เจี๊ยบ-อมรัตน์ หวังเด็ดปีกนางแบกเพื่อไทยอย่าง “ปีใหม่” โพสต์ชื่อเล่น ที่อยู่ อายุ และข้อมูลส่วนบุคคล ชี้ตำแหน่งบ้านรวมถึงบุกไปที่ทำงานให้เจ้าของบริษัทเตือนพนักงานรายนี้ แต่กระแสตีกลับเข้าข่ายคุกคาม นักการเมืองกระทำต่อประชาชน แถมเข้าข่ายผิดกฎหมาย ปีใหม่รุกกลับแจ้งต้นสังกัดทุกส่วนแฉการกระทำ เจี๊ยบเริ่มโอดถูกกระทำมานานแต่สงครามยังไม่จบยังซัดกันไม่เลิก
ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยสำหรับนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล และที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กับการโพสต์ชี้เป้าบุคคลที่เห็นต่างในทางการเมืองของผู้ที่ใช้เฟซบุ๊ก ปีใหม่ปีใหม่ การโพสต์ชื่อเล่น อายุ และเรื่องครอบครัว พร้อมทั้งบอกตำแหน่งบ้าน สีรถยนต์ รวมถึงการบุกเข้าไปที่สถานที่ทำงานของคู่กรณี และแจ้งว่าทางเจ้าของบริษัทและฝ่ายบุคคลได้ทำหนังสือตักเตือนปีใหม่เป็นเวลา 1 ปี
ทำเอากองเชียร์สายสีส้มทั้งฝ่ายการเมืองและเหล่าด้อมส้ม สะใจกับการเปิดฉากบุกของแม่เจี๊ยบในครั้งนี้ เพราะบรรดาด้อมส้มคงคุ้นชื่อ ปีใหม่ ปีใหม่ เป็นอย่างดี เนื่องจากเธอ (ปีใหม่) เคยฟาดฟันมาทั้งส้มแท้ และแดงอมส้มที่เข้ามาอัดพรรคเพื่อไทย
โพสต์ฟ้องต้นสังกัดอมรัตน์
หลังจากที่เจี๊ยบ อมรัตน์ เปิดฉากถล่มปีใหม่ เจ้าของเพจปีใหม่จึงโพสต์ข้อความและแจ้งถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องดังนี้
เรียน คุณชัยธวัช ตุลาธน - Chaithawat Tulathon หัวหน้าพรรคก้าวไกล คุณ Padipat Suntiphada - ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง Tawee Sodsong รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
เรื่อง ขอความเป็นธรรม และขอความคุ้มครองจากการถูกข้าราชการการเมือง (ที่ปรึกษารองประธานสภาคนที่ 1) เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว ข่มขู่คุกคาม ไล่ล่าแม่มด และใช้อำนาจหน้าที่บีบบังคับให้เอกชนสนองความต้องการให้ตน
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 เวลาเช้า ดิฉันได้ทราบข่าวจากเพื่อนเฟซบุ๊กว่า นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ที่ปรึกษารองประธานสภาคนที่ 1 (นายปดิภัทธ์ สันติภาดา) ได้โพสต์ และทวีตข้อมูลส่วนตัวของดิฉัน เช่น ชื่อเล่น อายุ วันเดือนปีเกิด บ้านเลขที่ ที่อยู่ หมู่บ้าน รูปพรรณสัณฐานที่พักอาศัยของดิฉัน เช่น สีประตูรั้วบ้าน สีรถยนต์ที่ดิฉันใช้ รวมถึงระบุชื่อมารดาของดิฉัน จำนวนบุตรของดิฉัน และยังได้ระบุสถานที่ทำงานของดิฉันพร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ทำงานโดยละเอียด อีกทั้งยังแจ้งว่าหากใครต้องการทราบชื่อ นามสกุลจริง และรูปของดิฉันให้ติดต่อสอบถามได้จากนางอมรัตน์ นางยินดีมอบให้
บ่ายโมง ดิฉันได้รับทราบจากผู้จัดการบริษัทที่ดิฉันทำงานอยู่ว่า นางอมรัตน์ ได้โทรศัพท์เข้ามาหาเธอ และส่งข้อมูลมาให้เธอทางไลน์ กล่าวหาว่าดิฉันโพสต์หมิ่นนาง อ้างว่าคนอ่านรู้ว่าดิฉันหมายถึงนาง โดยนางอมรัตน์ ได้ขอให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลตักเตือนหรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อดิฉันต่อไป
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลและผู้บริหารท่านหนึ่งของบริษัทได้สอบถามดิฉัน ซึ่งดิฉันยอมรับว่าโพสต์วิจารณ์การเมือง นักการเมือง และ พรรคก้าวไกลจริง โดยใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ระบุชื่อ สกุลจริงของใคร ไม่มีคำไหนสร้างความเสียหาย และไม่ได้คิดร้ายหมายขวัญใครถึงชีวิต ใช้สิทธิเสรีภาพตามกรอบกฎหมายทุกประการ ซึ่งหากนางอมรัตน์รู้สึกว่าดิฉันทำความเสียหายให้นาง นางก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้
ดิฉันไม่ได้กระทำในนามบริษัท และไม่ได้โพสต์ในเวลางาน เวลาที่โพสต์นอกเวลางาน เช่น ก่อนเริ่มงาน พักเที่ยง หลังเลิกงาน วันหยุด หรือวันที่ดิฉันใช้สิทธิลางานทั้งสิ้น
บ่ายสามโมงวันเดียวกันนี้ ผู้บริหารได้แจ้งดิฉันว่า นางอมรัตน์ได้เข้ามาที่ทำงานของดิฉัน ได้ขอพบผู้บริหาร และผู้จัดการฝ่ายบุคคล โดยผู้บริหารท่านหนึ่งไม่ต้องการให้เรื่องลุกลามฟ้องร้องกัน จึงได้แจ้งนางอมรัตน์ไปว่าได้ตักเตือนดิฉันแล้ว และจะออกหนังสือตักเตือนให้ดิฉันเซ็นรับทราบเพื่อยุติการโพสต์ถึงนางอมรัตน์ต่อไป
นักการเมืองบุคคลสาธารณะ
ดิฉันคือผู้เสียหายจากการกระทำของนางอมรัตน์ มีความเสี่ยงสูงถึงชีวิต ไม่ใช่นางอมรัตน์เสียหายจากการกระทำของดิฉัน ดิฉันจึงจำเป็นต้องเรียนมาเพื่อขอความเป็นธรรม และ ขอคืนความรู้สึกปลอดภัยให้ครอบครัวดิฉันจากทุกท่าน
ดิฉันเชื่อโดยสุจริตใจว่า ประชาชนมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์การเมือง และนักการเมืองซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ ที่กินภาษีของประชาชน โดยใช้สิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญอนุญาต หากนักการเมืองใดเดือดร้อน หรือ เสียหายจากการโพสต์ของประชาชน นักการเมืองมีสิทธิใช้กฎหมายคุ้มครองตัวเองได้ ไม่ใช่ใช้ศาลเตี้ยจัดการ
ดิฉันถูกกระทำจากนางอมรัตน์ ซึ่งเป็นข้าราชการการเมือง ควรถูกพิจารณาสอบสวนจริยธรรมจากหน่วยงานที่สังกัด ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพรรคก้าวไกลจะพิจารณาพฤติกรรมไล่ล่าแม่มดของนางอมรัตน์ สมาชิกพรรคของตนอย่างจริงจัง
ดิฉันขอวิงวอนต่อทุกท่าน ได้โปรดยุติการคุกคามของนางอมรัตน์ที่มีต่อดิฉัน ได้โปรดคุ้มครองความปลอดภัยให้ดิฉันและคืนความยุติธรรมให้ดิฉันและครอบครัวด้วย ด้วยความเคารพอย่างสูง ปีใหม่ ศิริกุล 19 กันยายน 2566
พวกเดียวกันยังไม่เข้าข้าง
แน่นอนว่าสายตาของบุคคลทั่วไป สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมเห็นไม่ต่างไปจากการคุกคามฝ่ายตรงข้าม คุณอมรัตน์เป็นอดีต ส.ส.ของพรรคก้าวไกล และปัจจุบันเป็นข้าราชการฝ่ายการเมือง อีกฝ่ายหนึ่งเป็นบุคคลธรรมดากองเชียร์พรรคเพื่อไทย ปมที่เกิดขึ้นเป็นการตอบโต้กันทาง Social Media อันเนื่องมาจากต่างฝ่ายต่างเชียร์พรรคการเมืองที่ชื่นชอบ แน่นอนว่าในมุมของของเจี๊ยบ อมรัตน์ นี่ไม่ใช่การคุกคาม พร้อมด้วยเหตุผลต่างๆ นานา
แต่น่าคิดไม่น้อยเมื่อสาย NGO ที่เคยเห็นในทางเดียวกันกับการชุมนุมอย่าง นายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาองค์กรฮิวแมนไรท์ วอทช์ ประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความในกรณีดังกล่าวว่า สิทธิมนุษยชนไม่มีสีไม่มีฝ่าย พรรคก้าวไกลไม่ควรเพิกเฉยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งละเมิดหลักการเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพที่พรรคยึดถือ การใช้ศาลเตี้ยล่าแม่มดคุกคามกันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และผิดกฎหมาย ถ้าใครได้รับความเสียหายจากสิ่งที่ปีใหม่เขียนควรแจ้งความดำเนินคดีตามสัดส่วนที่เหมาะสม ไม่ใช่ทำแบบนี้
เช่นเดียวกับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร 1 กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จากการติดตามในหน้าข่าวและดูข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบว่า เป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมจริงๆ แต่เนื่องจากนางอมรัตน์ ไม่ได้เป็น ส.ส. กระบวนการร้องเรียนวินัย นางอมรัตน์ จึงไม่มีในส่วนของสภา แต่ในส่วนของพรรคการเมืองกับในส่วนของการพิจารณา ทีมทำงานของรองประธานสภา เราจะแยกกัน ตนเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะมีการพิจารณาในประเด็นนี้แน่ ในเรื่องของจริยธรรม
"เรายืนยันว่าเป็นการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม แต่เราจำเป็นต้องทราบข้อเท็จจริงอื่นๆ จากทางผู้ร้องเรียนและจากผู้ถูกกล่าวหาด้วย และเมื่อพบว่ามีการทำความผิดจริง ผมพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนางอมรัตน์ ออกจากที่ปรึกษารองประธานสภา
กระแสตีกลับเจี๊ยบขอโทษ
เมื่อกระแสสังคมตีกลับไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเจี๊ยบ อมรัตน์ เธอจึงออกมากล่าวขอโทษและยินดีรับผิดชอบทั้งทางสังคมและทางกฎหมายทุกประการ แต่ยังคงมีบางข้อความที่บ่งบอกถึงสิ่งที่ได้กระทำลงไปว่า ในทางส่วนตัวดิฉันรู้สึกเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่า ทุกการตัดสินใจมีต้นทุนมีราคาที่ต้องจ่ายอยู่แล้วอันนี้ทราบดีอยู่
จากนั้นเธอได้โพสต์ว่า ดิฉันได้ตัดสินใจและแจ้งความประสงค์ต่อคุณชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล หนึ่งในใจความสำคัญคือ ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นเช่นใด ดิฉันต้องขอยอมรับว่าดิฉันได้มีปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์ดังกล่าวที่ไม่เหมาะสมและไม่รอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล การดำเนินการและการสื่อสารในโซเชียลมีเดียที่อาจถูกตีความได้ว่าเป็นการใช้สถานะส่วนตัวในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในทางที่ไม่เหมาะสม รวมถึงการไม่อดทนอดกลั้นเพียงพอในฐานะบุคคลสาธารณะ
ดิฉันขอแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้นด้วยการให้ทางพรรคตัดสิทธิการถูกเสนอชื่อเข้าดำรงตำแหน่งบริหารใดๆ ในพรรคก้าวไกล
เจี๊ยบ-อมรัตน์พลาด
นักสังเกตการณ์ทางการเมืองกล่าวว่า รอบนี้ถือว่าคุณเจี๊ยบ อมรัตน์พลาด พลาดตรงที่คุณเป็นอดีต ส.ส. เป็นข้าราชการการเมือง (ที่ปรึกษารองประธานสภาคนที่ 1 เป็นกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล แล้วไปรบกับบุคคลธรรมดาที่เป็นกองเชียร์เพื่อไทย แบบนี้มันไม่ต่างไปจากผู้ใหญ่รังแกเด็ก
ประการต่อมา คุณเจี๊ยบเล่นเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปโพสต์แบบนี้คงไม่มีใครยอมรับได้ เพราะนี่คือการแขวนและชี้เป้าให้ฝ่ายที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลไปถล่มคนที่เห็นต่าง ภาพเลยออกมาไม่ต่างไปจากการข่มขู่ ส่วนฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งงานที่ปรึกษารองประธานสภา กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล และอาจไปถึงคดีความทางกฎหมายจะเป็นอย่างไรคงต้องรออีกระยะ
ที่จริงการปะทะกันบนโลกออนไลน์ระหว่างกองเชียร์ของพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยมีมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง (14 พ.ค.66) คุณปีใหม่ถือเป็นอีกหนึ่งหัวหอกที่ปะทะกับด้อมส้มจนเพจเธอมีปัญหาถูกแบน เธอเคย Tag แจ้งไปยังธนาธร ปิยบุตร พิธา แต่ทุกอย่างก็เงียบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในช่วงที่พรรคก้าวไกลจับมือกับพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล ทั้ง 2 ฝั่งยังปะทะกันอยู่ จนกองเชียร์ The Reds เพื่อไทยยื่นหนังสือให้พรรคเพื่อไทยถอนตัวจากการตั้งรัฐบาล ยิ่งกลายเป็นชนวนให้การปะทะหนักขึ้น สายส้มพุ่งเป้าไปที่หมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค รวมถึงอมรัตน์ ที่เปิดฉากอัดเพื่อไทยนับตั้งแต่พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งเปิดฉากก่อน อีกฝั่งก็ซัดกลับ ส่วนใครจะหนักกว่าใครหรือหยาบกว่าใคร คนใน Social คงทราบดี รวมไปถึงวิธีระดมรายงานเฟซบุ๊กเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามถูกปิดกั้น
ปีใหม่ ปีใหม่
ปีใหม่ คือกลุ่มที่ริเริ่มเสนอให้พรรคเพื่อไทยถอนตัวออกจากพรรคก้าวไกล ปีใหม่เสนอและปลุกกระแสสลายขั้วเสื้อเหลืองเสื้อแดง หลังจากที่เพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้โดยมีพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติเข้าร่วมรัฐบาล จนในระดับกองเชียร์มีการนัดกินข้าวร่วมกันระหว่างทีม The Reds เพื่อไทยกับกลุ่ม ศชอ. และยังรวมตัวกันไปร่วมแสดงความยินดีกับ นพ.ชลน่าน ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
การสลายขั้วเหลืองแดง เป้าหมายคือส้ม จึงทำให้การรวมกันในครั้งนี้ย่อมไม่เป็นผลดีกับสายสีส้ม และพรรคก้าวไกล
ส่วนการออกมาเปิดฉากบู๊ของอมรัตน์ เราตอบไม่ได้ว่าที่คุณเจี๊ยบเปิดศึกแบบนี้เป้าหมายคืออะไร หรือจะเพื่อเบี่ยงความสนใจเรื่องนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่กำลังถูกกระหน่ำเรื่องการเบิกงบ 1.3 ล้านบาท เพื่อไปดูงานที่สิงคโปร์หรือไม่ ที่ค่าใช้จ่ายต่อหัวค่อนข้างสูง แถมยังบังเอิญตรงกับงาน Oktoberfest ที่สิงคโปร์พอดี โดยก่อนหน้านี้มีความพยายามโยงกับคณะเดินทางของนายกรัฐมนตรีที่ไปร่วมประชุมที่สหรัฐฯ แต่ไม่สามารถจะกลบกระแสหมออ๋องได้
เคยโพสต์ฟ้องไม่ได้ผล
ถ้าใครที่ย้อนกลับไปดูโพสต์ของคุณอมรัตน์ก่อนหน้าจะเกิดเรื่องกับคุณปีใหม่ จะพบว่า คุณอมรัตน์ได้โพสต์เหมือนเป็นการตอบคำถามเรื่องการฟ้องร้อง จากคำถาม วิธีพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ก็ขอให้ฟ้อง โดยใช้กฎหมายเพื่อพิสูจน์ความเป็นจริง เสียเวลาที่จะมาโพสต์ชี้แจง
อมรัตน์ตอบว่า เคยทดลองฟ้องไป 2 ราย เสียค่าทนายคดีละ 4 หมื่น รวม 8 หมื่น ศาลยกฟ้องทั้ง 2 คดี เหตุผล เพราะเราเป็นบุคคลสาธารณะ ประชาชนวิจารณ์ได้ รู้สึกเสียดายค่าทนายเอาไปช่วยเหลือคนดีกว่า และเสียเวลามากด้วย ตอนนี้ไม่ได้เป็น ส.ส.แล้ว จะลองฟ้องดูอีกครั้ง
แม้คุณอมรัตน์จะออกมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นและพร้อมรับกับเหตุการณ์ที่จะตามมา แต่ดูเหมือนศึกระหว่างอมรัตน์กับปีใหม่ทำท่าไม่จบลงง่ายๆ เมื่อฝ่ายของอมรัตน์เดินหน้าออกสื่อให้สัมภาษณ์อย่างต่อเนื่อง แถมมีกองเชียร์สายส้มมาโพสต์ให้กำลังใจและอัดปีใหม่คู่กรณีให้ในทางอ้อมๆ อีก
ล่าสุด มีความพยายามปลุกว่าทวิตเตอร์ (X) ของปีใหม่มีนักเมืองใหญ่และนายกฯ เข้ามาติดตาม แต่ถึงอย่างไรทั้ง Facebook และ Twitter ของคุณอมรัตน์ ก็มีผู้ติดตามมากว่าของปีใหม่หลายเท่าตัว แต่รอบนี้ฝั่งที่เชี่ยวชาญ Social Media ก็พลาดได้เช่นกัน
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://m.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/?locale2=th_TH
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j