xs
xsm
sm
md
lg

“นารา เครปกะเทย” มาแนวใหม่ “โอน 9 ร้อยจ่าย 1 หมื่น”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กล่องสุ่มนาราไปไม่รอด เข้าพบเลขาฯ รมว.ยุติธรรม เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยคืนเงินให้ผู้เสียหายกล่องสุ่ม ล่าสุด แนะเข้ากลุ่มไลน์อ้างมีรางวัลให้ แต่ต้องโอนเงิน 900 บาทเข้าไปก่อนถึงจะโอนเงินให้ 1 หมื่นบาท คนวงในชี้วิธีหมุนเงินใหม่ใช้หนี้คนเก่าด้วยรูปแบบเปิดบิลไปไม่รอดโอน 4,500 รับ 6,500 ผลตอบแทนกว่า 44% สุดท้ายกลายเป็นหนี้ก้อนใหม่วนเป็นงูกินหาง

ถูกกลับมาพูดถึงอีกครั้งสำหรับเน็ตไอดอลคนดังอย่างนารา เครปกะเทย หรือนายอนิวัต ประทุมถิ่น ล่าสุด ถูกเพจดังพร้อมใจกันโพสต์เตือนถึงการเข้าไปซื้อสินค้า หรือร่วมลงทุนกับข้อเสนอของเพจนารา

เริ่มที่เพจ Red skull อ๊อดแอด โพสต์เมื่อ 6 มีนาคม 2566 “เตือนภัยมิจฉาชีพระดมทุน เอาเงินชาวบ้านไปหมุนโดยใช้โมเดลกล่องสุ่มนำหน้า เป็นเน็ตไอดอลที่อาศัยกระแสเรื่องการเมืองเพื่อผลประโยชน์ในธุรกิจ จริงๆ แล้วแม่งไม่ต่างกับพวกทำบ้านออมเงิน หรือบ้านแชร์เลย แค่เสนอผลตอบแทนในรูปของกล่องสุ่มมูลค่าสูง สุดท้ายพอหมุนเงินไม่ทันก็ผัดผ่อนไปเรื่อย

"แม่ค้าออนไลน์ชื่อดังใกล้หมดตัว ติดหนี้หลายสิบล้านไม่มีเงินเคลียร์ กำลังหลอกคนให้ลงทุนร่วมหุ้น ผลกำไรงาม อย่าเชื่อ อย่าโลภ เพราะกำลังจะโดนหลอก" (คำใบ้ ปลูกข้าว ขนมปังหมดอายุ) เพจอีซ้อขยี้ข่าว2 เมื่อ 7 มีนาคม 2566

นารา เครปกะเทย ได้มีการออกมาไลฟ์ นาราไม่โกง นาราติดหนี้ 500 กว่าคน นาราใช้จนเหลือ 90-100 คน ใช้ทุกคนเพราะเราเป็นหนี้เขาแล้วนาราใช้ วันหนึ่งนาราเป็นหนี้อาจจะหนีไปแล้ว หรือฆ่าตัวตายไปแล้วก็ได้ แต่นาราเลือกที่จะไม่ทำ นาราเลือกที่จะกลับมาใช้หนี้

โดยความเคลื่อนไหวของนารา เครปกะเทย ถูกเพจหน่วยป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์จับตารายงานอย่างต่อเนื่อง


วิ่งหาทนายคลายทุกข์

จนกระทั่ง 16 มีนาคม 2566 นายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือนารา เครปกะเทย พร้อมมารดาได้ปรึกษากฎหมายกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ โดยจะพานารา เครปกะเทย ไปยื่นหนังสือถึงเลขาฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยคืนเงินให้ผู้เสียหายกล่องสุ่มและเปิดบิลที่ยังค้างชำระ โดยให้ผู้เสียหายไปพบกับนารา ได้ที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา

โดยทนายเดชา แนะนำว่า ไปเอาเงินเขามาก็ต้องเอาเงินไปคืน สิ่งที่ควรทำคือต้องหาเงินมาคืนและขอโทษ พร้อมทั้งชี้แจงว่า ผมเข้ามารับเป็นที่ปรึกษาเพื่อเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยให้นารา หาเงินมาคืนผู้เสียหาย ไม่ได้มาสู้คดีกับผู้เสียหายแต่อย่างใด ส่วนการดำเนินคดีอาญาให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน จึงเรียนมายังพี่น้องประชาชนเพื่อทราบ

จากนั้นเพจรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดังได้ออกมาโพสต์ “สตอมากเอาเงินคนอื่นไปยังมีหน้าวิ่งไปหากระทรวงยุติธรรมเพื่อยื้อเวลาอีก #นารา”

กลายเป็นอีกหนึ่งดรามาของนารา เครปกะเทย ที่กระจายไปถึงภาคส่วนต่างๆ มากขึ้นกว่าเดิม

โดน ม.112-กลูต้าอันตราย

สำหรับนายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือนารา เครปกะเทย โด่งดังมาจากการขายเครปแล้วต่อยอดมาขายสินค้าออนไลน์ แต่นารา ต้องมาสะดุดกับการทำโฆษณาขายสินค้าจนเข้าข่ายความผิดมาตรา 112 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ฐานร่วมกันผลิตและเผยแพร่สื่อโฆษณาที่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นการดูหมิ่นสถาบัน ผ่านสื่อออนไลน์ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565

จากนั้นถูกตำรวจสอบสวนกลางจับกุมเครือข่ายผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “ชาร์มาร์ กลูต้า” อาหารเสริมที่มีส่วนผสมสารอันตราย กินแล้วประสาทหลอน หวาดระแวง หรือมีพฤติกรรมรุนแรง หนึ่งในผู้ต้องหามี นารา เครปกะเทย เน็ตไอดอลชื่อดังรวมอยู่ด้วย เมื่อ 27 กันยายน 2565


กล่องสุ่ม 5 หมื่นจ่าย 8 หมื่น

นาราเงียบหายไปสักพัก ส่วนคนที่ติดตามเธออยู่จะทราบดีว่า นาราเริ่มมาทำกล่องสุ่มหลังจากที่ถูกกล่าวโทษ 2 คดี

กล่องสุ่มที่นาราทำมีหลายรุ่น หลายราคา บางรุ่นก็ไม่ปัง จากหลักพันขยับขึ้นไปเรื่อยๆ เช่น กล่องสุ่มนารา 1 แสน ทอง 5 บาท+1 สลึง+เงิน สำหรับผู้ที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 20 เท่านั้น ไม่รวมกล่องหมื่น ส่ง 8 มกราคม หรือกล่องสุ่ม 5 หมื่น ทอง 2 บาท+2 สลึง+เงิน 5 พันบาท ส่ง 11 มกราคม 2566

ผู้เสียหายรายหนึ่งยอมรับว่า ส่วนตัวเข้าไปซื้อกล่องสุ่มราคา 5 หมื่นบาท ตั้งแต่ปลายปี 2565 ได้ทองคำ+เงินสด รวมแล้ว 8 หมื่นกว่าบาท จ่ายเงินก่อนรับของ 1 เดือน สุดท้ายมีการยกเลิกและคืนเงินมาให้ 5 หมื่นบาท

พร้อมยอมรับว่าที่เข้าไปซื้อกล่องสุ่มของนารา เพราะโลภอยากได้ผลกำไร แต่เธอให้เหตุผลว่า เราเข้าไปในฐานะผู้ซื้อ เขาเป็นผู้เสนอเงื่อนไขและรายละเอียดมา เมื่อข้อเสนอเป็นที่พอใจเราก็ตัดสินใจซื้อ ไม่ได้ไปบังคับว่าเขาจะต้องให้เราเท่าไหร่ ถ้าผลตอบแทนน้อยเราก็ไม่ซื้อ

“เราเป็นกลุ่มแรกๆ ที่เกิดปัญหาจึงได้รับการชดใช้คืนเฉพาะเงินต้นเท่านั้น ส่วนกลุ่มหลังๆ อาจไม่โชคดีเหมือนชุดเรา”


เปิด Bill ล้างหนี้

หลังจากที่กล่องสุ่มของนารา เริ่มไปไม่ได้ เธอหันมาใช้วิธีการเปิดบิลช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2565 อ้างว่าเพื่อซื้อสินค้าไว้เพื่อขายใช้หนี้ คนเปิดบิลไม่ต้องทำอะไร แค่โอนเงินให้ 1,500 บาท จ่ายคืน 3,000 บาท (1 หุ้น) อัตราการวางบิลจะเปิดออกมาเรื่อยๆ อย่างล่าสุดถ้าเปิดบิล 12 มีนาคม 2566 หุ้นละ 3,500 บาท ได้คืน 5,000 บาท คิดเป็นผลตอบแทนกว่า 42% พร้อมมีโปรโมชันถ้าเปิดบิล 10 หุ้นจะได้ของแถม 50 หุ้น ให้ทอง 70 หุ้นทองสลึง

ตามมาด้วยคำเชิญชวนเปิดบิลวันที่ 14 มีนาคม 2566 ลงทุน 4,500 บาท รับ 6,500 บาท ใครที่ซัปพอร์ตกันต้องมา ถ้าไม่ใจกันจะไม่ใจกลับ ตนมีความสู้และความพยายาม ขอให้เปิดใจและรู้กัน 10 หุ้นให้ของแถม 50 ให้ทอง 70 ทองสลึง

มาใหม่ให้รางวัลจ่าย 900 รับ 1 หมื่น


ไม่เพียงแค่การเชิญชวนให้มาร่วมกันเปิดบิลกับนารา เมื่อเข้าไปที่เพจอนิวัต ประทุมถิ่น ใครที่ Comment ดีๆ จะมี Admin มาโพสต์ แอดไลน์นี้เข้าไปรับรางวัลได้เลยที่ xxxx เมื่อเข้าไปไลน์ดังกล่าวพบว่ามีข้อความ เข้ามาแล้วช่วยอ่านให้เข้าใจก่อน 1 ชื่อ-นามสกุล 2 เลขบัญชี-ธนาคาร ถ้าจะรับเงินกรอกข้อมูลมาให้ครบ

พร้อมข้อความต่อมา ถ้าพร้อมฝาก 900 บาท รับ 10,000 บาท เงินเข้าบัญชีตอนนี้ให้พิมพ์คำว่าพรอ้มโอน พร้อมชื่อบัญชีรับโอนที่ไม่ใช่ชื่อของอนิวัต ประทุมถิ่น (นารา)

ฝากยืนยันรับเงินรางวัลได้ที่เลขบัญชีดังกล่าว 900 บาท โอนเสร็จแล้วส่งสลิปมาด้วย แจ้งสลิปเสร็จส่งเลขบัญชีของคุณมารับเงิน 10,900 บาทได้เลย ไม่เกิน 5 นาทีเงินรางวัลจะโอนเข้าบัญชีคุณทันทีเลยค่ะ

จากการเข้าไปตรวจสอบตามไลน์ที่เพจของนาราให้ไว้ แต่ละ Line จะมีชื่อบัญชีให้โอนไม่ซ้ำกันคนละชื่อ คนละเลขที่บัญชี


ขายขาดทุนทำได้ไม่นาน

แหล่งข่าวที่ติดตามคดีแชร์ลูกโซ่ กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้วการเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือสินค้าใดผู้ขายมักตั้งราคาขายที่เป็นราคาต้นทุนบวกด้วยกำไรตามที่ต้องการก่อนเสนอขายเสมอ ขายแล้วไม่ได้กำไรคงไม่มีใครทำ เว้นแต่เป็นช่วงโปรโมชันยอมขาดทุนเพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จักในตลาด แต่จะขายในราคาที่ไม่มีกำไรแถมต่ำกว่าต้นทุนสินค้าคงไม่สามารถทำได้นาน

เมื่อย้อนกลับมาดูกล่องสุ่มที่เคยสร้างความฮือฮามาพักหนึ่ง สุดท้ายก็ต้องจบลงทั้งเรื่องต้นทุนและความตื่นเต้นของผู้ซื้อที่อาจไม่สนใจการขายในลักษณะนี้อีกต่อไป แน่นอนว่าคนที่ซื้อแล้วได้สินค้าต่ำกว่าราคาที่จ่ายไปย่อมมีเสียงบ่นออกมาตลอด

กล่องสุ่มก็ไม่ต่างกับการพนัน ต้องขออนุญาตจากทางกระทรวงมหาดไทย การที่จะให้กล่องสุ่มทุกกล่องมีมูลค่าสินค้าอย่างน้อยเท่ากับราคาขายนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะจะเท่ากับผู้ขายไม่มีกำไร เว้นแต่ผู้ขายตั้งราคาสินค้าในกล่องสุ่มไว้สูงกว่าราคาตลาดเช่น ของราคา 50 บาท แต่ตีราคาเป็น 100 บาท ซึ่งแบบนี้ลูกค้าสามารถตรวจสอบได้และจะกลายเป็นตัวที่ทำให้กล่องสุ่มดังกล่าวขาดความน่าสนใจ

หลายรายยังไม่แจ้งความ


ถ้าเรามาพิจารณาจากข้อมูลที่มีผู้เสียหายร้องเข้ามา เช่น กล่องสุ่ม 5 หมื่นบาท ได้ทองคำหนัก 3 บาท และเงินสดอีก 20,000 บาท ย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ทองคำตอนนี้แตะ 3 หมื่นบาท จ่าย 5 หมื่นได้ทอง 6 หมื่นแค่นี้คนทำกล่องสุ่มก็เจ๊งแล้ว ไม่ต้องนับรวมเงื่อนไขอื่น

เว้นแต่จะเจ้าของจะตั้งใจยอมขาดทุนเพื่อสร้างเครดิตช่วงแรก และล่อให้คนใหม่เข้ามาเรื่อยๆ สุดท้ายข้อเสนอแบบนี้จะไม่สามารถทำต่อไปได้อีก จึงเห็นได้ว่าผู้ออกกล่องสุ่ม ยกเลิกการขายกล่องสุ่ม และขอคืนเงินต้นให้ผู้ซื้อ ส่วนจะผิดกฎหมายข้อไหนคงต้องให้เกิดการฟ้องร้องขึ้นก่อน

เท่าที่ทราบกล่องสุ่มของนารา หลายคนยังไม่แจ้งความ ต้องการได้เงินคืนก่อน อีกทั้งนาราก็แสดงความจำนงที่จะขอชดใช้หนี้ เพราะถ้าแจ้งความธุรกรรมทางการเงินจะถูกหยุด กระบวนการทางกฎหมาย การสืบทรัพย์ต่างๆ ใช้เวลาอีกนาน และโอกาสที่จะได้เงินคืนนั้นจากคดีจนถึงขั้นตอนเฉลี่ยทรัพย์อาจเหลือเพียง 1-2% จากเงินต้นเท่านั้น

ดูวิธีเปิด Bill ให้ดี

ถามว่าความตั้งใจที่จะใช้หนี้คือของนาราเป็นเรื่องที่ดี แต่วิธีหรือรูปแบบการหาเงินมาใช้คืนนั้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ กล่องสุ่มที่ทำตอนแรกนั้นถูกกฎหมายหรือไม่ มีข้อบังคับเรื่องสลากแสดงรายละเอียดผลิตภัณฑ์ การไม่ส่งมอบสินค้าตามสัญญาผิดหรือไม่ หรือชดใช้คืนเท่าเงินต้นผิดไปจากสัญญาที่เคยให้ไว้หรือไม่ จ่ายเงินก่อน 1 เดือนแถมไม่ได้รับสินค้าผิดหรือไม่ คนที่มีความรู้ทางกฎหมายย่อมทราบดี

สิ่งที่ต้องหันมาพิจารณากันคือการเปิด Bill ที่หยิบยกมาเป็นเหตุผลหนึ่งของวิธีการชำระหนี้ ในทางปฏิบัติทำได้หรือไม่ เช่น เปิดบิลวันที่ 14 มีนาคม 2566 ลงทุน 4,500 บาท รับ 6,500 บาท นี่คือผลตอบแทน 44.44% ต่างอะไรกับบ้านออมเงินที่เคยเปิดกันมาก่อนหน้านี้ ยังไม่นับรวมว่าถ้าลงทุนมากจะมีของแถมให้อีก

ตัวหลักการก็ไม่ต่างกับกล่องสุ่มคือ ให้ผลตอบแทนสูงกว่าต้นทุนมาก เพียงแต่วิธีเปิด Bill ทำให้ผู้ออกโปรโมชันนี้ไม่ต้องยุ่งเรื่องการเตรียมของเหมือนทำกล่องสุ่ม

ในทางหลักการเงินและลงทุนแล้ว ข้อเสนอแบบนี้ทำได้ก็ต่อเมื่อมีเงินใหม่ไหลเข้ามาเรื่อยๆ ตราบใดที่เงินใหม่ไม่เข้ามา ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด แนวทางนี้จะล่มในที่สุด คือถ้าใช้วิธีหาเงินใหม่แบบนี้มาหมุนใช้หนี้เก่าแบบนี้สุดท้ายก็ต้องมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นอีกอยู่ดี

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

Facebook :https://m.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/?locale2=th_TH





กำลังโหลดความคิดเห็น