xs
xsm
sm
md
lg

เปิดเส้นทาง “ยูทูปเบอร์ไทย” ในต่างแดน ชี้ช่อง “ต่อยอด” สู่สารพัดธุรกิจทำเงิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อะเมซซิ่ง! หลากชีวิตยูทูปเบอร์ไทยในต่างแดน “กิ๊ก kinyuud” จากแม่บ้านทำความสะอาด ผันตัวเป็นยูทูปเบอร์สายท่องเที่ยวแนวโลว์คอส ต่อยอดสู่ธุรกิจทัวร์แบ็กแพกในญี่ปุ่น “พี่มิ” แห่งช่อง “Cappuccino” อดีตเพอร์เซอร์ สายการบินกาตาร์ ที่มีผู้ติดตามกว่า 3.25 แสนคน “กิ๊ก อินอเมริกา” ยูทูปเบอร์ผู้สร้างตำนานพิซซ่าหน้าไทย ที่สื่ออเมริกาแห่มาสัมภาษณ์ ด้าน “เสกสรร ปั้น Youtube” ปรมาจารย์ในวงการ แนะเคล็ดลับผู้ติดตามหลักสิบ-สร้างรายได้หลักล้าน

พี่มิ อดีตเพอร์เซอร์ สายการบินกาตาร์ ยูทูปเบอร์คนดัง เจ้าของช่อง “Cappuccino”
กล่าวได้ว่า “ยูทูปเบอร์” เป็นหนึ่งอาชีพในฝันของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน และไม่เพียงแต่ยูทูปเบอร์ที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น “ยูทูปเบอร์ไทยในต่างแดน” จำนวนไม่น้อยต่างก็ประสบความสำเร็จ กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวต่างชาติ ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังสามารถใช้ศักยภาพจากการเป็นยูทูปเบอร์ต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์

ยูทูปเบอร์ไทยในต่างแดนคนหนึ่งที่ถือว่าเป็นตำนานและเป็นไอดอลของคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยก็คือ “พี่มิ” อดีตเพอร์เซอร์ หรือหัวหน้าแอร์โฮสเตส สายการบินกาตาร์ เจ้าของช่อง “Cappuccino” ซึ่งมีผู้ติดตามถึง 3.25 แสนคน มียอดวิวรวมกว่า 53.78 ล้านวิว จากประสบการณ์ที่บินมาแล้วเกือบทั่วโลกทำให้ “พี่มิ” สามารถถ่ายทอดเรื่องราวการทำงานและการใช้ชีวิตของพนักงานที่ทำงานบนเครื่องบินที่เรียกกันว่า “ลูกเรือ” ได้อย่างละเอียดเข้มข้นแบบคนรู้ลึกรู้จริง เธอเล่าถึงความแตกต่างของผู้โดยสารแต่ละเชื้อชาติทั้งในด้านบุคลิก วัฒนธรรมและการสื่อสาร รวมถึงประสบการณ์ในการดูแลผู้โดยสารและการแก้ปัญหาที่พบเจอในแต่ไฟลต์ได้อย่างเห็นภาพ แม้แต่ผีโรงแรมในแต่ละประเทศที่บรรดาลูกเรือร่ำลือกัน พี่มิก็เล่าได้อย่างออกรส อีกทั้งพี่มิยังแนะนำทริกต่างๆ สำหรับรุ่นน้องที่สนใจจะก้าวเข้าสู่อาชีพแอร์โฮสเตสอีกด้วย

“จิโร่” เจ้าของช่อง “Mr.JiroChan” ตำนานของยูทูปเบอร์ไทยในอเมริกา
นอกจากเรื่องประสบการณ์การทำงานแล้ว พี่มิยังพาไปรู้จักกับบ้านเมืองของประเทศต่างๆ และที่ขาดไม่ได้คือราคาสินค้าในซูเปอร์มาร์เกตของแต่ละประเทศที่บรรดาแฟนคลับช่อง “Cappuccino” อยากรู้ ซึ่งคลิปหนึ่งที่มียอดวิวสูงมากคือการเปรียบเทียบราคากาแฟสตาร์บัคส์ของประเทศต่างๆ ด้วยบุคลิกที่ยิ้มแย้มและน้ำเสียงที่น่าฟังของพี่มิ นับเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ช่อง “Cappuccino” เข้าไปอยู่ในใจของหลายๆ คน และเป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่ผูกพันกันมานานแม้ไม่เคยพบเจอกันมาก่อน

แม้ปัจจุบัน พี่มิจะลาออกจากสายการบินกาตาร์ และกลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว แต่ช่อง “Cappuccino” ก็ไม่ได้หายไปไหน พี่มิยังคงเป็นยูทูปเบอร์ที่บอกเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตของเธอ และด้วยประสบการณ์จากการทำงาน ประกอบกับชื่อเสียงในฐานะยูทูปเบอร์ที่มีผู้ติดตามกว่า 3 แสนคน ทำให้มีคนสนใจติดต่อให้เธอไปทำงานในสาขาอาชีพใหม่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิทยากรที่ให้ความรู้แก่นักศึกษาและผู้ที่สนใจจะก้าวเข้าสู่การเป็นแอร์โฮสเตส งานรีวิวก็มี งานสายบันเทิงก็มา โดยพี่มิถูกรับเชิญให้ไปเป็นวิทยากรซึ่งให้คำแนะนำแก่ผู้เข้าแข่งขันในรายการ Sesy Mama รายการทีวีดังของค่ายกันตนา นอกจากนั้น เธอยังนำทักษะการทำช่องยูทูปที่เธอรักมาต่อยอดในการขายของออนไลน์ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่และเป็นงานหลักที่สร้างรายได้ให้เธอได้ไม่น้อยทีเดียว

“กิ๊ก” และ มิจิ เจ้าของช่อง “Kinyuud” ช่องยูทูปที่พาไปรู้จักแหล่งกินแหล่งเที่ยวราคาถูกในญี่ปุ่น
ยูทูปเบอร์อีกคนที่น่าสนใจอย่างมาก คือ “กิ๊ก” เจ้าของช่อง “Kinyuud” ช่องยูทูปที่พาไปรู้จักแหล่งกินแหล่งเที่ยวราคาถูกในญี่ปุ่นที่แบ็กแพกเกอร์ชาวไทยสามารถจับต้องได้ เรียกว่าถูกจนคิดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นบุฟเฟต์เนื้อวากิวหัวละ 600 บาท พิกัดร้านอาหารข้างทางในโอซากา โรงแรมใจกลางอูเอโนะที่มีบริการออนเซ็นฟรี ในราคาค่าห้องแค่คนละ 690 บาท ตลาดนัดมือสองใจกลางโตเกียวซึ่งสามารถหาซื้อกระเป๋าหลุยส์วิตตองในราคา 150 บาท เรื่องถูกและดีมีจริงเหล่านี้นับเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ช่อง “Kinyuud” มียอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมีผู้ติดตามกว่า 6.6 หมื่นคน และมียอดวิวรวมถึง 7.15 ล้านวิว

กิ๊กเป็นสาวไทยซึ่งตัดสินใจไปทำงานที่ญี่ปุ่นและได้พบรักกับหนุ่มแดนอาทิตย์อุทัย กระทั่งลงหลักปักฐานที่นั่น แต่ก็ยังไปๆ มาๆ ระหว่างไทยกับญี่ปุ่น กิ๊กเริ่มทำงานที่โตเกียวด้วยการเป็นนางรำไทยที่ไปรำโชว์ ตามด้วยงานแม่บ้านทำความสะอาดในโรงแรมแห่งหนึ่ง ด้วยความมานะอดทน ทำงานหลายจ็อบ ทำให้เธอมีรายได้ต่อเดือนถึง 1 แสนบาท ปัจจุบันกิ๊กได้ผันตัวมาทำช่องยูทูปสไตล์กินเที่ยวแบบเต็มตัว โดยมี “มิจิ” สามีชาวญี่ปุ่นซึ่งใช้เวลาช่วงที่ว่างจากงานประจำร่วมเดินทางด้วย

นอกจากการเป็นยูทูปเบอร์แล้ว กิ๊กยังใช้ประสบการณ์จากการเสาะหาร้านขายของฝากราคาถูกทั้งขนมนมเนย กิฟต์ชอป และเสื้อผ้า ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่เธอนำเสนอในช่อง “Kinyuud” มาต่อยอดสร้างอาชีพใหม่อีกอาชีพหนึ่ง คือการเป็นตัวกลางในการนำนักธุรกิจต่างชาติที่ต้องการหาซื้อสินค้าราคาถูกจากญี่ปุ่นไปขายในประเทศตัวเอง ไปยังร้านค้าหรือแหล่งขายสินค้าราคาถูก และล่าสุดเธอกำลังเตรียมทำทัวร์เล็กๆ สไตล์ "เพื่อนพาเพื่อนเที่ยว" โดยใช้ประสบการณ์จากการเป็นยูทูปเบอร์แนวท่องเที่ยวพานักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นจริงๆ ไปกินไปเที่ยวและหาที่พักในราคาที่จับต้องได้ ไปชอปปิ้งและซื้อของฝากราคาถูก ไม่ใช่กรุ๊ปทัวร์ที่พาไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตตามโปรแกรมแบบที่บริษัททัวร์ทั่วไปทำกัน ซึ่งกล่าวได้ว่า กิ๊กถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในการสร้างธุรกิจซึ่งต่อยอดมาจากการเป็นยูทูปเบอร์ที่แท้จริง

“กิ๊ก อินอเมริกา” ยูทูปเบอร์ผู้สร้างตำนานพิซซ่าหน้าไทย ที่สื่ออเมริกาแห่มาสัมภาษณ์
ยูทูปเบอร์อีกคนที่ประสบความสำเร็จในการทำช่องยูทูปและสามารถใช้ความเป็นยูทูปเบอร์ไทยในต่างแดนมาต่อยอดธุรกิจก็คือ “กิ๊ก” เจ้าของช่อง “กิ๊กอินอเมริกา” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 2.9 ล้านคน ยอดคนดูแต่ละคลิปอยู่ที่หลักแสนถึงหลักล้าน และมียอดวิวรวมถึง 50.7 ล้านวิว หลังจากแต่งงานกับสามีชาวอเมริกัน กิ๊กก็ย้ายไปอยู่กับสามีและทำธุรกิจขายพิซซ่าบนรถฟูดทรักซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวสามี เธอพัฒนาพิซซ่าให้มีความแตกต่างโดยทำพิซซ่าหน้าแกงไทยออกขาย พร้อมๆ กับการทำช่องยูทูป “กิ๊กอินอเมริกา” ที่บอกเล่าถึงเรื่องราวการทำงานของกิ๊กกับสามีซึ่งขับรถฟูดทรักออกไปจอดขายพิซซ่าในแต่ละวัน ด้วยการนำเสนอที่มีความเป็นธรรมชาติ และค่อนข้างจะเรียลไทม์ เข้าถึงง่าย ทำให้ช่อง “กิ๊กอินอเมริกา” มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน รสชาติที่อร่อยถูกปากและประสิทธิภาพของสื่อยูทูปก็ส่งผลให้พิซซ่าหน้าไทยของกิ๊กโด่งดังอย่างมาก มีสื่อทั้งหนังสือพิมพ์ และทีวีของอเมริกามาขอสัมภาษณ์และเชิญเธอกับสามีไปออกรายการ ทั้งต่างชาติและคนไทยในอเมริกาจำนวนไม่น้อยต่างก็เป็นแฟนคลับของเธอ หลายคนเดินทางไกลจากรัฐอื่นเพื่อมาลิ้มลองพิซซ่าหน้าไทย ปัจจุบัน กิ๊กได้เปิดร้านขายพิซซ่าสาขาที่ 2 และมีโครงการที่จะต่อยอดธุรกิจพิซซ่าหน้าไทยไปเรื่อยๆ พร้อมกับยังคงทำช่องยูทูปซึ่งเป็นสื่อที่ทรงพลังในการประชาสัมพันธ์สินค้าของเธอ

“เฟิร์น” เจ้าของช่อง “บ้านไร่ตุรกี Baan Rai Turkey”
นอกจากนั้นยังมียูทูปเบอร์ไทยในต่างแดนอีกหลายคนที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เช่น “จิโร่” เจ้าของช่อง “Mr.JiroChan” ซึ่งถือว่าเป็นตำนานของยูทูปเบอร์ไทยในอเมริกาเลยทีเดียว จิโร่โด่งดังอย่างมากเป็นที่รู้จักอย่างกว้างทั้งในกลุ่มคนไทยและชาวอเมริกัน ด้วยการนำเสนอเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ อาชีพ และการทำงานของคนไทยในประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงสาระความรู้เกี่ยวกับการเป็นพลเมืองที่อาศัยอยู่ในอเมริกา ในรูปแบบ Vlong สไตล์อเมริกัน นอกจากนั้นยังมีคอนเทนต์ต่างๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับรถยนต์ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาชื่นชอบ ปัจจุบันช่อง “Mr.JiroChan” มีผู้ติดตามถึง 8.06 แสนคน มียอดวิวรวมกว่า 162.11 ล้านวิว และที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือด้วยความที่มีคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยติดตามช่อง “Mr.JiroChan” เป็นจำนวนมาก ทำให้มีเจ้าของผลิตภัณฑ์ซึ่งผลิตและวางจำหน่ายสินค้าในประเทศ ไทยติดต่อว่าจ้างให้จิโร่โฆษณาสินค้าของเขาในช่อง “Mr.JiroChan” อยู่ไม่ขาดสาย

จิโร่ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกามานานกว่า 17 ปี แม้เขาและครอบครัวจะย้ายไปตั้งรกรากที่ประเทศอเมริกาเป็นการถาวร แต่เขาก็ยังเรียกตัวเองว่า “คนไทย” อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างผองเพื่อนคนไทยที่อยู่ในอเมริกาก็ยังคงเป็นไปอย่างอบอุ่นและเหนียวแน่น ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เกิดสายสัมพันธ์ดังกล่าวก็คือช่องช่อง “Mr.JiroChan” ของเขานั่นเอง

“เฟิร์น” เจ้าของช่อง “บ้านไร่ตุรกี Baan Rai Turkey” ที่มีผู้ติดตามถึง 2.8 แสนคน และมียอดวิวรวมกว่า 76.5 ล้านวิว เฟิร์นเป็นสาวไทยที่แต่งงานกับหนุ่มตุรกี และย้ายไปอยู่กับสามีที่ประเทศตุรกี ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นตุรเคีย โดยช่องยูทูปของเธอนั้นนำเสนอเรื่องราวชีวิตครอบครัวบ้านไร่ในชนบทของตุรกี โดยมีสามีและลูกชาย 2 คน รวมถึงพ่อปู่ (พ่อสามี) แม่ย่า (แม่ของสามี) ร่วมเฟรมด้วยเสมอ สายใยแห่งความอบอุ่นของครอบครัวถือเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หลายๆ คลิปของช่อง “บ้านไร่ตุรกี” มียอดคนดูนับล้านวิวเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีแฟนคลับชาวไทยแวะไปเยี่ยมเยียนเฟิร์นและครอบครัวถึงบ้านไร่อยู่เสมอ

“น้าเต้” หนึ่งในหัวหน้าทีมวิศวกรที่เข้าไปดูแลการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าในบังกลาเทศ เจ้าของช่อง “น้าเต้สะเทือนน้ำ” ก็เป็นยูทูปเบอร์ไทยในต่างแดนอีกคนที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยน้าเต้ นำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจของบังกลาเทศ ทั้งเรื่องวัฒนธรรม อาหารการกิน วิถีชีวิตผู้คน ร้านค้าในตลาดสด ซึ่งมีเอกลักษณ์และแตกต่างจากประเทศอื่นๆ อย่างชัดเจน ส่งผลให้ปัจจุบันช่อง “น้าเต้สะเทือนน้ำ” มียอดผู้ติดตามกว่า 8.61 หมื่นคน และมียอดวิวรวมสูงถึง 14.45 ล้านวิว และเชื่อว่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

น้าเต้ เจ้าของช่อง “น้าเต้สะเทือนน้ำ” ผู้ถ่ายทอดเรื่องราวของบังกลาเทศ
ทั้งนี้ นายเสกสรร เทิดสิริภัทร อาจารย์สอนการสร้างช่องยูทูป และเจ้าของช่อง “เสกสรร ปั้น Youtube” หนึ่งในปรมาจารย์ที่สร้างยูทูปเบอร์หน้าใหม่มานับไม่ถ้วน มองว่า ปัจจัยที่ทำให้ยูทูปเบอร์ไทยในต่างแดนจำนวนไม่น้อยประสบความสำเร็จและมีผู้ติตามจำนวนมากเป็นเพราะ Content หรือเรื่องราวที่นำเสนอนั้นเป็นสิ่งที่แปลกใหม่และน่าสนใจสำหรับคนไทย ไม่ว่าจะเป็นสภาพบ้านเมือง วิถีชีวิต อาหาร หรือวัฒนธรรมของคนชาตินั้นๆ นอกจากนั้น การตั้งชื่อคลิปก็มีส่วนสำคัญ เพราะถือเป็น first priority ซึ่งนอกจากชื่อคลิปต้องมีความน่าสนใจแล้ว เราต้องรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของช่องยูทูปเราเป็นใคร ถ้าเป็นคนไทยก็ควรตั้งชื่อภาษาคลิปเป็นภาษาไทย แต่ถ้ากลุ่มเป้าหมายเป็นต่างชาติก็ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาของชาตินั้นๆ

“Content ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำช่องยูทูป อย่างเมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมไปเชียงใหม่ มีโอกาสได้คุยกับยูทูปเบอร์ท่านหนึ่ง เขาเล่าว่ามีฝรั่งที่ติดตามช่องยูทูปของเขาบอกว่าอยากให้ทำคลิปการเข้าห้องน้ำของประเทศไทยว่าโถที่นั่งเป็นแบบไหน แล้วสายชำระที่คนไทยใช้หน้าตาเป็นยังไง ทำไมคุณต้องฉีดน้ำ คือบ้านเขาไม่มีแบบนี้ไง ฝรั่งเขาใช้แต่ทิชชู่ ปรากฏว่ายอดวิวถล่มทลาย” เสกสรร กล่าว

นายเสกสรร เทิดสิริภัทร อาจารย์สอนการสร้างช่องยูทูป และเจ้าของช่อง “เสกสรร ปั้น Youtube” หนึ่งในปรมาจารย์ที่สร้างยูทูปเปอร์หน้าใหม่มานับไม่ถ้วน
ส่วนเรื่องรายได้จากการเป็นยูทูปเบอร์นั้น เสกสรร ชี้ว่า ปัจจุบันนอกจากรายได้ที่ได้รับจาก YouTube แล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือโอกาสในการสร้างรายได้จากการทำช่องยูทูปของตัวเอง เช่น ทำให้สินค้าที่เจ้าของช่องขายอยู่แล้วเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น มีงานจ้างรีวิวสินค้าและบริการเข้ามา รวมทั้งสามารถต่อยอดเกิดเป็นงานหรือธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับทักษะของยูทูปเบอร์คนนั้นๆ ด้วย ซึ่งตรงนี้จะเป็นรายได้ที่มากกว่าทั้งมูลค่าและความยั่งยืน โดยหลักการง่ายๆ คือถ้าอยากจะขายอะไรก็ต้องทำช่องยูทูปซึ่งให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในเรื่องนั้นๆ

“ยูทูปเบอร์ยุคนี้อย่าหวังแค่รายได้จากค่าโฆษณาในยูทูปเลย ไม่ใช่ว่าต้องมียอดวิวหรือผู้ติดตามเยอะอย่างเดียวถึงจะมีรายได้ มันมีรายได้จากช่องทางอื่น อย่างการขายสินค้า รายได้จากสปอนเซอร์ เป็นที่ปรึกษาในงานที่ตัวเองถนัด หรืออื่นๆ มันยั่งยืนมากกว่า ผมเจอมาหลายเคสแล้ว ลูกศิษย์หลายคนยอดคนติดตามแค่หลักสิบ แต่รายได้เข้ามาหลักแสนหลักล้าน เพราะคนดูคลิปจากช่องยูทูปของเขาแล้วสนใจในสินค้าที่เขาทำก็สั่งซื้อ หรืออย่างตัวผมเองทำช่องเกี่ยวกับการสร้างช่องยูทูปโดยแนะนำวิธีการและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ คนที่ดูคลิปก็เกิดความเชื่อถือว่าเรามีความรู้ ซึ่งในอนาคตถ้าผมออกโปรดักต์อะไรมาก็มีโอกาสที่คนจะซื้อ ถึงแม้สินค้าของผมจะราคาแพงกว่า เขาก็ซื้อเพราะเขาเชื่อใจ การสร้างแบรนเนอร์หรือตัวตนของยูทูปเบอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญ” นายเสกสรร ระบุ

“ชิดชนก โฮมมะ” หรือ “กิ๊ก” เจ้าของช่อง kinyuud (กินอยู่ดี) และมิจิ สามีชาวญี่ปุ่น
ที่มาและ*แรงบันดาลใจ "ของช่อง kinyuud"

เด็กต่างจังหวัดที่ไม่เคยกินบะหมี่สำเร็จรูป
กับความฝันอยากไปญี่ปุ่น


“กิ๊ก” เจ้าของช่อง kinyuud (กินอยู่ดี) หรือชื่อจริงว่า “ชิดชนก โฮมมะ” ได้บอกเล่าถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เธอมาทำช่องยูทูป ว่า ช่อง kinyuud เริ่มจากกิ๊กอยากเก็บเรื่องราวที่อยากทำตั้งแต่เด็กเลยค่ะ กิ๊กเป็นเด็กต่างจังหวัดสมัยเด็กๆ ครอบครัวทำอาชีพค้าขาย พอปิดเทอมต้องช่วยครอบครัวทำงานเรียกว่าเป็นเรื่องปกติเลยค่ะ การจะได้ไปเที่ยวต่างประเทศสำหรับครอบครัวเราเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยในตอนนั้น แต่กิ๊กเองไม่ได้รู้สึกน้อยใจเพราะรู้ว่าไม่ใช่แค่เราไม่ได้เที่ยว แต่ด้วยความที่ต้องช่วยงานที่บ้านตลอด จึงทำให้กิ๊กได้เห็นว่าทุกคนเหนื่อย แต่มีเพียงคนเดียวในครอบครัวก็คือน้าสาวของกิ๊ก ที่ตอนนั้นทำงานอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ทุกครั้งที่น้ากลับมาบ้านทุกคนในบ้านจะดีใจที่น้ากลับมา และต้องตื่นเต้นกับขนมและของฝากทุกครั้ง เพราะทุกอย่างเป็นของที่ในชีวิตประจำวันเราไม่เคยได้กิน ไม่เคยเห็น แม้กระทั่งบะหมี่สำเร็จรูปก็อร่อยแบบไม่เคยกินมาก่อน และน้าก็สวยมากในสายตาของเด็กตอนนั้น เป็นจุดที่ทำให้กิ๊กฝันตั้งแต่เด็กว่าอยากไปเห็นประเทศญี่ปุ่น อยากไปเห็นว่าบ้านเค้าจะต่างจากบ้านเราแค่ไหน อยากไปกินของอร่อยๆ ที่นั้นบ้าง

จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงวัยทำงาน งานแรกของกิ๊กคือการไปทำงานที่ต่างประเทศและเป็นการไปต่างประเทศครั้งแรกในชีวิต และประเทศนั้นก็คือ ประเทศญี่ปุ่น โลกของเด็กต่างจังหวัดเปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้น ทุกอย่างดูเหมือนจะเริ่มหนึ่งใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษา วัฒนธรรม อาหาร การใช้ชีวิต แต่กิ๊กรู้สึกสนุกและไม่มีเวลาเหงาเลย เหมือนทุกอย่างทำให้เราตื่นเต้นตลอด พอวันหยุดกิ๊กก็จะออกจากที่พักไปเที่ยว บางครั้งแค่ไปนั่งริมแม่น้ำ นั่งมองสะพานเห็นคนเดินไปมา แค่นั้นกิ๊กก็สนุกมากแล้ว เหมือนสมัยเด็กเราเห็นแต่ที่เดิมๆ พอวันหนึ่งเรามาเห็นสถานที่ใหม่ๆ กิ๊กก็รู้สึกสนุก จากวันนั้นกิ๊กก็เริ่มเที่ยวมาเรื่อยๆ เริ่มเกิดมิตรภาพใหม่ ได้เพื่อนใหม่เป็นคนญี่ปุ่น เวลาคุยกันรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่เราก็เป็นเพื่อนกันได้


ส่วนชีวิตการเดินทางการท่องเที่ยวของกิ๊กมาเริ่มที่ตอนโตและทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น ยิ่งทำให้กิ๊กอยากไปเห็นหลายๆ สถานที่ ไม่มีทริปไหนที่ไปแล้วไม่สนุก ทุกที่คือความแปลกใหม่ของกิ๊กตลอด แต่มากกว่าการไปเที่ยว คือกิ๊กรู้สึกได้ความรู้มากขึ้น ซึ่งไม่ใช่ความรู้จากการเรียน แต่เป็นความรู้จากประสบการณ์ต้องการเดินทาง

จนกระทั่งจุดเปลี่ยน วันที่กิ๊กไม่เที่ยวคนเดียวอีกต่อไป เพราะกิ๊กได้มาเจอกับมิจิ และได้แต่งงานกัน เราชอบอะไรที่เหมือนกัน ชอบเที่ยวเหมือนกัน และที่เหมือนกันมากคือการที่กิ๊กกับมิจิชอบหาที่พัก การเดินทาง ร้านอาหาร และมาแชร์ข้อมูล แบบไหนจะคุ้มกว่ากัน ถ้าดีแต่แพงก็จะเก็บไว้สุดท้าย ถูกแต่ไม่ดีแบบนี้ตัด เป็นเหมือนเกมที่เราต้องทำก่อนเริ่มทริปทุกครั้ง

ทำ “ช่องยูทูป” เพื่อบันทึกความทรงจำ

เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เป็นจุดเริ่มต้นของการทำช่อง kinyuud เริ่มจากการอยากเก็บไว้เป็นความทรงจำของตัวเอง ว่าวันหนึ่งเราเคยฝันว่าอยากไปเห็นญี่ปุ่น อยากกินของอร่อยที่ญี่ปุ่น และตอนนี้ภาพนั้นได้เกิดขึ้นแล้วจึงอยากเก็บเรื่องราวการเดินทางนี้ไว้ กิ๊กกับมิจิพูดกันเสมอว่าเราไม่ใช้ผู้รู้ แต่เราเป็นนักเดินทาง เราชอบที่จะเก็บความสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ชอบที่จะเก็บความทรงจำและความรู้สึกช่วงเวลานั้นๆ kinyuud จึงเป็นเพจที่ไม่ได้เต็มไปด้วยข้อมูล แต่เป็นเพจที่อยากสร้างรอยยิ้ม และส่งต่อความรู้สึกในการเดินทางของเราสองคนให้ทุกคน

และสิ่งที่สำคัญมากคือการให้ความสำคัญกับคอมเมนต์ คอมเมนต์เป็นเหมือนกระจกที่สะท้อนตัวเรา และเป็นเหมือนเข็มทิศในการนำทางใหม่ๆ เราได้ไอเดียใหม่เยอะมาก จากการอ่านคอมเมนต์ที่ผู้ติดตามเขียนบอกเรา ในความสำเร็จของ kinyuud จึงไม่มีแค่กิ๊กกับมิจิ แต่ผู้ติดตามเป็นทุกก้าวของความสำเร็จของ kinyuud ค่ะ




กำลังโหลดความคิดเห็น