“อาจารย์โจ้” เผยราหูทับเมษ ปะทะพระอาทิตย์ ผู้นำจะมีปัญหา มีคดีการเมือง นักการเมืองตระบัดสัตย์ เกิดการฟ้องร้องระหว่างประเทศ การเงินยังสะดุดอีกหลายปี ขณะที่ธุรกิจอสังหาฯ รุ่ง ราคาที่ดินปรับตัวสูงลิ่ว เตือนระวังภัยทางน้ำคลื่นลมทะเล ด้าน “อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ” ระบุ ปี 66 เกิดอุปราคา 4 ครั้ง ทำการเมืองร้อน พรรคแตก กองทัพออกมาเคลื่อนไหว ประชาชนนัดหยุดงาน เกิดภัยแล้ง พืชผลการเกษตรเสียหาย ต้องระวังภัยพิบัติ ทั้งไฟทั้งน้ำ ชี้ธุรกิจสีเทายังครอบคลุมบ้านเมือง
ดวงชะตาราศีเป็นสิ่งที่ผูกพันกับคนไทยมานาน เมื่อใกล้จะเปลี่ยนศักราชใหม่ ข้ามจากปีเสือไปสู่ปีกระต่าย หลายคนจึงอยากรู้ว่าดวงบ้านดวงเมืองในปี 2566 จะเป็นอย่างไร เศรษฐกิจ การเงิน การค้าการลงทุนจะดีหรือไม่? การเมืองจะเปลี่ยนไปในทิศทางใด? จะมีโรคระบาด ภัยธรรมชาติ หรืออุบัติภัยใดๆ เกิดขึ้นเหมือนปีที่ผ่านมาหรือเปล่า?
งานนี้คงต้องให้หมอดูอันดับต้นๆ ของเมืองไทยเป็นผู้ทำนายทายทัก!
ดวง "ผู้นำ" ได้รับผลกระทบ
“อาจารย์โจ้” อาณณัฐ สรรคชา อาจารย์โหราศาสตร์ไทย ได้คำนวณดวงชะตาบ้านเมืองในปี 2566 ไว้ว่า
ดวงเมืองของประเทศไทย ซึ่งเป็นวันที่ได้มีการฝังหลักเมือง คือ วันอาทิตย์ที่ 21 เม.ย.2325 เวลา 06.54 น. เดือน 6 ปีขาล สิริรวมอายุดวงเมืองจะครบ 241 ปี ในวันที่ 21 เม.ย.2566 ซึ่งในปีหน้าจะมีดาวใหญ่ๆ ที่เรียกว่าดาวเทพ หรือดาวจตุรเทพ อันได้แก่ พระเสาร์ ดาวพฤหัส ราหู และมฤตยู จะทำการโยกย้ายตามช่วงเวลา ซึ่งดาวเหล่านี้จะอยู่เป็นระยะเวลานานและมีอิทธิพลมาก เช่น พระเสาร์จะโคจรในแต่ละราศี 2 ปีครึ่ง ดาวพฤหัสโคจรแต่ละราศีใช้เวลา 1 ปี ราหูใช้เวลา 1 ปีครึ่ง ส่วนมฤตยูใช้เวลา 7 ปี
ซึ่งปี 2565 ดาวค่อนข้างจะเดินวิปริต เดินหน้า ถอยหลัง สะดุด หยุดนิ่ง ทำให้เหตุการณ์บ้านเมืองมีปัญหา เมื่ออายุดวงเมืองครบ 241 ปี ในวันที่ 21 เม.ย.2566 จะมีดาวใหญ่มาเจอกันในลัคนาราศีเมษซึ่งเป็นดวงเมือง มีพระอาทิตย์เป็นมหาอุดใหญ่โตมโหฬาร ซึ่งพระอาทิตย์จะเกี่ยวข้องกับผู้นำ ชนชั้นสูง ซึ่งจะได้รับผลกระทบเนื่องจากราหูเข้ามาทับลัคนาราศีเมษตั้งแต่ปีที่แล้ว และยังไม่ออก มีพฤหัสย้ายเข้ามาด้วย และช่วง เม.ย.2566 จะมีชุมนุมดาว พระอาทิตย์ก็เข้ามาอยู่ พระพุธเข้ามาเสริม ราหู 4 ดวง
ขณะที่พระเสาร์จะย้ายจากราศีมังกรเข้าราศีกุมภ์ซึ่งเป็นภพที่ดี เป็นภพที่ 11 ของดวงเมือง ในช่วงต้น มี.ค.2566 ซึ่งพระเสาร์หมายถึงโครงสร้าง อสังหาริมทรัพย์ หลักทรัพย์ ความเป็นมาตรฐาน ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาฯ การก่อสร้างโปรเจกต์ต่างๆ ขยายตัวดีขึ้น
แต่ในลัคนาดวงเมืองพฤหัสกับราหูมาเจอกัน พฤหัสหมายถึงกฎหมาย จริยธรรม องค์กร เข้ามาในตำแหน่งที่ดี เป็นราชาโชคก็จริง แต่ยังมีราหูอยู่ ส่งผลให้การพัฒนากฎหมายหยุดชะงัก ส่วนเรื่องกาลโยคหรือฤกษ์ยาม เมื่อเปลี่ยนปีนักษัตร หลัง 1 ค่ำเดือน 5 ไปแล้ว ดาวเสาร์ได้ธงชัยเป็นกาลโยค พระเสาร์หมายถึงรากฐาน ความมั่นคง ธุรกิจอสังหาริทรัพย์ อุตสาหกรรม เกษตรกรรม ธงชัยหมายถึงความสำเร็จ แปลว่าธุรกิจอสังหาฯ จะพัฒนา ราคาที่ดินจะแพงขึ้น อุตสาหกรรมและการเกษตรจะดีขึ้น ขณะที่ดาวพุธได้อธิบดี ซึ่งดาวพุธหมายถึงการเจรจาต่อรอง การสื่อสาร การทำสัญญา ดาวพุธได้อธิบดีจึงแปลว่าการเจราจะสำเร็จ สัญญาต่างๆ จะรัดกุมขึ้น
การเงิน-การคลังปั่นป่วน
ส่วนดาวศุกร์ได้ทั้งอุบาทว์และโลกาวินาศ ดาวศุกร์หมายถึงการเงินการคลัง จึงแปลว่าการเงินการคลังจะปั่นป่วนวุ่นวาย มฤตยูย้ายเข้ามาพฤษก ทำให้มีต่างประเทศอยากเข้ามาร่วมลงทุน แต่เนื่องจากดาวศุกร์มีอุบาทว์และโลกาวินาศเป็นกาลโยค (ฤกษ์ยาม) ขณะที่ราศีพฤษกเป็นราศีของการเงินการคลัง การจะเข้ามาร่วมลงทุนจึงมีปัญหาเรื่องการต่อรอง การทำสัญญา ซึ่งอาจทำให้การลงทุนสะดุด นอกจากนั้น ดาวพฤหัสเข้ามาเจอราหู จึงทำให้มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายซึ่งทำให้ไทยเสียเปรียบ เช่น ก่อนหน้านี้อาจมีการทำสัญญาระยะยาวไว้ พอจะเปิดการค้าเสรี คู่ค้าเก่าก็เกิดความไม่ไว้วางใจ เกิดการฟ้องร้อง มีคดีความระหว่างประเทศวุ่นวาย แต่ด้วยพื้นฐานดวงเมืองของไทยเป็นนักเจรจาจึงอาจใช้วิธีเจรจานอกรอบได้ แต่ถึงอย่างไรก็ยังเสียเปรียบ
ปี 2566 ดาวมฤตยูยังคงส่งผลให้เกิดโรคระบาดที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันและอากาศ แต่จะไม่รุนแรงเหมือนที่ผ่านมา ส่วนเรื่องภัยพิบัตินั้นเนื่องจากราหูย้ายเข้าราศีมีน ภพวินาศไปทับราหูเดิม ทับพระศุกร์ ทับพุธเดิม ซึ่งยังอยู่ในตำแหน่งพินทุบาทว์ของดวงเมือง มฤตยูอยู่ภพที่ 2 เป็นดาวบาปเคราะห์ ทำมุมเล็งไปที่ราศีตุลย์ซึ่งเป็นธาตุลม เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดจากท้องทะเล จากน้ำจากคลื่นลมทะเลจะเกิดขึ้นได้ ช่วงหลังจากกลางปีไปแล้วต้องระวังภัยทางน้ำคลื่นลมทะเลปั่นป่วนรุนแรง
“การเงินยังมีปัญหาอีกหลายปี เพราะดาวมฤตยูซึ่งจะเริ่มเข้ามากลางปี 2566 และจะมีอิทธิพลถึง 7 ปี หรืออย่างน้อยก็ต้อง 5-6 ปี ซึ่งเศรษฐกิจจะคลายตัวได้ต้องรอให้ราหูย้ายออกไป คือในช่วงเดือน ต.ค.ปีหน้า ดังนั้นปลายปีหน้าก็น่าจะเริ่มหายใจหายคอได้ อย่างไรก็ดี ปีหน้าธุรกิจด้านอสังหาฯ ก่อสร้าง ที่ดินจะมาแรง ราคาที่ดินจะแพงขึ้น จะมีการแย่งชิงในการซื้อขายที่ดินโดยมีนักการเมืองหนุนหลัง ในช่วงเวลาอีกปีกว่านับจากนี้ไม่ว่าใครขึ้นมาเป็นผู้นำก็ต้องรับภาระหนัก”
ส่วนเหตุการณ์บ้านเมืองในปี 2566 นั้น นักการเมืองจะเป็นเหมือนนักกรีฑา วิ่งกันฝุ่นตลบ ใครอยู่ข้างหน้าก็จะทิ้งฝุ่นไว้ทำให้คนข้างหลังมองไม่เห็น ช่วง ก.พ.-มี.ค.มีการเจรจาต่อรอง จากนั้นหลังวันที่ 13 เม.ย.ปีหน้าจะเกิดคดีความทางการเมือง เนื่องจากดาวพฤหัสซึ่งหมายถึงกฎหมาย กฎเกณฑ์ ราศีเมษเป็นเรือนของพระอังคาร อังคารกับพฤหัสเจอกันเป็นคู่ความ เกิดอารยขัดขืน มีการหยิบยกเรื่องกฎหมายมาสู้กัน แม้แต่ผู้นำก็โดนด้วย จากนั้นปลายปีหน้าจะเกิดการตระบัดสัตย์ ส่วนการเมืองบนท้องถนนมีอยู่บ้างแต่ไม่รุนแรง
ธุรกิจสีเทาครองเมือง
ขณะที่ “อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ” นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ทำนายทายทักดวงของประเทศไทยในปีหน้าไว้ว่า
ขณะนี้ “พระราหู” โคจรอยู่ตรงราศีเมษ ทับลัคนาเมือง ทับอาทิตย์เป็นตนุเศษของดวงเมือง ราหูเป็นบาปพระเคราะห์ เปรียบเหมือนจอมอสูร เป็นดาวที่ให้โทษมากกว่าให้คุณ โดยราหูจะอยู่ราศีเมษถึงวันที่ 17 ต.ค.2566 จากนั้นจึงย้ายเข้าสู่ราศีมีน และจะอยู่ในราศีมีนไปอีก 1 ปีครึ่ง
พระราหูอยู่ราศีเมษมักจะเกิดเรื่องร้าย จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ราหูเป็นดาวโมหะจริต ฉะนั้นเรื่องอบายมุข กิจการสีเทา ผู้มีอิทธิพลยังครอบคลุมบ้านเมืองอยู่ ราศีเมษเป็นราศีธาตุไฟและยกพระราศีธาตุน้ำ จึงต้องระวังทั้งไฟทั้งน้ำ จะมีภัยพิบัติครั้งสำคัญเกิดขึ้น
เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
พระราหูจรไปตรงไหนก็จะเกิดอุปราคาหรือคราส ซึ่งในปี 2566 จะเกิดอุปราคาขึ้น 4 ครั้ง
ครั้งแรกจะเกิด "สุริยุปราคาวงแหวน" ในวันที่ 20 เม.ย.2566 เวลา 11.16 น. เกิดในราศีเมษซึ่งอยู่ที่ระยะ 5 องศา 39 ลิปดา เป็นภพที่ 1 ของดวงเมือง ปกติอุปราคาจะเป็นลางไม่ดี ในช่วงก่อนและหลังเกิดสุริยุปราคาจะเกิดปัญหาความสับสนวุ่นวาย ส่งผลกระทบต่อรัฐบาลหรือผู้ปกครอง เกิดความอับโชคต่อความสำเร็จของประเทศชาติ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับต่างประเทศมีปัญหา
ราศีเมษเป็นราศีธาตุไฟ เป็นราศีเพศชาย และเป็นราศีที่ปกครองโดยพระอังคาร ซึ่งหมายถึงทหารและกองกำลัง ดังนั้น การเกิดอุปราคาในราศีธาตุไฟจึงส่งผลให้เพศชายจิตใจร้อนรุ่มวุ่นวาย มีการก่อกวน มีคดีฆาตกรรมที่สำคัญเกิดขึ้น เกิดความขัดแย้งและการเคลื่อนไหวของกองทัพและกองกำลัง ซึ่งอาจหมายถึงการรัฐประหาร ด้านการเมืองประชาชนจะเกิดความไม่พอใจ เกิดความวุ่นวาย ชนชั้นล่าง ชนชั้นกรรมาชีพ เกษตรกรกระดูกสันหลังของชาติจะเดือดร้อน จึงมีการนัดหยุดงานประท้วง
ราศีเมษเป็นราศีธาตุไฟ จึงเกิดความร้อนและภัยแล้ง พืชผลการเกษตรเสียหาย มีการใช้จ่ายเงินงบประมาณเป็นจำนวนมาก จึงเกิดความต้องการในการจัดเก็บภาษีเพิ่มมากขึ้น ในปีหน้าราหู และมฤตยูเข้ามาทับลัคนาเมือง พระอังคารเดินถอยหลัง ดังนั้น ภัยจากโรคระบาดหรือสุขภาพอนามัยโดยรวมของประเทศยังเป็นปัญหา
เกิดลมพายุทำลายล้าง
การเกิดอุปราคาครั้งที่ 2 จะเกิด "จันทรุปราคาเงามัว" ในวันที่ 5 พ.ค.2566 ตั้งแต่เวลา 22.13 น. ถึงวันที่ 6 พ.ค.2566 เวลา 02.31 น. ศูนย์กลางคราสตรงกับวันที่ 6 พ.ค.2566 เวลา 00.32 น.จันทรุปราคาเกิดในราศีตุลย์ซึ่งเป็นภพที่ 7 ของดวงเมือง ในทางการเมืองและการต่างประเทศจึงถูกรบกวน ก่อให้เกิดความผันแปรในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และนำความยุ่งยากมาสู่รัฐบาลและประชาชน พืชผลการเกษตรเสียหาย เกิดความผันแปรครั้งสำคัญทางการเมืองและการค้า
“อุปราคาครั้งแรกเป็นสุริยปราคา พระอาทิตย์โดนบัง ผลกระทบจึงเกิดกับรัฐบาลและการเมืองการปกครอง ส่วนครั้งที่ 2 เป็นจันทรุปราคาพระจันทร์โดนบัง ผลกระทบจึงเกิดกับอารมณ์ความรู้สึก ครั้งแรกเกิดในราศีเมษซึ่งเป็นธาตุไฟ จึงทำให้เกิดภัยแล้ง ครั้งที่ 2 เกิดในราศีตุลย์ซึ่งเป็นราศีธาตุลม จึงมักก่อให้เกิดลมพายุทำลายล้าง หรือผลกระทบต่อการเดินทางทางอากาศ ร่างกฎหมายบางฉบับล้มเหลว พรรคการเมืองเกิดความแตกแยก การต่างประเทศเกิดความยุ่งยาก ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศผันแปร เกิดปัญหาเกี่ยวกับสนธิสัญญาหรือสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ อุปราคาทั้ง 2 ครั้งอาจทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง มีภัยจากคู่แข่งขัน และอาจนำไปสู่การต่อสู้หรือสงคราม”
อุปราคาครั้งที่ 3 เกิด "สุริยุปราคาวงแหวน" ในวันที่ 15 ต.ค.2566 เวลา 00.59 น. สุริยปราคาเกิดในราศีกันย์เป็นทวิภาวะราศี ก่อให้เกิดความยุ่งยากสลับซับซ้อนในการสืบสวนสอบสวนคดีความ เป็นราศีของภพเรือนมุมแต่ไม่ก่อให้เกิดผลใหญ่โตเหมือนกับอุปราคาที่เกิดในราศีอื่นๆ เกิดความยุ่งยากกับชนชั้นกรรมาชีพและชาวนาชาวไร่ มีการนัดหยุดงาน เกิดความยุ่งยากในวงการศาสนา วงการศึกษา วงการกฎหมาย และวงการแพทย์ เกิดอุบัติเหตุจากการเดินทางท่องเที่ยวทั้งทางบก ทางทะเลและทางอากาศ เกิดคดีอาชญากรรม เกิดโรคภัยไข้เจ็บ
ราศีกันย์เป็นภพที่ 6 ของดวงเมือง หมายถึงเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ กระทรวงที่จะได้รับบทหนักคือกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงกลาโหม ธุรกิจการงานเกิดความอับโชค เกิดการว่างงาน เกิดความขัดแย้งระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง บริการของประเทศถูกกระทบกระเทือน
ราศีกันย์เป็นราศีธาตุดิน จึงต้องระมัดระวังความเสียหายที่เกิดจากดินหรือความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตร เกิดภัยแล้ง เกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม แผ่นดินทรุด ตึกถล่ม โลกธุรกิจได้รับผลกระทบ ถูกก่อกวน การค้าและการเกษตรเสียหาย จะเกิดปัญหาทางการเงิน เกิดความอับโชคแก่รัฐบาล
กองทัพออกมาเคลื่อนไหว
อุปราคาครั้งที่ 4 เป็น “จันทรุปราคาบางส่วน” เกิดในวันที่ 29 ต.ค.2566 ตั้งแต่เวลา 02.35-03.52 น. ศูนย์กลางของอุปราคาอยู่ที่เวลา 03.13 น. สมผุสตรงราศีเมษ ยังความก่อกวนให้ประเทศและการต่างประเทศ นำความยุ่งยากมาสู่ผู้ปกครองหรือรัฐบาล ตลอดจนประชาชน เกิดความผันแปรสำคัญทางการเมืองและการค้า
ราศีเมษเป็นราศีธาตุไฟ จึงต้องระวังเรื่องอัคคีภัย ความร้อน ภัยแล้ง แม้จันทรุปราคาจะเกิดในช่วงปลายฝนต้นหนาวก็ตาม เกิดเหตุการณ์สาธารณะตื่นเต้น เกิดปากเสียง มีคดีฆาตกรรม บางครั้งก็เกิดภัยสงคราม มีความเคลื่อนไหวของกองทัพ ต้องใช้จ่ายงบประมาณเยอะจึงมีการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น
แม้อุปราคาจะพยากรณ์ในเรื่องร้าย แต่ก็มีเรื่องดีอยู่ด้วย โดยราหูเป็นเจ้าเรือนชะตาที่ 11 หมายถึงรายได้ ผลประโยชน์ การจัดเก็บภาษีอากร เรื่องของสภาที่ออกกฎหมาย ราหูมาอยู่ตรงนี้จึงเหมือนกับลาภะหรือรายได้และความสำเร็จมาทับลัคนาเมือง ทำให้การหาเงินหรือกู้เงินของรัฐบาลประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ดี ราหูเป็นบาปเคราะห์ ถ้าราหูเข้มแข็งในดวงเมืองจะส่งผลให้อบายมุข ผู้มีอิทธิพล ขบวนการสีเทายังมีอิทธิพล กลุ่มนักเลงต่างๆ ยังมีอิทธิพลต่อดวงบ้านดวงเมือง ซึ่งราหูจะย้ายออกวันที่ 11 ต.ค.2566 บ้านเมืองน่าจะผ่อนคลายหลังจากราหูย้ายออก
เม.ย.66 การเมืองจะรุนแรง
สำหรับ “ดวงการเมือง” ในปี 2566 นั้น ตั้งแต่เดือน เม.ย.2566 เป็นต้นไปการเมืองน่าจะรุนแรงเพราะการสวนกันของดาวพฤหัสซึ่งเป็นประธานฝ่ายศุภเคราะห์ กับราหูซึ่งเป็นดาวบาปพระเคราะห์ เกิดการเปรียบเทียบ ภาพของพรรคฝ่ายเทพกับพรรคฝ่ายมารทางการเมืองน่าจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง มีการนำเรื่องนี้ขึ้นมาต่อสู้ในการแข่งขันทางการเมือง ดังนั้น การหาเสียงเลือกตั้งในปีหน้าจึงค่อนข้างรุนแรง
ดาวอีกดวงที่มีอิทธิพลคือดาวเสาร์ ขณะนี้ดาวเสาร์อยู่ในราศีมังกร และจะโคจรอยู่ราศีมังกรถึงวันที่ 1 มี.ค.2566 ซึ่งจะให้ทั้งผลดีและผลร้ายต่อดวงเมือง เพราะในดวงเมืองราศีมังกรเป็นภพที่ 10 ซึ่งหมายถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ดาวเสาร์ที่อยู่ในราศีมังกรไปเล็งดวงจันทร์ในดวงเมืองซึ่งอยู่ตรงราศีกรกฏ อยู่กันคนละฝั่ง จึงหมายถึงความขัดแย้งทางการเมือง เกิดความไม่พอใจคนที่มีความเห็นขัดแย้งกับรัฐบาล ทำให้เกิดปัญหากับดวงเมือง
ส่วน “ดวงด้านเศรษฐกิจ” ก็มีทั้งดีและไม่ดี แต่น่าจะดีกว่าช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากดาวพฤหัสโคจรมาทับลัคนาเมือง ทับพระอาทิตย์ในดวงเมือง พฤหัสกับพระอาทิตย์เป็นคู่มิตร ตามตำราบอกว่าดวงเมืองจะโชคดี ผู้ใหญ่จะให้คุณ