xs
xsm
sm
md
lg

ฟันธงปี 67 ตลาดพระเฟื่อง! ‘เศรษฐีจีน’ เล็งพระเก่าราคาสูง จับตา ‘จตุคามฯ’ รีเทิร์น?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เซียนพระชี้ตลาดพระปี 2566 ซบเซา ‘สมาน คลองสาม’ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระฯ แจงนักเล่นพระปล่อยเช่าไม่ได้ ถึงขั้นแกะกรอบ ‘ทองหุ้มเพชร’ ออกมาขาย ยันคนเช่าพระเพื่อกำนัลผู้ใหญ่มูลค่าสูงๆ จะอยู่ที่กรอบ มั่นใจปี 2567 ตลาดรุ่ง ‘เงินสด’ สะพัดคาด ‘เศรษฐีจีน’ จะกลับมาเช่าพระเครื่องไทยรุ่นเก่าที่มีมูลค่าสูงโดยเฉพาะชุดเบญจภาคี ของแท้องค์ละ 40-50 ล้านบาทล้วนอยู่ในมือคนรวย ด้าน ‘ต้น ท่าพระจันทร์’ เผยคนจีนชอบเช่าพระไทย ยึดกติกาต้องขายคืนได้ในราคา 70- 80% ไม่สนว่าพระแท้หรือไม่แท้ แนะจับตาปี 2567 กระแส ‘จตุคามรามเทพ’ ปี 30-32 จะกลับมา เหตุปี 2566 ราคาเคยต่ำสุด 2-3 หมื่นบาท ขยับเป็นระดับ 2-3 แสน ส่วนรุ่นทองคำขยับไปถึง 1-2 ล้านบาทแล้ว!

ธุรกิจพระเครื่องยังคงเป็นที่จับตา เพราะเมื่อธุรกิจอื่นๆ ได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจแล้ววงการพระเครื่องจะเป็นเช่นไร โดยที่ผ่านมา มักมีเสียงลือจากบรรดาเซียนพระว่าถึงอย่างไรธุรกิจนี้ก็ยังแข็งแรงและมีการเติบโตต่อเนื่อง จากนักสะสมและนักเก็งกำไรทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาแลกเปลี่ยนด้วยเงินสด ว่ากันว่าปีละหลายพันล้านไปจนถึงหมื่นล้านบาท!

ส่วนปี 2567 ธุรกิจพระเครื่องจะเป็นเช่นไร และพระเครื่องยอดนิยมจากเกจิดังๆ รุ่นไหน ที่กำลังเป็นที่ต้องการซึ่งจะสร้างมูลค่าให้ตลาดพระต่อไป รวมทั้งมีกระแสข่าวว่า ‘จตุคามรามเทพ’ จะกลับมาเป็นที่นิยมจริงหรือไม่?



อาจารย์สมาน บุญเพ็ญ หรือที่รู้จักกันในนาม สมาน คลองสาม อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย
อาจารย์สมาน บุญเพ็ญ หรือที่รู้จักกันในนาม สมาน คลองสาม อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย บอกว่า ปี 2566 ตลาดพระเครื่องได้รับผลกระทบเช่นกัน บรรดานักเล่นพระที่ซื้อไว้กันจำนวนมากปล่อยกันไม่ได้ ก็พากันแกะกรอบ หรือที่เรียกกันว่าจีวรพระออกมาขายกันก่อน

“ถ้าพระรุ่นเก่าไม่แท้ปล่อยยากก็เลือกเก็บพระ แกะจีวรหุ้มทองคำฝังเพชรไปขายก่อน ส่วนพระเครื่องรุ่นกลางๆ ยังพอปล่อยได้บ้างแต่ราคาไม่แรงเหมือนในอดีต”

สำหรับพระเครื่องรุ่นเก่าอย่างชุดเบญจภาคี ของหลวงปู่โต๊ะ ของแท้ราคา 40-50 ล้าน จะนำมาปล่อยเช่ากันแทบจะไม่มีแล้ว เพราะของแท้ ราคาสูงอยู่ในมือคนรวยทั้งนั้น

อาจารย์สมาน บอกต่อว่า เรื่องการเช่าพระมูลค่าแพงๆ ไปกำนัลผู้ใหญ่นั้น เท่าที่มีประสบการณ์ในวงการพระมานานบอกได้เลยว่า พระเครื่องของกำนัลไม่ได้มีมูลค่าสูงอย่างที่คนวงนอกเข้าใจ แต่มูลค่าสูงจะอยู่ที่ตลับพระมีประดับเพชรกันอย่างไรมากกว่า

นอกจากนี้ ตลาดคนจีนที่เข้ามาเช่าพระส่วนใหญ่เป็นพระรุ่นใหม่ราคาไม่ได้สูง แต่ในปี 2567 บรรดาเซียนพระมั่นใจว่าตลาดพระจะกลับมาคึกคักหลังการจัดงาน ‘เรียนรู้พระแท้กับเดลินิวส์’ ตลอดเดือนมกราคม ปี 2567 เพราะจะมีการเปิดกรุพระแท้รุ่นเก่า ที่บรรดาเศรษฐีชาวจีนเริ่มแสวงหาและต้องการจะสะสมเช่นกัน

“พระเก่าชุดเบญจภาคี เป็นชุดที่เศรษฐีใหม่ในประเทศและต่างประเทศต้องการ รวมถึงชุดเบญจภาคีที่สร้างขึ้นใหม่ หรือพระเครื่อง และเครื่องรางจะเป็นที่ต้องการ จึงเชื่อว่าปี 67 ตลาดพระจะคึกคักแลกเปลี่ยนกันด้วยเงินสดจะเกิดขึ้นแน่”

ชุดเบญจภาคี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
ด้าน ณัฐพงษ์ ชวาลรัตนสกุล หรือที่รู้จักกันในนาม ‘ต้น ท่าพระจันทร์’ เคยพิชิตตำแหน่งแชมป์แฟนพันธุ์แท้พระเหรียญ ในรายการแฟนพันธุ์แท้พระเหรียญของ ปัญญา นิรันดร์กุล มาแล้ว และศึกษาเรื่องพระเครื่องตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ ที่ถือเป็นเซียนพระชื่อดังคนหนึ่ง มีร้านพระเครื่องรับเช่า-ให้เช่าที่ย่านท่าพระจันทร์ และที่ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วาน ซึ่งเป็นศูนย์พระเครื่องที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บอกว่า ตลาดพระช่วงปลายปี 2566 เทียบกับต้นปี 2566 นั้นเงียบลงมากเพราะภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งมีผลกระทบต่อราคาโดยตรงคือ พระเครื่องบางรุ่น ราคาไม่ลงก็จริงเช่นราคาเช่า 1 แสนบาท ก็ยังคงปล่อยที่ 1 แสน แต่ต้องใช้เวลาปล่อยเช่านานกว่าเมื่อช่วงต้นปี

อีกประเภทหนึ่ง คือ ราคาลดลงอย่างชัดเจน และไม่มีคนเช่าก็มีด้วยกันหลายรุ่น แต่ขอไม่ยกตัวอย่างเนื่องจากจะกระทบวงการพระด้วยกันได้ ซึ่งจะมีทั้งพระใหม่ หรือพระเก่าที่ไม่ใช่เก่ามากๆ และเป็นพระเกจิดังๆ

“พระเครื่องพวกนี้ราคาขึ้นไปเยอะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เคยเช่าหลักแสนไปถึง 5 แสน ปัจจุบันลดลงมามาก แต่ไม่ใช่เช่า 1 แสนแล้วลดเหลือ 1 หมื่นนะ แต่เป็นการลดราคาลงมา 20-30%”

‘ต้น’ ย้ำว่า พระเครื่องรุ่นใหม่ที่ขึ้นสูงมากในช่วง 1-2 ปี ถามว่าเวลานี้มีโอกาสจะขึ้นไปอยู่ในราคาเดิมได้หรือไม่ ขอฟันธงว่า ‘ยาก’ เพราะภาวะเศรษฐกิจ ทำให้เม็ดเงินใหม่ๆ เข้ามาในตลาดพระน้อยลง แม้ความนิยมจะยังมีอยู่ก็ตาม

“บางคนบอกว่าเศรษฐกิจซบเซา แต่ตลาดพระไม่กระทบ เพราะว่าคนที่ถือไว้ยังไม่ขายออกมา ถ้าเมื่อไหร่ขายออกมาจะรู้ทันที คนที่เคยเช่ามา 1 แสน ปัจจุบันเหลือแค่ 8 หมื่น ก็เพราะคนรับซื้อหรือแผงพระรับไว้ที่ 6-6.5 หมื่นบาท เพื่อที่เขาจะไปปล่อยต่อที่ 7.5 หมื่นถึง 8 หมื่นได้”

ณัฐพงษ์ ชวาลรัตนสกุล หรือที่รู้จักกันในนาม ‘ต้น ท่าพระจันทร์’
ในส่วนของคนจีนที่เข้าสู่ตลาดพระเครื่องมีอยู่พอประมาณและได้มาเปิดร้านพระเครื่องที่ศูนย์พันธุ์ทิพย์ แต่คนจีนไม่ได้เช่าพระเก่าที่มีมูลค่าสูงเป็นสิบๆ ล้านแบบคนไทย เนื่องจากคนจีนไม่สามารถจำแนกพระราคาสิบๆ ล้านกับราคาหนึ่งแสนว่ามันแตกต่างกันตรงไหน อย่างไรได้

“จะไปบอกเขาว่าพระราคาสิบๆ ล้าน มันเก่ากว่า เก่งกว่า สวยกว่า บางครั้งคนจีนไม่เข้าใจ และเขาจะเล่นหรือเช่าในกลุ่มของเขาซึ่งเป็นคนละส่วนกับตลาดพระไทยที่บรรดาเซียนหรือนักสะสมเล่นกัน”

ที่สำคัญ ‘ต้น’ บอกว่า คนจีนนิยมมาเช่าพระเครื่องที่เมืองไทย โดยยึดหลักการ คือ เช่าพระจากที่คนไทยนิยม และต้องกลับมาขายคืนได้ในราคา 70-80% จากมูลค่าที่คนจีนเช่าไป


“หลักการนี้คนจีน happy ยอมให้หัก 20-30% ไม่จำเป็นต้องดูว่าพระแท้หรือไม่แท้ แค่ราคารับคืนมีส่วนต่างที่พอใจ พูดง่ายๆ คือซื้อแล้วขายคืนได้ หรือเปลี่ยนเล่นรุ่นอื่นที่มีมูลค่าสูงกว่าได้เท่านั้น”

อีกทั้งการที่คนจีนเลือกมาเช่าพระที่เมืองไทยเพราะเทียบราคากับการเช่าผ่านพ่อค้าคนกลางซึ่งเป็นคนจีนนำไปขายในประเทศจีนมีการบวกราคาสูงถึง 100 กว่าเปอร์เซ็นต์ ตรงนี้จึงเป็นเหตุผลที่คนจีนพอใจที่จะให้หักส่วนต่าง 20-30% ซื้อองค์ละ 1 ล้าน มาขายคืน 8 แสน เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เพราะถ้าไปซื้อที่อื่นแม้ราคา 3-4 แสน แต่เวลาจะคืนก็หาตัวคนขายไม่เจอแล้ว

‘ต้น’ บอกอีกว่าศูนย์พระเครื่องที่ห้างพันธุ์ทิพย์ มีคนจีน พูดภาษาจีน และรับเช่า ปล่อยเช่า จากคนไทย มาเปิดร้านหรือแผงพระประมาณ 20-30% จากทั้งหมดประมาณ 500 แผง โดยแผงเหล่านี้ดูจะซบเซาเช่นกันซึ่งอาจเป็นผลมาจากเศรษฐกิจของประเทศจีนด้วยเช่นกัน


“ช่วงนี้ตลาดพระเงียบไม่ว่าใครอยากจะปล่อยเช่าก็ต้องทำใจที่จะขาดทุน หรือคิดบวก ขายวันนี้เดี๋ยวก็เช่าใหม่ สวยกว่าเดิม”

ขณะเดียวกัน พระเครื่องรุ่นเก่าๆ ชุดเบญจภาคี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หรือพระสมเด็จวัดระฆัง หรือพระวัดปากน้ำ พิมพ์แป๊ะยิ้ม ราคาพระเครื่องเหล่านี้คงไม่ขึ้นไปมากกว่านี้แล้ว โดยเฉพาะพระที่มีการสร้าง 50 กว่าปีมาแล้ว จะกระจัดกระจายไปอยู่ในมือนักสะสม ที่สำคัญพระเครื่องที่มีจำนวนน้อย ราคาจะไม่ลง

“เวลานี้พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ เฉพาะรุ่นที่สร้างทันสมเด็จโต เท่านั้นที่มีราคาหลายสิบล้านขึ้นไป เชื่อว่าจะมีไม่เกิน 50 องค์ ซึ่งเป็นที่รู้กันในวงพระว่ารุ่นนี้อยู่กับใคร จะมีประวัติกันหมด ส่วนราคาขายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”

แต่ถ้านักเล่นพระรุ่นใหม่ต่างไปจองพระใหม่ 5 ลัง 10 ลัง ถ้าใครมี 20 ลังเคยขายได้ลังละ 1 แสนบาท ถ้ามีการปล่อยออกมาลังละ 5 หมื่น ทุกคนก็ต้องขายลังละ 5 หมื่นเหมือนกันหมด ตลาดพระใหม่จะเป็นแบบนี้ ราคามีโอกาสลงค่อนข้างมาก

‘ต้น’ เล่าว่า ปี 2566 ที่มีการออกพระรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดพระ ราคาจะคูณ 2 หรือคูณ 3 เท่าเหมือนเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมายังไม่เห็นมีแม้แต่รุ่นเดียว เนื่องจากแต่ละหลวงพ่อ แต่ละรุ่นมีคนเข้าไปเล่นน้อยแค่ 300-500 คน ซึ่งต่างจากพระเครื่องที่มีคนเล่นในระดับหลายหมื่นคน หรือแสนคน รวมไปถึงค่านิยม และเม็ดเงินที่คอยพยุงแต่ละรุ่นมันแตกต่างกันมาก อีกทั้งพระเครื่องรุ่นเก่าๆ ล้วนอยู่ในมือคนมีเงิน ในฐานะที่อยู่วงการนี้มา 20 กว่าปี ยังเห็นพระเครื่องในระดับมาสเตอร์พีซออกมาน้อยมาก โดยเฉพาะช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

“พระเครื่องที่ออกสู่ตลาดที่เคยมีราคาสูงสุด และลดลงมาต่อเนื่อง ยังไม่เห็นมีองค์ไหนพุ่งขึ้นไปถึงราคาสูงได้ พระปากน้ำรุ่น 6 แป๊ะยิ้ม ผ่านมา 30 กว่าปี ราคาลงมาแล้ว ก็ยังไม่สามารถขึ้นไปสูงเท่าเดิมได้ ตอนนี้อยู่ที่ 5-6 พัน”

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่

เหรียญปิดตาพังพระกาฬ ปี 32 (รุ่นแรก)

พระผงสุริยัน-จันทรา  ปี 2530
ต้น ท่าพระจันทร์ บอกอีกว่า ปัจจุบันเท่าที่เห็นจะมีวัตถุมงคลเพียงอย่างเดียวคือ ‘จตุคามรามเทพ” รุ่นแรกที่สร้างขึ้นในโอกาสประกอบพิธีกรรมเบิกเนตรหลักเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี พ.ศ.2530 ในรูปแบบพระผงสุริยัน-จันทรา และเหรียญปิดตาพังพระกาฬ ปี 32 (รุ่นแรก) ที่เคยมีราคาสูงที่สุด และราคาตกมาต่อเนื่อง แต่กลับปรากฏว่าปีนี้ราคากำลังทะยานขึ้นจนเชื่อว่าจะไปถึงจุดที่แพงที่สุดได้ และเชื่อว่าตลาดพระปี 2567 จตุคามรุ่นนี้น่าจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหนึ่ง

เนื้อทองคำขึ้นเป็นหลักล้านๆ บางองค์ 2 ล้านกว่าที่หากัน เหรียญพังพระกาฬ เนื้อนวโลหะ ช่วงตกสุดอยู่ที่ 2-3 หมื่น แต่ปี 2566 เริ่มขยับเป็น 2-3 แสน เชื่อว่าจะขยับขึ้นไปอีกเพราะรุ่นแรกที่ผลิตมีจำนวนไม่มาก ที่สำคัญราคาที่ขยับน่าจะเกิดจากความเชื่อ ศรัทธาของนักสะสมและนักเก็งกำไรกลับเข้ามาหาวัตถุมงคล”

‘ต้น’ ย้ำว่าจตุคามฯ รุ่นอื่นๆ ที่มีการผลิตออกมาจากวัดดังๆ ในทุกภาคไม่น่าจะมีโอกาสได้รับความนิยมเท่าจตุคามฯ รุ่นปี 2530 และ 2532 ที่พลตำรวจตรีขุนพันธ์รักษ์ราชเดช เป็นประธานจัดสร้าง!

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่


Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j


กำลังโหลดความคิดเห็น