ศก.ไทยสู่ยุค "ราหูเมาหมัด" ดวงการเงินกลับหัว ระวัง ! ต่างชาติเข้าควบคุมการเงิน

3 โหรทำนายดวงเมืองปีมังกร เศรษฐกิจยังน่าห่วง มฤตยูเข้าเรือนการเงิน ธุรกิจสีเทาจะเฟื่องฟู เตือนระวังการทำสัญญาการเงินระหว่างประเทศ อาจเปิดช่อง “เอเชียผิวขาว” เข้าควบคุมระบบการเงินของไทย การเงินหมุนเวียนดี แต่เงินเฟ้อรุนแรง ฟองสบู่เริ่มโต ต้องลงทุนแบบเข้าเร็วออกเร็ว “โหรภิญโญ” ระบุราหูเมาหมัด สภาจะวุ่นวาย มีเกณฑ์บุคคลสำคัญ รัฐบุรุษจะเจ็บป่วยหรือถึงแก่กรรม ชี้เกิดจันทรุปราคาในภพ 12 เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมลึกลับ ด้าน “อ.โจ้” เผยมีดาวคู่เลือดตกยางออก ต้องระวังอุบัติเหตุจากลมพายุ แผ่นดินไหว ดินถล่ม ขณะที่ “หมอฟลุค” ระบุดาวอาทิตย์วิ่งตีดาวอังคาร หวั่นเกิดเหตุเสียเลือดเสียเนื้อตั้งแต่ต้นปี ไปจนถึง ก.พ.2567

เดินหน้าเข้าสู่ปีมังกรอย่างเต็มตัว ท่ามกลางข่าวไม่สู้ดีที่เกิดในภูมิภาคแถบนี้ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศรวมไต้หวันเข้ากับจีนแผ่นดินใหญ่ ของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ หรือล่าสุดเหตุแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 คน หลายคนจึงอยากรู้ว่าดวงบ้านดวงเมืองของไทยในปีมังกรนี้จะเป็นเช่นไร มีเกณฑ์จะเกิดเภทภัยใดๆ กับเขาด้วยหรือไม่


อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ คำนวณดวงเมืองของไทยในปี 2547 ไว้ว่า เนื่องด้วยกรุงรัตนโกสินทร์วางพระฤกษ์เสาหลักเมืองที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2325 ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล จัตวาศก จุลศักราช 1144 เวลารุ่งเช้า ตอนนี้อายุเมืองย่าง 242 ปี จะครบ 242 ปีในวันที่ 21 เม.ย.2567 ดังนั้นในปี 2567 ดวงเมืองต้องพยากรณ์ 2 ช่วง คือก่อนและหลังวันที่ 21 เม.ย.2567 โดยจะมีดวงดาวสำคัญที่มีผลต่อดวงเมือง 5 ดวง คือ ดาวพฤหัสบดี ดาวมฤตยู ดาวเสาร์ ดาวอังคาร และพระราหู

ดาวพฤหัสบดี ก่อน 21 เม.ย.2567 ทักษาดวงเมืองตกภูมิราหู ดาวพฤหัสฯ เป็นกาลกิณีจร ซึ่งเกิดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2566 ดาวพฤหัสเป็นดาวแห่งกฎหมาย แปลว่าจะให้โทษทางกฎหมาย และศีลธรรม ระเบียบกฎเกณฑ์ จะมีการใช้กฎหมายมาห้ำหั่นกัน ช่วงชิงผลประโยชน์ ดาวพฤหัสหมายถึงจอมเทพ ส่วนราหูหมายถึงจอมมาร อีกทั้งมีกระแสสัมพันธ์กับดาวเสาร์ ดังนั้น ในปี 2566 จึงเกิดรัฐบาลผสมข้ามขั้ว ผิดฝาผิดตัว แต่ตอนนี้พระราหูย้ายเข้าสู่ราศีมีน ส่วนดาวเสาร์ยังโคจรอยู่ในราศีกุมภ์ ดังนั้นจึงเกิดการขับเคลื่อนที่แตกต่างออกไป

ดาวพฤหัสฯ จะอยู่ในราศีเมษ ถึงวันที่ 30 เม.ย.2567 ดาวพฤหัสฯ เป็นมนตรีจร ฉะนั้นจะให้คุณ จากนั้นดาวพฤหัสฯ จะโคจรเข้าราศีพฤษภในวันที่ 30 เม.ย.2567 และอยู่ในราศีพฤษภถึงวันที่ 13 พ.ค.2568 ดาวพฤหัสจะโคจรอยู่ในภพที่ 2 ซึ่งเป็นเรือนเศรษฐกิจ เรือนการเงิน จึงจะอำนวยโชคดีให้เศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้น การค้าขายรุ่งเรือง รายได้จากการจัดเก็บภาษีในรูปแบบอื่นๆ มากขึ้น แต่ประชาชนส่วนใหญ่จะเสียภาษีน้อยลง โดยรัฐบาลจะเก็บภาษีในรูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่เก็บจากประชาชน แต่ทั้งนี้อาจเกิดความยุ่งยากเนื่องจากดาวเคราะห์เข้ามาเบียน เช่น ดาวอังคารเข้ามาเบียน ทำให้มีค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากกองทัพเป็นจำนวนมาก หากดาวเสาร์มาเบียนจะเกิดความล้มเหลวสูญเสียจากสถานบันการเงิน ความสูญเสียด้านการเงินและตลาดหุ้น

ดาวมฤตยู ดาวมฤตยูจรอยู่ในราศีพฤษภ โดยมฤตยูอยู่ในราศีพฤษภ 7 ปี ซึ่งมฤตยูจะโคจรออกจากพฤษภในเดือน ก.ค.2572 ดังนั้นดาวพฤหัสฯ จะโคจรไปกุมกับดาวมฤตยูที่รออยู่แล้วในราศีพฤษภ ดาวมฤตยูอยู่ตรงไหนจะเกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อดาวมฤตยูกุมดาวพฤหัสฯ เขาเรียกว่า “พฤหัสฯ มฤตยูครูวิเศษ” เพราะฉะนั้นจะมีการใช้ความรู้ใหม่ๆ แปลกๆ หรือใช้กลวิธีใหม่ๆ เกี่ยวกับการเงินการธนาคาร จะมีการพัฒนาระเบียบและปรับเปลี่ยนกฎหมายทางการเงิน การปริวรรตเงินตราเข้าสู่มิติใหม่ มีการต่อสู้แข่งขันทางการเงินอย่างรุนแรง การเงินของประเทศจะเฟื่องฟู ดาวมฤตยูเป็นอากาศธาตุ ส่วนดาวพฤหัสฯ เป็นธาตุดิน ราศีพฤษภก็เป็นธาตุดิน เมื่อมาเจอกันจึงอาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อที่ค่อนข้างรุนแรง เงินอาจจะหมุนเวียนดี หรือกู้มาแจก ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรง

ดาวเสาร์ ทั้งปีดาวเสาร์โคจรเดินหน้า-ถอยหลังอยู่ในราศีกุมภ์ โดยอยู่ในราศีกุมภ์ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2566 ไปจนถึงวันที่ 19 พ.ค.2568 ดาวเสาร์ได้มาตรฐานเป็นมูลเกษตร จึงสร้างความมั่นคงให้การบริหารราชการแผ่นดิน ผู้ใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน เช่น นายกฯ คณะรัฐมนตรี เมื่อดาวเสาร์โคจรในภพที่ 11 ดาวเจ้าเรือนกัมมะโคจรมาอยู่ในเรือนลาภะ ส่งผลให้การงานที่เคยทำไว้ในรัฐบาลเก่าจะผลิดอกออกผล มีรายได้และมีผลประโยชน์เกิดขึ้นให้เห็นเป็นรูปธรรม มีมิตรประเทศให้การช่วยเหลือ รัฐบาลชุดนี้จึงเสวยบุญ ได้อานิสงส์จากที่รัฐบาลก่อนทำไว้ใน

ดาวเสาร์ในภพที่ 11 ในราศีกุมภ์ ดาวเสาร์หมายถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ตำราบอกว่ารัฐบาลจะมั่นคง ส่วนงานรัฐสภาจะก้าวหน้า แม้จะต้องเผชิญปัญหาจากฝ่ายค้านอย่างหนัก ได้รับการสนับสนุนทั้งจากดาวอาทิตย์ ดาวมฤตยู ดาวพฤหัส ดาวศุกร์ และดวงจันทร์ ร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการเงินจะเดินไปได้อย่างน่าพอใจ แต่เมื่อดาวเคราะห์เบียนมาจากภพที่ 8 คือมรณะ มายังดาวเสาร์ในภพที่ 11 หมายถึงสภา ตำราบอกว่าบุคคลสำคัญ รัฐบุรุษ นักการเมืองคนสำคัญ จะเจ็บป่วย หรือถึงแก่กรรม




พระราหู ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2567 เวลา 0.00 น. ราหูโคจรอยู่ในราศีมีน จากนั้นราหูจะโคจรย้อนวิถีไปยังทิศตะวันตกของสุริยะวิถี จนกระทั่งถึง 31 ธ.ค.2567 ในเวลา 24.00 น. ดังนั้น ตลอดทั้งปีราหูจะโคจรอยู่ในภพวินาศของดวงเมือง อย่างไรก็ดี ตอนนี้ราหูยกจากราศีเมษเข้าสู่ราศีมีน และจะโคจรอยู่ในราศีมีนจนถึงวันที่ 5 พ.ค.2568 ทำให้ความมืดที่ครอบงำดวงเมืองน่าจะค่อยๆ หายไป ฉะนั้นราหูเข้าภพที่ 12 ของดวงเมืองน่าจะส่งผลดี

แต่ในดวงเมืองนั้นราศีมีนมีจุดตั้งรับสำคัญอยู่ 3 จุด คือ จุดราหู จุดพระพุธ และจุดพระศุกร์

จุดแรกคือจุดราหู โดยก่อนหน้านี้ราหูอยู่ราศีเมษมาปีครึ่ง ราหูเพิ่งจะย้ายจากราศีเมษสู่ราศีมีน ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นก็เหมือนกับนักมวยอยู่บนเวทีมาปีครึ่ง ต่อสู้ด้วยความเหนื่อยยากอยู่ปีครึ่ง เมื่อนักมวยลงจากเวทีย่อมสะบักสะบอม ดังนั้น ปี 2567 จึงเรียกว่า ‘ราหูเมาหมัด’ ต้องการการฟื้นฟู และประการสำคัญคือราหูจรไปทับราหูเดิม ในตำราบอกว่าบาปเคราะห์ทับกันเองจึงไม่ค่อยดี เพราะราหูเป็นตัวแทนของผู้ปกครอง ราศีกุมภ์ซึ่งเป็นภพที่ 11 ของดวงเมือง หมายถึงรัฐสภาซึ่งมีหน้าที่ออกกฎหมาย เพราะฉะนั้นในรัฐสภาจะเกิดการเปลี่ยนแปลง สับสนวุ่นวาย เกิดความเสียหายในสภาหรือในพรรคการเมือง เกิดปัญหาสำคัญขึ้น

จุดที่สองคือ จุดพระพุธ ซึ่งราหูจรทับดาวพุธเดิมจึงทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับคดีความ เรื่องของการสื่อสาร เพราะดาวพุธเป็นเทพเกี่ยวกับการสื่อสาร พระพุธปกครองราศีมิถุนกับราศีกันย์ จึงเน้นไปที่การสื่อสาร การคมนาคม ขนส่ง หรือพลังงาน มีเรื่องเกี่ยวกับคดีหมิ่นประมาท ผู้ใหญ่ในวงการดังกล่าวอาจจะถูกกล่าวหา ต้องคดี หรือเจ็บป่วย เสียชีวิต หรือเกิดความเสียหายในวงการเหล่านี้

จุดที่สามคือ จุดพระศุกร์ โดยราหูจรผ่านดาวศุกร์เดิม ดาวศุกร์เป็นเจ้าเรือนชะตาที่ 2 ซึ่งหมายถึงเศรษฐกิจการเงินการคลัง และดาวศุกร์ยังเป็นเจ้าเรือนชะตาที่ 7 หมายถึง กิจการต่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องเอาใจใส่เรื่องเศรษฐกิจ การปกครอง และความเป็นอยู่ของประชาชน ต้องบริหารการเงินการคลังให้ดีเพราะกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน รัฐบาลต้องระวัดระวังการดำเนินนโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งประเทศเพื่อนบ้านและประเทศแดนไทย ทั้งเรื่องความร่วมมือด้านการค้าและความร่วมมือในโครงการต่างๆ เพราะอาจจะเกิดความขัดแย้งขึ้นได้ เช่น ท่าทีระหว่างรัฐบาลไทยกับพม่าและประเทศรอบบ้านของไทย ขั้วอำนาจต่างๆ

ราหูไปตรงไหนทำให้เกิดอุปราคา ซึ่งปี 2567 จะเกิดอุปราคาขึ้น 4 ครั้ง เกิดตรงราศีกันย์ 2 ครั้ง และเกิดตรงราศีมีนอีก 2 ครั้ง ราศีทั้งสองเป็น “ทวิภาวะราศี” ทำให้เกิดเหตุการณ์ยุ่งยาก สลับซับซ้อน

โดยอุปราคาสมผัสที่ราศีกันย์ 2 ครั้งนั้น จะเป็นจันทรุปราคาเงามัว 1 ครั้ง และสุริยุปราคาวงแหวน 1 ครั้ง ราศีกันย์เป็นราศีธาตุดินจึงทำความเสียหายให้พืชผลทางการเกษตร ธุรกิจการค้าถูกรบกวน อุปราคาเกิดในเรือนการเงิน ส่งผลให้เกิดปัญหาทางการเงิน เกิดความอับโชคแก่รัฐบาล เกิดฝนแล้ง ภัยแล้งจึงเป็นปัญหาสำคัญของปี 2567 ขณะที่บางพื้นที่ก็เกิดอุทกภัย เกิดการเสียชีวิตเพราะน้ำ เกิดอุบัติเหตุทางน้ำ เกิดความยุ่งยากในอาชีพที่เกี่ยวกับน้ำหรือของเหลว ความเจ็บป่วยจากโรคระบาด โควิดฟื้นคืนชีพ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ต่างๆ ปรากฏขึ้นอีก ทำให้ผู้คนล้มตาย เพราะเป็นทวิภาวะราศี แต่ไม่รุนแรงเท่าหลายปีที่ผ่านมา

เกิดจันทรุปราคาในราศีกันย์ ทำให้ชนชั้นกรรมาชีพเดือดร้อน ไม่พอใจเรื่องปัญหาแรงงานหรือการขึ้นค่าแรง มีปัญหาจากคนหมู่มาก เกิดจันทรุปราคาในภพ 12 ต้องระวังอาชญากรรมลึกลับ ยุ่งยากแก่การสืบสวน ต่างชาติอาจจะใช้ประเทศไทยเป็นที่ปฏิบัติการในการจารกรรม วินาศกรรม

ส่วนอุปราคาตรงราศีมีนซึ่งเกิดขึ้น 2 ครั้งนั้น จะเป็นสุริยุปราคาเต็มดวง 1 ครั้ง และจันทรุปราคาบางส่วนอีก 1 ครั้ง ราศีมีนเป็นที่ตั้งของภพที่ 12 ของดวงเมือง พยากรณ์ว่าจะเกิดความอับโชค ความเศร้าโศก เสื่อมเกียรติจะมาสู่ประเทศหรือรัฐบาล ยิ่งเป็นสุริยุปราคาเต็มดวงในภพที่ 12 ต้องบอกว่าเรือนจำ ราชทัณฑ์ ที่กุมขัง ที่ดัดสันดาน โรงงาน โรงพยาบาลจะถูกกระทบกระเทือน เกิดอาชญากรรมลึกลับขึ้น ส่วนจันทรุปราคาในราศีมีน ทำนายว่าประเทศจะเผชิญกับศัตรูจากต่างประเทศ จึงต้องระมัดระวังว่าพื้นที่ประเทศไทยจะถูกใช้เพื่อภารกิจบางอย่าง

ดาวอังคาร ปี 2567 ดาวอังคารจะโคจรถอยหลังในช่วงปลายปีไปจนถึงต้นปี 2568 ดังนั้นในปีหน้าอุบัติเหตุอุบัติภัยจะรุนแรงเป็นบางช่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่อังคารกุมดาวเสาร์จะเกิดอุบัติเหตุอุบัติภัยชุก โดยเฉพาะช่วงวันที่ 15 มี.ค.-23 เม.ย.2567 จะเกิดอุบัติเหตุอุบัติภัยรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งดินฟ้าอากาศที่แปรปรวน ลมพายุ ภัยแล้ง

ช่วงที่น่าสนใจที่สุดคือช่วงที่อังคารโคจรถอยหลังตรงราศีกรกฎ โดยอังคารจะโคจรหยุดนิ่งที่ 13 องศา 16 ลิปดา และถอยหลังเข้ามาใกล้โลก โดยอยู่ด้านเดียวกับโลก อังคารเล็งพระอาทิตย์ ส่งกระแสถึงดาวเสาร์ ทำให้เกิดอุบัติเหตุอุบัติภัย ภัยธรรมชาติที่รุนแรงในช่วงปลายปี จึงควรระมัดระวังตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 จนถึงต้นปี 2568 ภาพปรากฏอันนี้มันคล้ายกับตอนดาวอังคารเดินถอยหลังใกล้โลกซึ่งเกิดกรณีที่ 13 หมู่ป่าติดถ้ำ แต่ครั้งหมูป่าเกิดตรงราศีมังกรโคจรเข้ามาใกล้โลกและเกิดอุบัติเหตุในราศีธาตุดิน ส่วนครั้งนี้เกิดในราศีธาตุน้ำ โดยอาจจะเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ ทางทะเล จึงต้องระวังอุบัติเหตุทางน้ำทางเรือหรือบริเวณพื้นดินที่มีน้ำ


ด้าน “อาจารย์โจ้” อาณณัฐ สรรคชา อาจารย์โหราศาสตร์ไทย พยากรณ์ดวงเมืองของไทยในปี 2567 ว่า ปีนี้ดวงเมืองจะเข้าราศีธนู เป็นภพศุภะ แต่มีดาวเสาร์กับดาวพฤหัสอยู่ และมีมฤตยูอยู่ที่ราศีเมถุน ถือว่ายังไม่ดี ลัคนาดวงเมืองจุดกำเนิดอยู่ที่ราศีเมษ มีพระอาทิตย์กุมลัคนาได้ตำแหน่งเป็นมหาอุจ แต่พื้นดวงเมืองต้องระวังดาวที่โคจรมาคือพระราหู โดยพระราหูกำเนิดในดวงเมืองอยู่ในราศีมีน มีพระพุธ พระศุกร์ร่วมด้วย ราศีมีนของดวงเมืองเป็นภพวินาศ มีราหูเป็นพินทุบาทว์ในภพที่ 12

ช่วงนี้พระราหูโคจรมาประทับร่างซึ่งเดิมอยู่ในราศีมีน ราหูและพระเกตุจะเดินย้อนจักร (เดินตามเข็มนาฬิกา) ราหูอยู่ตรงนี้ปีครึ่ง ราหูเป็นพินทุบาทว์หรือจุดด่างพร้อย จะสร้างปัญหา ราหูเป็นดาวมายาบาปเคราะห์ ถ้าเป็นคนจะใจร้อน กล้าได้กล้าเสีย ถ้าเป็นบุคลากรจะเป็นผู้มีอิทธิพล เป็นเจ้าสัว ถ้าเป็นโซนภูมิภาคจะหมายถึงแถบเอเชีย เป็นคนขาว เช่น จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ราหูอยู่ตรงนี้จะมีปฏิกิริยา เช่น ปี 2566 ราหูทับลัคนาดวงเมือง จึงเกิดปัญหาการช่วงชิง ไม่ไว้ใจกัน จ้องจับผิดอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ปี 2567 ราหูเข้าภพวินาศ จึงพร้อมที่จะสร้างปัญหา ทีนี้ในดวงเมืองมีพุธ ศุกร์ และราหูอยู่ในราศีมีน

พระพุธหมายถึงการสื่อสาร การเจรจา การทูต การต่อรอง ราหูคือกุศโลบาย ถ้าราหูอยู่ในจุดดีจะส่งผลดี แต่ว่าดีในทางโลดโผน หวือหวา แต่ถ้าอยู่ในที่เสีย เวลาราหูจะให้โทษจะให้โทษรุนแรง ให้ทุกข์หนัก ราหูจะชอบเสี่ยง เปรียบเหมือนนักลงทุน การพนัน อบายมุข ส่วนพระศุกร์จะเกี่ยวกับเรื่องการเงิน เมื่อราหูพระทับร่างเดิมไปเจอพระพุธ ดาวคู่นี้จะเกี่ยวกับเรื่องความคิด โปรเจกต์ ไอเดีย การวางแผน การเงิน การลงทุน แต่อยู่ในภพที่ 12 เป็นภพวินาศ หมายถึงลับๆ ไม่เปิดเผย ปิดบังซ่อนเร้น จะมีเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ลึกลับซับซ้อน ค่อนจะวิปริต แปลว่ามีการวางแผนเรื่องเกี่ยวกับการเงินการลงทุนแบบลับๆ อีกทั้งราหูยังหมายถึงประเทศในภูมิภาคเอเชียซึ่งประชาชนมีผิวขาวและเป็นอภิมหาอำนาจ แปลว่าแผนการเงินการลงทุนแบบลับๆ ดังกล่าวอาจจะมีคนเอเชียผิวขาว เช่น จีน ญี่ปุ่น เข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งอาจเกี่ยวพันกับเรื่องเทาๆ ทั้งนี้ ราหูเข้าภพที่ 12 มาเป็นปีแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ 26 องศาแล้วจึงพร้อมให้ผลเต็มที่ โดยราหูน่าจะออกไปประมาณปลายปีหน้า

ตอนนี้ดาวพฤหัสฯ ยังกุมลัคนาอยู่ ยังไม่ออกจากราศีเมษ ดาวพฤหัสฯ เดินถอยหลัง พฤหัสฯ หมายถึงศีลธรรม จารีต กฎหมาย ความถูกต้อง เมื่อพฤหัสเดินถอยหลังแปลว่าศีลธรรมเสื่อมถอย กฎหมายไม่ถูกบังคับใช้ ซึ่งเขาเรียกว่ากฎหมายวิปริต มีการหักเหลี่ยมเฉือนคมเพื่อช่วงชิงอำนาจ

ส่วน ดวงด้านเศรษฐกิจ จะมีปัญหาอีกนาน เนื่องจากมีดาวมฤตยูเข้ามาอยู่ในเรือนการเงินการคลังของดวงเมือง มฤตยูคือภัยอาเพศ จึงเกิดเภทภัยในระบบการเงินการคลัง ดาวมฤตยูไปอยู่ตรงไหนจะเกิดรูรั่ว การเงินจึงเกิดรูรั่ว ซึ่งกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นก็อีกนาน เพราะมฤตยูจะอยู่ในราศีละ 7 ปี กว่ามฤตยูจะเดินครบ 1 รอบ ต้องใช้เวลา 84 ปี อาจมีภาพลวงตาว่าเศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้น แต่ไม่เป็นภาพจริง มีความเฟื่องฟูเกิดขึ้นบ้างก็จริงแต่เป็นความเฟื่องฟูของธุรกิจสีเทา ราหูเป็นดาวมัวเมา ธุรกิจสีเทาจะเฟื่องฟู

พระพุธอยู่ร่วมพระราหู พระศุกร์เดิมในดวงเมืองอยู่ในราศีมีน ภพวินาศ พระพุธหมายถึงคำพูด การเจรตา การทำสัญญาต่างๆ หมายความว่าไปตกปากรับคำหรือทำสัญญาอะไรไว้โดยที่เป็นการผูกมัดตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ การค้า การลงทุน ภพวินาศนะเป็นลัคนาดวงเมือง มีดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวราหูสถิตอยู่ ภพวินาศนะหมายถึงแดนไกล โดยภาพรวมจึงหมายถึงการทำสัญญาการเงินกับต่างประเทศ ซึ่งแนวโน้มจะสัมพันธ์กับประเทศในแถบเอเชียที่มีประชากรผิวขาว เช่น จีน ญี่ปุ่น ต้องระวังต่างชาติเข้ามาควบคุม

ดวงเกี่ยวกับอุบัติเหตุอุบัติภัย เนื่องจากในราศีพฤษภที่มฤตยูโยกย้ายเข้ามามีดาวพระอังคาร พระเกตุ ความหมายถือ มฤตยูคือเภทภัย พระอังคารคือดาวแห่งโลหิต เมื่อจับคู่กับมฤตยูจึงเกิดเป็นดาวคู่เลือดตกยางออก ดาวคู่ผ่าตัด ดาวคู่อุบัติเหตุ จึงส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจะกินช่วงเวลายาวนาน และจะเกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรงในอีก 3 ปีข้างหน้า ราศีพฤษภเป็นธาตุดิน พระอังคารเป็นธาตุลม จึงเกิดอุบัติเหตุเภทภัยจำพวกลมพายุ แผ่นดินไหว ดินถล่ม อุบัติเหตุที่เกิดบนดิน การกระทบกระทั่งของยวดยานพาหนะจะมากขึ้น ขับรถอยู่ดีๆ ไม่รู้อะไรจะร่วงลงมาใส่


ขณะที่ “อาจารย์ฟลุค” หมอดูโหราศาสตร์ไทย เจ้าของช่อง “โหรลักยิ้ม อาจารย์ภัทร” ซึ่งมียอดผู้ติดตามกว่า 4 แสนคน ระบุว่า ดวงเมืองปี 2567 หลักๆ จะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ คือหลังจากที่ดาวมฤตยูทับดวงเมืองซึ่งจะกินเวลา 7 ปี ที่ผ่านมาก็เกิดความวุ่นวายในดวงเมืองมาตลอด จากนั้นดาวมฤตยูย้ายเข้ามาอยู่ราศีพฤษภ ในภพกดุมภะ เป็นเรือนการเงิน ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มี.ค.2566 จะส่งผลให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจ โดยมฤตยูเข้ามาอยู่ในภพกดุมภะของคลังเมือง ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นจะมี 2 ส่วน ส่วนแรกคือ อะไรที่ขึ้นจะคิดว่าตก อะไรที่ตกจะคิดว่าขึ้น เช่น ตอนนี้อะไรที่ดูว่าจะดีให้ระวังจะผันผวน เขาเรียกว่า “ดวงการเงินกลับหัว” ส่วนที่สอง คือ ช่วงที่มฤตยูมาอยู่ในคลังเงิน “มฤตยู” แปลว่า ตาย เพราะฉะนั้นจะเกิดการล้มละลาย พังพินาศของเศรษฐกิจขนาดใหญ่

ซึ่งมฤตยูเป็นดาวเดินช้า ให้ผลช้า ใน 1 ราศี มฤตยูจะใช้เวลาเดิน 7 ปี การเดินของดาวมฤตยูนั้นลักษณะเหมือนตีฟองสบู่ คือค่อยๆ พองโต แล้วสุดท้ายก็แตก มฤตยูย้ายเข้าเรือนการเงินเมื่อเดือน มี.ค.2566 ซึ่งในปี 2567 จะอยู่ในขั้นที่ฟองสบู่เริ่มโต ยังไม่เห็นผลอะไร ปี 67 เป็นปีที่เศรษฐกิจยังไปได้เรื่อยๆ แต่เข้าเร็วออกเร็วนะ เช่น ตลาดหุ้นมีโอกาสจะขึ้น แต่เตรียมตัวไว้เลยว่าจะมีปัญหา สินทรัพย์จะโยกไปโยกมาเร็ว ช่วงนี้หุ้นขึ้นไปเล่นหุ้น แล้วก็ดึงออกมา เอาเงินไปลงทอง แล้วก็ดึงออกมา เป็นเศรษฐกิจที่ขาดความมั่นคง

“มฤตยูจะโคจรทับดวงเมืองและเข้าเรือนการเงินทุก 84 ปี ซึ่งครั้งก่อนมฤตยูเข้ามาทับดวงเมือง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ทรงถูกบีบให้สละราชสมบัติ จากนั้นมฤตยูจึงเข้าภพกดุมภะ เรือนการเงิน ครั้งนั้นคณะราษฎร์ปล้นพระราชทรัพย์ของรัชกาลที่ 7 ครั้งนี้ก็รูปแบบเดียวกันเลย เงินท้องพระคลังหรือเงินคงคลังถูกล้วงจนหมด ก็จะมีปัญหา แต่จะเห็นหลังจากมฤตยูเข้าเรือนการเงินไปสักระยะหนึ่ง น่าจะประมาณ 3 ปี คือในปี 2568 ฟองสบู่จึงเริ่มแตก ดวงเมืองมีปัญหา ระบบเศรษฐกิจมีโอกาสล่ม ประกอบกับดวงท่านเศรษฐาเป็นดวงนายกฯ ขัดตาทัพ ดวงอ่อน”

ส่วนเกณฑ์เรื่องอุบัติเหตุอุบัติภัย ในปี 2567 ให้ระวังอุบัติเหตุใหญ่จากไฟ การกระแทกกันของไฟ แผ่นดินไหว การระเบิด การกราดยิง ในช่วงต้นปี เนื่องจากมีดาวอาทิตย์กับดาวอังคารวิ่งตีกันตั้งแต่เดือน ต.ค.2566 ไปจนถึง ก.พ.2567 จึงมีเกณฑ์เสียเลือดเสียเนื้อในช่วงดังกล่าว

ปี 2567 ประชาชนทั่วไปต้องระวังเรื่องเงินทอง เพราะราหูไปทับพระพุธและทับศุกร์ ระวังเรื่องการฟ้องร้องหมิ่นประมาท ระวังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งจะทวีความรุนแรงขึ้น คู่ราหูพุธเป็นคู่หลอกลวงเกี่ยวกับเอกสาร ราชการ หน่วยงานรัฐ คู่ราหูศุกร์เป็นคู่หลอกลวงเกี่ยวกับความรัก สแกรมเมอร์

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j