“อ.ฟลุค” ชี้ดวง “ทักษิณ” พฤหัสตกมรณะ อยู่ได้แค่คุก-โรงพยาบาล-วัด หลัง 18 ต.ค. ราหูเล็งลัคนา เข้าเกณฑ์ “ดวงแตก” กรรมเก่าให้ผล เป็นโรคที่หาสาเหตุไม่ได้ ศัตรูปองร้าย ดาวเสาร์เข้าภพอริ ลูกน้อง-หุ้นส่วนหักหลัง ฤกษ์กลับไทยเป็นปาโลฤกษ์ ซึ่งขัดกับดวง "โทนี่" ชี้ช่วง 2 ปีนี้ดวงจะตกสุดในชีวิต แนะ “ติดคุก” แก้ดวง ขณะที่ "เศรษฐา" พื้นดวงไม่ถึงนายกฯ แต่มีดวง 2 ลุง ช่วยหนุน เข้าข่าย “นายกฯ ขัดตาทัพ” ฟันธงอยู่ในตำแหน่งไม่เกิน 2 ปี จะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ใน พ.ศ.2568
นับเป็น 2 เหตุการณ์สำคัญที่ทั้งคนไทยและต่างชาติให้ความสนใจ นั่นคือการเดินทางกลับไทยของ “นายทักษิณ ชินวัตร” ที่กลับมารับโทษในคดีคอร์รัปชัน และการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย ซึ่ง “นายเศรษฐา ทวีสิน” จากพรรคเพื่อไทย ได้รับเสียงสนับสนุนขาดลอย ดังนั้น ขณะนี้สปอตไลต์จึงฉายไปที่บุคคลทั้งสองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เรื่องราวที่เกี่ยวกับอดีตนายกฯ ทักษิณ เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง ซึ่งขณะนี้มีฐานะเป็นนักโทษชาย และนายเศรษฐา นักธุรกิจใหญ่ที่ก้าวเข้ามาในเส้นทางการเมืองในฐานะนายกรัฐมนตรี ต่างถูกเล่าขานในหลายแง่มุม ขณะที่ในมุมของสายมูนั้นสิ่งที่หลายคนอยากรู้คือ นับแต่นี้ “ดวงชะตา” ของบุคคลทั้งสองจะเป็นอย่างไร? และจะมีผลต่อความเป็นไปของประเทศไทยหรือไม่?
“อาจารย์ฟลุค” หมอดูโหราศาสตร์ไทย เจ้าของช่อง “Flukepat smile” ซึ่งมียอดผู้ติดตามกว่า 3.4 แสนคน และเคยทำนายทายทัก “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าจะ “ดวงแตก ชวดตำแหน่งนายกฯ” มาแล้ว โดยครั้งนี้เขาจะคำนวณดวงชะตาของ นช.ทักษิณ และนายกฯ เศรษฐา ว่านับจากนี้จะดีร้ายเพียงใด
สำหรับดวงของอดีตนายกฯ “ทักษิณ ชินวัตร” นั้น อาจารย์ฟลุค ชี้ว่า นายทักษิณ เกิดวันอังคารที่ 26 กรกฎาคม 2492 ดาวที่ส่งผลต่อดวงของนายทักษิณ ในช่วงนี้จะมี 4 ส่วน ได้แก่ พฤหัสทับมรณะ ราหูทับราหูเดิม ดาวเสาร์เข้าภพอริ และราหูเล็งลัคนาให้ดวงแตก คือตอนนี้ดวงของนายทักษิณ “พฤหัสตกมรณะ” ดวงช้ำ ดาวพฤหัสเป็นดาวตัวแทนของที่อยู่อาศัยและคู่ครอง จึงส่งผลต่อสุขภาพของคู่ครอง เมื่อดาวพฤหัสซึ่งเป็นเรือนบ้านตกมรณะ ทักษิณจึงไม่ควรกลับบ้าน ดังนั้นเมื่อกลับเมืองไทยแล้วนายทักษิณ จะอยู่ได้ 3 ที่เท่านั้นจึงจะปลอดภัย ได้แก่ คุก โรงพยาบาล หรือวัด โดยอาจจะไปบวชหรือไปถือศีล ซึ่งหลังจากวันที่ 18 ต.ค.2566 เป็นต้นไป ราหูจะย้ายมาเล็งลัคนาทำให้ดวงของทักษิณแตก อีกทั้งดวงนายทักษิณนั้นดาวเสาร์เป็นปุตตะ เรือนภพปัตนิ แปลว่าบริวาร ลูกน้อง หรือหุ้นส่วนจะหักหลัง ใช้งานไม่ได้ ไม่ได้อย่างใจ คนที่คิดว่าน่าจะใช้ได้ก็จะใช้ไม่ได้ คนที่คิดว่าคุยรู้เรื่องจะคุยไม่รู้เรื่อง บริวารที่คิดว่าพึ่งได้ก็จะพึ่งไม่ได้ เมื่อภพปุตตะเสียคนที่ใช้ได้ ความสามารถก็ไม่ถึง
ยกตัวอย่าง เมื่อดาวเสาร์เข้าภพปุตตะ พรรคเพื่อไทย ให้นายเศรษฐา เป็นนายกฯ เมื่อทักษิณไหว้วานอะไรนายเศรษฐา อาจจะไม่ได้อย่างใจ นอกจากนั้นราหูเล็งลัคนา อาจหมายถึงการไม่เป็นไปตามสัญญา การที่พรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติโหวตให้นายเศรษฐา เป็นนายกฯ น่าจะมีข้อตกลงบางอย่าง ซึ่งสัญญาตัวนี้ถ้าพ้นระยะเวลา 1 ปีไปแล้วอาจจะมีปัญหาได้
“ราหูย้ายมาครั้งนี้ท่านทักษิณ จะโดนเหมือนคุณพิธา แต่จะโดนหนักกว่า เพราะดวงของท่านทักษิณนั้นมีพระราหูอยู่ในเรือนของราศีมีนอยู่แล้ว เมื่อพระราหูย้ายเข้ามาเจอกับพระราหูจึงเข้าเกณฑ์ศัตรูจะปองร้าย กรรมเก่าจะให้ผล เพราะฉะนั้นต้องระวังสุขภาพให้ดี ไม่เช่นนั้นอาการหลายๆ อย่างที่เป็นโรคชราอันเกิดจากอายุจะกำเริบได้ เวลาราหูทับราหูถ้าไม่ใช่คนปองร้ายก็จะเป็นโรคที่หาสาเหตุไม่ได้ อยู่ดีๆ ก็กำเริบขึ้นมาแบบไม่มีที่มาที่ไป เหมือนดวงคุณแตงโม (ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์) ก็โดนเกณฑ์นี้นะ แต่หลักๆ ท่านทักษิณเรื่องสุขภาพอันตรายที่สุด ดวงท่านทักษิณยังไม่ขึ้น ต้องอีก 2 ปีเป็นอย่างน้อย ซึ่งในช่วง 2 ปีนี้หฤโหดนะ เรียกว่าเป็นช่วงตกสุดในชีวิตเท่าที่ท่านเคยเจอ” อาจารย์ฟลุค ระบุ
ส่วนฤกษ์กลับประเทศไทยจะมีผลต่อดวงของนายทักษิณหรือไม่นั้น อาจารย์ฟลุค อธิบายว่า ฤกษ์ที่ทักษิณเหยียบแผ่นดินไทย คือ วันที่ 22 ส.ค.2566 เวลา 09.29 น. เป็นฤกษ์ภูมิปาโล ภูมิ แปลว่า แผ่นดิน ปาโล แปลว่า ผู้เฝ้า ผู้อารักขาแผ่นดิน เป็นฤกษ์ที่นิยมเอาไว้ตั้งศาลพระภูมิ เป็นฤกษ์ที่ยึดเกาะ ยึดมั่น ไม่ถอน น่าจะแปลว่าพับสนามบุก ไม่ยอมออกไปอีกแล้ว จะไม่ยอมกลับอีกแล้ว ขอเกิดและตายบนแผ่นดินนี้ ซึ่งขัดกับดวงของนายทักษิณ
“ท่านทักษิณเคยกลับมาไทยครั้งหนึ่งแล้วในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่อยู่ไทยไม่ได้ ท่านทักษิณมีโหรส่วนตัว ท่านเกิดวันอังคาร ครั้งนี้วันที่กลับมาไทยก็เป็นวันอังคาร เกิดลัคนากันย์ ก็วางฤกษ์กลับไทยที่ลัคนากันย์ การตั้งฤกษ์แบบนี้น่าจะมีเจตนาที่จะปักหลักปักฐาน กลับมาแล้วเกิดใหม่อีกครั้งตามหลักของปาโลฤกษ์ ซึ่งเป็นฤกษ์ที่มั่นคง เพื่อขอเกิดและขอตายบนแผ่นดินนี้ ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าขัดกับดวงของท่านมาก ดวงท่านกำลังมีปัญหาอยู่ การอยู่ในคุกจะสามารถแก้ดวงได้ระดับหนึ่ง แต่เรื่องของสุขภาพเป็นเรื่องที่ต้องระวัง รวมถึงภัยจากที่มีคนปองร้ายด้วย” อาจารย์ฟลุค กล่าว
ขณะที่ดวงของ “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทยนั้น “อาจารย์ฟลุค” ระบุว่า นายเศรษฐา เกิดวันที่ 15 ก.พ. พ.ศ.2505 ตอนนี้ดวงของนายกฯ เศรษฐาโดนอาทิตย์เล็งดาวเสาร์ ซึ่งอาทิตย์ หมายถึง เส้นประสาท ความเครียด ดาวเสาร์ หมายถึงเรื่องเก่าๆ จึงอาจถูกขุดเรื่องเก่ามาทำให้เครียด แต่อาทิตย์กับเสาร์เป็นธาตุไฟ ดังนั้นกำลังที่แสดงจึงส่งผลแค่ทำให้แค่ขัดใจ แต่ไม่สามารถลบตัวดวงได้ ดวงของนายเศรษฐาไม่ได้ตก แต่ยังไม่พร้อมขึ้นเป็นนายกฯ เพราะมีดาวเสาร์ไปกดดาวอยู่หลายดวง จึงยังไม่ถือว่าถูกโฉลกเท่าใดนัก การที่ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีน่าจะเกิดจากมีดวงคนอื่นมาหนุน อีกทั้งดวงนายเศรษฐา ดาวอังคารอ่อน ดาวอังคารหมายถึงทหาร นายเศรษฐาจึงคุมกองทัพไม่ได้
อย่างไรก็ดี การขึ้นนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา นั้นไม่ส่งผลต่อดวงเมือง เพราะเวลาดูดวงจะต้องมองจากอำนาจที่แท้จริง ใครขึ้นเป็นนายกฯ ไม่สำคัญ สำคัญว่าอำนาจที่แท้จริงอยู่ที่ใคร ไม่ว่าจะเป็นสมัยที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ อำนาจที่แท้จริงล้วนอยู่ที่นายทักษิณ ซึ่งการขึ้นเป็นนายกฯ ของนายเศรษฐา ก็เช่นกัน ดังนั้นถ้าจะดูผลที่มีต่อบ้านเมืองก็ต้องดูจากดวงนายทักษิณเป็นหลัก ดวงนายทักษิณราหูเล็งลัคนา คนที่ต่อรองกับทักษิณ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งทั้งสองมีกำลังดวงเหนือกว่าทักษิณ เพราะดวงของทั้งสองท่านเป็นดาวพฤหัส ซึ่งตอนนี้ดาวพฤหัสเป็นราชาโชคอยู่ในภพมรณะ ดาวพฤหัสที่อยู่ในราชาโชค แปลว่ามีอำนาจดั่งราชา อยู่ในภพมรณะ แปลว่าต้องปิดบังซ่อนเร้น ไม่เปิดเผยตัว จึงมีการใช้อำนาจอยู่เงียบๆ
“การที่ท่านเศรษฐาขึ้นนายกฯ ได้น่าจะเป็นเพราะมีดวงคนอื่นมาหนุน อาจจะเป็นดวงของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร ซึ่งถ้าดูจากพื้นดวงตอนนี้ท่านดวงขึ้นนะ และในบรรดาผู้นำพรรค ตอนนี้ดวงคนที่ขึ้นมี 3 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และคุณพีระพันธุ์ (สาลีรัฐวิภาค) คุยกับรุ่นพี่ในกลุ่มโหราศาสตร์ก็ดูตรงกันว่าคนที่ขึ้นนายกฯ น่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร ซึ่งดูแล้วก็แปลก คุณเศรษฐาดวงไม่ได้ขึ้น ท่านทักษิณดวงไม่ขึ้น คุณพิธาก็ดวงไม่ได้ขึ้น ฝั่งเพื่อไทยดวงดูจะมีปัญหาแต่ได้ขึ้นหมดเลย ขณะที่กลุ่มอนุรักษ์ดวงขึ้นแต่ไม่ได้ดำรงตำแหน่ง” อาจารย์ฟลุค ตั้งข้อสังเกต
อาจารย์ฟลุค กล่าวต่อว่า ถ้ามองตามหลักโหร ต้องไม่แย้งดาว คือกลุ่มดาวที่ทำกำลังเสริมดวงในขณะนี้เกิดขึ้นในฝั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร ไม่ใช่ฝั่งนายทักษิณ หรือนายเศรษฐา หลักโหรไม่แย้งดาวก็คือมองว่าดาวให้คุณแก่ใครมากกว่ากัน ในเมื่อให้คุณแก่ พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร มากกว่า แปลว่าคนที่คุมเกมต้องเป็น 2 คนนี้ ดังนั้นจริงๆ แล้วทักษิณอาจอยู่ในหมวดของหุ่นเชิดของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร อีกที ส่วนเปลือกนอกที่คนอื่นเห็นจะเป็นอย่างไรก็ได้ ดังนั้นการดำเนินนโยบายของนายกฯ เศรษฐาจึงขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร ด้วยเช่นกัน
“เปรียบเหมือนคนเปิดสวิตช์ไฟ คือ พล.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร สะพานไฟคือท่านทักษิณ ส่วนไฟที่ติดคือนายกฯ เศรษฐา ซึ่งดวงท่านเศรษฐาน่าจะเรียกว่านายกฯ ขัดตาทัพ โดยน่าจะอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 ปี จะมีจุดพลิกผันในช่วงปี 2568 ซึ่งจะเชื่อมโยงกับทุกคนที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในประเทศ มีการพลิกผัน เปลี่ยนขั้วอำนาจ โดยฝ่ายอนุรักษนิยมมีเกณฑ์อำนาจสูงกว่า” อาจารย์ฟลุคระบุ
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://m.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/?locale2=th_TH
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j