ถึงเวลาสังคายนาพุทธศาสนาครั้งใหญ่หลังผู้คนไม่ศรัทธาในพระสงฆ์ “ไม่กราบพระแต่กราบเด็ก” พบหลายปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขทั้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระ-เณรแถมพระดัง-สอนดีเข้าถึงยาก ลูกศิษย์รอบตัวสกัด กลายเป็นคนมีเงินเข้าถึงง่ายกว่า ยัน “เชื่อมจิต” ไม่มีในพระไตรปิฎก แนะควรมีหน่วยงานเข้ามาแก้ข้อขัดแย้งทางธรรมของฝ่ายฆราวาส
กลายเป็นเรื่องที่สังคมต้องพูดถึงกันอีกครั้งกับความอัศจรรย์ของเด็กชายอายุ 8 ขวบที่สร้างแรงศรัทธาของผู้คนจำนวนไม่น้อยเข้ามาร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิกับอาจารย์น้องไนซ์ ด้วยการเชื่อมจิต โดยมีการจัดอบรมในหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีค่าใช้จ่ายในการอบรมแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของแต่ละสถานที่
ที่จริงเรื่องของน้องไนซ์ ผู้คนพูดถึงมาระยะหนึ่ง แต่ที่ถูกปลุกขึ้นมาในระยะนี้เป็นผลมาจากการฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายจากฝ่ายผู้ปกครองและทนายความจากฝั่งน้องไนซ์ หลังจากเริ่มมีการตั้งข้อสังเกตกิจกรรมดังกล่าวเริ่มถูกตั้งคำถามมากขึ้น รวมถึงมีการเปิดเผยเรื่องค่าใช้จ่ายในการเข้าอบรม จนเกิดเป็นกระแสขึ้นมา ปมเรื่องเชื่อมจิตถูกหยิบขึ้นมาถกเถียงจากฝ่ายผู้รู้ทางพุทธศาสนาว่าไม่มีในพระไตรปิฎก
วันนี้เรื่องราวถึงขยายวงออกไป มีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และพระสงฆ์เข้าไปดูแลและพูดคุยกับน้องไนซ์ เพราะสิ่งที่น้องพูดไม่ตรงกับหลักคำสอนของพุทธศาสนา เท่าที่ทราบเจ้าตัวอ้างเป็นพญานาค แต่พญานาคเขาไม่ได้มีการให้คำสอน และมันไม่ใช่หลักของศาสนาพุทธ
นอกจากนี้ ยังมีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงไปพบครอบครัวน้องไนซ์ในเบื้องต้น
กำเนิดน้องไนซ์
ทั้งนี้ น้องไนซ์ได้เผยแพร่เรื่องราวต่างๆ ผ่านเพจนิรมิตเทวาจุติ หนึ่งในนั้นคือประวัติน้องไนซ์ ไว้ดังนี้ EP1 กำเนิดอาจารย์น้องไนซ์และการสอนธรรม
กำเนิดร่างอวตาร ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก คุณพ่อคุณแม่จะทานเนื้อสัตว์ไม่ได้เลย และทานได้เพียงวันละ 1 มื้อเท่านั้น มีคืนหนึ่งคุณแม่นิมิตเห็นกระบวนพระแม่กวนอิม พร้อมด้วยบุรุษผู้ทรงสง่าหมดจดงดงาม ทรงชุดเครื่องสร้อยสังวาลพญานาคสีทองเต็มองค์ และมีองครักษ์ติดตาม (ทราบตอนหลังคือองค์แสนสิริจันทรานาคราช) มีกลุ่มผู้อารักขาในชุดแต่งกายสีขาวประกอบตลอด
แสดงตัว อายุ 5 ขวบแสดงตัว มาเต็มองค์ ตาเปล่งแสงประกายเพชร เปิดโอกาสให้สอบถามเพื่อให้รู้ว่าเป็นองค์เพชรภัทรนาคานาคราช รับหน้าที่จากองค์พระศากยมุนี (พ่อ) และได้รับผลจากพระแม่กวนอิม (แม่บุญธรรม) ให้ลงมาทำหน้าที่พิเศษเฉพาะกิจ นำพาผู้คนข้ามยุคมิคสัญญี (ที่กำลังเกิดขึ้น) ไปยังยุคพระศรีอารย์
วิธีการช่วยมนุษย์ โดยวิธีจุติเป็นพญานาคและอวตาร (แบ่งภาค) เป็นน้องไนซ์ เหตุที่ต้องจุติเป็นพญานาค เพราะพญานาคมีข้อจำกัดการช่วยเหลือมนุษย์น้อย ไม่เหมือนเทพซึ่งมีข้อจำกัดมากในการเข้าหามนุษย์ และอีกทั้งภารกิจนี้ต้องใช้ทั้งฤทธิ์และพุทธคุณ จึงเหมาะในรูปฆราวาส เด็กน้อย
สิ่งที่ได้รับมา รับแสงสีทองแสงแห่งธรรมจากองค์พุทธะพระศากยมุนี เพื่อนำพาผู้มีจิตใสมีบุญสัมพันธ์ ข้ามยุคมิคสัญญีไปสู่ยุคพระศรีอารย์ รับพรจากพระแม่กวนอิม ให้ไปได้ทุกที่เหมือนดั่งควันไฟ
เชื่อมจิตพบองค์พุทธะ ณ วันที่ครอบครัวตัดสินใจจัดการช่วยงานองค์เพชรในภารกิจนี้ น้องไนซ์ใช้นิ้วแตะหน้าผากของแม่นกขณะนั่งสมาธิ แม่นกตามแสงสีทองไปพบองค์พระศากยมุนี รับฟังพระสุรเสียง “รู้หรือไม่ว่าการเสียสละทำหน้าที่ของเขาครั้งนี้เพื่อสิ่งใด”
คลิปการบรรยายของน้องไนซ์ถูกนำมาโพสต์บนเพจนิรมิตเทวาจุติ จนชาวเน็ตเริ่มเข้าไปตั้งข้อสงสัยทั้งเรื่องการเอาน้ำรดศีรษะผู้ใหญ่ ความต้องการเชื่อมจิตคุยปูติน ผู้นำของรัสเซีย หรือในคลิปมีการกล่าวถึงผู้ร่วมกิจกรรมในเชิงตำหนิว่า ไอ้พวกโง่ และมีลูกศิษย์ที่เป็นผู้ใหญ่กราบไหว้น้องไนซ์เด็ก 8 ขวบรายนี้
ไม่กราบพระกันแล้ว
“ปรากฏการณ์น้องไนซ์สะท้อนให้เห็นว่าคนพุทธไม่ไหว้พระกันแล้ว หันมาไหว้เด็กอายุ 8 ขวบแทน และก่อนหน้านี้ก็กราบไหว้รูปเคารพบูชาทั้งเทพทั้งมารเต็มไปหมด นี่คือเรื่องที่ต้องนำมาคิดกันให้มากในเรื่องของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย” แหล่งข่าวด้านพระพุทธศาสนากล่าว
เขากล่าวต่อไปว่า นี่คือหลุมดำของพุทธศาสนาในประเทศไทยที่ควรได้รับการแก้ไขทั้งระบบ วันนี้ชาวพุทธไม่เข้าวัด ไม่ฟังธรรมจากพระสงฆ์กันแล้วหรือ? แต่หันมานับถือและศรัทธาในเด็กที่เชื่อกันว่ามีความเป็นผู้วิเศษ ไม่ว่าจะมาจากพระอนาคามี องค์เพชรภัทรนาคานาคราช หรือเป็นลูกชายอีกคนของพระพุทธเจ้า
เพจนิรมิตเทวาจุติให้ข้อมูลว่า องค์พระศากยมุนีเป็นพ่อ พระแม่กวนอิมเป็นแม่บุญธรรมของน้องไนซ์ นอกจากนี้ยังแจ้งอีกว่าน้องไนซ์มีพ่อ 3 พ่อคือ พ่อนกที่โลกมนุษย์ (ท้ายจตุโลกบาล) พ่ออนันตนาคราช (พญานาค) และพ่อพระพุทธเจ้า (องค์พระศากยมุนี)
แม้จะมีข้อท้วงติงเรื่องพระอนาคามีว่าไม่มาเกิดอีกแล้ว แต่ทางเพจนิรมิตเทวาจุติ ทำคลิปชี้แจงว่า พระอนาคามี ไม่ต้องมาเกิดแล้ว แต่น้องไนซ์ เสียสละมาทำหน้าที่ มาทำภารกิจพิเศษ ตามการมอบหมายจากพระพุทธเจ้าองค์ศากยมุนี หรือพ่อของน้องไนซ์ คือพาผู้คนข้ามยุคมิคสัญญีไปยังยุคพระศรีอารย์
พระทำเสื่อม-เข้าถึงยาก
ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ชาวพุทธเข้าวัดหรือฟังธรรมจากพระน้อยลง เป็นเพราะพฤติกรรมของพระ-เณรในยุคนี้ มีทั้งกินเหล้า เสพเมถุน ไม่ยึดมั่นในพระธรรมวินัย ทำให้ชาวพุทธเสื่อมศรัทธาพระและวัดน้อยลงไปเรื่อยๆ ตรงนี้พระปกครองต้องเข้าไปดูแล แต่อย่างที่รู้กัน คือ ต้องปล่อยจนเรื่องแดงออกมาหรือมีคนไปร้องสื่อ
อีกประการหนึ่งพระดังๆ ที่สอนธรรมะดีๆ ก็ไม่ใช่จะเข้าถึงง่าย ส่วนหนึ่งเมื่อดังแล้วกิจนิมนต์เยอะ ยิ่งมีสมณศักดิ์สูงๆ ยิ่งเข้าหายาก ลูกศิษย์รอบตัวพระดังมักจะกรองคนที่เข้าพบเป็นชั้นๆ คนที่เข้าพบส่วนใหญ่มักมีความสามารถในการถวายปัจจัยสูงๆ คนทั่วไปจึงเข้าถึงยาก วัดดังหรือพระดังมักมีความสัมพันธ์กับชาวบ้านโดยรอบไม่ดีนัก
ต้องมีหน่วยงานเคลียร์ข้อขัดแย้ง
ตอนนี้เรื่องพุทธศาสนาไม่ใช่เป็นเรื่องพระหรือเณรเท่านั้น ฆราวาสก็มีส่วนในการเผยแผ่ด้วยเช่นกัน การที่จะบอกว่าถ้าเป็นเรื่องฆราวาสสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไม่มีอำนาจนั้น ถือว่าเป็นการทำงานแค่เชิงรับไม่ใช่เชิงรุก
การอวดอุตริถ้าเป็นพระหรือเณร สำนักพุทธฯ เข้ามาดูแล ถ้าฆราวาสอวดอ้างอิทธิปาฏิหาริย์ แล้วเจ้าภาพที่จะเข้ามาจัดการดูแลควรเป็นใคร นี่ก็เป็นอีกหนึ่งช่องว่าง
ในทางปฏิบัติแล้วเมื่อมีข้อขัดแย้งทางหลักธรรมของพุทธศาสนา โดยเฉพาะหากเกิดขึ้นกับฝ่ายฆราวาส ต้องมีผู้ที่เข้าไปหาทางออกให้ข้อขัดแย้ง ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาอย่างที่เป็นอยู่ คือมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
เราควรมีหน่วยงานที่เข้ามายุติข้อขัดแย้งทางธรรม จะเรียกสภาสงฆ์ หรือศาลสงฆ์ หรือชื่ออื่นๆ ก็ได้ มีอำนาจในการยุติปัญหาหรือข้อขัดแย้ง อาจมีผู้ที่มีความรู้ทางธรรม ทั้งจากพระปกครองและฆราวาส เชิญหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมกันหาทางออกของปัญหา ทั้งหมดกระทำการในนามของมหาเถรสมาคม เพื่อให้มีผลในการบังคับใช้ หรือถ้าเกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่นสามารถส่งเรื่องให้ดำเนินการได้
ส่วนกรณีของน้องไนซ์ หลักธรรมที่นำมาใช้สอนถือว่ามีความรู้ทางธรรมระดับหนึ่ง ไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด เพียงแต่ไม่มีคนที่มีความรู้ทางธรรมลงมาชี้ถูกหรือผิด แต่ที่เห็นตรงกันคือการเชื่อมจิตไม่มีในพระไตรปิฎก
เริ่มจากพระ
ที่ผ่านมาหลายๆ ปัญหาล้วนแล้วมาจากพระด้วยกันทั้งนั้น พญานาคที่โด่งดังก็มาจากพระจากวัด เมื่อมีผู้คนศรัทธากราบไหว้ ขอพรแล้วสัมฤทธิผลจนโด่งดัง วัดอื่นๆ ก็ทำบ้างเพราะมีผลต่อรายได้ของทางวัด รูปเคารพต่างๆ ฝ่ายฆราวาสก็สร้างขึ้นมาหลากหลายองค์ เทพบ้าง มารบ้างให้ผู้คนได้กราบไหว้บูชา
เมื่อรูปสักการะเริ่มมีซ้ำๆ กันหลายที่ ต้องมีความพยายามหาเทพองค์ใหม่ๆ ขึ้นมา พร้อมด้วยเรื่องราวที่ชวนให้เลื่อมใสศรัทธา กลายเป็นวันนี้เราไม่ได้นับถือหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ากันแล้ว เรามุ่งเน้นการขอพรจากเทพเหล่านี้ที่ดลบันดาลให้
จะเห็นได้ว่าไม่มีพระหรือวัดใดออกมาให้สติเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ อาจมีบางท่านที่พยายามเตือนสติแต่ก็ถูกด่ากลับมา เพราะเป็นเรื่องความเชื่อความศรัทธาของแต่ละบุคคล นี่คือปัญหาของเรื่องพุทธศาสนา
ถึงเวลาสังคายนา
สำหรับทางรอดของชาวพุทธต้องหาความรู้เรื่องปริยัต หลักธรรมให้มากขึ้น ที่ผ่านมาชาวพุทธไม่มีความรู้เรื่องหลักธรรมคำสอน ทำให้หลงใหลไปกับสิ่งยั่วยุ ถ้าคนมีความรู้ อีกหน่อยพิธีกรรมที่ไม่ใช่พุทธหรือเครื่องรางของขลังต่างๆ จะลดลงไปเองเพราะไม่มีคนหลงเข้าไปบูชา
ดังนั้น การแก้ปัญหากับวงการพระพุทธศาสนาต้องมีการสังคายนากันครั้งใหญ่ และหน่วยงานของรัฐต้องลงมาเป็นเจ้าภาพ เพื่อให้ชาวพุทธได้ยึดหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลักในการดำเนินชีวิต วางหลักหรือแนวทางของชาวพุทธที่ควรจะเป็น ส่วนที่ยังเป็นปัญหาติดค้างในการตีความก็ต้องเร่งแก้ไขให้เกิดความกระจ่าง
อะไรที่ขาดไปสำหรับสังคมยุคนี้ต้องเร่งหาทางแก้ไข แต่ในเบื้องต้นกรณีของน้องไนซ์แม้จะไม่อยู่ในอำนาจของสำนักพุทธฯ ทางพระปกครองที่เป็นเจ้าคณะจังหวัด อำเภอหรือตำบลในพื้นที่ควรลงไปพูดคุยกับน้องเพื่อให้หลักคำสอนที่ถูกต้องและครบถ้วน
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j