ปชป.จะมีเลือดไหลออกจริงหรือไม่? จับตา ส.ส.ตั๊น หรือ ‘จิตภัสร์ กฤดากร’ และหมอตี๋ ‘สาธิต ปิตุเตชะ’ รมช.สาธารณสุข รวมทั้ง ส.ส.แนน แห่งอุบลราชธานี ลือจะย้ายเข้าภูมิใจไทย ด้าน ส.ส.ปชป.แจงเห็นใจ ส.ส.ตั๊น เจอพิษการเมืองหลังดึงมาดามเดียร์ เข้าพรรค ดึงงานคุม Social Media เป็นหัวหน้าทีมเลือกผู้สมัคร ส.ส.กทม. พร้อมเงื่อนไขต้องอยู่บัญชีรายชื่อระดับต้นๆ หากได้เป็นรัฐบาลต้องได้ตำแหน่งรัฐมนตรี การันตี จะนำ ส.ส.ย้ายเข้า ปชป. ด้าน ‘ตั๊น’ จุกอก บัญชีรายชื่ออยู่หลังมาดามเดียร์ และต้องเผชิญเกมสกัดชิงเก้าอี้ รมช.มท. ขณะที่ ส.ส.ในพรรคหนุน มั่นใจจะมี ส.ส.ทยอยลาออกตามอีกจำนวนหนึ่ง แนะ ‘จุรินทร์-เฉลิมชัย’ เร่งแก้วิกฤต ไม่ใช่แค่ประกาศคัมแบ็ก และถ้าได้ ส.ส.น้อยจะวางมือทางการเมือง เหตุ ส.ส.ในพรรคหวั่นไหวกลัวพรรคถดถอย-เป็นฝ่ายค้าน!
ถึงเวลาต้องจับตาสถานการณ์ภายในพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งหนึ่งว่าจะมีเลือดไหลออก ซึ่งเป็นผลมาจากการโหวตในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ปชป. เลือกนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง ไปดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย แทนนายนิพนธ์ บุญญามณี ที่ได้ลาออกไปหรือไม่?
ที่สำคัญมีข่าวลือ ข่าวซุบซิบในกลุ่ม ส.ส.พรรคว่า เหตุการณ์ครั้งนี้กำลังเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ ส.ส.พรรค ปชป.หลายคนเริ่มไม่มั่นใจว่า ปชป.ซึ่งเป็นพรรคเก่าแก่ ยึดมั่นในกฎระเบียบ ยึดหลักอาวุโส ความรู้ความสามารถเป็นธรรมเนียมปฏิบัติทางการเมือง ไม่ว่าจะทำอะไรหรือแต่งตั้งใครก็ตามไปดำรงตำแหน่งต่างๆ ได้สูญหายไปแล้วใช่หรือไม่
ทั้งนี้ วิธีการที่ใช้เลือกนายนริศ น่าจะเป็นวิธีการเดียวกันกับเมื่อครั้งเลือกนายสินิตย์ เลิศไกร ส.ส.สุราษฎร์ธานี ไปดำรงตำแหน่ง ‘รัฐมนตรีช่วย’ ภายหลังนายถาวร เสนเนียม ต้องพ้นตำแหน่ง รมช.คมนาคม จากคำพิพากษาศาลอาญา เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมาในคดีชุมนุม กปปส.
“กลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ เลือกเสนอชื่อต่อบอร์ดบริหารมา 4 คน จากนั้นใช้เสียงจากที่ประชุม กก.บห. ร่วมกับ ส.ส.อีก 51 คน เรามีหลักเกณฑ์ต้องเป็น ส.ส.หลายสมัย ไม่เคยเป็นรัฐมนตรี ที่ประชุมมีมติเลือกสินิตย์ ซี่งนั่งเป็น รมช.พาณิชย์ในปัจจุบัน ในครั้งนั้นมีการเสนอชื่อนริศ มาด้วย”
ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า การเลือกผู้ดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา พวก ส.ส.รู้ว่าหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคต้องการจะเสนอให้ใครเป็น รมช.มหาดไทย เพราะมีการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันในกลุ่ม ส.ส.ด้วยกัน จึงได้เสนอชื่อตั๊น หรือจิตภัสร์ กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรค เข้าชิงตำแหน่งด้วย เพราะเราเห็นว่าตำแหน่ง รมช.มหาดไทยไม่ใช่โควตาภาคใต้เหมือนสมัยที่เลือกรัฐมนตรีช่วย ที่มาแทนนายถาวร เสนเนียม
ดังนั้น เมื่อการประชุม กก.บห.และเข้าสู่วาระการพิจารณาคัดเลือกตัวบุคคลดำรงตำแหน่งรมช.มหาดไทย ได้มีการเสนอชื่อผู้ชิงตำแหน่งดังกล่าวจากมติของที่ประชุม ส.ส.ภาคใต้ ที่เสนอชื่อนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง และนายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช แต่ปรากฏว่า นายวิรัช ร่มเย็น นายทะเบียนพรรค และอดีต ส.ส.ระนอง 8 สมัย ได้แจ้งที่ประชุมว่าขอเสนอชื่อตัวเองลงแข่งขันด้วย
นอกจากนี้ พ.ท.สินภพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม และรองเลขาธิการพรรค ปชป. ได้เสนอชื่อ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรค ปชป. ร่วมชิงด้วย
“เสียงของ ส.ส.หนุนตั๊น กันมากจริงๆ เราก็เห็นว่า ตั๊น ทำงานให้หัวหน้าพรรคและเป็นสายตรงอยู่แล้ว โดยเฉพาะช่วงที่มีการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เรียกว่าตั๊น รวบรวมข้อมูลของฝ่ายคู่แข่งช่วยหัวหน้าจุรินทร์ จนชนะมาได้ พวกเราจึงดันตั๊น และตั๊นก็สู้ไม่ยอมถอยเช่นกัน แม้หัวหน้าพรรคจะมาพูดคุยขอให้ถอนตัวก็ตาม เพราะมีข้อถกเถียงระหว่างกรรมการบางคนที่มองว่าเป็นโควตาภาคใต้ แต่กรรมการบางคนมองว่าไม่ใช่โควตาภาคใต้แน่นอน ทำให้การถกเถียงในที่ประชุมค่อนข้างดุเดือด และใช้เวลามาก”
แต่ในที่สุดที่ประชุม กก.บห.เลือกใช้วิธีลงมติ 2 รอบ โดยรอบแรกเป็นการลงมติว่าตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ถือเป็นโควตาภาคใต้หรือไม่? ก่อนจะเข้าสู่การลงมติรอบที่ 2 เพื่อให้ข้อสรุปว่าจะเสนอชื่อบุคคลใดให้ที่ประชุมร่วมพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ปรากฏว่าในการโหวตรอบแรก ที่ประชุมมีมติให้ถือเป็นโควตาภาคใต้ ด้วย 21 ต่อ 11 เสียง ทำให้เหลือผู้ชิงตำแหน่ง 3 คน คือ นายนริศ นายประกอบ และนายวิรัช ส่วนการโหวตรอบที่ 2 มีมติด้วยเสียงส่วนใหญ่เลือกส่งชื่อนายนริศ ให้ที่ประชุมร่วมระหว่าง กก.บห.กับ ส.ส.ชี้ขาดเป็นลำดับสุดท้ายตามข้อบังคับพรรค
แหล่งข่าวจาก ส.ส.พรรคระบุว่า กลุ่ม ส.ส.ในพรรคมีการคุยกันว่าการประชุมของ กก.บห. ครั้งนี้กำลังเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะทำให้ ส.ส.ตั๊น ตัดสินใจก้าวออกจากพรรค ปชป.มีความเป็นไปได้สูงมาก เริ่มจากตั้งแต่มีข่าวในพรรค ปชป.มาประมาณปีกว่าๆ ที่หัวหน้าพรรคได้มีการพูดคุยกับ น.ส.วทันยา บุนนาค หรือมาดามเดียร์ อดีตแกนนำกลุ่มดาวฤกษ์ จากพรรคพลังประชารัฐ จนกระทั่งมาดามเดียร์ ได้ลาออกจากพลังประชารัฐ และมาเข้าร่วมกับพรรค ปชป.
โดยการมาของมาดามเดียร์ นั้นว่ากันว่ามีการตกลงกับหัวหน้าพรรคหลากหลายเงื่อนไข และแต่ละเงื่อนไขนั้น ส.ส.ปชป.ยอมรับว่าอาจจะทำให้ ส.ส.ตั๊น รู้สึกว่ายอมรับไม่ได้
"งาน Social Media วันนี้ได้ไปอยู่ในมือมาดามเดียร์ไปแล้ว ยังมีข่าวอีกว่าเงื่อนไขสำคัญคือ มาดามเดียร์ ต้องได้อยู่บัญชีปาร์ตี้ลิสต์ลำดับต้นๆ คือเลขตัวเดียว ถัดจากคนสำคัญของพรรค คือ หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค หัวหน้าชวน หัวหน้าอภิสิทธิ์ และนายบัญญัติ ก็มีการซุบซิบกันว่าเมื่อได้เป็น ส.ส.แล้ว ถ้าได้ร่วมรัฐบาลต้องได้เป็นรัฐมนตรีด้วย ส่วนตั๊น ต้องอยู่บัญชีรายชื่อหลังมาดามเดียร์ เธอจะยอมได้อย่างไร"
ส.ส.ในพรรคบอกอีกว่า จะบอกว่านั่นเป็นข่าวลือ เพราะยังไม่มีการเลือกตั้ง ยังไม่มีการเรียงลำดับบัญชีรายชื่อ อย่าไปกังวล ก็ต้องถามกลับไปว่า ส.ส.ตั๊น จะไม่รู้หรือว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับสถานะของตัวเองบ้าง และยิ่งมาดามเดียร์ ได้มาเป็นหัวหน้าทีมคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.กทม. และยังเป็นประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม.อีกด้วย ทุกอย่างจึงดูลงตัวไปหมด ส่วน ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ นั้นเข้ามาเป็นประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. เท่านั้น ทำให้บทบาทต่างๆ ไปอยู่ที่มาดามเดียร์ เป็นส่วนใหญ่
“หัวหน้าจุรินทร์ อาจจะลืมว่า ส.ส.ตั๊น ได้ช่วยงานอะไร อย่างไรตอนลงแข่งหัวหน้าพรรค แต่วันนี้หัวหน้าเชื่อว่ามาดามเดียร์ จะช่วยให้ ปชป.ได้ ส.ส.กทม.ตามที่มาดามเดียร์ รับปากไว้ จะมี ส.ส.กทม.ย้ายตามมาด้วย 5-6 คน โดยลืมไปว่ามาดามเดียร์ แม้จะเก่ง ฉลาด แต่ในทางการเมืองแล้ว ส.ส.เราเชื่อว่ายังไม่เท่าไหร่ จะมีข้อดีตรงที่มีสื่ออยู่ในมือ ซึ่ง ปชป.หวังให้มาดามเดียร์ช่วย”
อย่างไรก็ดี ส.ส.ในพรรคจึงเชื่อว่าเหตุการณ์ในที่ประชุมพรรค ปชป.เมื่อวันที่ 12 ต.ค.นี้น่าจะเป็นเหตุให้มีเลือดไหลออก ซึ่งจะมีทั้งคนรุ่นใหม่และรุ่นเก่า เพราะเชื่อว่าเป็นการบริหารที่ยึดหลักเกณฑ์จากหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ปชป.จนสามารถได้มติโหวตมาลงตัวที่นายนริศ ได้ตำแหน่งไป เพราะจริงๆ แล้ว นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรค ปชป.ได้หนุนนายนริศ ตั้งแต่ช่วงที่คัดเลือกเพื่อมาแทนนายถาวร เสนเนียม แต่พ่ายแพ้นายสินิตย์ เลิศไกร ส.ส.สุราษฎร์ธานี
“เวลานี้มีการคุยกันและจับตาดูว่า ส.ส.ที่จะลาออกน่าจะเป็น ส.ส.ตั๊น หมอตี๋ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย หรือแนน ส.ส.อุบล ก็มีการซุบซิบกันว่าทั้ง 3 คน จะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย เชื่อกันว่าจะมีคนย้ายตามไปอีก แต่ถามว่าจะออกเมื่อไหร่ และออกกี่คน ตอนนี้ยังไม่มีใครตอบได้ ส่วนมาดามเดียร์ จะดึงคนมาเพิ่มได้จริงหรือไม่ ก็ต้องจับตาดูเหมือนกัน”
แหล่งข่าวระบุว่า สิ่งที่สำคัญต้องเข้าใจในธรรมชาติของนักการเมืองด้วยว่าไม่มีใครอยากเป็น ส.ส.สอบตก ถ้าเขามองว่าพรรคที่สังกัดอยู่นั้นมีแนวโน้มจะได้ ส.ส.จำนวนน้อยลง โดยเฉพาะโอกาสสอบตกในภาคอื่นๆ มีสูง ยกเว้นภาคใต้ ใครล่ะจะอยู่พรรคนี้ต่อ และยิ่งโอกาสจะได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างยาก ก็ต้องย้ายไปอยู่พรรคที่มีอนาคตไม่ดีกว่าหรือ?
ถึงแม้ว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป.จะประกาศว่าพรรคมีความพร้อมในการก้าวสู่สนามเลือกตั้ง และมั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคประชาธิปัตย์คัมแบ็กแน่นอน!
หรือที่นายเฉลิมชัย เลขาธิการพรรค ปชป. บอกว่า “ในวันนี้พรรค ปชป.มี ส.ส.จำนวน 51 คน และคาดว่าปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมี ส.ส.มากกว่าปัจจุบัน หากพรรคไม่ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ เขาจะเลิกเล่นการเมืองทั้งชีวิต”
แต่คำประกาศของทั้งหัวน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ปชป.ไม่ได้ทำให้กระแสคนในพรรคเชื่อมั่นว่า ปชป.จะได้คัมแบ็ก หรือได้ ส.ส.มากกว่าเดิม ตรงกันข้าม ส.ส.ในพรรคจำนวนหนึ่งมีความหวั่นไหว เพราะเชื่อว่ากระแสพรรค ปชป.ถดถอยลงไปมากตั้งแต่นายจุรินทร์ ขึ้นมาเป็นหัวหน้า จึงอยากให้พรรค ปชป.เปิดใจให้กว้างและรีบแก้ปัญหาโดยเฉพาะปัญหาที่จะมีเลือดไหลออกก๊อกต่อไปโดยเฉพาะ ส.ส.ตั๊น และหมอตี๋ ต้องดึงไว้เพราะทั้งคู่หนุนหัวหน้าจุรินทร์ อยู่แล้ว
ปัจจุบันพรรค ปชป.มีเลือดไหลออกจำนวนมากตั้งแต่นายจุรินทร์ ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค ประกอบด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นายกรณ์ จาติกวณิช นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี นายวิทยา แก้วภราดัย นายอภิชัย เตชะอุบล นายสุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ นายถวิล ไพรสณฑ์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ นายวรงค์ เดชกิจวิกรม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ (ไอติม) นายวิฑูรย์ นามบุตร เป็นต้น
จากนี้ไปต้องจับตาดูว่า ส.ส.ตั๊น หมอตี๋ และ ส.ส.แนน รวมทั้ง ส.ส.และอดีต ส.ส.ในพรรคปชป.จะทยอยลาออกจริงหรือไม่!?
