“ประธาน IFMA” เผยไทยส่ง 13 นักชกชิงแชมป์มวยไทยโลก มวยชาย 8 มวยหญิง 5 ยัน! ตัดสิทธิทุกประเทศที่ส่ง “กุน ขแมร์” ไม่สามารถร่วมชิงรายการนี้ ขณะที่ชาวไทยสุดปลื้ม “เจ้าชายซาอุฯ” และ “อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์” ต่างสนับสนุนมวยไทย ด้านเพจ “คุยเฟื่องเรื่องมวย” แฉ เล่ห์เขมรจ้างนักมวยงานวัด-นักชกหมดสภาพของไทยขึ้นประนวมกับนักมวยกัมพูชา ปั้นสถิติ “ชนะน็อก” สร้างภาพความเก่งกาจของ “มวยขแมร์” อย่างไรก็ดี บรรดาสื่อโซเชียลชี้หลายปัจจัยอาจทำ “กุน ขแมร์” แท้งก่อนเกิด!!
เรียกว่า “ดับเครื่องชน” กันเลยทีเดียว เมื่อ “สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ” หรือ IFMA ออกมาประกาศว่าจะจัดการแข่งขันศึกชิงแชมป์มวยไทยโลก 2023 ที่ประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 4-13 พ.ค.2566 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค.2566 และแน่นอนว่าเป็นช่วงเดียวกับที่มีการแข่งขัน “กุน ขแมร์” ในซีเกมส์ ซึ่งไทยปฏิเสธจะส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันเพราะแม้กติกาจะเหมือนมวยไทยทุกอย่าง แต่เนื่องจากไทยไม่มีสมาคมกีฬากุน แขมร์ จึงไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้
ขณะเดียวกัน IFMA ได้ประกาศแสนยานุภาพ โดยระบุว่า ศึกมวยไทยชิงแชมป์โลกครั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกถึง 100 คู่ต่อวัน โดยล่าสุด ได้มีประเทศสมาชิก IFMA กว่า 100 ประเทศ ตอบรับที่จะเข้าร่วมการแข่งขันแล้ว ดังนั้น ในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีแขกวีไอพีกว่า 3,000 คน จากกว่า 100 ประเทศ ใน 5 ทวีปเดินทางมาร่วมงานในประเทศไทย ส่วนสถานที่จัดการแข่งขันนั้นจะจัดที่ศูนย์การประชุมระดับ 5 ดาวของเซ็นทรัลเวิลด์ โดยจะจัดงานเทศกาลขนาดใหญ่ที่มีบูทมากกว่า 100 บูท และเวทีหลักจะมีกิจกรรมประจำวันที่เปลี่ยนไปทุกวัน ซึ่งถือว่าเป็นงานระดับโลกที่ยิ่งใหญ่อลังการไม่น้อยทีเดียว ส่งผลให้ชาวกัมพูชาบางส่วนถึงกับออกมาเรียกร้องว่ารัฐบาลกัมพูชาควรจะเลื่อนการแข่งขันซีเกมส์ออกไปก่อน เพื่อไม่ให้ชนกับงานมวยโลกของไทย
เตรียมแข่ง “คีตะมวยไทย”
คู่เวทีมวยไทยโลก
ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) และนายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ (AMTAT) อธิบายถึงรายละเอียดในการจัดการแข่งขันศึกชิงแชมป์มวยไทยโลก 2023 ที่ประเทศไทย ว่า จะจัดการแข่งขันเป็นรอบๆเพื่อคัดเลือกแชมป์ในแต่ละรุ่น ตั้งแต่รอบที่ 1, 2 ไปจนถึงรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ
โดยการแข่งขันในระหว่างวันที่ 4-13 พ.ค.2566 ที่เซ็นทรัลเวิลด์นั้น การจัดงานจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรกจะเป็นสนามแข่งขันชกมวยไทยรุ่นซีเนียร์ส แชมเปียนชิพ ทั้งประเภทชายและหญิง ซึ่งจะจัดที่บริเวณชั้น 8 โดยมีประเทศที่เข้าร่วมแข่งกว่า 100 ประเทศ จากประเทศสมาชิกทั้งหมด 148 ประเทศ ขณะที่การแข่งขันจะมีทั้งหมด 12 รุ่น ซึ่งแต่ละประเทศสามารถส่งนักมวยเข้าแข่งขันได้รุ่นละ 1 คน
และ ส่วนที่สองจะเป็น Exhibition ซึ่งจะจัดบริเวณลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยส่วนนี้จะมีทั้งนิทรรศการและศิลปะการแสดงเกี่ยวกับมวยไทย รวมถึงการแข่งขันคีตะมวยไทย (การออกกำลังกายสไตล์ไทยประยุกต์ ที่นำศิลปะแม่ไม้มวยไทยมาผสมผสานกับการเต้นแอโรบิก โดยใช้ร่างกายเป็นอาวุธ ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก และเคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะเพลง) ซึ่งจะมีทีมที่เข้าแข่งขันจำนวน 24 ทีม
“การจัดการแข่งขันมวยไทยโลกที่ประเทศไทยครั้งนี้เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 30 ปีของ IFMA อีกทั้งมวยไทยยังเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่คนทั้งชาติภาคภูมิใจ ซึ่งทาง IFMA แจ้งว่าตอนนี้มีประเทศที่ตอบรับว่าจะเข้าร่วมแข่งขันชิงแชมป์มวยไทยโลกมากกว่า 100 ประเทศแล้ว ส่วนจะมีทั้งหมดกี่ประเทศต้องรอดูอีกระยะ จำนวนต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาร่วมงานน่าจะไม่ต่ำกว่า 3,000-4,000 คน รับรองว่าประเทศไทยบูมแน่นอน” ประธาน IFMA กล่าว
“ดร.ศักดิ์ชาย” เผย
ไทยส่ง 13 นักชก
ดร.ศักดิ์ชาย กล่าวต่อว่า สำหรับนักมวยจากประเทศไทยนั้นจะส่งเข้าแข่งขัน 13 คน ประกอบด้วย นักมวยชาย 8 คน และนักมวยหญิง 5 คน โดยจะเป็นรุ่นที่น้ำหนักไม่เกิน 75 กิโลกรัม ส่วนรุ่นใหญ่นั้นไทยไม่ได้ส่ง ซึ่งการคัดเลือกนักมวยไทยที่จะเข้าแข่งขันในศึกชิงแชมป์มวยไทยโลกนั้น นักมวยส่วนหนึ่งจะมาจากนักกีฬาชกมวยทีมชาติไทยที่เคยถูกวางตัวว่าจะเข้าแข่งขันในกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศกัมพูชา แต่ถูกยกเลิกไปเนื่องจากกัมพูชาเปลี่ยนเป็นการแข่งขันกุน ขแมร์ และอีกส่วนหนึ่งจะคัดเลือกจากนักมวยฝีมือดีจากค่ายมวยต่างๆ โดยมีคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคของสมาคมมวยไทย นำโดย ผศ.สุรัตน์ เสียงหล่อ และ พ.อ.บุญส่ง เกิดมณี เป็นผู้คัดเลือก
ส่วนกรรมการผู้ตัดสินในศึกชิงแชมป์มวยไทยโลก 2023 นั้น ดร.ศักดิ์ชาย ยืนยันว่า กรรมการทุกท่านจะทำหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างแน่นนอน โดยกรรมการจะมาจาก 2 ส่วน คือ กรรมการนานาชาติซึ่งขึ้นทะเบียนกับ IFMA ไว้แล้ว และกรรมการซึ่งมากับทีมนักมวยจากประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมแข่งขัน โดยหลักการคือกรรมการผู้ตัดสินจะต้องเป็นกรรมการจากคนละประเทศกับนักมวยที่ขึ้นชกเพื่อให้เกิดความเป็นกลางในการตัดสิน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา IFMA ได้จัดการแข่งขันเวิลด์ แชมเปียนชิพเป็นประจำทุกปี โดยประเทศสมาชิก IFMA จะเวียนกันเป็นเจ้าภาพ ซึ่งหลังจากที่ปีนี้ไทยเป็นเจ้าภาพ ในปีหน้าจะไปจัดที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งสิ่งที่สร้างความปลาบปลื้มให้แก่ประชาชนชาวไทยเป็นอย่างมากคือ “เจ้าชายฟาฮัด บิน มันซัว อัล ซาอุด” แห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงชื่นชอบและให้การสนับสนุนมวยไทยเป็นอย่างดี โดยเมื่อเดือน มี.ค.2566 ที่ผ่านมา เจ้าชายฟาฮัดได้เป็นประธานในการจัดกิจกรรม "มวยไทยเพื่อเฉลิมฉลองการสานสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย" ซึ่งจัดโดยสถานทูตไทย ณ กรุงริยาด ร่วมกับสมาพันธ์มวยไทยแห่งซาอุดีอาระเบีย เพื่อเฉลิมฉลองการสานสัมพันธ์ทางการทูต ส่งเสริม "มวยไทย" สู่สากล และกระชับความสัมพันธ์อันดี ขณะเดียวกัน ยังมีการลงนามความร่วมมือเพื่อส่งเสริมเป้าหมายร่วมกัน และเผยแพร่ศิลปะมวยไทย ซึ่งเป็นกีฬาที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ให้การรับรองให้เกิดการแพร่หลายอีกด้วย
นอกจากนั้น ทางด้าน “อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์” ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง และอดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ยังได้เป็นประธานในงาน “Muaythai Brazilian Championships” ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศบราซิล ในระหว่างวันที่ 14-16 เม.ย.2566 ที่ผ่านมา จึงนับได้ว่ามวยไทยได้รับการสนับสนุนทั้งจากราชวงศ์ของซาอุดีอาระเบีย และบุคคลชั้นนำของโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ขณะที่กีฬากุน ขแมร์ ของกัมพูชานั้นกลับถูกผู้คนจากประเทศต่างๆ วิพากษ์วิจารณ์ไปในทางลบ โดยส่วนใหญ่พูดตรงกันว่าไม่เคยรู้จักกีฬาประเภทนี้มาก่อน
IFMA ยันตัดสิทธิชิงแชมป์มวยโลก
ทุกประเทศที่เข้าร่วม “กุน ขแมร์”
ทั้งนี้ ประเด็นที่กำลังถูกจับตาว่าเป็นการ “วัดใจ” ประเทศสมาชิก IFMA คือข้อห้ามไม่ให้ประเทศสมาชิกเข้าร่วมแข่งขันกุน ขแมร์ ของ IFMA ซึ่ง ดร.ศักดิ์ชาย ชี้แจงว่า ตามระเบียบของ IFMA นั้น หากประเทศสมาชิก IFMA ประเทศใดเข้าร่วมแข่งขันกุน ขแมร์ ในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้จะถูกตัดสิทธิทำให้ไม่สามารถส่งนักชกเข้าร่วมแข่งขันศึกชิงแชมป์มวยไทยโลก 2023 ที่ประเทศไทยได้ ส่วนจะถูกตัดสิทธิเป็นเวลากี่ปีนั้น หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันซีเกมส์ทาง IFMA จะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักมวยไทยที่ไปขึ้นชกมวยในเวทีอื่นๆ ของกัมพูชา ซึ่งไม่ใช่ซีเกมส์ จะไม่ถูกตัดสิทธิในการแข่งขันศึกชิงแชมป์มวยไทยโลก 2023 แต่อย่างใด ยังสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้
“ที่แน่ๆ ใครไปลงแข่งกุน ขแมร์ ในการแข่งขันซีเกมส์จะไม่ได้ลงแข่งชิงแชมป์มวยไทยโลกแน่นอน และหลังการแข่งขันซีเกมส์แล้วทาง IFMA จะพิจารณาอีกครั้งว่าประเทศสมาชิกและตัวนักมวยที่ลงแข่งกุน ขแมร์ จะถูกแบนนานเท่าไหร่ หรือจะมีบทลงโทษใดบ้าง” ดร.ศักดิ์ชาย ระบุ
"สื่อโซเชียล" เห็นตรงกัน
"กุน ขแมร์" อาจหมดโอกาสเกิด
อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายโดยเฉพาะบรรดาสื่อโซเชียลต่างวิเคราะห์ตรงกันว่าการจัดศึกชิงแชมป์มวยไทยโลก 2023 ครั้งนี้อาจส่งผลให้ “กุน ขแมร์” แท้งก่อนที่จะแจ้งเกิด เนื่องจากกติกาของ IFMA ที่ระบุว่าหากประเทศสมาชิกประเทศใดส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันกุน ขแมร์ ในการแข่งขันซีเกมส์ ที่ประเทศกัมพูชา จะถูกตัดสิทธิไม่สามารถส่งนักมวยเข้าแข่งขันในศึกชิงแชมป์มวยไทยโลก 2023 ได้ ซึ่งอาจส่งผลให้บางประเทศจาก 7 ชาติที่เคยแจ้งว่าจะส่งนักกีฬาลงแข่งขันกุน ขแมร์ ตัดสินใจถอนตัวในที่สุด เพราะเกรงจะถูกตัดสิทธิจากศึกชิงแชมป์มวยไทยโลกซึ่งเป็นรายการที่ใหญ่กว่า และอาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของนักมวยประเทศตนเอง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะส่งผลให้กัมพูชาไม่สามารถจัดแข่งขันกุน ขแมร์ ได้เนื่องจากมีชาติที่เข้าร่วมแข่งขันไม่ครบ 4 ประเทศ (กฎของซีเกมส์ระบุว่าทุกชนิดกีฬาต้องมีชาติแข่งขันไม่น้อยกว่า 4 ประเทศ) และนี่คือ “หมัดน็อก” ที่จะส่งให้กุน ขแมร์ ลงไปกองตั้งแต่เพิ่งก้าวขึ้นเวที
ซึ่งประเด็นดังกล่าวนั้น ดร.ศักดิ์ชาย มองว่า ไม่เกี่ยวกัน เนื่องจากมวยไทยและกุน ขแมร์ เป็นคนละประเภทกีฬา แต่ละประเทศต่างก็มีสิทธิที่จะจัดการแข่งขันกีฬาของตนเอง
ด้าน “ทราย” ฐิติมา พุทธรัตน์ เจ้าของเพจ “คุยเฟื่องเรื่องมวย” ซึ่งมีผู้ติดตามถึง 1.9 แสนคน แสดงความเห็นว่า จัดการแข่งขันศึกชิงแชมป์มวยไทยโลก 2023 ที่ประเทศไทยครั้งนี้ถือเป็นการตอบโต้ที่ดี แสดงให้เห็นว่ามวยไทยเป็นกีฬาระดับโลกที่นานาชาติยอมรับ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของคนไทยในฐานะประเทศเจ้าภาพ ซึ่งจะมีทั้งนักมวย ทีมงาน และสื่อจากกว่า 100 ประเทศที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประเทศไทย และที่สำคัญยังเป็นเวทีให้นักมวยไทยได้โชว์ฝีมือให้ทั่วโลกประจักษ์
“มวยไทยก็คือมวยไทย กุน ขแมร์ก็คือ กุน ขแมร์ เป็นกีฬาคนละประเภทกัน เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วชาวเขมรส่วนใหญ่ชื่นชมมวยไทย ช่วงที่มีประเด็นเรื่องกุน ขแมร์ ใหม่ๆ ทางเพจเคยไปดูการชกของตะวันฉาย ซึ่งเป็นนักมวยไทยที่ไปชกกับนักมวยเขมร ในงานกาชาดกัมพูชา เราใส่เสื้อที่มีชื่อตะวันฉาย ปรากฏว่ามีชาวกัมพูชาเดินเข้ามาบอกว่าเขาชื่นชมมวยไทย มีแค่คนกลุ่มน้อยที่แอนตี้มวยไทย เช่น โซเชียลเขมร ขณะนักมวยไทยกับนักมวยเขมรก็ไม่ได้เกลียดกันนะ ทุกคนมองว่าต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง แต่ถามว่าคนกัมพูชาเชื่อไหมว่า กุน ขแมร์ เป็นต้นแบบมวยไทย เขาก็เชื่อตามที่รัฐบาลเขาให้ข้อมูลนะ” ฐิติมา กล่าว
“เขมร” จ้างมวยวัดของไทยเป็นคู่ชก
หวังสร้างภาพ “กุน ขแมร์” โคตรเก่ง
อย่างไรก็ดี มีคนตั้งข้อสังเกตว่าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ กัมพูชามีการจัดการแข่งขันชกมวยโดยพยายามจับคู่ชกระหว่างนักมวยไทยและนักมวยกัมพูชา โดยมักเลือกนักมวยโนเนมของไทยไปเป็นคู่ชก เพื่อสร้างภาพว่า กุน ขแมร์ เหนือกว่ามวยไทย
ซึ่งเรื่องนี้ เจ้าของเพจ “คุยเฟื่องเรื่องมวย” ซึ่งคลุกคลีอยู่ในแวดวงมวยไทยมานานให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า นักมวยไทยที่เดินทางไปชกที่เขมรในช่วงนี้นั้นมีอยู่ 2 กลุ่ม คือ นักมวยที่ไม่มีชื่อเสียงและเดินสายชกเพื่อหาเงิน ซึ่งเรียกกันว่า “นักมวยงานวัด” และนักมวยอาชีพที่หมดสภาพ ไม่ได้สังกัดค่าย บางคนก็อ่อนซ้อม กินเหล้าเมายา และไม่สามารถขึ้นชกบนเวทีใหญ่ๆ ซึ่งนักมวยเหล่านี้ไปชกที่เขมรเพื่อหาเงินเท่านั้น ไม่ได้หวังชื่อเสียง และด้วยความที่อ่อนซ้อมจึงมักปรากฏภาพนักมวยไทยซึ่งไปชกที่เขมรส่วนใหญ่จะ “แพ้น็อก”
ส่วนค่ายมวยต่างๆ โดยเฉพาะค่ายมวยใหญ่ๆ นั้นปัจจุบันไม่มีค่ายไหนส่งนักมวยไปชกที่เขมร อย่างกรณี แซมมี่ บัญชาเมฆ ซึ่งเพิ่งชนะน็อกนักมวยกัมพูชาเมื่อไม่กี่วันมานี้ ก็เดินทางไปชกเอง บัวขาว บัญชาเมฆ ไม่ได้ส่งไปอย่างที่บางคนเข้าใจ โดยแซมมี่เป็นครูมวยที่มียิมของตัวเอง ไม่ได้สังกัดค่ายไหน หรือกรณี เพชรภูทอง ซึ่งตอนแรกมีข่าวว่าจะไปขึ้นชกที่กัมพูชา แต่เฮียสมหมาย เจ้าของค่าย ส.สมหมาย ไม่ให้ไป นอกจากนั้น ในส่วนของเวทีมวยของไทยไม่มีการเชิญนักมวยเขมรมาขึ้นชก ทั้งนี้ เพื่อป้องกันปัญหาดรามาที่จะตามมาทั้งจากฝั่งไทยและกัมพูชา
“นักมวยไทย 90% ที่ไปชกที่เขมร ในวงการมวยไทยไม่มีใครรู้จัก หรือบางคนซึ่งเคยเป็นที่รู้จักก็ร้างลาเวทีไป ไม่มีสังกัด พอทางทีมงานของกัมพูชามาโพสต์หานักมวยพิกัดน้ำหนักเท่านั้นเท่านี้ไปชกที่เขมร นักมวยที่ปกติไม่ได้มีงาน อยู่บ้านเฉยๆ วันๆ ไม่ได้ซ้อม ก็ไปชกเพื่อรับค่าตัว บางคนชกที่เมืองไทยอาจจะได้ 10,000 แต่ไปชกที่เขมรถึงจะแพ้ก็ได้ 15,000 ซึ่งแต่ละคนก็เดินทางไปคนเดียว ไม่ได้มีทีมงาน แม้แต่พี่เลี้ยงข้างเวทียังเป็นคนเขมรเลย ซึ่งเขมรก็รู้จุดอ่อนตรงนี้ดี เลยจ้างไปชกเพื่อสร้างชื่อให้นักมวยกัมพูชา แต่วงการมวยไทยก็ไม่ได้แอนตี้นักมวยเหล่านี้นะ เราเข้าใจว่าทุกคนต้องทำเพื่อปากท้อง เพื่อครอบครัว แต่ทั้งนี้ส่วนใหญ่ไม่ชอบใจที่ไปชกแล้วแพ้ ทำให้มวยไทยเสียชื่อ” เจ้าของเพจ คุยเฟื่องเรื่องมวย ระบุ
รองประธานมวยเขมร
เผยเนื้อแท้ กุน ขแมร์
แต่ล่าสุดแผนการสร้างภาพความยิ่งใหญ่ให้นักมวยกุน ขแมร์ ก็ล้มไม่เป็นท่า เพราะปรากฏว่าในการแข่งขัน กุน ขแมร์ ที่เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2566 ที่ผ่านมา “แซมมี่ บัญชาเมฆ” นักชกชาวไทย ชนะน็อก “เซียน เลวี” นักชกเจ้าถิ่นคาบ้าน ทำเอาแฟนกุน ขแมร์ ซึมไปตามๆ กัน ทว่า นายศรี จันทน รองประธานสหพันธ์มวยกัมพูชา กลับไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เป็นการตัดสินที่ไม่เป็นธรรม และมีการโกงกันเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ “ผู้จัดการแข่งขันคือกัมพูชา เวทีจัดที่ประเทศกัมพูชา กรรมการก็เป็นชาวกัมพูชา แม้แต่พี่เลี้ยงของนักมวยไทยก็เป็นชาวกัมพูชา”
งานนี้เท่ากับเป็นการกระชากหน้ากากของมวยขแมร์ให้ชาวโลกได้เห็นว่าแท้จริงแล้ว “กุน ขแมร์” เป็นเพียงการต่อสู้จอมปลอมที่ถูกอุปโลกน์ขึ้น ขณะที่ผู้หลักผู้ใหญ่ของกัมพูชาก็ไม่เคยเคารพกติกาใดๆ และพร้อมจะใช้เล่ห์เหลี่ยมทุกอย่างเพื่อให้นักชกของตนได้รับชัยชนะ จึงไม่แปลกที่นานาประเทศจะไม่ให้การยอมรับกุน ขแมร์ และนี่คือการ “ล้มหัวฟาดพื้น เพราะสะดุดขาตัวเอง” ของกุน ขแมร์ อย่างแท้จริง
เมื่อผนวกกับความยิ่งใหญ่ในการจัดการแข่งขันศึกชิงแชมป์มวยไทยโลกของประเทศไทย ซึ่งเปรียบเสมือน “สปอตไลต์” ที่จะกลบแสงไฟคบเพลิงของซีเกมส์ที่ประเทศกัมพูชา ส่งผลให้ชนิดกีฬาที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อย่างกุน ขแมร์ ไม่ได้รับความสนใจอย่างที่หวัง ขณะเดียวกัน มีความสุ่มเสี่ยงที่กัมพูชาอาจจะไม่สามารถจัดการแข่งขันกุน ขแมร์ ได้เนื่องจากประเทศสมาชิกถอนตัวเพราะกลัวจะถูก IFMA ตัดสิทธิในการแข่งขันมวยไทยโลก จึงอาจเป็นสาเหตุให้กุน ขแมร์ “แท้งตั้งแต่ยังไม่เกิด”!!