ทนายความยุคใหม่ใช้ Social เพิ่มมูลค่า “ทนายวันชัย” ชี้ถ้าช่วยประชาชนจริงถือเป็นเรื่องดี คนในวงการยอมรับว่าทนายไม่มียศถาบรรดาศักดิ์ จึงต้องการความพิเศษ ตั้งชมรมฯ ช่วยประชาชนเป็นแค่ส่วนหนึ่ง มีสื่อเกาะติด กลายเป็นการเพิ่มลูกค้า Up ราคาขึ้น ลูกความบางรายต้องการเป็นข่าว ต้องการพบผู้หลักผู้ใหญ่ จนถึงออกรายการทีวีดัง ด้านสภาทนายความฯ ย้ำยึดมรรยาททนาย ฝ่าฝืนมีโทษถึงขั้นลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ
การตอบโต้กันไปมาระหว่างทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ทนายตั๊มเปิดภาพถุงเงิน 6 ล้านบาท พร้อมด้วยแคปชัน “แฉไป ไถไป” ซึ่งเป็นเงินที่เกี่ยวพันกับธุรกิจพนัน นำไปสู่การบริจาคให้โรงพยาบาล 2 แห่ง จนโรงพยาบาลต้องนำเงินมาคืนในที่สุด จากนั้นเพจของชูวิทย์ โพสต์ภาพหลักฐานค่าแถลงข่าว 3 แสนบาทของทนายษิทรา พร้อมแคปชัน “แถลงไป ไถไป”
ผลของการตอบโต้กระทบไปยังทนายท่านอื่นอย่างทนายนิด้า และรายการดังอย่างโหนกระแส นอกจากนี้ ยังเปิดชื่อนายพลตำรวจที่เกี่ยวข้องกับถุงเงินดังกล่าว จนนำไปสู่การฟ้องร้องกัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่ารอบนี้น้ำหนักของรถทัวร์ถูกเทมาที่ทนายษิทรา เป็นพิเศษ ซึ่งเจ้าตัวก็ทราบดี “ณ วันนี้ทุกคนด่าผม สาปผมไปเถอะครับ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมทัวร์ลง ผมพูดอะไรที่พวกคุณชอบ คุณก็อวยผม ผมเห็นต่างคุณก็เอาทัวร์มาลง ผมผ่านสังคมล่าแม่มดมากี่ยุคกี่สมัย เรื่องแค่นี้เรื่องเล็กๆ อย่างเรื่องนี้เองตามกฎหมาย มันเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง คุณก็รู้ก็เห็นกันดี อดทนรอดูกันไปยาวๆ แล้วกันครับ”
ช่วยเหลือประชาชนเป็นเรื่องดี
เรื่องความขัดแย้งระหว่างบุคคลเป็นเรื่องที่คู่กรณีต้องต่อสู้กันตามกระบวนการตามกฎหมาย แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ต้องหันกลับมามองวงการทนายความว่าเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากน้อยเพียงใด
ทนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา แสดงความคิดเห็นว่า เป็นทนายความมากว่า 40 ปี เฝ้ามองพฤติกรรมของทนายความรุ่นหลังๆ มักเป็นทนาย Social หากเป้าหมายการเป็นทนาย Social ถ้าเป็นการให้ความรู้ประชาชนจริงๆ ด้วยใจบริสุทธิ์ ทำไปด้วยจรรยาบรรณถือว่าเป็นการช่วยเหลือวงการทนาย ผดุงความยุติธรรม เป็นการสร้างชื่อเสียงให้วงการทนายความมาก แต่หากสังคมมองวิธีการทำงานของทนายรุ่นใหม่ๆ ในด้านไม่ดี หรือขัดกับมรรยาททนายความ ทางสภาทนายความต้องเข้ามาดูแลในเรื่องนี้
ระวังมรรยาทข้อ 18
ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความฯ กล่าวว่า สภาทนายความฯ มีข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วยมรรยาททนายความข้อ 18 ที่ระบุไว้ชัดเจนเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ ดำเนินธุรกิจ หรือประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความอยู่แล้ว ส่วนการกระทำดังกล่าวจะเข้าข่ายตามข้อ 18 ที่ว่าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงการประกอบธุรกิจ โดยข้อเท็จจริงตรงนี้จะได้มาจาก
1.ตัวผู้เสียหายร้องต่อสภาทนายความกล่าวหาเป็นคดีมรรยาททนายความ
2.ทนายความด้วยกันเองร้องเป็นคดี มรรยาททนายความ และ
3.เมื่อความปรากฏ ซึ่งกรรมการมรรยาทมีอำนาจหยิบยกขึ้นมาพิจารณาว่า เข้าข่ายผิดมรรยาททนายความหรือไม่
อยากฝากถึงทนายความทั่วประเทศว่าตอนนี้วิชาชีพทนายความถูกจับตามองจากสังคม เเละอยากฝากถึงประชาชนว่าสภาทนายความให้ความเป็นธรรมทุกคน พร้อมขอความร่วมมือจากทนายความทั่วประเทศให้คำนึงถึงข้อบังคับยึดมั่นในมรรยาททนาย
มรรยาททนายความ
ทั้งนี้ ในการกำกับดูแลทนายความมีข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ.๒๕๒๙ มีหลายข้อที่น่าสนใจดังนี้
ข้อ ๑๐ ใช้อุบายอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวต่อไปนี้เพื่อจูงใจให้ผู้ใดมอบคดีให้ว่าต่าง
หรือแก้ต่าง
(๑) หลอกลวงให้เขาหลงว่าคดีนั้นจะชนะ เมื่อตนรู้สึกแก่ใจว่าจะแพ้
(๒) อวดอ้างว่าตนมีความรู้ยิ่งกว่าทนายความคนอื่น
(๓) อวดอ้างว่าเกี่ยวเป็นสมัครพรรคพวกรู้จักคุ้นเคยกับผู้ใดอันกระทำให้เขาหลงว่า ตนสามารถจะทำให้เขาได้รับผลเป็นพิเศษนอกจากทางว่าความ หรือหลอกลวงว่าจะชักนำจูงใจให้ผู้นั้นช่วยเหลือคดีในทางใดๆ ได้ หรือแอบอ้างขู่ว่าถ้าไม่ให้ตนว่าคดีนั้นแล้วจะหาหนทางให้ผู้นั้นกระทำให้คดีของเขาเป็นแพ้
ข้อ ๑๖ แย่ง หรือทำการใดในลักษณะประมูลคดีที่มีทนายความอื่นว่าต่างแก้ต่างอยู่แล้วมาว่า หรือรับ หรือสัญญาว่าจะรับว่าต่าง แก้ต่างในคดีที่รู้ว่ามีทนายความอื่นว่าอยู่แล้ว เว้นแต่
(๑) ได้รับความยินยอมจากทนายความที่ว่าความอยู่ในเรื่องนั้นแล้ว
(๒) มีเหตุผลอันควรเชื่อว่าตัวความได้ถอนทนายความคนก่อนจากการเป็นทนายความของเขาแล้ว หรือ
(๓) ทนายความผู้ว่าความในเรื่องนั้นปฏิเสธ หรือแสดงความไม่สมัครใจที่จะว่าความในคดีนั้นต่อไปแล้ว
ข้อ ๑๗ ประกาศโฆษณา หรือยอมให้ผู้อื่นประกาศโฆษณาใดๆ ดังต่อไปนี้
(๑) อัตราค่าจ้างว่าความ หรือแจ้งว่าไม่เรียกร้องค่าจ้างว่าความ เว้นแต่การประกาศโฆษณาของทนายความเกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายซึ่งดำเนินการโดยสภาทนายความเอง หรือโดยสถาบัน สมาคม องค์การ หรือส่วนราชการใดที่เกี่ยวข้อง หรือ
(๒) ชื่อ คุณวุฒิ ตำแหน่ง ถิ่นที่อยู่ หรือสำนักงาน อันเป็นไปในทางโอ้อวดเป็นเชิงชักชวนให้ผู้มีอรรถคดีมาหาเพื่อเป็นทนายความว่าต่าง หรือแก้ต่างให้ เว้นแต่การแสดงชื่อ คุณวุฒิ หรืออื่นๆ ดังกล่าวตามสมควรโดยสุภาพ
ข้อ ๑๘ ประกอบอาชีพ ดำเนินธุรกิจ หรือประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ
สำหรับโทษของการผิดมรรยาททนายความมี 3 สถานคือ 1.ภาคทัณฑ์ 2.ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนดไม่เกินสามปี หนักที่สุดคือ 3.ลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ
มิติใหม่ทำได้ครบวงจร
ทนายความผลงานดีรายหนึ่งมองวงการทนายความด้วยกันว่า ทนายความจะมีเรื่องมรรยาททนายความควบคุมอยู่ เช่น ห้ามแย่งลูกความกันหรือห้ามโฆษณา พูดง่ายๆ คือ การจะหาทนายความมาทำคดีให้มักจะเป็นการสอบถามกันแบบปากต่อปาก ดังนั้นทนายความรุ่นเก่าๆ จึงต้องใส่ใจในเรื่องการทำงาน เพราะความสำเร็จในคดีจะมีผลต่อลูกค้าในอนาคต ระบบนี้ยังคงใช้กันอยู่จนถึงวันนี้
ปัจจุบันเป็นยุค Social ความรู้ทางกฎหมายถูกถ่ายทอดผ่านช่องทางสื่อสารบนโลก Social ด้วยแพลตฟอร์มต่างๆ หากเป็นการตั้งใจให้ความรู้ย่อมถือว่าเป็นเรื่องดี
ทนายรุ่นใหม่บางคนเขาลอดกฎระเบียบเรื่องของสภาทนายความได้ทุกช่องทาง เขาจะมีงานส่วนหนึ่งทำเพื่อช่วยเหลือประชาชน ช่วยเหลือในการดำเนินคดีฟรี หรือพาไปแจ้งความกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ทนายเหล่านี้จะมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับสื่อมวลชน แต่ละคดีที่พอผู้เสียหายไปแจ้งความจะมีสื่อตามไปทำข่าวด้วย
มันคือ Win-Win ทนายได้ผลงาน ได้ออกสื่อกลายเป็นผลงานของทีมทนาย นักข่าวได้ข่าวส่งให้ต้นสังกัด ถ้าเป็นคดีสำคัญหรือถูกกล่าวถึงกันมากย่อมส่งผลต่อเรตติ้งของสถานี คนดูข่าวก็จะซึมซับถึงทนายคนดังกล่าว หากจำเป็นต้องนึกถึงทนายก็จะนึกถึงทนายที่ตัวเองคุ้นเคย ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดในการหาลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาที่สำนักงานทนาย
การช่วยเหลือประชาชนส่วนหนึ่งแล้วมีลูกค้าใหม่เพิ่มเข้ามาก็ถือว่าคุ้มค่า ถ้าทุกอย่างเอื้ออำนวยจากคดีของลูกความจะถูกยกระดับเข้าสู่รายการทางทีวีของช่องดัง ออกอากาศสด ในรายการอาจมีแขกรับเชิญที่เพิ่มเข้ามาทั้งผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ที่ตรงกับเรื่อง ทนายความต้นเรื่อง และอาจรวมไปถึงตัวแทนของกระทรวงยุติธรรมที่มักเข้ามาเป็นแขกรับเชิญด้วย
สูตรนี้ถือเป็นความสมบูรณ์ของงานทนายยุคใหม่
แรงผลักดัน
เมื่อทนายออกสื่อตลอดคนทั่วไปย่อมจำได้ ใครที่เดือดร้อนก็มักจะนึกถึงทนายเหล่านี้ การเข้าไปติดต่อมีทั้งฟรีและไม่ฟรี ขึ้นอยู่กับแต่ละสำนักงานทนายความว่าจะวางเงื่อนไขหรือนโยบายไว้อย่างไร เน้นรับลูกค้ากลุ่มไหนซึ่งจะสัมพันธ์กับราคาในการให้บริการ
หากมองด้วยความเป็นธรรมแล้วในวงการทนายความด้วยกัน ตัวระบบที่คุมการทำงานของทนายความอยู่ก็มีผลให้ทนายรุ่นใหม่หันไปหาทางออกด้วยแนวทางอย่างที่เห็น ทนายจะมีสายงานตามหัวหน้า ถ้าหัวหน้ามีตำแหน่งมีชื่อเสียงจะมีผลต่อรายได้ ทนายความบางรายอาจมีงานน้อยจนกระทบต่อการดำรงชีวิต
อาชีพทนายความอยู่ได้ด้วยผลงานและความน่าเชื่อถือ ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์ จนบางคนจึงต้องการความพิเศษ มีชมรม มีมูลนิธิขึ้นมาภายใต้กรอบจริยธรรม
ถามว่าสิ่งเหล่านี้มีผลต่อรายได้หรือไม่ ตอบได้เลยว่ามี คุณออกสื่อได้ภาพช่วยเหลือประชาชน งานวิ่งเข้าหาแน่นอน บางคนไม่ต้องว่าความก็ได้แค่เป็นคนนำผู้เสียหายร้องเรียน งานก็จะไหลเข้ามาที่สำนักงาน แล้วให้ทนายในทีมงานรับงานไป
ยิ่งทนายความที่ออกสื่อบ่อยๆ มักจะมีสำนักข่าวต่างๆ ติดตามอยู่ การใช้บริการกับทนายความดังมักจะตามมาด้วยข่าว เสมือนเป็นอีกบริการหนึ่งของทนายความยุคใหม่ แถมยังสามารถพาไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อบุคคลสำคัญที่คนทั่วไปยากต่อการเข้าถึง หรือไกลไปถึงการออกรายการทีวีดังสร้างกระแสรับรู้ใหัคนทั้งประเทศ แล้วคิดว่าราคาจะเป็นราคาทนายความปกติหรือไม่
บางรายก็ตั้งเป้าใช้ความรู้ด้านกฎหมายขยับขึ้นไปเล่นการเมือง ซึ่งนักการเมืองหลายท่านก็มาจากทนายความเช่นกัน
ส่วนตัวแล้วอยู่ในวัยใกล้เคียงกับทนายที่เป็นข่าว Social Media เราก็ใช้อยู่ ขึ้นอยู่กับใครจะเลือกใช้แบบไหนและวางเส้นทางเดินของชีวิตเป็นแบบไหน แต่อยากให้คำนึงถึงคนที่เดือดร้อน หรือลำบากจากการถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้มีความรู้ทางกฎหมาย ถ้าช่วยเขาได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://m.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/?locale2=th_TH
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4jv
