‘ธรรมนัส พรหมเผ่า’ เปิดใจเหตุความพ่ายแพ้เลือกตั้งที่ลำปาง พร้อมต้องถอนตัวออกจากขั้วรัฐบาล ทุกอย่างมันฟ้องในพื้นที่ลำปาง ทำให้พรรคยืนอยู่อย่างลำบาก คนดีๆ ต้องถอยห่าง แถมมหาดไทยสั่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านไม่ให้ช่วย ยันชาวบ้านภาคเหนือตอนบน และภาคอีสานเบื่อรัฐบาลบิ๊กตู่ ลั่นไม่เคยรับเงินจาก ‘นายป้อม’ ที่ผ่านมาใช้เงินส่วนตัวดูแลทั้ง ‘บิ๊ก’ ในพรรคและการเลือกตั้ง ยิ่งเขตไหนแข่งดุ ยิ่งต้องควักมากและไม่เคยมาเบิกพรรค หรือลุงป้อม ยอมรับมีเรื่องผิดพลาดเหตุชักศึกเข้าบ้าน เพราะดึง ‘บิ๊ก’ คนหนึ่งเข้ามา ทั้งที่ ‘นายป้อม’ ห้ามแล้ว ถึงขั้นด่า ‘ผมและบิ๊กอาย’ พร้อมเขวี้ยงปากกาทิ้ง ขณะเดียวกัน มั่นใจจะนำพาพรรคสู้ศึกเลือกตั้ง ยึดแนวทางพรรคภูมิใจไทย เล็กและค่อยโต วางกลยุทธ์สู้ภาคเหนือ อีสานใต้ ยกเว้นภาคกลางยกธงขาว!
หลังพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดลำปางของนายวัฒนา สิทธิวัง ครั้งนี้ ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หรือผู้กองธรรมนัส หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย กล้าออกมาประกาศถอนตัวไม่อยู่กับขั้วรัฐบาลและมายืนอยู่ขั้วฝ่ายค้านท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังจะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ 11 รัฐมนตรีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19-22 ก.ค. และลงมติในวันที่ 23 ก.ค.นี้ ซึ่ง 1 ใน 11 รัฐมนตรีก็มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผู้ใหญ่ที่ผู้กองธรรมนัส ให้ความเคารพนับถือมากที่สุด และเป็นคนที่หนุนผู้กองธรรมนัสในทุกๆ ด้าน รวมทั้งผู้กองธรรมนัส ก็ดูแลบิ๊กป้อมในทุกๆ เรื่องไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองเท่านั้น
แต่เมื่อประเมินรอบด้านทำให้รู้ว่าสาเหตุของความพ่ายแพ้การเลือกตั้งที่ลำปาง เพราะว่าผู้กองธรรมนัส และพรรคเศรษฐกิจไทยไม่มีความชัดเจนว่าจะอยู่ฝ่ายใดกันแน่ เพราะจากข้อมูลในการลงพื้นที่พบปะประชาชนทำให้รู้ว่า ชาวบ้านภาคเหนือตอนบน ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน แม่ฮ่องสอน ลำปาง ไม่เอารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว
“ไม่ใช่แค่ภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานก็ไม่เอา”
ผู้กองธรรมนัส บอกว่า สังคมต้องยอมรับความจริงว่าการเมืองไทยเป็นการเมืองแบบเลือกข้างหรือเลือกขั้วระหว่างขั้วอนุรักษนิยม กับขั้วเสรีนิยม ทำให้พรรคเศรษฐกิจไทยต้องมีความชัดเจนว่าจะอยู่ขั้วไหน เพราะเมื่อชาวบ้านไม่เอารัฐบาลบิ๊กตู่แล้ว พรรคต้องมีจุดยืนให้ชาวบ้านได้รับรู้ และกำหนดยุทธวิธีที่จะขับเคลื่อนพรรคในสนามการเมืองต่อไป เพราะที่ผ่านมา เราอยู่กับรัฐบาล ถามว่าเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดลำปางได้ช่วยเหลืออะไรเราหรือไม่?
“ไม่ใช่แค่ไม่ช่วย แต่มหาดไทยยังสั่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านไม่ให้ช่วยเหลือเรา เราก็ไปไหนไม่ได้แล้ว ทุกอย่างมันชัดว่าเราถูกบีบ ทำให้เราต้องเลือกเดินออกมา”
นอกจากนี้ ผู้กองธรรมนัส บอกอีกว่า ในการทำงานการเมืองที่ผ่านมาทั้งที่อยู่ในพรรคพลังประชารัฐ หรือช่วงที่เป็นเลขาธิการพรรค พปชร.หรือที่ออกมาตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย ไม่เคยรับเงิน ‘ลุงป้อม’ อย่างที่ปรากฏเป็นข่าวลือตลอดมา แต่ได้ใช้เงินส่วนตัวในการดูแล ส.ส.และสมาชิกพรรค เพราะต้องดูแลพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด ยิ่งพื้นที่ไหนมีคู่ต่อสู้แรงๆ ก็ต้องใช้เงินดูแลเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเลือกตั้งซ่อมในจังหวัดต่างๆ สมัยที่เป็นเลขาธิการ พปชร.ต้องใช้เงินส่วนตัวไปจำนวนมาก เพื่อให้พรรคชนะคู่ต่อสู้ นี่คือเรื่องจริง
“เลือกตั้งซ่อมทุกสนาม ผมออกไปก็ไม่เคยไปเบิกพรรค ไม่เคยไปเบิกนาย ไม่เคยรับเงินนาย มีแต่ช่วยพรรค ช่วยดูแลบิ๊กในพรรค แต่ผมผิดพลาดที่ดึงบิ๊กคนหนึ่งเข้ามาในพรรค จนมีปัญหาเกิดขึ้นตามมา ทั้งๆ ที่นายป้อมค้าน เพราะบอกเดี๋ยวจะวุ่นวายเพราะเขาไม่รู้เรื่องการเมือง แต่ผมไม่ฟัง ทำให้นายป้อม โมโห ถึงขั้นเขวี้ยงปากกาทิ้งใส่ผมและอาจารย์แหม่ม (นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์) ผมขอยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับบิ๊กน้อย (พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) แน่นอน แต่ผม และ ส.ส.มีปัญหากับมือที่ 3”
ผู้กองธรรมนัส ระบุว่า ที่ผ่านมาพรรคเศรษฐกิจไทย ยืนอยู่ด้วยความลำบากมากๆ เพราะจะตัดสินใจอะไรก็ติดที่ลุงป้อม ซึ่งมีความใกล้ชิด มีความเข้าใจ เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพ แต่เมื่อสถานการณ์ที่ลำปาง บีบเรามากจริงๆ ถึงต้องตัดสินใจนำสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทยถอนตัวออกมา เมื่อถอนตัวออกมาแล้ว เราจะได้เดินหน้าตามที่ยุทธศาสตร์พรรควางไว้ต่อไปตามกติกาการเมืองที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
“ผมจะต้องนำพรรคเศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนต่อไปให้ได้ และฐานที่มั่น ที่พรรคเราจะสู้มีภาคเหนือตอนบน อีสานเหนือ อีสานใต้ และภาคใต้ ส่วนภาคกลางพรรคเราสู้ไม่ได้ หวังเพียงคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ที่จะทำให้เราได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเข้ามาเติม”
โดยพรรคจะใช้ ส.ส.เขตที่มีอยู่แล้ว 17 คนในการขับเคลื่อน อีกทั้งได้มีการจับมือกับ ส.ส.ปัจจุบันอีกหลายคนที่อยู่ในพรรคอื่นๆ แต่ขอปิดไว้ก่อนว่ามี ส.ส.คนใดบ้าง ช่วยกันเดินงานการเมืองในพื้นที่เป้าหมายที่เราเชื่อว่าพรรคจะปักธง ส.ส.เขตได้ รวมทั้งได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะทำให้พรรคเศรษฐกิจไทยเป็นพรรคระดับกลางๆ
“ผมเสียดายสถานการณ์เลือกตั้งที่ลำปาง ทำให้คนดีๆ ที่คิดจะเข้ามาอยู่กับเรา มาช่วยเราต้องถอยห่างจากเราไป จะมีแต่คนที่มีอุดมการณ์ที่กล้าเข้ามาร่วมในเวลานี้เท่านั้น ขณะเดียวกันพรรควางเป้าหมายในการเลือกตั้งทั่วไปในครั้งหน้า ไม่ว่าจะมีเลือกตั้งเมื่อใดก็ตาม และตั้งเป้าเป็นพรรคระดับกลางๆ เหมือนกับที่พรรคภูมิใจ ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้จำนวน ส.ส. ในระดับกลางๆ ประมาณ 40-50 คน แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งที่อีสานพรรคจึงหวังจะได้ที่นั่งเพิ่ม ที่มหาสารคาม หนองคาย ร้อยเอ็ด ขอนแก่น รวมทั้งโคราช หวังจะได้เพิ่มขึ้นจากเดิมมี 2 คน รวมทั้งในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้เช่นกัน
ปัจจุบัน ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ประกอบด้วย 1.นายเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา 2.นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา 3.นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร 4.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผา ส.ส.พะเยา 5.นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี 6.นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 7.นายจีระเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา 8.นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร 9.นายปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน 10.พล.ต.ต.ยงยุทธ เทพจำนงค์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 11.นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี 12.น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร 13.นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก 14. นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก 15.นายยุทธนา โพธสุธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 16.นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น 17.นายณัฏฐพล จรัสพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์
อย่างไรก็ดี เมื่อผู้กองธรรมนัส เลือกที่จะถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลและไปยืนอยู่ซีกฝ่ายค้านก็ต้องไม่ลืมว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 11 คนนั้นประชาชนทั้งประเทศ รวมทั้งพรรคฝ่ายค้านต่างจับตาดูว่าพรรคเศรษฐกิจไทยเลือกที่จะอยู่ขั้วไหนกันแน่ระหว่างอนุรักษนิยม หรือเสรีนิยม ทุกอย่างจะพิสูจน์ให้เห็นในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ...อย่ากะพริบตา!
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :https://m.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/?locale2=th_TH
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4jv
