รัฐบาลยังนิ่งปัญหา “เคลมโบเดีย” แอดมินฝั่งไทยพ้อนักการเมืองมัวยุ่งแต่เรื่องหาเสียง ปล่อยนักรบ Cyber 2 ฝ่ายเดินหน้ารบกันต่อ “มวยไทย-กุน ขแมร์” จุดชนวนตอบโต้ ก้าวหน้า-อองตวนเจอทัวร์ลง ตรวจสอบกระแสคนไทยเที่ยวลาวน้อยลงจริงแต่ไม่เกี่ยวประธานมวยลาวเข้าข้างกุน ขแมร์ ชี้ยิ่งนานยิ่งเพิ่มความเกลียดชัง ตอนนี้ชี้เบาะแสจับแรงงานต่างด้าวพร้อมเบอร์ตำรวจ ตม.
การตอบโต้กันไปมาระหว่างกองเชียร์ฝ่ายไทยกับฝ่ายกัมพูชา ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามายุติปัญหา ด้วยประเด็นที่จุดชนวนขึ้นมาคือการเปลี่ยนชื่อกีฬามวยไทยในซีเกมส์ 2023 ที่ประเทศกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ มาเป็นกุน ขแมร์
จนฝ่ายไทยมีมติเมื่อ 31 มกราคม 2565 ไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การกำหนดชนิดกีฬาครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2565 ที่มีการตัดชนิดกีฬาเพาะกายกับลีลาศออก จากนั้นในการส่งคู่มือการแข่งขันให้แต่ละประเทศครั้งแรกของกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2566 ยังคงใช้สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (IFMA) เป็นผู้จัดการแข่งขันอยู่ แต่หลังจากนั้น 18 และ 30 มกราคม ได้มาเปลี่ยนเป็นสหพันธ์กุน ขแมร์นานาชาติ (KIF) แทน
“จากเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะมีการเปลี่ยนแปลงกีฬากันตามใจชอบเจ้าภาพ”
ตามมาด้วยนายสายสมร ไชยสร ประธานสหพันธ์มวยลาวแห่งประเทศลาว ที่ให้การสนับสนุนกุน ขแมร์อย่างเต็มตัว จนได้รับตำแหน่งรองประธานสหพันธ์มวยกุน ขแมร์ นานาชาติ ที่กล่าวว่า "มวยลาว" และ "กุน ขแมร์" นั้นคือศิลปะการต่อสู้แบบเดียวกัน ทว่าโดนประเทศไทยบิดเบือนให้ร้าย
ส่วนประเด็นที่สหพันธ์มวยไทยนานาชาติ หรือ IFMA ข่มขู่ว่าชาติใดส่งกีฬาต่อสู้ "กุน ขแมร์" แล้วจะแบนไม่ให้ส่งแข่งขันมหกรรมกีฬาทั่วโลกนั้น มีการระบุว่า IFMA ไม่มีสิทธิห้ามไม่ให้ชาติอื่นร่วมการแข่งขัน เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาล IFMA คือ เอกชน แบนไม่ได้ และลาวจะส่งร่วมแข่งขันกุน ขแมร์ แน่นอน
คนไทยเที่ยวลาวน้อยลงจริง
เรื่องมวยถือเป็นตัวจุดพลุให้คนไทยรวมตัวกันตอบโต้เพจของกัมพูชา ภายใต้คำแถลงของนายสายสมร ไชยสร ประธานสหพันธ์มวยลาว ทำให้มี Youtuber ชาวลาวหลายรายที่พร้อมใจกันออกมาตำหนิคำพูดดังกล่าวของประธานมวยลาว โดยระบุว่า กระทบต่อการท่องเที่ยวในประเทศลาว ทำให้คนไทยหลายคนตัดสินใจที่จะไม่ไปท่องเที่ยวประเทศลาวจากเหตุการณ์นี้ และทำให้โอกาสในการจ้างงานของพวกเขาลดน้อยลง
จากการตรวจสอบไปยังบริษัททัวร์ต่างๆ ที่ให้บริการท่องเที่ยวประเทศลาว ได้รับคำตอบว่า เรื่องคนไทยเที่ยวลาวน้อยลงนั้นเป็นความจริง แต่ไม่ได้เกิดจากเรื่องความไม่พอใจประธานมวยลาวอย่างที่กล่าวอ้างกัน เสียงสะท้อนจาก Comment ในสื่อ Social อาจไม่ตรงกับความจริงทั้งหมด มีเรื่องของอารมณ์เข้ามาปนอยู่ด้วย
เราไม่ปฏิเสธว่าช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ที่หลายประเทศเริ่มเปิดให้เดินทางท่องเที่ยวกันนั้น เส้นทางลาวถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของคนไทยที่อยากเดินทาง เนื่องจากเงื่อนไขเข้าประเทศน้อย ค่าใช้จ่ายไม่สูง มีจุดขายเรื่องรถไฟความเร็วสูงที่เพิ่งเปิดให้บริการได้ไม่นาน อีกทั้งลาวมีปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ มีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อสูงมาก ลาวจึงต้องการนักท่องเที่ยวให้เข้าไปมากๆ
แต่การที่นักท่องเที่ยวไทยเริ่มไปเที่ยวลดลงประกอบด้วยหลายเหตุผลทางเลือกเริ่มมีมากขึ้น หลายประเทศเริ่มเปิดให้เข้าประเทศได้สะดวกขึ้น คนไทยไปเที่ยวลาวก็ค่อนข้างเยอะอาจอยากเปลี่ยนประเทศเที่ยว ตามมาด้วยราคาท่องเที่ยวในลาวค่อนข้างสูง สูงกว่าเวียดนาม และสูสีกับเกาหลีใต้
ประกอบกับญี่ปุ่นเปิดรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ สำหรับคนไทยแล้วไม่ว่าเดิมตั้งใจจะไปประเทศไหน เมื่อญี่ปุ่นเปิดคนไทยจึงแห่ไปญี่ปุ่นเป็นหลัก ได้ทั้งอากาศเย็น ใบไม้เปลี่ยนสี และหิมะ แถมตอนนี้ฮ่องกงเริ่มเปิดประเทศทำให้คนไทยจำนวนมากทั้งสายกินและสายมู นิยมเดินทางไปฮ่องกง
“คนไทยเที่ยวลาวน้อยลงจึงไม่เกี่ยวกับเรื่องมวยไทย มวยกุน ขแมร์ ที่มีปัญหากันในเวลานี้ อีกประการหนึ่งคือเรื่องตั๋วรถไฟความเร็วสูงนั้นค่อนข้างหาซื้อยาก บางกรุ๊ปจึงมีปัญหาเดินทาง”
เที่ยวลาวมากกว่ากัมพูชา
โอกาสเดียวกันนี้ จึงได้สอบถามถึงเส้นทางทัวร์เขมรว่า เหตุใดจึงไม่เป็นที่นิยมของคนไทย ได้รับคำตอบว่าที่จริงก็มีโปรแกรมไปท่องเที่ยวเขมรบ้าง แต่ขายไม่ค่อยออก ส่วนหนึ่งเพราะเดินทางด้วยรถยนต์สะดวก อาจไปซื้อทัวร์แถบชายแดนก็ได้ แต่ด้วยวัฒนธรรมและสิ่งปลูกสร้างที่มีให้เห็นแถบภาคอีสานของไทย สภาพอากาศก็คล้ายกัน เลยทำให้คนไทยค่อนข้างเฉยๆ กับเส้นทางนี้ จะมีก็กรุ๊ปต่างชาติที่มาเที่ยวในไทยแล้วหาเวลาไปเที่ยว 1-2 วัน ส่วนคนไทยที่นิยมไปอาจเข้าไปเล่นการพนัน
“คนเขาไปเที่ยวก็อยากดูวิว อาหาร อากาศที่แตกต่างไปจากบ้านเรา ส่วนใหญ่มักจะเลือกประเทศที่เจริญกว่าไทย หรือให้ความคุ้มค่าตามงบประมาณมากที่สุด”
เพราะฉะนั้นถ้ามองเรื่องในทางธุรกิจแล้ว ทั้งลาวและกัมพูชามักจะไม่ได้ประโยชน์จากธุรกิจการบิน คนไทยไปเที่ยวลาวถ้านั่งเครื่องไปจะลงแถบชายแดนไทยต้นทุนจะถูกกว่าบินไปลงเวียงจันทน์ หรือหลวงพระบาง ส่วนเดินทางไปกัมพูชาทางรถยนต์สะดวกสุด แต่ถ้าเทียบระหว่างลาวกับกัมพูชาในสายตาของคนไทยนิยมเที่ยวลาวมากกว่ากัมพูชา
ช่วงนี้มวยไทยเดือด
เรื่องของมวยไทยยังกระจายไปถึงรายการอื่นๆ เนื่องจากมีรายการ KAS Fights 6 ที่ สนามโอลด์ สเตเดียม พนมเปญ ระหว่าง "มวยไทย" พบ "กุน ขแมร์" ทั้งหมด 7 คู่ เมื่อวันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ก้าวหน้า พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม นักมวยไทยนำทัพไปชกกับนักชกเขมร ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งถูกท้วงติงอยู่ไม่น้อย จึงได้ออกมาโพสต์ว่า "ทำไมพวกคุณไม่คิดกลับกันบ้างล่ะ การที่พวกผมไปชกเพื่อปกป้องมวยไทยและให้พวกเขาได้รู้ว่ามวยไทยเรา คือ NUMBER 1"
ที่จริงรายการนี้ถูกถล่มตั้งแต่ก่อนชกที่กองเชียร์ไทยไม่เห็นด้วย เหมือนเป็นการยอมรับว่ามีมวยกุน ขแมร์ แถมผลการชก 7 คู่ ไทยแพ้ 4 ชนะ 2 เสมอ 1 ทำให้เฟซบุ๊กของก้าวหน้า ถูกทัวร์ลงอีกรอบ
ส่วนอองตวน ปินโต นักชกมวยไทยเชื้อสายกัมพูชา-ฝรั่งเศส ได้ออกมาโพสต์ถึงคนดูรายการดังกล่าวมีมาก จึงถูกถล่มตามไปด้วย จนต้องออกมาโพสต์ขอโทษ
ขอชี้แจงนะครับ จากโพสต์ก่อนหน้านี้ที่ทำให้เป็นประเด็นเข้าใจผิดในตอนนี้ ผมไม่ได้มีเจตนาในการโพสต์ support กีฬาดังกล่าวตามที่ทุกคนเข้าใจอยู่ตอนนี้ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของผมแสดงออกชัดเจน และยังคงยืนยันคำเดิมอย่างชัดเจนว่าผมอยู่เคียงข้างมวยไทย
“โพสต์นั้นเป็นเพียงแค่การสังเกตเห็นจากรายการที่มีการจัดขึ้นมา ด้วยยอดคนดูที่ขึ้นมาสูง เลยได้แค่มีการโพสต์แสดงความคิดเห็นในพื้นที่ส่วนตัวของผม แต่ผมไม่ได้มีการเจตนาโปรโมตรายการดังกล่าว”
ซึ่งผมเข้าใจว่าบางคนอาจจะเข้าใจผิด ถ้าหากว่าทำให้ใครเข้าใจผิดหรือโกรธผมต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
หวั่นบานปลายจนทำร้ายกัน
จากการสอบถามแอดมินเพจฝ่ายไทยที่ตอบโต้กับฝ่ายกัมพูชา ทราบว่า ตอนนี้ยังไม่มีภาครัฐเข้ามามีบทบาทใดๆ ทุกวันนี้ต่างฝ่ายต่างตอบโต้กันไปมาระหว่างนักรบบนโลก Social ระหว่างไทยกับกัมพูชา เราต้องการเห็นจากรัฐบาลเข้ามายุติปัญหา ทั้งระดับกระทรวงหรือระดับประเทศ แต่ตอนนี้คือเงียบ ส่วนจะทำในเชิงลับหรือไม่ ไม่มีใครทราบได้ แต่การตอบโต้กันไปมานั้นยังไม่หยุดและเกรงว่าอาจจะแรงขึ้นเรื่อยๆ
ต่างฝ่ายก็หาจุดอ่อนของอีกฝ่ายหนึ่งมาโจมตี บางโพสต์ก็ทำขึ้นมาเองเพื่อแดกดันอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า ทางฝ่ายกัมพูชาจะมีการอ้างตัวละครที่มีน้ำหนักเข้ามาโพสต์ ส่วนจะจริงหรือไม่ บางครั้งการตรวจสอบจากฝ่ายไทยคงเป็นเรื่องยาก นักการเมืองไทยช่วงนี้คงให้ความสำคัญกับเรื่องการหาเสียงเพื่อการเลือกตั้งในครั้งหน้าเป็นหลัก ทุกพรรคลงพื้นที่เพื่อขอคะแนนเสียงจากประชาชน แต่อย่าลืมว่าวันนี้ยังไม่มีการประกาศยุบสภา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่างมีอำนาจเต็มในการเข้ามายุติปัญหานี้
“เราเชื่อว่าถ้านายกฯ หรือรัฐมนตรีเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องนี้ท่านน่าจะได้รับความชื่นชมไปได้ไม่น้อย”
สิ่งที่น่าเป็นห่วงจากการตอบโต้ระหว่างกันในขณะนี้คือ ยิ่งนานพัฒนาการของความเกลียดชังระหว่างกันจะมากขึ้น จนเกรงว่าอาจพัฒนาไปสู่ความรุนแรงระหว่างกัน
ชี้ช่องจับแรงงานเถื่อน
เท่าที่ดูลูกเพจโพสต์เริ่มมีการกระตุ้นให้มีการแจ้งจับแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานโดยมิได้รับอนุญาต พร้อมทิ้งเบอร์ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไว้ด้วย บางรายเริ่มชี้เป้าพื้นที่ที่มีแรงงานต่างชาติอาศัยอยู่มากตามย่านต่างๆ
ในเพจของไทยมีชาวกัมพูชาเข้ามาโพสต์ตอบโต้ด้วยเช่นกันซึ่งไม่ต่างกัน เริ่มมีการนัดปะทะกันบ้างระหว่างคนไทยกับชาวกัมพูชา ท้าทายกันแต่ยังไม่เกิดเหตุการณ์จริง แต่เราเกรงว่าถ้าปล่อยให้การตอบโต้กันไปมาโดยไม่มีการเข้ามายุติปัญหา ความโกรธและความเกลียดชังระหว่างคน 2 ชาติจะเพิ่มขึ้นจนอาจเกิดการทำร้ายกันและกัน
ฝ่ายนั้นเขาปลุกกระแสชาตินิยมมาเพื่อหวังผลต่อการเลือกตั้ง ไทยเราจะใช้วิธีการแบบเดียวกับเขาหรือ?
นักการเมืองของไทยรายหนึ่งกล่าวว่า ปัญหากระทบกระทั่งกับกัมพูชานั้นเป็นเรื่องระดับรัฐบาลที่ต้องเข้ามาแก้ปัญหา แต่เข้าใจว่าการจะทำอะไรลงไปอาจถูกชาติอื่นมองได้ว่าเป็นการรังแกชาติที่เล็กกว่า จะเห็นได้ว่าเรื่องที่กัมพูชาเปลี่ยนชื่อมวยไทยเป็นกุน ขแมร์ เราก็กลัวกระทบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ส่วนที่มี Youtuber ต่างชาติบางรายออกมาให้ข้อมูลเรื่องการจ้างงานของลาวและกัมพูชาที่มีน้อยลงนั้นคงเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบกันต่อไป เนื่องจากบางภาคส่วนที่เศรษฐกิจไม่ดีก็ต้องชะลอการจ้างงานออกไป
ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://m.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/?locale2=th_TH
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4jv