xs
xsm
sm
md
lg

“ก้าวไกล” วืดเป็น (ว่าที่) รัฐบาล-ที่แท้ทำตัวเอง!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สารพัดเรื่องของก้าวไกลที่สุ่มเสี่ยงต่อการไม่ได้เป็นรัฐบาลทำตัวเองทั้งนั้น สร้างเงื่อนไขจนหาเพื่อนร่วมทางลำบาก แถมเสียงห่างเพื่อไทยแค่ 10 ที่นั่ง ขอทั้งนายกฯ+ประธานสภา แถมสร้างแต่เรื่องให้ ส.ว.ไม่โหวต ทั้งยืนยันแก้ ม.112-เรื่องแยกดินแดน-เปลี่ยนวันชาติสายประชาธิปไตยเปิดหน้าไม่เอาด้วย

การเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลของพรรคที่มี ส.ส.มากเป็นอันดับ 1 อย่างพรรคก้าวไกล หลังจากที่ได้ซ้อมเป็นรัฐบาลมาเดือนเศษ เริ่มเข้าสู่โลกของความเป็นจริงหลังจากสภาผู้แทนราษฎรเรียกประชุม ส.ส. นัดแรก 4 กรกฎาคม 2566 พร้อมเลือกตั้งประธานสภา เพื่อไปสู่ขั้นตอนของการเลือกนายกรัฐมนตรี ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 หลังทราบผลว่าก้าวไกลมาอันดับ 1

แม้ช่วงที่ผ่านมา จะมีมรสุมถาโถมเข้ามาที่ตัวนายพิธา และพรรคก้าวไกลไม่น้อย รวมถึงการหารือที่ดูเหมือนยังไม่ลงตัวนักระหว่างว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะกับพรรคเพื่อไทย เรื่องเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ทั้ง 2 พรรคต่างอยากได้

แต่ทั้งหมดเกิดขึ้นจากการกระทำของสมาชิกในพรรคและตัวผู้นำพรรค จึงทำให้เกิดการตรวจสอบ ร้องเรียนหรือตั้งคำถามกันบนโลกออนไลน์

บริหารอำนาจไม่เป็น เห่อเหิม คึกคะนอง

หนึ่งในนั้นคือนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่โพสต์ถึงพรรคก้าวไกลหลายครั้ง ในช่วงที่พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยที่มีข้อถกเถียงกันในเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงโพสต์เรื่องความเก๋า กับความอ่อนหัด

ความเก๋า ของพรรคเพื่อไทย คือ ไม่สร้างประเด็นที่ประชาชนไม่สบายใจ เช่น ไม่พูดถึง ม.112 ไม่พูดถึงการแยกดินแดน ไม่พูดถึงการเปลี่ยนวันชาติ ความอ่อนหัดของพรรคก้าวไกล คือ ยกเลิก ม.112 ส่งสมาชิกร่วมเสวนาเรื่องการแยกดินแดน สมาชิกระดับแกนนำเสนอเปลี่ยนวันชาติ จาก 5 ธันวาคม เป็น 24 มิถุนายน

พรรคก้าวไกล อ่อนหัดเข้าไปอีกเมื่อเสนอประเด็นที่อ่อนไหวเช่นนี้แล้ว ยังบากหน้าไปขอความเห็นชอบจาก ส.ว. เพื่อให้เลือกหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี สุดท้ายก็อ่อนหัดทะลุซอย ถึงขนาดขอให้ฝ่ายค้านเลือกตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี มีประเทศไหนบ้างที่ฝ่ายค้านเลือกฝ่ายตรงข้ามให้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วตัวเองเดินกลับมานั่งเป็นฝ่ายค้าน

พรรคก้าวไกล บริหารอำนาจไม่เป็น เห่อเหิม คึกคะนอง เหมือนลิงเล่นไม้ขีดไฟ สุดท้ายก็เผาตัวเอง

อย่าฝันว่าจะมานั่งเป็นฝ่ายค้าน ผมขอยกตัวอย่าง ข้อเขียนของมาเคียเวลลี เตือนใจว่า "อย่าปล่อยศัตรูที่คิดว่าอาจจะมาทำร้ายในภายหลัง" ถ้าเป็นสำนวนหนังกำลังภายใน คุณก็จะถูกสลายเคล็ดวิชา กลายเป็นคนธรรมดา ที่ต้องเดินออกนอกด่าน เอวัง!!!


ยิ่งทำให้ ส.ว.ไม่โหวต

ก่อนหน้านี้ นายนิพิฏฐ์ ได้ตั้งคำถามหลังจากที่นายรังสิมันต์ โรม ออกมาเสนอเปลี่ยนวันชาติมาเป็นวันที่ 24 มิถุนายน ว่า พรรคก้าวไกล คิดจะเปลี่ยนวันชาติหรือ?

ผมเห็นข่าว รังสิมันต์ โรม พรรคก้าวไกล กล่าวว่า "นายกฯ คนใหม่จะชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง และเฉลิมฉลองวันที่ 24 มิถุนายน ในฐานะวันชาติร่วมกัน" อ่านข่าวแล้วก็เศร้าใจ ทุกวันนี้วันชาติ ของไทย คือวันที่ 5 ธันวาคม วันที่ 24 มิถุนายน (2475 ) คือ วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง และยึดอำนาจจากพระมหากษัตริย์ เป็นระบอบประชาธิปไตย

ปกติประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จะใช้วันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันชาติ โดยอาจเปลี่ยนไปเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงพระมหากษัตริย์ เช่น อังกฤษ ใช้วันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชินี เป็นวันชาติ

เวลาอ้างความเป็นประชาธิปไตย พรรคก้าวไกล มักอ้างฝรั่งเศส อังกฤษ อเมริกา เป็นต้นแบบ แต่กรณีนี้พรรคก้าวไกล กลับจะใช้วันยึดอำนาจจากพระมหากษัตริย์ เป็นวันชาติ แทนวันพระราชสมภพ

นอกจากผมจะเห็นว่า คุณพิธา "วุฒิภาวะไม่ถึง" ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ผมก็ "รังเกียจ" พรรคก้าวไกลในเรื่องนี้ด้วย คือ การไม่เคารพสถาบัน "เท่าที่ควรจะเป็น" ด้วย การเคารพนั้น แน่นอนว่าอาจมีมาก หรือน้อย ต่างกัน แต่ควรจะมีเท่าที่ควรจะเป็น เพราะเราปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

ผมเรียกร้องหลายครั้งให้คุณพิธา และพรรคก้าวไกล เปลี่ยนท่าทีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่การเรียกร้องของผมและคนไทยอาจยังไปไม่ถึงหูของคุณพิธา และพรรคก้าวไกล

นายนิพิฏฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “พรรคก้าวไกลมั่นใจเกินไป ไม่มีประสบการณ์ การตั้งรัฐบาลต้องใช้เสียง ส.ว. เพื่อให้ได้ 376 เสียง 
ที่ผ่านมามีหลายเรื่องที่ทำให้ ส.ว.ลำบากใจ ทั้งเรื่องแบ่งแยกดินแดน วันชาติ และเรื่องแก้ ม.112”


ส.ส.ก้าวไกลทำร้ายแฟน

เรื่องราวของพรรคก้าวไกลยังมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาส่วนตัวของนายพิธา ที่อาจขัดต่อการดำรงตำแหน่งหรือนำพาพรรคไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงยังมีเรื่องของ ส.ส.ในพรรคที่มีพฤติกรรมที่สังคมกำลังจับตานั่นคือกรณีของ นายสิริน สงวนสิน ส.ส.กทม. เขต 31 ตลิ่งชัน-ทวีวัฒนา พรรคก้าวไกล ถูกแฟนสาวที่เพิ่งคบหากันแค่ 1 เดือนเศษ แจ้งความเอาผิดเรื่องทำร้ายร่างกาย แจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอบอวิน จังหวัดชลบุรี

เรื่องนี้ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก สุดท้ายนายสิรินได้ออกมาโพสต์ว่า ขออภัยอย่างสูงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งขอโทษต่อผู้เกี่ยวข้อง ประชาชนที่เลือก ต้องทำให้ผิดหวัง ที่ออกมาชี้แจงช้า เพราะตัวเองประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย ศีรษะแตก จึงใช้เวลา 2 วันที่ผ่านมาในการรักษาตัว

จากนี้ยินดีเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย และการสอบสวนวินัยจากพรรคก้าวไกล และจะน้อมรับผลที่ตามมาจากการกระทำที่ปราศจากความยั้งคิดของตัวเองโดยดุษฎี พร้อมกับย้ำว่า ขอแสดงความสำนึกผิดด้วยใจจริง!!


อี้-แทนคุณจี้พิธาขอโทษ-ไล่ออก

ดร.แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณี ส.ส. กทม.พรรคก้าวไกลทำร้ายผู้หญิงว่า เป็นเรื่องที่สังคมไม่ควรยอมรับและนิ่งเฉยเนื่องจากการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นปัญหาสังคม

โดยเฉพาะเมื่อคนที่ทำร้าย คือ ส.ส. เป็นนักการเมืองที่ควรมีมาตรฐานทางจริยธรรมที่สูงกว่า แค่กรอบของกฎหมายกำหนดไว้และสังคมไทยไม่ควรนิ่งเฉยดูดายและควรมีส่วนร่วมกันประณาม กดดันไม่ให้ ส.ส.คนดังกล่าวได้หลุดรอดในบ่วงกรรมที่ตนได้กระทำต่อผู้หญิงที่ไม่สามารถต่อสู้และขัดขืนต่อการใช้ความรุนแรงได้

เรื่องนี้ไม่ควรเงียบและปล่อยผ่านหรือให้เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เพราะ ส.ส.ถือว่าเป็นผู้ทรงเกียรติและเป็นบุคคลสาธารณะที่ควรเป็นแบบอย่างให้ประชาชนและสังคม โดยเฉพาะเยาวชนที่กำลังเรียนรู้ผ่านการเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆ ของนักการเมืองที่อาจจะเป็นฝ่ายที่เขาชื่นชอบ

หากมีการยอมรับให้พฤติกรรมการใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ ยอมรับได้ เป็นเรื่องส่วนตัว โดยพรรคก้าวไกลมีส่วนในการจงใจช่วยเหลือปกป้อง เท่ากับเป็นการส่งเสริมให้เกิดการกระทำซ้ำๆ การผลิตซ้ำชุดความคิดชายเป็นใหญ่ที่ยัดเยียดความรุนแรงให้สตรี ในรูปแบบต่างๆ ได้แน่นอน รวมทั้งผู้มีความหลากหลายทางเพศด้วย

กรณีดังกล่าวสร้างความไม่สบายใจให้สังคมเช่นเดียวกับการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนของอดีตภรรยานายพิธาเอง ดังนั้นเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม นายพิธาควรไล่ ส.ส. คนดังกล่าวออกและแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการ "ขอโทษ" และชดใช้ค่าเสียหายให้สตรีผู้เสียหายและชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมที่จะต้องมีเกิดขึ้น ทั้งกับกรณีนี้และกรณี ส.ส.อีกหลายคนที่มีคดีความติดตัว และหากต้องคำพิพากษาจนจำคุกต้องเลือกตั้งใหม่ค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นเงินภาษีจากประชาชนทุกบาททุกสตางค์ควรเก็บที่พรรคก้าวไกลทั้งสิ้น

นายแทนคุณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนเกิดเรื่องส.ส.ทำร้ายผู้หญิงก็มีเรื่อง ว่าที่ ส.ส.เมา (บัญชีรายชื่อ) แล้วขับ กรณีล่าสุดที่เป็น ส.ส.เขต นอกจากนี้ ส.ส.บางท่านที่กกต.รับรองไปก่อน หลายคนมีคดีติดตัว ถ้าต้องเลือกตั้งใหม่ใครจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่าย การมีอคติกับระบบจารีตที่มี ทำให้เกิดสิ่งที่ก้าวไกลทำ


สายประชาธิปไตยเริ่มไม่เห็นด้วย

ไมมีใครปฏิเสธว่าเวลานี้ก้าวไกลยังอยู่ในกระแสนิยม ที่ตัวหัวหน้าพรรคเดินสายไปไม่เว้นแม้แต่การแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นลีกเมื่อ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา กองเชียร์คนรุ่นใหม่พร้อมให้การสนับสนุนและปกป้องพรรคในดวงใจ แม้ว่าในบางเรื่องจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม

แต่เราเริ่มเห็นกระแสตีกลับบ้างแล้วจากกรณีของหยก นักเรียนชั้น ม.4 ผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ที่มีอายุน้อยที่สุด ปีนรั้วโรงเรียน เธอไม่แต่งชุดนักเรียน ย้อมสีผม มารดาไม่ทำตามเงื่อนไขของโรงเรียน กองเชียร์ส้มจำนวนหนึ่งเริ่มที่จะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของหยก เมื่อกระแสมาเป็นแบบนี้พรรคก้าวไกลเงียบไปพักหนึ่ง ทั้งๆ ที่หยกทำตามนโยบายของพรรคก้าวไกล ก่อนที่จะออกแถลงการณ์หาทางออกร่วมกัน แต่ไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้

กรณีนี้ทำให้มีผู้ดำเนินรายการอย่างหม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือหม่อมปลื้ม ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย ตอนนี้มีคนที่เคยเคลื่อนไหวในสายประชาธิปไตยที่ออกมาเปิดเผยอย่างชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับบางเรื่องของพรรคก้าวไกลเริ่มมีมากขึ้น แน่นอนว่าพวกเขาต้องเผชิญกับแรงกดดันจากแฟนคลับหรือด้อมส้มของก้าวไกล แต่หลายคนพร้อมที่จะแลกเพื่อดึงสติของคนไทยให้กลับคืนมา

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

Facebook :https://m.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/?locale2=th_TH





กำลังโหลดความคิดเห็น