xs
xsm
sm
md
lg

“พิธา” ดวงแตก! ชวดนายกฯ มีเกณฑ์ลี้ภัยไปต่างประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“หมอดูโหราศาสตร์” ฟันธง “พิธา” ดวงแตก ไร้เกณฑ์นั่งนายกฯ เหตุลิดรอนสถาบันกษัตริย์ ลดอำนาจทหาร จึงเป็นปฏิปักษ์ต่อสองเสาหลักของดวงเมือง เตือน! หากดื้อดึงถึง 18 ต.ค.66 อาจถึงขั้นต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ ชี้ดวงกรุงรัตนโกสินทร์ “พฤหัส” หนุน “อาทิตย์” ไม่มีทางแก้ ม.112 สำเร็จ พร้อมระบุดวงนายกฯ จะเป็นชาวราศีสิงห์ จากพรรคเพื่อไทย ขณะที่ดวงทหารยังอ่อนกำลัง จะกลับมาเข้มแข็งอีกครั้งในเดือน ต.ค. เผยมีเกณฑ์ปฏิวัติกองทัพ พร้อมทั้งเกิด 2 เหตุการณ์ใหญ่ ช่วงปลายปี 68

กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มทีเดียวสำหรับการฟอร์มรัฐบาลภายใต้การนำของ “พรรคก้าวไกล” พร้อมทั้งเตรียมเสนอชื่อให้ “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางกระแสต่อต้านจากเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา ซึ่งประกาศว่าหากก้าวไกลยืนยันที่จะแก้ ม.112 บรรดาวุฒิสมาชิก (ส.ว.) ก็จะไม่โหวตให้นายพิธา ขณะเดียวกัน นายพิธายังถูกยื่นตรวจสอบกรณีถือหุ้นไอทีวี ซึ่งอาจส่งผลให้เขาขาดคุณสมบัติในการสมัคร ส.ส.

ทำให้หลายฝ่ายเริ่มไม่แน่ใจว่านายพิธา จะมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยหรือไม่? ขณะที่สายมูก็อยากรู้ว่าดวงของนายพิธา ตอนนี้เป็นอย่างไร มีบารมีมากพอที่จะได้เป็นนายกฯ หรือเปล่า?

“อาจารย์ฟลุค” หมอดูโหราศาสตร์ไทย  เจ้าของช่อง “Flukepat smile” ซึ่งมียอดผู้ติดตามกว่า 2.8 แสนคน
“อาจารย์ฟลุค” หมอดูโหราศาสตร์ไทย เจ้าของช่อง “Flukepat smile” ซึ่งมียอดผู้ติดตามกว่า 2.8 แสนคน ได้คำนวณดวงชะตาของนายพิธา ว่า นายพิธา เกิดวันที่ 5 ก.ย.2523 เป็นชาวราศีสิงห์ ลัคนากันย์ ตอนนี้ดวงนายพิธา ขึ้นชัดว่าไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน แถมมีดวงจะต้องลี้ภัยด้วยซ้ำ เนื่องจากดาวพฤหัสเข้ามรณะจึงเป็นอริกัน ดาวพฤหัสเป็นตัวแทนของครู ผู้ใหญ่ ผู้สูงวัย เข้ามรณะ ติดเกณฑ์ดวงช้ำพินทุบาทว์ ซึ่งเป็นเกณฑ์ใหญ่เกณฑ์หนึ่ง ดังนั้น ยังไง ส.ว.ก็ไม่โหวตให้นายพิธา เป็นนายกฯ โดนเช็กบิลแน่นอน โดยจังหวะเช็กบิลนั้นรอแค่ราหูอย่างเดียว ซึ่งพระราหูจะมาเล็งลัคนากันย์ในวันที่ 17 ต.ค.2566 ดวงจะแตกตอนนั้น

จริงๆ แล้วดวงของนายพิธา นั้นหากเป็นนายกรัฐมนตรี จะเป็นนายกฯ ที่เข้มแข็งมาก เนื่องจากเมื่อครั้งเริ่มต้นกรุงรัตนโกสิทร์ได้ทำการฝังเสาหลักเมืองเพื่อผูกดวงเมืองในวันอาทิตย์ที่ 21 เม.ย.2325 ดวงเมืองของกรุงรัตนโกสินทร์จึงเป็นราศีเมษ ธาตุไฟ ซึ่งธาตุไฟมีเสาหลัก 3 ต้น คือ เมษ ธนู และสิงห์ นายพิธา เป็นราศีสิงห์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักเพลิง จึงส่งเสริมกับดวงเมือง แต่ดวงเมืองผูกไว้กับกษัตริย์และทหาร การที่นายพิธา ลิดรอนสถาบันกษัตริย์และลดอำนาจทหารซึ่งเป็นสองสาหลักของดวงเมืองจึงทำให้นายพิธา ไม่สามารถขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้

“จังหวะเช็กบิลคุณพิธา จริงๆ คือตอนที่ราหูเล็งลัคน์ ประมาณวันที่ 18 ต.ค.2566 เป็นเกณฑ์ใหญ่ เป็นเกณฑ์ดวงแตกชัดเจน มันกดดวงหนัก ถ้าคุณพิธา ไม่ผ่อนมีเกณฑ์ถึงขั้นลี้ภัยได้เลย เกณฑ์นี้เป็นเกณฑ์เดียวกับดวงคุณทักษิณ ตอนนั้นหลวงตามหาบัว ดูดวงคุณทักษิณ ว่าระวังจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ดวงเมืองของกรุงรัตนโกสินทร์นั้นส่งเสริมกษัตริย์และผูกไว้กับทหาร ดังนั้น การที่คุณพิธา จะแก้ไข ม.112 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถาบันกษัตริย์และจะเข้าไปปฏิรูปกองทัพจึงยากที่คุณพิธา จะขึ้นมาเป็นนายกฯ” อาจารย์ฟลุค กล่าว

เสาหลักเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเสาหลักเมืองของกรุงรัตนโกสินทร์ ที่่มีการตั้งเสาหลักเมืองใหม่คู่กับเสาหลักเมืองเดิม
ทั้งนี้ ดวงเมืองของกรุงรัตนโกสินทร์นั้นคำนวณตามเวลาขณะที่ทำพิธีฝังหลักเมือง ในวันที่ 21 เมษายน 2325 ซึ่งตรงกับปีขาล วันกลียุคศักราช 1,783,568 วัน ดวงอาทิตย์อุทัย 0620 ดวงอาทิตย์ เป็นเจ้าเรือนเกษตรภพที่ 5 สถิตอยู่ในตำแหน่งปรมะอุจจ ซึ่งเป็นเรือนเกษตรของดาวอังคาร และร่วมกับลัคนาในราศีเมษ ได้รับแสงจากดาวพฤหัส (ดาวแห่งคุณธรรม ดาวแห่งคุณงามความดี พฤหัสหมายถึงกฎหมาย จริยธรรม องค์กร) และอยู่ในตำแหน่งภาวะการกะ เรียกว่า ลัคนาการกะ โดยดวงอาทิตย์ หมายถึงพระมหากษัตริย์ ผู้นำประเทศ มีความหมายว่า ประเทศไทยจะต้องมีพระมหากษัตริย์ มีผู้นำประเทศและอธิปไตยอย่างแน่นอนและมั่นคง เป็นที่ยอมรับนับถือของนานาประเทศ และโดยที่ดวงอาทิตย์เป็นเจ้าเรือนภพที่ 5 ด้วย แสดงว่าการสืบพระราชสันตติวงศ์ก็ดี การที่จะมีผู้นำประเทศก็ดี ย่อมจะต้องมีติดต่อเรื่อยไปโดยไม่มีการขาดตอน และจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ทรงคุณวุฒิ สมณชีพราหมณ์จารย์ ตลอดจนประชาชน

ปัจจุบันเราจึงได้เห็น “สมาชิกวุฒิสภา” ออกมาประกาศว่าจะไม่โหวตให้นายพิธา เป็นนายกฯ หากพรรคก้าวไกลยังคงยืนยันที่จะแก้ไข ม.112

ขณะที่ อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ นักโบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการผูกดวงเมืองของกรุงรัตนโกสินทร์ ไว้ว่า ในสมัยรัชกาลที่ 1 ได้โปรดให้วางเสาหลักเมือง แต่ปรากฏว่าขณะที่ทำพิธีได้มีงูตกลงไปตาย ซึ่งโหรได้ทำนายว่าพระนครจะเจริญรุ่งเรืองไปได้ 150 ปี จากนั้นจะเสียเอกราชให้อริราชศัตรู ต่อมา ในสมัยรัชกาลที่ 4 จึงได้โปรดให้ผูกดวงเมืองใหม่โดยตั้งเสาหลักเมืองใหม่คู่กับเสาหลักเมืองเดิม และผูกดวงให้ทหารเป็นผู้นำประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้สยามเสียเอกราชให้อริราชศัตรู ต่อมา สมัยรัชกาลที่ 7 ซึ่งกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 150 ปี ในวันที่ 21 เม.ย.2475 จากนั้น 24 มิ.ย.2475 เกิดปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งครั้งนั้นโหรได้ทำนายว่านี่คือการที่บ้านเมืองสูญเสียเอกราช แต่การที่รัชกาลที่ 4 ทรงแก้ดวงเมืองเอาไว้ทำให้สยามไม่เสียเอกราชแก่อริราชศัตรู แต่เป็นการสูญเสียพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ แต่เอกราชของชาติยังอยู่

“จะเห็นได้ว่าหลังการปฏิวัติ 2475 ก็ยังเกิดการรัฐประหารขึ้นอีกหลายครั้งซึ่งล้วนกระทำโดยทหารทั้งสิ้น โดยประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีที่ไม่ใช่ทหารอยู่ช่วงหนึ่ง จากนั้นอำนาจการปกครองก็กลับไปอยู่ที่ทหารอีก เพราะดวงเมืองเราผูกไว้กับทหาร” อาจารย์เผ่าทอง ระบุ

อุ๊งอิ๊ง-แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต่างก็เป็นชาวลัคนาราศีสิงห์ซึ่งส่งเสริมกับดวงเมือง
ส่วนว่าหากนายพิธา ไม่สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ แล้วใครที่มีดวงจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นั้น “อาจารย์ฟลุค” บอกว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้มีแกนนำของฝั่งประชาธิปไตยหลายคนที่เป็นลัคนาราศีสิงห์ ไม่ว่าจะ อุ๊งอิ๊ง-แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย (อุ๊งอิ๊งเกิดวันที่ 21 ส.ค.2529 ราศีสิงห์) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (เกิดวันที่ 4 มิ.ย.2504 ราศีพฤษก ลัคนาสิงห์) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (ดวงตามปฏิทิน 100 ปี - เกิดวันศุกร์ที่ 3 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน ก.ย. 2491 ปีชวด ราศีสิงห์) คือดวงเมืองไปกระตุ้นบางอย่างทำให้บรรดาผู้ที่ขึ้นมาเป็นผู้นำทางการเมืองล้วนเป็นชาวราศีสิงห์แบบขึ้นมายกแผง เป็นความบังเอิญที่ไม่บังเอิญ

“หากไม่ใช่คุณพิธา ผมมองว่าตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยน่าจะได้เป็นนายกฯ เพราะคนที่จะขึ้นมาเป็นนายกฯ น่าจะมาจากราศีสิงห์ หากคนราศีสิงห์ขึ้นมาเป็นผู้นำจะอยู่ได้นานเพราะดวงเมืองเป็นราศีเมษ ธาตุไฟ ซึ่งสิงห์เป็นหนึ่งในเสาหลักของธาตุไฟ อย่าง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ก็ราศีสิงห์ อีกทั้งยังเป็นทหารซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักของดวงเมือง ท่านจึงดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้ถึง 8 ปี หลังลงจากตำแหน่งนายกฯ ท่านก็ได้เป็นองคมนตรี” อาจารย์ฟลุค ระบุ


อาจารย์ฟลุค กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดีดวงเมืองในขณะนี้นั้นทหารยังอ่อนกำลังเพราะดาวอังคาร (ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามนักต่อสู้) เข้าเรือนพันธุทำให้เป็นมิตร คืออ่อนกำลัง ต่ำศักดิ์ ตอนนี้ทหารเลยนิ่ง แต่ช่วงปลายปีคือตั้งแต่เดือน ต.ค.2566 อังคารจะกลับมามีกำลัง โดยราหูจะย้ายจากราศีเมษเข้าสู่ราศีมีน ในวันที่ 17 ตุลาคม 2566 และอังคารจะเป็นมหาจักร ทหารจะค่อยฟื้นกำลังขึ้นอีกครั้ง

“ดังนั้น ถ้าเกิดเหตุความวุ่นวายช่วงปลายปี ทหารมีเกณฑ์จะใช้กำลัง เพราะอังคารเป็นมหาจักร จึงอยากเตือนคุณพิธา ให้ใจเย็นๆ ถ้าคุณพิธา ยังแสดงตัวเป็นปฏิปักษ์กับทหารหรือดึงดันจะแก้ ม.112 น่าจะเป็นเรื่องแน่ ช่วงราหูย้ายเข้าราศีมีนอาจจะมีเกณฑ์การแต่งตั้งใหม่ คือถ้าคุณพิธา จะขึ้นนั่งตำแหน่งนายกฯ อาจจะมีการดีดคุณพิธา ออก แล้วตั้งคนใหม่ขึ้นมา คือดวงคุณพิธา ขึ้นไม่ได้จริงๆ ถ้าช่วง ต.ค. คุณพิธา ดึงดันจะขึ้นก็อาจถึงขั้นต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ” อาจารย์ฟลุค กล่าว

อาจารย์ฟลุค ยังได้กล่าวว่า ขณะนี้ฤกษ์ปฏิวัติเกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากหลักของพุทธเชื่อเรื่องเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ดังนั้น ทันทีที่พรรคร่วมรัฐบาลมีการเซ็น MOU แปลว่ารัฐบาลได้เกิดขึ้นแล้ว จึงเข้าสู่หลักเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เมื่อรัฐบาลดับ ทหารซึ่งถูกผูกไว้กับดวงเมืองจะกำเนิดเกิดขึ้น ส่งผลให้ทันทีที่รัฐบาลเกิด ฤกษ์ปฏิวัติก็เกิดขึ้นด้วย ซึ่งเมื่อฤกษ์ปฏิวัติขึ้นก็จะคำนวณได้ว่าดวงของนายกฯ ในขณะนั้นจะอยู่ได้กี่ปี ส่วนว่าฤกษ์ปฏิวัติจะเป็นเมื่อไหร่ก็ต้องรอดูว่านายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะเป็นใคร ขณะเดียวกัน กองทัพมีเกณฑ์ที่ต้องถูกปฏิรูป แต่คนที่ปฏิรูปต้องเป็นทหาร เหมือนในสมัยที่ พล.อ.เปรม ปฏิรูปกองทัพ คนธรรมดาทำไม่ได้เพราะบารมีไม่ถึง

“เกณฑ์ที่จะมีการปฏิรูปกองทัพคือปลายปี 2568 ซึ่งช่วงนั้นอาจจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น 2 เรื่อง คือ มีการเคลื่อนย้ายกองทัพขนาดใหญ่ และมีการปฏิรูปกองทัพ คำทำนายของดวงเมืองบอกว่าจะมีทหารยศพันตรี หรือพลโทเข้ามาแก้วิกฤตประเทศ เพราะดาวอังคารของดวงเมืองเป็นกึ่งปรเกษตร กึ่งราชาโชค ปรเกษตรแปลว่าอ่อนกำลัง ราชาโชคแปลว่าได้มาง่ายๆ หรือมีอำนาจวาสนา จึงแปลว่าทหารที่จะเข้ามาจะมียศตั้งแต่พันตรีถึงพลโท” อาจารย์ฟลุค ระบุ




กำลังโหลดความคิดเห็น