลงยาก

แหล่งข่าวที่คลุกคลีกับการชุมนุมทางการเมืองกล่าวว่า เมื่อใดก็ตามที่น้องๆ 3 นิ้วถูกควบคุมตัวในเรือนจำ จะใช้สูตรด้วยการอดอาหารประท้วงเพื่อกดดันให้มีการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี แม้ในครั้งนี้จะระบุว่าไม่ขอประกันตัว แต่เป็นที่รู้กันว่าที่ผ่านมาบรรดากองเชียร์ของทะลุวังออกแรงกดดันในทุกช่องทาง

“เชื่อว่าทุกคนไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับน้องๆ ไม่มีใครต้องการให้น้องๆ เป็นอะไรไป”

แต่มาตรฐานของบรรดาแกนนำ 3 นิ้วตั้งแต่ยุคเพนกวิน และรุ้งปนัสยา ใช้เรื่องการอดอาหารเป็นหนึ่งในมาตรการต่อสู้และกดดันองค์กรของรัฐต่างๆ เพื่อให้ได้สิทธิในการประกันตัว ซึ่งกลุ่มทะลุวังก็เคยใช้วิธีการนี้มาก่อน

ถ้าเป็นในทางการแพทย์แล้วการอดอาหารแต่ไม่อดน้ำจะอยู่ได้เป็นเดือนๆ แต่ถ้าอดน้ำด้วยร่างกายน่าจะอยู่ได้ราว 1-2 สัปดาห์ ทั้งบุ้ง ตะวันและแฟรงค์ เกินกว่าหลักการทางการแพทย์แล้ว ตรงนี้เจ้าตัวน่าจะให้คำตอบได้เป็นอย่างดี ซึ่งคนที่เป็นแพทย์คงไม่มีใครพูดเรื่องนี้เพราะเป็นข้อมูลของคนไข้

เมื่อมาตรฐานของน้องๆ แกนนำ 3 นิ้วกำหนดไว้สูงและต้องทำตามมาตรฐานนี้ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่อดอาหารระหว่างถูกดำเนินคดี คือ ต้องได้สิทธิประกันตัวโดยเร็ว ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด ไม่เช่นนั้นสุขภาพของผู้อดอาหารจะแย่ลงเรื่อยๆ

ก้าวไกลไม่พร้อมช่วย

กองเชียร์ที่อยู่ล้อมรอบสายทะลุวังต่างก็ประเมินแล้วว่า ในระยะนี้ตัวช่วยอาจไม่สามารถทำได้เหมือนเดิม โดยเฉพาะเรื่องการใช้อำนาจของพรรคการเมืองช่วยเหลือในทุกช่องทาง เพราะพรรคก้าวไกลเองก็ตกที่นั่งลำบาก ทั้งจากคำวินิจฉัยของศาล
รัฐธรรมนูญเมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2567 กรณีการเสนอแก้กฎหมายมาตรา 112 ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง เป็นพฤติกรรมเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ด้วยมติ 9:0 เสียง

ตามมาด้วย 12 มีนาคม 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค จากกรณีก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่าการกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ที่เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แล้วใช้เป็นนโยบายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เมื่อตัวช่วยหลักอย่างพรรคก้าวไกล ไม่อยู่ในวิสัยที่จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือได้เหมือนเดิน ฝ่ายที่หนุนน้องๆ กลุ่มนี้ก็เปิดหน้าออกมาเดินเครื่องเพื่อคัดค้านคำสั่งฝากขังของพนักงานสอบสวน เพื่อให้น้องๆ ที่ถูกจับกุมมีโอกาสถูกปล่อยตัวหรือได้รับการประกันตัวออกมา เราจึงได้เห็นผู้ใหญ่ที่สนับสนุนออกมาร่วมกดดัน

งัดทุกทางดึงความสนใจ

ถ้าใครตามเรื่องที่ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ถูกถอนประกัน แล้วถูกส่งเข้าเรือนจำเมื่อ 26 มกราคม 2567 บุ้งประกาศอดอาหารมื้อเย็นวันที่ 27 มกราคม 2567 เมื่ออดมาได้ไม่กี่วันสายที่สนับสนุนกลุ่มทะลุวังมีการโพสต์บน Facebook ว่า เรื่องของพี่บุ้งเงียบมาก ไม่นานนักก็ลบโพสต์ดังกล่าวออกไป

จากนั้น 2 กุมภาพันธ์ 2567 เราจึงได้เห็นการเปิดพินัยกรรมของบุ้งที่ยกทรัพย์ให้หยกและพี่สาวบุ้ง เพื่อกระตุกความสนใจของคนให้กลับไปโฟกัสที่บุ้ง แต่ทุกอย่างก็เงียบอีก จากนั้น 8 กุมภาพันธ์ 2567 บุ้งโพสต์ทำหนังสือแสดงเจตนาบริจาคร่างกายให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขที่เป็นไปเพียงเพื่อยืดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิต หรือเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วย

ทั้ง 2 เจตนาพยายามพุ่งเป้าไปว่าบุ้งอาจเสียชีวิตจากการอดอาหารในครั้งนี้ แถมยังแจ้งอีกว่าหาเสียชีวิตให้นำศพไปแขวนไว้หน้าศาล ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร กระแสของบุ้งกลับเงียบจนกลุ่มที่หนุนหันไปปลุกกระแสเรื่องของตะวันและแฟรงค์แทน

บุ้งกลับมามีกิจกรรมอีกครั้ง เมื่อ 18 มีนาคม 2567 เริ่มมีการเขียนจดหมายกล่าวถึงพรรคเพื่อไทยและทักษิณ ชินวัตร ที่เดินทางไปเคารพบรรพบุรุษที่เชียงใหม่ รวมถึงเขียนจดหมายถึงแฟรงค์เมื่อ 20 มีนาคม 2567 นี่คือความพยายามที่จะดึงให้คนหันมาให้ความสนใจการเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุวัง

ดิ้นสู้ค้านฝากขัง

ในกรณีของตะวันและแฟรงค์ หลังจากที่ประกาศอดอาหารและน้ำ มีการปล่อยภาพที่ตะวันอาการหนักต้องเข้าโรงพยาบาล เพื่อนๆ ในสายทะลุวังออกมากล่าวว่าตะวัน-แฟรงค์ใกล้ตาย

ไม่ว่าจะเป็นการดึงความสนใจของคนในสังคมให้หันกลับไปโฟกัสที่น้องๆ หรือเพื่อกดดันให้เกิดการปล่อยตัวหรือให้ประกันตัว แต่ 20 มีนาคม 2567 ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตฝากขัง "ตะวัน-แฟรงค์" คดี ม.116 ต่อเป็นครั้งที่ 4 อีก 12 วัน เห็นว่ามีเหตุจำเป็น คดียังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน

ในวันดังกล่าวมีนักวิชาการและนักเคลื่อนไหวทางสังคม เช่น สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์.นายอธึกกิต แสวงสุข หรือใบตองแห้ง สื่อมวลชนอาวุโส ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี มธ. นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี อดีตศิลปินแห่งชาติ ทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ได้เข้ายื่นคำร้องขอให้ศาลไม่อนุญาตให้ฝากขังตะวันและแฟรงค์ต่อเป็นครั้งที่ 4

อยู่โรงพยาบาล-จิบน้ำ-น้ำหวาน

ถ้ามองในแง่ของการต่อสู้กันในทางการเมืองก็ต้องยอมรับความจริงว่า ในทุกกิจกรรมจะต้องหวังผลทั้งฝ่ายของตัวเองและฝ่ายตรงข้าม กระแสของบุ้งเงียบจริง ทั้งๆ ที่เป็นสูตรสำเร็จที่จะมีบันทึกการเยี่ยมรายงานต่อสาธารณะแทบทุกวัน รวมถึงการสร้างกิจกรรมพิเศษอย่างเรื่องของพินัยกรรม การบริจาคร่างกาย และการไม่ขอรับบริการสาธาณสุขเพื่อยื้อชีวิต แต่ก็ยังดึงความสนใจของคนในสังคมไม่ได้ รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดเดียวกัน

เช่นเดียวกับสถานการณ์ของตะวันและแฟรงค์ ที่พยายามปลุกกระแสเรื่องใกล้ตาย แต่ศาลยังคงอนุญาตให้พนักงานสอบสวนฝากขังได้เป็นครั้งที่ 4

คนที่ตามข้อมูลย่อมทราบดีว่าทั้ง 3 ท่านได้รับการดูแลจากแพทย์จากทั้งโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์อยู่ตลอด หากอ่านบันทึกการเยี่ยมตะวันให้ดีๆ จะพบว่า ตะวันจิบน้ำตามคำร้องขอของผู้ปกครอง จนถูกแฟรงค์บอกให้ทำตามสัญญา จากนั้นมีการจิบน้ำหวานตามคำร้องขอของแพทย์ ส่วนที่นอกเหนือกว่านั้นเจ้าตัวเท่านั้นที่ทราบดี ล่าสุดผู้ปกครองของตะวันและแฟรงค์ได้ยื่นขอประกันตัวเมื่อ 22 มีนาคม 2567

คิดดูดีๆ เจ้าตัวอยู่ในเรือนจำมีทีมงานโพสต์ความเคลื่อนไหวได้ตลอด มีทีมสนับสนุนโดยนักวิชาการและนักเคลื่อนไหวชื่อดัง มีสื่อพร้อมรายงานความเคลื่อนไหว มีทีมขับเคลื่อนด้านนอก มีทีมกฎหมายพร้อมช่วยเหลือ รวมถึงเงินประกันตัว และมีบัญชีรับบริจาค จะเห็นได้ว่าทีมงานเหล่านี้มีความพร้อมมาก

ตอนนี้แต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็อ่านเกมของทะลุวังออกหมดแล้ว ก้าวไกลคงไม่อยู่ในวิสัยที่จะช่วยได้อีก ซึ่งในระยหลังก้าวไกลก็ถอยออกจากทะลุวังมาตั้งแต่หยกปีนรั้วโรงเรียนเตรียมพัฒน์แล้ว ภาระจึงมาตกที่กองหนุนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงแต่อาศัยน้องๆ เหล่านี้ขับเคลื่อนแทน จึงต้องหาทางช่วยเพื่อให้น้องๆ ออกมาขับเคลื่อนต่อ

ล่าสุด 23 มีนาคม 2567 หยก น.ส.ธนลภย์ ผลัญชัย หรือหยก ทะลุวัง โพสต์แจ้งข่าวผ่านเฟซบุ๊ก Thanalop Phalanchai (Yok) ขอยุติกิจกรรมทางการเมืองว่า “ยุติการเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองแล้วค่าา อยู่กับที่บ้านเรียบร้อย สนับสนุนวงการดนตรี + กศน.”