คนการเมืองด้วยกันมองปรากฏการณ์เรื่องฉาวพรรคก้าวไกล หลักๆ จาก 2 เรื่อง ไม่สุราก็นารี สวนทางนโยบายพรรค สะท้อนการคัดคุณภาพคนบางคนเหิมหลงอำนาจ ตั้งข้อสังเกตคนสอบตก-บัญชีรายชื่อพร้อมเขี่ยทิ้ง แต่ไม่พร้อมเสีย ส.ส.พื้นที่ ส่วนกรณีหมออ๋อง ซบเป็นธรรม เจี๊ยบ-อมรัตน์ แจ้งลาออกแถมไม่มีตำแหน่งกรรมการบริหารในก้าวไกล ส่งผลคดีเปิดข้อมูลส่วนตัว “ปีใหม่” กองเชียร์เพื่อไทยเงียบหาย
คอการเมืองที่ติดตามข่าวสารของพรรคก้าวไกล หากสังเกตให้ดีจะพบว่าเรื่องที่เป็นข่าวด้านลบให้พรรคก้าวไกล นอกจากเรื่องของนโยบายที่สวนทางกับแนวความคิดของคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศแล้ว สิ่งที่ทำให้เกิดภาพลบกับก้าวไกลได้อีกคือความประพฤติของคนในพรรคก้าวไกลเอง
กระแสที่พรรคก้าวไกลกวาดมาจนกลายเป็นพรรคอันดับ 1 ในการจัดตั้งรัฐบาล ด้วยแนวทางในการทำการเมืองแบบใหม่ ซื้อความคาดหวังของคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าที่เบื่อการเมืองแบบเดิม กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการเมืองไทย แต่หลายสิ่งที่คนในก้าวไกลทำอยู่ย้อนแย้งกับแนวทางและนโยบายของพรรคที่สร้างภาพว่าก้าวไกลเป็นฝ่ายประชาธิปไตย อีกฝ่ายเป็นเผด็จการ
คนที่ตามการทำงานของพรรคก้าวไกลมาจะเห็นได้ว่า เรื่องที่กระทบกับพรรคมากที่สุดจากคนในพรรคนี้มีแค่ 2 เรื่อง คือสุราและนารี ทั้งๆ ที่พรรคเองมีนโยบายผลักดันสุราก้าวหน้า หลายคนในพรรคมีประสบการณ์เรื่องของการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหล่านี้ ทั้งสุราและเบียร์ ด้านสตรีมีนโยบายที่หลากหลาย ตั้งแต่คนเท่ากัน สิทธิในเนื้อตัวร่างกาย เปิดกว้างความหลากหลายทางเพศ และไม่เห็นด้วยกับการคุกคามทางเพศ
สุราก้าวหน้า-เมาแล้วขับ
เปิดฉากหลังเลือกตั้งเพียง 2 วัน 16 พฤษภาคม 2566 น ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 27 ที่ผลักดันเรื่องสมรสเท่าเทียม ถูกจับเมาแล้วขับ แถมยื้อเป่าแอลกอฮอล์ จนเป็นข่าวที่ถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมาก จากนั้นจึงประกาศลาออกจากการเป็น ส.ส.
ส่วนข่าว ส.ส.ก้าวไกลเมาเหล้าแล้วมีเรื่องวิวาทเมื่อ 11 สิงหาคม 2566 นั้น ตรวจสอบพบว่าเป็นการกระทำเพื่อปกป้องคณะทำงานที่ถูกคู่กรณีเข้ามาลวนลาม
อีกกรณีนายณัฎฐกรณ์ พิมพยอม เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ขับรถชนกระบะชนมอเตอร์ไซค์จนมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดเวลาประมาณ 01.30 น. ของวันที่ 1 กันยายน 2566 บริเวณปากซอยแบริ่ง ซอย 8 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อตำรวจพาตัวไปเป่าแอลกอฮอล์ พบปริมาณสูงถึง 287 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ทำร้ายผู้หญิง
ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับสตรีนั้น เป็นคดีระหว่างนายสิริน สงวนสิน ส.ส.ก้าวไกล กับแฟนสาว ที่มีการแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.บ่อวิน จังหวัดชลบุรี เมื่อ 23 มิถุนายน 2566 ในบันทึกประจำวันระบุว่า ได้คบหาเป็นแฟนกับ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ประมาณ 1 เดือนเศษ ต่อมา วันที่ 23 มิ.ย.2566 ผู้เสียหายได้ขับรถมากับ ส.ส.คนดังกล่าวเพื่อไปที่สนามกอล์ฟใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ระหว่างที่ ส.ส.คนนี้ขนกระเป๋าใส่รถ เกิดมีอาการไม่พอใจและได้ด่าทอผู้เสียหาย
ส.ส. คนนี้ได้ขับรถไปกับผู้เสียหายมุ่งหน้าไปพัทยา ระหว่างอยู่ในรถ ส.ส.คนนี้ได้ต่อยหน้าแฟนสาว 1 ครั้ง และขับรถจอดริมถนน ก่อนจะดึงศีรษะแฟนสาวให้ลงจากรถ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้น ส.ส.ได้แย่งโทรศัพท์มือถือไปแล้วโยนทิ้งข้างถนน ทำให้โทรศัพท์ได้รับความเสียหาย
3 กรกฎาคม 2566 เฟซบุ๊กส่วนตัวของแฟนสาวนายสิริน สงวนสิน ส.ส.ก้าวไกล โพสต์ว่าไม่ติดใจเอาความกับ ส.ส.คนดังกล่าว หลังจากดิฉันไปแจ้งความ คุณสิริน และครอบครัวได้ติดต่อมายังดิฉัน และคุณสิริน กับครอบครัวได้แสดงความสำนึกผิด อีกทั้งตระหนักว่าตนเองกระทำผิดต่อดิฉัน และได้ขออภัยดิฉันอย่างจริงใจแล้ว ทำให้ดิฉันและครอบครัวไม่ติดใจเอาความต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
คุกคามทางเพศ
สำหรับคดีทางเพศเคยเกิดเหตุการณ์กับ ส.ก.เขตสาืร ของพรรคก้าวไกล เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 จนพรรคก้าวไกลต้องออกมาขอโทษกับเรื่องดังกล่าว
กรณีต่อมาเป็น นายเกรียงไกร จันกกผึ้ง ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ (สอบตก) ได้ล่วงละเมิดทางเพศโฆษกหญิงของพรรคการเมืองต่างสังกัดพรรคหนึ่ง โดยที่ฝ่ายหญิงไม่ยินยอม เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 จากนั้น 31 สิงหาคม 2566 นายเกรียงไกร ได้ใช้บัญชีแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) กล่าวคำขอโทษที่ละเลยความรู้สึกและละเมิดหลักการยินยอมจนทำลายความเชื่อใจและความหวังดี ก่อนที่จะปิดบัญชีโซเชียลมีเดียทั้งหมด
จนมาถึงนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล ที่คุกคามทางเพศผู้หญิงที่เคยเป็นทีมงาน และมีเรื่องร้องเรียนอยู่ในเวลานี้
คดี ส.ส.ปราจีนฯ ต้องรอ
12 ตุลาคม 2566 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ได้ออกมาแถลงถึงมติของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ลงโทษบุคคลในพรรคก้าวไกลดังนี้
นายสิริน สงวนสิน ส.ส.กทม.โดยตัดสิทธิที่พึงมีของพรรค ไม่ให้ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งในพรรคและประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ซึ่งเป็นโทษหนักรองจากขับออกจากพรรคและคาดโทษไว้ก่อน หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกพรรคจะยกระดับโดยการขับออกจากสมาชิกภาพ
นายเกรียงไกร จันกกผึ้ง อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ มีมติให้ขับออกจากสมาชิกภาพทันที
นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากทุกฝ่ายให้ครบถ้วน เพื่อหาข้อสรุปทั้งหมด ซึ่งจะได้ข้อสรุปภายในเดือนตุลาคมนี้
ไม่อยากเสีย ส.ส.พื้นที่
แหล่งข่าวจากพรรคการเมืองหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า การแถลงทุกอย่างดูดีเหมือนก้าวไกลใส่ใจในเรื่องคนในพรรค แต่ถ้าไปดูในรายละเอียดจะพบว่าเรื่อง ส.ส.กทม. และผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ พิจารณาช้ามาก ประการต่อมาถ้าเป็นเรื่องของ ส.ส.พื้นที่ ก้าวไกลจะตัดสินใจช้า เพราะจะมีผลต่อการเลือกตั้งซ่อม เคสชัยภูมิ สอบตกนั่นจัดการง่าย หรือถ้าเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อก็เร็ว เช่น กรณีเมาแล้วขับของ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ปัจจุบันถูกดึงกลับเข้ามาเป็นเหรัญญิกพรรคก้าวไกล ชุดที่นายชัยธวัช ตุลาธน เป็นหัวหน้าพรรค
อย่างกรณีที่ระยองเมื่อถูกตรวจสอบพบว่าขัดคุณสมบัติ เจ้าตัวลาออก เมื่อเลือกกลับเข้ามาใหม่ยังเป็นก้าวไกล ถือว่ากระแสของพรรคยังดีอยู่ ส่วนกรณีปราจีนบุรีนั้นถือเป็นกรณีวัดใจว่าจะออกมาแบบนายสิริน หรือขับออกจากพรรค แต่มีความเป็นไปได้สูงที่พรรคคงไม่ขับออก
ขับหมออ๋อง “อมรัตน์-ปีใหม่” เงียบ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงนี้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านที่ถูกตรวจสอบเยอะ แต่ทั้งหมดเกิดขึ้นจากบุคลากรภายในพรรคเอง เรื่องหมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา ทั้งโพสต์โชว์เบียร์จนถูกปรับ ขอเบิกงบดูงานที่สิงคโปร์ และไม่ยอมลาออกจากรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 จนพรรคก้าวไกลมีมติขับออกเพราะต้องการให้นายชัยธวัช ตุลาธน เป็นผู้นำฝ่ายค้าน และนายปดิพัทธ์ มีแนวโน้มไปสังกัดพรรคเป็นธรรม คนการเมืองรู้ว่างานนี้ก้าวไกลได้ 2 ตำแหน่ง จนมีการยื่นเรื่องสอบกันว่าเป็นนิติกรรมอำพราง
ประการต่อมา ภายใต้การขับปดิพัทธ์ ยังมีเรื่องที่ค้างคากันอยู่นั่นคือการที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีตที่ปรึกษาหมออ๋อง ไปโพสต์ข้อมูลส่วนบุคคลของคู่กรณีปีใหม่ กองเชียร์พรรคเพื่อไทย ทำให้มีการร้องเรียนไปยังต้นสังกัดทั้งหมออ๋อง และหัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่เหมือนเรื่องทุกอย่างจะเงียบลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หมออ๋อง ถูกขับออกจากพรรคก้าวไกล ทีมที่ปรึกษาจากก้าวไกลลาออกจากคณะรองประธานสภาคนที่ 1 ตามมาด้วยพรรคก้าวไกลมีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ไม่มีชื่อของแม่เจี๊ยบ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อยู่ในกรรมการบริหารพรรค ดูทรงแล้วงานนี้คู่กรณีคงไม่สามารถทำอะไรได้ เว้นแต่ดำเนินคดีส่วนบุคคล แต่การค้าความกับระดับนักการเมืองที่ยังมีอำนาจในเวลานี้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย
นักการเมืองต่างพรรคแต่วัยเดียวกับ ส.ส.ก้าวไกล มองสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องฉาวของก้าวไกลไม่เรื่องเหล้าก็เรื่องผู้หญิง ส่วนหนึ่งเป็นแนวทางคนรุ่นใหม่แต่ไม่ทุกคน ทุกอย่างอยู่ที่การควบคุมตัวเองให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสมได้หรือไม่ อย่าลืมว่า ส.ส.ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของคนอื่นๆ ด้วย เพราะคุณกินเงินภาษีของประชาชน
สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนในพรรคก้าวไกล ถือว่าเป็นเรื่องความประพฤติส่วนบุคคล สะท้อนถึงระบบการคัดคนเข้ามาของพรรค ไม่มีการคัดคุณภาพของคนที่จะเข้ามาเป็น ส.ส. ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกระแสนิยมของพรรคที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ได้คะแนนมาง่าย ส่งใครลงก็ได้ ไม่ต้องสนใจเรื่องประวัติบุคคลมากนัก ขอให้สังกัดก้าวไกลคนก็พร้อมเลือก เช่นหลายพื้นที่จากผู้สมัครโนเนมแต่ล้มบ้านใหญ่ในพื้นที่ได้อย่างราบคาบ
เมื่อได้ของคุณภาพไม่มีมา รวมไปถึงการหลงในอำนาจและความรู้สึกหึกเหิมว่าเป็น ส.ส. อาจส่งผลต่อความยับยั้งชั่งใจต่อการกระทำในบางเรื่องที่หมิ่นเหม่ต่อจริยธรรมของนักการเมือง จนทำให้บางพฤติกรรมของคนในพรรคก้าวไกลย้อนแย้งกับแนวทางและนโยบายของพรรค สุดท้ายทุกอย่างจะทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคเอง
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://m.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/?locale2=th_TH
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j