xs
xsm
sm
md
lg

คนแห่เลือกแหล่งออมที่ไม่เสี่ยง “พันธบัตร-สลาก-ฝากแบงก์รัฐ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดอกเบี้ยฝากรอบนี้อาจขยับต่อยากหลังเศรษฐกิจยังไม่ดี ดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับลงใน กนง.รอบหน้า คนมีเงินออมไม่พลาดคว้าพันธบัตร 3-3.4% ขณะที่สลากออมทรัพย์เหลือแค่ออมสินที่ยังขาย 100 บาท เพิ่มดอกเบี้ย+รางวัล ส่วนสลาก ธ.ก.ส.ปรับราคาขายเป็น 2,000 เพิ่งขายหมดโปร เงินฝากมีแต่ของแบงก์รัฐ

ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้ถูกจับตาจากหลายฝ่าย หลังจากที่ฝ่ายการเมืองต้องการให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจปี 2566 ออกมาต่ำกว่า 2% รวมถึงการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 2567 อาจเติบโตต่ำกว่า 3% ส่วนจะนำไปสู่การแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป

ดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ประชุมครั้งที่ผ่านมาเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2567 คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.50% แต่รอบนี้คณะกรรมการมีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี โดย 2 เสียงเห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี

คาดหมายว่าการประชุม กนง.ครั้งต่อไป 10 เมษายน 2567 มีความเป็นไปได้ที่อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดอกเบี้ยพันธบัตร 3-3.4%

สิ่งที่เห็นได้ชัดในตลาดการเงินขณะนี้ คือ อัตราดอกเบี้ยคงไม่ขยับขึ้นไปมากกว่านี้แล้ว อีกทั้งมีแนวโน้มว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ ลงอีกในไม่ช้า ดังนั้น ดอกเบี้ยที่เราเห็นในขณะนี้อาจเป็นดอกเบี้ยที่ชนเพดานแล้ว ในฝั่งดอกเบี้ยเงินกู้อาจนิ่งอยู่ในระดับนี้ ส่วนจะปรับลดลงหรือไม่คงขึ้นกับแนวทางของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง

ส่วนดอกเบี้บเงินฝาก หากลองสำรวจตลาดเงินฝากในระยะนี้ตัวดอกเบี้ยคงไม่สูงไปกว่านี้ ขณะที่การช่วงชิงเงินฝากของธนาคารพาณิชย์เอกชนยังมีไม่มากนัก เราได้เห็นเพียงธนาคารของรัฐทั้งออมสิน ธ.ก.ส. และอาคารสงเคราะห์ที่มีสินค้าเงินฝากออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง

เช่นเดียวกับพันธบัตรรัฐบาล ที่สำนักบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ ปีงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 1 วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท เปิดจำหน่ายให้ประชาชน 2 แนวทาง ได้แก่

1) การจำหน่ายบนวอลเล็ต สบม. ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง วงเงิน 10,000 ล้านบาท รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ร้อยละ 3.00 ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ร้อยละ 3.40 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 6-19 มีนาคม 2567

2) การจำหน่ายผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย วงเงิน 25,000 ล้านบาท เปิดให้จองซื้อพันธบัตรได้ตั้งแต่วันที่ 11-13 มีนาคม 2567 วงเงินจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท ทวีคูณรอบละ 1,000 บาท

ทั้งผ่านแอปเต็มวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท และการจำหน่ายที่ธนาคารพาณิชย์ 4 แห่ง 2.5 หมื่นล้านบาทก็เต็มแล้วเช่นกัน วงเงินที่เหลืออีก 5 พันล้านบาท แยกไว้จำหน่ายให้นิติบุคคลไม่แสวงหากำไร ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด วงเงิน 5,000 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 18-19 มีนาคม 2567 วงเงิน 5,000 ล้านบาท เป็นรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ ร้อยละ 3.00 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน วงเงินซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และไม่จำกัดวงเงินขั้นสูง


พันธบัตรขายเกลี้ยง

นักการเงินรายหนึ่งกล่าวว่า ถือว่าผลตอบรับของพันธบัตรรุ่นนี้ค่อนข้างดี หมดเร็ว ทั้งผ่านวอลเล็ตและที่สาขาของธนาคารพาณิชย์ มีรุ่น 5 ปี ดอกเบี้ย 3% และรุ่น 10 ปี ดอกเบี้ย 3.4% ถือว่าดอกเบี้ยไม่ได้สูงหรือต่ำเกินไปอยู่ในเกณฑ์ที่คนต้องการออมเงินรับได้ แนวโน้มที่ดอกเบี้ยจะสูงกว่านี้คงเป็นเรื่องยากเพราะตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์

ในระยะหลังการจำหน่ายพันธบัตรให้ประชาชนได้ปรับเปลี่ยนจากเดิม First Come First Serve ทำให้โอกาสที่คนมีรายได้น้อยเข้าถึงพันธบัตรยาก จึงเปลี่ยนมาเป็นการจัดสรรในรูปแบบ Small Lot First คือ วิธีการจัดสรรพันธบัตรออมทรัพย์ให้ผู้จองซื้อทุกรายอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ตามเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยผู้จองซื้อทุกรายจะได้รับ SMS แจ้งผลการจัดสรรพันธบัตรจากธนาคารตัวแทนจำหน่ายภายในวันที่ 14 มีนาคม 2567

ทั้งนี้ ผลการจัดสรรพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ครั้งที่ 1 แบบ Small Lot First จะมีผู้ได้รับจัดสรรวงเงินตั้งแต่ 1,000 บาท และสูงสุดต่อรายที่รวมทุกธนาคารตัวแทนจำหน่ายแล้ว จำนวน 1,515,000 บาท โดยวงเงินที่ผู้จองซื้อไม่ได้รับจัดสรรพันธบัตรออมทรัพย์ ธนาคารตัวแทนจำหน่ายจะคืนเงินให้แก่ผู้จองซื้อทุกรายภายในวันที่ 14 มีนาคม 2567

สลากออมทรัพย์-ธ.ก.ส. เพิ่งขายหมด

อีกทางเลือกหนึ่งคนที่ไม่ต้องการความเสี่ยงนิยมออมผ่านช่องทางนี้ คือ สลากออมทรัพย์ของธนาคารรัฐ ออมสิน ธ.ก.ส. และอาคารสงเคราะห์ เพราะไม่กินทุน ได้ลุ้นรางวัล แถมมีดอกเบี้ยให้อีกส่วนหนึ่ง

นาทีนี้สลากออมสินน่าจะเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงง่ายกว่าสลากออมทรัพย์อีก 2 ค่าย มีทั้งอายุ 2 ปี ราคาหน่วยละ 100 บาท และอายุ 1 ปี ราคาหน่วยละ 20 บาท ขณะที่สลากธนาคารอาคารสงเคราะห์มีราคาค่อนข้างแพง ถูกที่สุดเป็นชุดขาลเพิ่มพูล 3 ปี หน่วยละ 1 พันบาท ทำให้การเข้าถึงทำได้ยาก

แถมมีการโยกกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ ย้ายไปเป็นกรรมการผู้จัดการธนาคาร ธ.ก.ส สลากตัวใหม่ของ ธ.ก.ส. ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นรุ่นถุงทอง อายุ 2 ปี เสนอขายหน่วยละ 2,000 บาท ให้รางวัลที่ 1 (เสี่ยงหมวด) สูงถึง 60 ล้านบาท

15 มีนาคม 2567 ธ.ก.ส.แจ้งว่าสลากถุงทองจำหน่ายหมดแล้ว ต่างจากเดิมที่สลาก ธ.ก.ส. มักจะไล่บี้กับสลากออมสิน ราคาขายต่อหน่วยเคยอยู่ในระดับเดียวกัน เพียงแต่สลาก ธ.ก.ส. จะขายเป็นรอบๆ คือออกของใหม่ขายแทนของเก่าที่ครบอายุ ต่างจากสลากออมสินที่ขายได้เรื่อยๆ

สลาก ธ.ก.ส. ที่ขยับขึ้นเป็นหน่วยละ 2 พัน ทำให้คนที่หวังว่าจะถูกรางวัลเลขท้ายทุกงวดเหมือนเดิม จำเป็นต้องใช้เงินซื้อถึง 2 ล้านบาท หากขายที่ 100 บาทเหมือนเดิมจะใช้เงิน 1 แสนบาทก็ถูกเลยท้าย 3 ตัวทุกงวด

ขณะเดียวกัน จากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ดอกเบี้ยสลากกรณีไม่ถูกรางวัลก็ขยับขึ้น อย่างสลากออมสิน 2 ปี เมื่อ 2 ปีที่แล้วดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.05% หากซื้อไว้ 1 แสนบาท หรือ 1 พันหน่วย ครบกำหนดจะได้ดอกเบี้ย 100 บาท (2 ปี) แต่สลากล็อตใหม่ชุด 252 ดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี ถ้าซื้อ 1 พันหน่วย ครบกำหนดอีก 2 ปีข้างหน้า จะได้ดอกเบี้ย 1,000 บาท ส่วนสลาก 1 ปี มีดอกเบี้ย 0.3% ต่อปี


เงินฝากออมสิน 4 เดือน 9 เดือน

ธนาคารออมสินออกเงินฝาก 2 บัญชี ดอกเบี้ยสูง พุ่งทะยานกับเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 9 เดือน รับดอกเบี้ยสูง 1.61% ต่อปี (เทียบเท่าเงินฝากประจำ 1.89% ต่อปี) และเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 4 เดือน รับดอกเบี้ยสูง 1.36% ต่อปี (เทียบเท่าเงินฝากประจำ 1.60% ต่อปี)

เงื่อนไข เปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 บาท ฝากเพิ่มครั้งละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท ไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด ฝากได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล บุคคลธรรมดาไม่หักภาษี ณ ที่จ่าย ถอนหรือปิดบัญชีก่อนครบกำหนดได้รับดอกเบี้ยเผื่อเรียก ฝากได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 1-31 มีนาคม 2567 หรือจนกว่าธนาคารจะมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขที่กำหนดไว้ภายหลัง

ธ.ก.ส. UP LEVEL เพิ่งปิดรับฝาก

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออกผลิตภัณฑ์ “เงินฝาก UP LEVEL” เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้รักการออมอย่างต่อเนื่อง รับฝากขั้นต่ำ 50,000 บาท ระยะเวลา 10 เดือน รับดอกเบี้ยแบบขั้นบันได สูงสุด 8.88% ต่อปี เฉลี่ย 2.05% ต่อปี

แบ่งอัตราดอกเบี้ยเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ถึงวันที่ 15 กันยายน 2567 (ระยะเวลา 7 เดือน) 1.18% ต่อปี ช่วงที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2567 ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 (ระยะเวลา 2 เดือน) 1.68% ต่อปี และช่วงที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2567 (ระยะเวลา 1 เดือน) 8.88% ต่อปี

โดยผู้ที่สนใจสามารถเปิดบัญชีและฝากเงินขั้นต่ำครั้งละ 50,000 บาท ได้ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์-15 มีนาคม 2567 ทั้งนี้ ผู้ฝากที่ถอนเงินบางส่วนหรือปิดบัญชีก่อนครบกำหนด ธนาคารเรียกเก็บค่าธรรมเนียมร้อยละ 1 ของต้นเงินที่ถอน ขั้นต่ำครั้งละ 500 บาท เทียบเท่า 2.41%

เงินฝาก ธอส.

ส่วนธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มีบัญชีเงินฝากต้อนรับเทศกาลวันตรุษจีนและวันวาเลนไทน์ในปี 2567 กับเงินฝากออมทรัพย์มังกรทอง ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 2.25% ต่อปี เพียงเปิดบัญชีเงินฝากตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไปที่สาขาธนาคารทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์-15 มีนาคม 2567

อีกหนึ่งบัญชีคือ “เงินฝากออมทรัพย์ Happy Love” อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 2.00% ต่อปี (สำหรับลูกค้าที่ฝากเงินตั้งแต่วันที่เปิดบัญชีถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2568) เปิดบัญชีได้ตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง 31 มีนาคม 2567 เพียงเปิดบัญชีเงินฝากตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป สามารถฝากได้ไม่จำกัดวงเงิน และบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก


จุดสังเกตโปรเงินฝาก

แหล่งข่าวกล่าวว่า เท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นโปรโมชันจากธนาคารรัฐทั้ง 3 แห่งที่มีจุดเด่นเรื่องไม่เสียภาษี ส่วนธนาคารพาณิชย์เอกชนมีโปรโมชันออกมาน้อย ถ้ามีส่วนใหญ่จะเป็นเงินฝากเกินกว่า 10 เดือนขึ้นไป และมักเป็นเงินฝากที่ต้องเสียภาษีอีก 15%

ผู้ที่สนใจเงินฝากควรต้องดูรายละเอียดดีๆ อย่างเงินฝากออมสิน 4 เดือนและ 9 เดือน ธนาคารจะขายตัวเลข 1.60% และ 1.89% แต่นั่นเป็นตัวเลขที่ธนาคารโชว์ว่าเทียบเท่ากับเงินฝากประจำ แต่ดอกเบี้ยที่รับจริง (ไม่เสียภาษี) อยู่ที่ 1.36% และ 1.61%

สำหรับบัญชีเงินฝาก 10 เดือนที่ให้ดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดอย่าง Up Level ของ ธ.ก.ส. ขายตัวเลขดอกเบี้ยสูงสุด 8.88% (1 เดือนสุดท้าย) แต่ดอกเบี้ยรับจริงคือ 2.05% หรือเทียบเท่าเงินฝากประจำ 2.41% เงินฝากขั้นต่ำ 5 หมื่นบาท

แต่ละค่ายมีวิธีทำการตลาดในรูปแบบของตัวเองเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของธนาคารประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ส่วนผู้มีเงินออมต้องพิจารณารายละเอียดเหล่านี้ให้ดีก่อนตัดสินใจ ดูเรื่องเงินฝากขั้นต่ำ ดูเงื่อนไขเรื่องการถอนก่อนกำหนดว่าดอกเบี้ยเหลือเท่าไหร่ มีเบี้ยปรับหรือไม่ เพื่อการออมแต่ละครั้งคุ้มค่าที่สุด

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่


Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j


กำลังโหลดความคิดเห็น